ดูหนัง Suzume(2022) การผนึกประตูของซุซุเมะ เรื่องราวของเด็กหญิงซุซุเมะ อายุ 17 ปี
ดูหนัง Suzume(2022) การผนึกประตูของซุซุเมะ อาศัยอยู่ในเมืองที่เงียบสงบ บนเกาะคีวซู ของประเทศญี่ปุ่น เรื่องราวได้เริ่มขึ้นเมื่อซุซุเมะได้พบกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังตามหา “ประตู” ทั้งสองได้ร่วมกันตามหาประตูเก่าบานนั้น ซึ่งอยู่ในบ้านร้างท่ามกลางหุบเขา
ทันทีที่ซุซุเมะได้ยื่นมือเปิดประตูนั้น “ภัยพิบัติจากประตู” ก็ได้ปรากฏขึ้นทั่วทั้งญี่ปุ่น และมีแค่ซุซุเมะเท่านั้น ที่ต้องหาทางในการปิดประตูและหยุดภัยพิบัติที่เกิดขึ้นให้ได้ ด้วยพลังของความสัมพันธ์ที่เธอจะได้พบเจอระหว่างการเดินทางสุดอัศจรรย์เกินกว่าเธอจะจินตนาการ
เรียกว่าน่าจะเป็นผลงานที่ใครหลายคนเฝ้ารอที่ได้รับชมสำหรับ Suzume no Tojimari หรือในชื่อไทย “การผนึกประตูของซุซุเมะ” ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ ชินไค มาโคโตะ (Shinkai Makato) เจ้าของผลงานระดับมาสเตอร์พีชอย่าง Your Name “หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ” ที่ประสบความสำเร็จในระดับถล่มทลาย และหลังจากเข้าฉายในบ้านเราก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เพราะหลังจากนั้นก็เริ่มมีภาพยนตร์อนิเมชั่นญี่ปุ่นตบเท้าเข้ามาฉายในบ้านเรามากขึ้นเรื่อยๆ เป็นหนึ่งในร่องรอยความสำเร็จที่ยังคงปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดจวบจนปัจจุบันจุดเด่นในงานของผู้กำกับ ชินไค มาโคโตะ ที่ทำให้ผลงานของเขาน่าจับตามองและประสบความสำเร็จมาโดยตลอด นั่นคือ การจับห้วงอารมณ์ที่ลึกซึ้งของความเหงา ความเศร้า การโหยหาบางสิ่ง มาถ่ายทอดได้อย่างมีชั้นเชิง ซึ่งปรากฏให้เห็นมาตั้งแต่งานชิ้นแรกๆ ของเขาแล้วอย่าง Other Worlds (1999)
อนิเมชั่นขนาดสั้นความยาวเพียง 1.30 นาที ดูหนัง Suzume(2022) การผนึกประตูของซุซุเมะ ที่แม้ไม่ได้มีเส้นเรื่องที่ชัดเจนนัก แต่ก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของความเหงาเปล่าเปลี่ยวของคู่รักคู่หนึ่งท่ามกลางเมืองหลวงได้อย่างน่าประหลาดใจจนเมื่อตัวของชินไค มาโคโตะ ได้สร้างชื่ออย่างจริงๆ จังๆ จากอนิเมชั่นโรแมนติกไซไฟ เรื่อง Voices of a Distant Star ในปี 2002 ตัวเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จักและได้ผลิตผลงานเป็นอนิเมชั่นขนาดยาวมากขึ้นเรื่อยๆ
จึงนำมาสู่อีกเอกลักษณ์หนึ่งในงานของเขา ในเรื่องของการถ่ายทอดฉากหลังที่งดงามราวกับภาพฝัน รายละเอียดของสิ่งของและสถานที่ที่ถูกพิถีพิถันเป็นพิเศษ เห็นได้ชัดจากอนิเมชั่นเรื่อง 5 Centimeters per Second (2007) ที่มีงานภาพอันงดงามจับใจล้ำหน้าไปกว่าอนิเมชั่นในยุคเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด และเป็นมาตรฐานการทำงานมาจนถึงงานชิ้นล่าสุดของเขาและดูเหมือนตัวของมาโคโตะก็อยากทำอะไรที่แตกต่างออกไป
จากงานสองเรื่องล่าสุดของเขา แม้งานด้านภาพที่งดงามจะยังคงเป็นเอกลักษณ์ของเรื่อง แต่ในส่วนของเนื้อหานั้น Suzume no Tojimari มีการลดระดับความสัมพันธ์ของความรักหนุ่มสาวกลายเป็นคู่หูร่วมเดินทางและออกผจญภัย ซึ่งมาโคโตะเองก็เคยมีงานทำนองนี้มาแล้วอย่าง Children Who Chase Lost Voices (2011) นั่นจึงทำให้ใน Suzume no Tojimari ไม่มีช่วงเวลาเรียกอารมณ์หรือน้ำตาแบบที่เราได้สัมผัสจากงานก่อนหน้า
หรืออาจเรียกอีกอย่างว่า Suzume no Tojimari ไม่ใช่ “หนังรัก”
เคล้าอารมณ์เศร้าในแบบที่ผ่านๆ มาการหยิบเอาเหตุการณ์ภัยพิบัติใหญ่ของญี่ปุ่นในปี 2011 ที่สร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล กลายเป็นบาดแผลให้กับชาวญี่ปุ่นเรื่อยมา ก็นับได้ว่าภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นสารจากมาโคโตะต่อผู้คน(โดยเฉพาะคนญี่ปุ่น) ที่เคยสูญเสียเหล่านั้นให้กลับมาลุกยืนได้อีกครั้ง โดยหยิบการเล่าเรื่องในรูปแบบของ Road Trip ที่ทำให้ผู้ชมได้ตระเวนไปผนึกประตูทั่วญี่ปุ่นด้วยกันกับสุซุเมะและโซตะในร่างเก้าอี้ 3 ขา ผ่านการเดินทางโดยยานพาหนะรูปแบบต่างๆ
ซึ่งในแง่ที่ดี คือ การได้โชว์ทัศนียภาพที่งดงามตามแบบถนัดของมาโคโตะ และเพื่อขับเน้นสถานที่แห่งฝันร้ายเหล่านั้นว่าร่องรอยของความสูญเสียจะผลักดันให้ผู้คนไปข้างหน้าได้อย่างไร ซึ่งน่าจะเป็นส่วนที่ผู้มีชะตากรรมร่วมกันเท่านั้นจึงจะเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งจริงๆแต่โดยภาพรวมแล้ว Suzume no Tojimari ยังคงไม่สามารถรีดเค้นศักยภาพออกมาในแบบที่เข้ามานั่งในใจเรา
แม้จะมีองค์ประกอบที่ดีแต่การเล่าเรื่องยังขาดความตื่นเต้นไปพอสมควร และหากเทียบกับงานก่อนหน้าที่อุปสรรคของตัวละครมีพลังมากพอให้พวกเขาอุทิศชีวิตเพื่อต่อสู้นำกลับคืนมา (หลักๆก็ คือ คนรัก) แต่อุปสรรคของสุซุเมะยังไม่สามารถทำให้เราเชื่อได้พอในจุดนี้ (แม้ตัวหนังจะบอกเหตุผลไปแล้วก็ตาม) และจุดที่น่าเสียดาย คือในส่วนของความขัดแย้งระหว่างสุซุเมะกับ “ทามาคิ” น้าสาว ในเรื่องที่เธอแอบหนีออกมาโดยไม่บอกกล่าว
(เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ) ทำให้ทามาคิต้องออกตามหา และขณะที่สุซุเมะยังคิดถึงแม่อยู่ตลอดเวลา รวมถึงการกระทำตามอำเภอใจต่างๆ นานา แต่กลับมองข้ามคนที่เลี้ยงตัวเองมากกว่าแม่ของตัวเองอย่างน้าสาวคนนี้ไป จึงเป็นสิ่งที่มีน้ำหนักมากพอจะสร้างมิติให้ตัวเรื่องได้เลย น่าเสียดายที่ประเด็นนี้กลับถูกตัดจบอย่างง่ายดายอันที่จริงก่อนหน้านี้เคยมีอนิเมชั่นเรื่อง Misaki no Mayoiga (2021)
ที่หยิบเอาเหตุการณ์ภัยพิบัติในปี 2011 มาเล่าในรูปแบบที่แทบจะเหมือนกันเลยจริงๆ (ติดแต่ว่าไม่เป็น Road Trip) ทั้งความสูญเสียที่เกิดขึ้น การตีความภัยพิบัติจากธรรมชาติเป็นเรื่องราวแฟนตาซีที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อเรื่องเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และการก้าวไปข้างหน้าโดยมีบาดแผลจากภัยพิบัติเป็นเครื่องเตือนใจ แถมเรื่องนี้ยังดูมีกลิ่นอายของความเศร้าและความสูญเสียมากกว่าด้วยซ้ำส่วนเรื่องที่อยากติจริงๆ เห็นทีจะเป็นเรื่องอนิเมชั่นของตัวละคร (ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดูโรง IMAX รึเปล่า) แต่สังเกตเห็นได้ชัดๆ เลยว่า
ภาพระยะประมาณ Medium-shot ถึง Long-shot ขึ้นไป (เห็นตัวละครเกือบเต็มถึงเต็มตัว) รายละเอียดการลงสีและลายเส้นของตัวละคร โดยเฉพาะส่วนลำตัวรวมถึงใบหน้า นั้นดูไม่สวย ไม่ละเอียดเอาซะเลย ยิ่งพอไปเทียบกับฉากหลังที่สวยสุดๆ ความต่างก็ยิ่งเห็นได้ชัด หากเทียบกับอนิเมชั่นเรื่อง The Tunnel to Summer, the Exit of Goodbyes ของสตูดิโอ CLAP ที่เข้าฉายก่อนหน้านี้ไม่นาน การวาดตัวละคร การลงสี และความคมชัดของเส้น ยังทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ หรือถ้าเทียบกับงานอย่าง Kimetsu no Yaiba
ก็ต้องบอกว่ารายหลังนี้เราแทบไม่เห็นข้อผิดพลาดเลย แม้จะในระดับฉากแอคชั่นที่รวดเร็วก็แทบจะไม่เห็นตัวละครหน้าเบี้ยวหรือมีแอคชั่นลวกๆ ให้เห็น ซึ่งเรื่องลายเส้นตัวละครนี้ก็นับว่าเป็นปัญหาของผู้กำกับมาโคโตะมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วเรื่องของเพลงก็เช่นกัน ตามปกติเพลงจะเป็นจุดขายสำคัญไม่แพ้ตัวภาพยนตร์เลย แม้จะได้วงคู่บุญอย่าง Radwimps มาทำงานด้วยเช่นเดิม แต่ก็ต้องยอมรับว่ากระทั่งเพลงหลักอย่าง “Suzume”
เองก็ยังขาดความดึงดูดอะไรบางอย่างให้ต้องฟัง ไม่เหมือนกับเพลงจาก Your Name และ Weathering with You ที่จนถึงวันนี้ก็ยังวนกลับไปฟังได้ไม่รู้เบื่อสรุป Suzume no Tojimari ก็ยังเป็นงานที่มีมาตรฐานในแบบของผู้กำกับชินไค มาโคโตะ อยู่ดี บาดแผล ความทรงจำ ดูหนัง Suzume(2022) การผนึกประตูของซุซุเมะ และการเดินทางเพื่อก้าวผ่านและเติบโตไปพร้อมๆ กับการอุทิศถึงเหตุการณ์ในอดีตเหล่านั้น ที่ถูกนำมาเล่าในแนวทางแฟนตาซี ผจญภัย และไม่เศร้าหรือหม่นหมองจนเกินไป ก็นับว่าเป็นงานที่ควรค่าแก่การรับชม ซึ่งอาจจะเป็นประตูบานแรกสำหรับใครที่ยังไม่รู้จักกับผลงานของผู้กำกับยอดฝีมือคนนี้
ให้เข้ามาติดตามผลงาน แต่สำหรับใครที่รอผลงานที่สามารถตราตรึงใจได้เท่ากับหรือมากกว่า Your Name ก็อาจจะต้องรอต่อไปSuzume การผนึกประตูของซุซุเมะ” ภาพยนตร์อมิเมะเรื่องล่าสุดของ มาโกโตะ ชินไค ผู้กำกับฯ ที่ได้เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อโปรโมตผลงานใหม่ด้วยตัวเอง โดยมีรายงานว่า Suzume กำลังทำรายได้ถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศในหลายประเทศ กวาดรายได้ทั่วโลกไปแล้วราว 4,000 ล้านบาท ถือเป็นอนิเมะอบอุ่นหัวใจ ที่จะพาทุกคนไปสำรวจความทรงจำในอดีตไปพร้อมๆ กัน
เรื่องย่อ Suzume no Tojimari การผนึกประตูของซุซุเมะ
“Suzume no Tojimari” หรือชื่อภาษาไทย Suzume การผนึกประตูของซุซุเมะ เป็นอนิเมะแนวแฟนตาซี ผลงานของ มาโกโตะ ชินไค (Makoto Shinkai) ผู้กำกับชื่อดังชาวญี่ปุ่นที่เคยฝากความประทับใจไว้ใน Your Name (2016)
สำหรับเรื่องย่อ Suzume เล่าเรื่องราวของ “ซุซุเมะ” หญิงสาววัย 17 ปี อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบในภูมิภาคคิวชู ประเทศญี่ปุ่น หนังการ์ตูน วันหนึ่งระหว่างที่เธอกำลังปั่นจักรยานไปโรงเรียน ก็สวนทางกับ “โซตะ” ชายหนุ่มปริศนาที่กำลังตามหาสถานที่มีประตูเก่าๆ ซุซุเมะจึงแอบตามไปจนกระทั่งพบประตูเก่าๆ บานหนึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางสถานที่รกร้างกลางภูเขา
ซุซุเมะลองเปิดประตูบานนั้น จนนำไปสู่ต้นเหตุของความหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นทั่วญี่ปุ่น เธอจึงต้องร่วมมือกับโซตะเพื่อปิดประตูทุกบานอีกครั้ง กลายเป็นจุดเริ่มต้นนำไปสู่การผจญภัยครั้งสำคัญ พร้อมๆ กับการเข้าไปค้นอดีตของตัวเอง และเรียนรู้ที่จะเติบโตขึ้นด้วยจิตใจที่เข้มแข็งรีวิวหนัง Suzume no Tojimari (การผนึกประตูของซุซุเมะ) รำลึกเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นหากใครที่เป็นแฟนผลงานอนิเมะของ
มาโกโตะ ชินไค มาตั้งแต่ในยุคแรกๆ อย่าง Voices of a Distant Star (2002) หรือแม้กระทั่งเรื่องดังอย่าง 5 Centimeters Per Second (2007) ก็น่าจะพอสัมผัสได้ถึงลายเซ็นอันชัดเจนในภาพยนตร์ของชินไค ทำให้บางครั้งแฟนๆ ก็เรียกเขาว่าผู้กระทำความหว่องฉบับญี่ปุ่น เพราะผลงานของชินไคมักเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ที่สุข เศร้า เหงา ว่าด้วยเรื่องราวของพื้นที่
เวลา และระยะทาง ที่เป็นตัวแปรสำคัญต่อความสัมพันธ์และการจากลาของตัวละคร Suzume การผนึกประตูของซุซุเมะ ว่าด้วยเรื่องราวของผู้ทำหน้าที่ปิดประตูปริศนาที่สืบทอดกันในตระกูลจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งที่เรียกว่าหนอนยักษ์โผล่ออกมาจากประตู เพราะทันทีที่หนอนยักษ์เหล่านี้ตกลงสู่พื้นดิน ก็จะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในญี่ปุ่น ทำให้ “โซตะ” เด็กหนุ่มที่ต้องเดินทางทั่วญี่ปุ่นเพื่อปิดประตูดังกล่าวลง จนกระทั่งวันหนึ่งเด็กสาว “ซุซุเมะ” ได้ขยับหลักศิลาป้องกันหนอนยักษ์ จนเกิดเรื่องวุ่นๆ ขึ้นทำให้ทั้ง 2 คน ต้องเดินทางตามหาหลักศิลาที่แปลงร่างไปอยู่ในร่างแมว
การผจญภัยได้นำซุซุเมะกลับไปทักทายกับความทรงจำอันแสนเจ็บปวดในอดีตของตัวเองแน่นอนว่าอมิเมะในฉบับของชินไค ยังคงโดดเด่นเรื่องภาพและลายเส้นที่สวยงาม วิชวลสมจริงตระการตา เนื้อหาอบอุ่นละมุน และพร้อมจะพาผู้ชมไปสัมผัสความเศร้าแปลกๆ แบบไม่รู้ตัวอยู่เสมอ ความน่าสนใจคือ Suzume no Tojimari ไม่ได้เน้นเล่าเรื่องราวความรักโรแมนติกคนหนุ่มสาวแบบตรงไปตรงมา แต่นำเสนอความรักในรูปแบบอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย ทำให้ผู้ชมได้เห็นการเติบโตของตัวละครในลักษณะ Coming of Age โดยมีเรื่องราวของการเปิด-ปิดประตูแต่ละบานที่เชื่อมโยงถึงอดีตและอนาคตของตัวละคร
นอกจากนี้ Suzume (2022) จุดเด่นที่คอยขับเคลื่อนให้อนิเมะเรื่องนี้ครองใจผู้ชมตลอดทั้งเรื่อง
ต้องยกให้ตัวละครน่ารักๆ อย่าง “เก้าอี้” และ “แมวไดจิน” ที่เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ดี บวกกับเพลงประกอบที่ทางผู้กำกับตั้งใจเลือกเพลงญี่ปุ่นยุค 80 ไว้ในภาพยนตร์หลายฉากด้วยกัน รวมถึงยังได้สุดยอดนักแต่งเพลงอย่าง คาซึมะ จินโนะอุจิ (Kazuma Jinnouchi) และวงดนตรีดัง RADWIMPS มาร่วมทำเพลงประกอบอีกด้วยสำหรับเสน่ห์ในการเล่าเรื่องของภาพยนตร์ Suzume อยู่ที่การค่อยๆ คลี่คลายปมของเรื่องราวทั้งหมดผ่านตัวละครซุซุเมะ
ซึ่งเผยให้เห็นว่าเธอคือหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 15,000 คน ความทรงจำอันเลือนรางและเก้าอี้ไม้ที่สูญเสียขาไปข้างหนึ่ง จึงเปรียบเสมือนร่องรอยของความสูญเสียครั้งใหญ่หลวง ดูหนัง Suzume(2022) การผนึกประตูของซุซุเมะ ที่ยังคงทิ้งความเศร้าและความทรงจำไว้ให้ชาวญี่ปุ่นทุกคน จึงทำให้ Suzume กลายเป็นตัวแทนที่ทำหน้าที่ปลอบประโลมใจผู้ที่ผ่านเหตุการณ์ในครั้งนั้น รวมถึงยังทำให้ผู้ชมได้หวนนึกถึงการข้ามผ่านบาดแผลในใจของตัวเองไปพร้อมๆ กัน… แด่ความทรงจำและบาดแผลในอดีตของทุกคน
มาโกโต ชินไค ผู้กำกับฯ Suzume การผนึกประตูของซุซุเมะ ได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจและที่มาของการสร้างอนิเมะเรื่องนี้ ในรอบสื่อมวลชนไทยว่า “ผมต้องการโยงเรื่องราวไปถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติและสึนามิในญี่ปุ่นเมื่อ 12 ปีก่อน แน่นอนว่าต้องชาวญี่ปุ่นจำนวนมากที่ผ่านความทรงจำเลวร้ายเหมือนตัวละซุซุเมะ ภาพบ้านเมืองถูกไฟเผาไหม้ ฉากเรืออยู่บนยอดตึก
หรือบ้านเรือนถูกทิ้งร้างที่ปรากฏในภาพยนตร์ ก็สร้างมาจากเหตุการณ์จริง เห็นได้ชัดว่าแม้เวลาจะผ่านไปถึง 12 ปี แต่ภายในจิตใจของซุซุเมะแล้ว ความทรงจำเหล่านั้นยังคงอยู่ ตัวละครซุซุเมะจึงเป็นเหมือนการก้าวผ่านความเศร้า เพื่อที่จะกลับมายิ้มได้อีกครั้งและใช้ชีวิตต่อไป ชีวิตอาจมีช่วงเวลาที่ทั้งสนุก หัวเราะ และเสียน้ำตาปะปนกันไป”
Suzume” กวาดรายได้ทั่วโลกราว 4,000 ล้านบาทมาโกโตะ ชินไค คือหนึ่งในผู้กำกับชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและมีบทบาทสำคัญต่อวงการอนิเมะ หลังจากที่ผลงานเรื่อง Your Name หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ (2016) ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม จนฝั่งฮอลลีวู้ดต้องซื้อลิขสิทธิ์ไปทำฉบับรีเมก ตามมาด้วย Weathering with You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ (2019) ก่อนที่จะเปิดตัวอนิเมะเรื่องใหม่ล่าสุดอย่าง Suzume ซึ่งใช้เวลาสร้างสตอรี่บอร์ดยาวนานมากกว่า 1 ปี
สำหรับภาพยนตร์อนิเมะ “Suzume” เข้าฉายในญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2022 หลังจากเข้าฉายเพียง 3 วัน ก็สามารถกวาดรายได้ไปมากกว่า 459 ล้านบาท กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้เปิดตัวใน 3 วันแรก สูงกว่าผลงานทุกเรื่องที่ผ่านมาของชินไค หนังประเภท Biography ชีวิตจริง ขึ้นแท่นภาพยนตร์อันดับที่ 15 ที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ “Suzume” ยังมียอดจำหน่ายตั๋วมากกว่า Your Name (2016) ที่ได้รับยกย่องให้เป็นผลงานขึ้นหิ้งของชินไค ถึง 38.7 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันมีรายได้รวมกันทั่วโลกมากกว่า 114.9 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 4,000 ล้านบาท ถือเป็นอนิเมะญี่ปุ่นที่น่าจับตามองมากทีเดียว
ผจญภัยไปกับซุซุเมะหญิงสาวมัธยมวัย 17 ปี และภัยพิบัติสุดวิกลที่พลิกโชคชะตาของพวกเขาให้แปรเปลี่ยนไปตลอดกาล หลังจากที่ซุซุเมะพบกับประตูปริศนาและเผลอไปเปิดประตูบานนั้นเข้า ทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่นก็เกิดภัยพิบัติสุดประหลาดขึ้นไปทั้วทั้งเมือง ทำให้ซุซุเมะจะต้องแก้ไขและตามหาประตูบานนั้นเพื่อยุติภัยพิบัติดังกล่าว ในระหว่างการผจญภัยครั้งนี้ซุซุเมะได้พบกับความรัก มิตรภาพ และหายนะที่ตัวเธอเองก็ไม่เคยจินตนาการมาก่อนเรื่องราวของเด็กหญิงซุซุเมะ อายุ 17 ปี อาศัยอยู่ในเมืองที่เงียบสงบ
บนเกาะคีวซู ของประเทศญี่ปุ่น เรื่องราวได้เริ่มขึ้นเมื่อซุซุเมะได้พบกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังตามหา “ประตู” ทั้งสองได้ร่วมกันตามหาประตูเก่าบานนั้น ซึ่งอยู่ในบ้านร้างท่ามกลางหุบเขา ทันทีที่ซุซุเมะได้ยื่นมือเปิดประตูนั้น “ภัยพิบัติจากประตู” ก็ได้ปรากฏขึ้นทั่วทั้งญี่ปุ่น และมีแค่ซุซุเมะเท่านั้น ที่ต้องหาทางในการปิดประตูและหยุดภัยพิบัติที่เกิดขึ้นให้ได้ ด้วยพลังของความสัมพันธ์ที่เธอจะได้พบเจอระหว่างการเดินทางสุดอัศจรรย์เกินกว่าเธอจะจินตนาการ
การผนึกประตูของซุซุเมะ หรือ Suzume เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้วตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2566 ที่ผ่านแล้ว โดยเรื่องเป็นเรื่องที่ผมอยากไปดูตั้งแต่ช่วงแรกที่เข้าโรงแล้วแต่ไม่มีโอกาสไปได้ดูในช่วงนั้นเพราะอยู่ในช่วงเทศกาลสงกานต์เกรงว่าถ้าหากไปในช่วงเทศกาลสงกานต์จะเปียก และเมื่อวันที่ 16 ที่ผ่านมาผมก็ได้มีโอกาสได้ไปดูเรื่องนี้ ต้องสารภาพก็เลยว่าเรื่อง
การผนึกประตูของซูซูเมะเนี่ยเป็นเรื่องแรกของอาจารย์ มาโกโตะ ชิงไก ที่ผมไปดูในโรงภาพยนตร์เป็นครั้งแรก แล้วก็เป็นครั้งแรกเลยที่ผมหยิบผลงานอาจารย์มาวิจารณ์ เพราะโดยส่วนตัวผมไม่ได้มีโอกาสไปชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์บ่อยมากนักและจะไปดูเรื่องที่ผมสนใจจริง ๆ
ต้องขอบอกเลยว่ารีวิวต่อไปนนี้เป็นแค่ความคิดเห็นของผมเท่านั้นนะครับ มีข้อมูลที่เกิดจากการเดาของผมไม่ใช่ข้อมูลที่ต้องนะครับ เรามาเข้าสู่เนื้อหาการรีวิวเรื่อง กันเลยดีกว่าครับการผนึกประตูของซุซูเมะเป็นเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหญิงวัย 17 ปีคนหนึ่งชื่อ Suzume เรื่องเริ่มขึ้นหลังจากที่เขาได้พบชายหนุ่มแปลกหน้าที่เธอรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด ชายหนุ่มได้ถามเธอว่ามีบริเวณหรือสถานที่พัง ๆ ในบริเวณเมืองแถวที่ Suzume อาศัยอยู่หรือไม่ Suzume จึงได้ตอบไปว่าในเมืองที่เธออยู่นั้น
มีสถานที่ที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังอยู่ หลักงานนั้นเธอและเขาก็แยกจากกัน ด้วยความรู้สึกคุ้นเคยของ Suzume จึงทำหลังจากที่แยกจากเขาไปได้ไม่นาน เธอจึงไปที่สถานที่ที่มีซากปรักหักพังเพื่อตามหาเค้า และเธอก็ได้พบกับประตูบานหนึ่งซึ่งผนึกบางอย่างเอาไว้จึงทำให้เกิดภัยพิบัติทำให้เธอต้องออกเดินทางเพื่อแก้ไขภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้น การเดินทางของ Suzume จะทำให้เธอความจริงเกี่ยวกับตัวเธอเอง
ความรัก มิตรสหาย กลายเป็นจนเริ่มต้นการผจญภัยของ Suzume เพื่อที่จะหยุดยั้งเจ้าสิ่งนั้นจากอีกฟากของประตูองค์ประกอบของเรื่องนี้สนุกมีครบรสเลยครับแต่บางอย่างก็ไม่ค่อยสุดเท่าไหร่ เป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวเอกอย่าง Suzume ซึ่งเป็นตัวละครที่แสดงให้เราเห็นว่าแม้จะพบเจอกับอุปสรรคก็ไม่ย่อท้อแม้พบเจอกับอุปสรรคผ่านการเดินทางไปในสถานที่รกร้างที่ถูกทิ้งไว้และพบเจอกับเรื่องเป็นการทำให้เราที่เป็นคนดูรู้สึกเติบโตไปกับการเดินทางของตัวเอกอย่าง Suzume
ผมก็คิดว่าก็สมควรแล้วที่ภาพยนต์เรื่องนี้ได้ชื่อเรื่องว่า Suzume ฮ่า ๆ ! ก็เพราะเธอคนเดียวแบกเนื้อเรื่องเกือบทั้งหมดเลยเป็นเรื่องที่เต็มอิ่มมากสำหรับเวลาสองชั่วโมงที่รับชมคือในระหว่างที่ชมเนื้อเรื่องมันมีฉากแอ็คชั่นตื่นเต้นจากการพยามผนึกประตู มีฮากโรแมนติกบางแต่ก็ไม่ค่อยมากส่วนตัวไม่ค่อยอินเท่าไหร่
เพราะโชตะอยู่ในร่างเก้าอี้แล้วตอนที่อยู่กับ Suzume ส่วนใหญ่ก็อยู่ในร่างเก้าอี้แทบทั้งเรื่องคู่นี้ความโรแมนติกก็เลยไม่เท่าไหร่ก็เค้าดูรักกันอาจเพราะมีความคุ้นเคยและไกล้ชิดสนิทสนมกันมั้งครับ มีฉากเศร้าสลดจากผลของการผนึกประตู เรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวในการผนึกประตูแต่ล่ะครั้งชวนให้ลุ้นตามเพราะเหตุการในเนื้อเรื่องนั้นส่งผลต่อชีวิตของคนในเนื้อเรื่องหากตัวเอกอย่าง Suzume
พลาดขึ้นมาความเสียหายก็จะเกิดขึ้นอย่างมหาศาลเนื้อเรื่องโดยรวมก็สนุกมาก ๆ ครับ การนำเดินเรื่องโดยรวมก็เข้าใจง่ายดีครับเนื้อเรื่องก็ผมคิดว่ายังลงรายละเอียดไม่หมดนะมีให้ผู้ชมอย่างเราคิดต่อด้วย หรือไม่ก็ต้องหาอ่านจากหนังสือพวกตำนานพิบัติภัยมาประกอบด้วยก็จะเข้าใจมากขึ้น แต่ในส่วนนี้ผมก็คิดว่าดีแล้วเพราะสำหรับคนที่ดูแล้วค้างคาใจก็ต้องไปอ่านเพิ่มก็เป็นการเผยแพร่ตำนานความเชื่อของญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไปในตัวด้วย หรือไม่ก็ต้องติดตามเหตุการณ์ในญี่ปุ่นพอสมควรจะเข้าใจเนื้อเรื่องและปัญหาที่สะท้อนในเรื่องเยอะขึ้น
ผมคิดว่าหนังเค้าก็ทำออกมาให้เข้าใจเนื้อเรื่องง่ายอยู่แหละอต่ถ้ามองลึกๆในเนื้อเรื่องก็นั้นแหละเข้าใจยาก !? ไม่ใช่ หมายถึงมีความหมายแง่คิดต่างๆที่แฝงอยู่ในเนื้อเรื่องที่สอดแทรกเข้ามา ในเมื่อดูแล้วคนดูก็น่าจะคิดได้บาง แนะนำว่าไปดูเองไม่อยากสปอยเรื่องนี้ตับแตกไหม ? สำหรับคนที่ยังไม่ได้ไปดูขอบอกไว้ก่อนสำหรับคนที่ไม่ชอบเรื่องที่จบไม่สวยทบอกไว้เลยว่ามีฉากเศร้าสลดนิด ๆ เอง ไม่เยอะไปดูได้เพราะเรื่องนี้จบแบบแฮปปี้มีความสุขโดยภาพรวมย้ำโดยภาพรวม ไปดูกันได้นะครับ
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ เรื่อง Suzume (2022) การผนึกประตูของซุซุเมะ เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ดูหนัง ออนไลน์ ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
8.2