ดูหนัง ออนไลน์ PLAN 75 (2022) วันเลือกตาย เล่าถึงเหตุการณ์ในอนาคตเมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นออกกฎหมายปลิดชีวิตให้ผู้สูงอายุ 75 ปีขึ้นไป
ดูหนัง ออนไลน์ PLAN 75 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งมอบเงินชดเชยให้ด้วย เพื่อแก้ปัญหาตัวเลขผู้สูงอายุที่มากจนเกินจุดสมดุล “คุณยายคนหนึ่ง” นำแสดงโดย “จิเอโกะ ไบโช” นักแสดงหญิงรุ่นลายครามของญี่ปุ่น (Only the Cat Knows, 2019) กำลังลังเลว่าเธอควรรับข้อเสนอนี้ของรัฐบาลหรือไม่
Plan 75 วันเลือกตาย” คมบาดลึกสู่สังคม ตัวแทนชิงออสการ์จากญี่ปุ่นปีนี้และนี่คือหนังญี่ปุ่นที่เรียกเสียงฮือฮาได้โดดเด่นที่สุดในเทศกาลเมืองคานส์ปีล่าสุด อีกทั้งยังได้ถูกรับเลือกเป็นตัวแทนจากญี่ปุ่น เพื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2023 และนี่คือ “Plan 75 วันเลือกตาย” หนังดราม่ากระแทกกระทั้นสังคมผู้สูงวัยได้อย่างหนักหน่วงและตรงประเด็น กับมุมมองการสะท้อนการขับเคลื่อนเข้าสู่สังคมที่เต็มไปด้วยคนชรา
ที่มีอัตรามากกว่าคนหนุ่มสาว ที่ทำให้ภาครัฐต้องหาทางออก ถึงเป็นแค่หนังแค่ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องจริงในอนาคตก็มีเป็นไปได้Plan 75 วันเลือกตาย เป็นเรื่องราวเหตุการณ์ในอนาคตอันไม่ใกล้ไม่ไกล เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นออกกฎหมายอนุญาตให้ปลิดชีวิตคนชรา อายุ 75 ปีขึ้นไปฟรี พร้อมทั้งมอบเงินชดเชยให้ด้วย เพื่อแก้ปัญหาตัวเลขผู้สูงอายุที่มากจนเกินจุดสมดุลในสังคมผู้สูงวัย คุณยายคนหนึ่ง กำลังลังเลว่าเธอควรรับข้อเสนอนี้ของรัฐบาลดีหรือไม่ และจะจัดการกับชีวิตในช่วงบั้นปลายชีวิตที่แสนเดียวดายเช่นนี้อย่างไรต่อไป
นี่คือผลงานการกำกับของนักสร้างหนังหญิงไฟแรง “ฮายากาวะ จิเอะ” ที่กำลังถูกจับตามองอยู่ไม่น้อย ในเรื่องนี้เธอได้หยิบเอาบทความจากทฤษฎีของ “เจสัน เกรย์” ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการหนังญี่ปุ่น มาดัดแปลงและตีความออกมาเป็นบทหนังที่เธอเรียบเรียงด้วยตัวเอง บนพื้นฐานของโลกสมมติในอนาคตที่อาจจะอ้างอิงถึงโลกในชีวิต ณ ปัจจุบัน อยู่บ้าง กับภาวะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มรูปแบบของญี่ปุ่น ที่นับว่าเป็นสิ่งที่ญี่ปุ่นจะต้องเผชิญหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน
แค่แนวคิดและคอนเซ็ปต์ของหนังก็ถือว่าซื้อใจคนดูไปได้เต็ม ๆ แล้ว โจทย์ที่ท้าทายก็คือจะเล่าหนังออกมาอย่างไร ให้ผสมผสานออกมาเป็นดราม่าที่สะท้อนความคิดและไม่ใช่หนังที่ฟูมฟายเกินไป และผู้กำกับหญิงรายนี้เลือกทิศทางในการเล่าเรื่องทางมุมมองของตัวละครต่าง ๆ ในเหตุการณ์เดียวกัน เป็นแนวคิดเชิงทับซ้อนที่ลงตัวได้อย่างสวยงาม จากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งได้อย่างกลมกล่อม และกลายออกมาเป็นหนังที่ทำให้คนดูได้ขบคิดตามไปด้วยตลอดเวลา กับคำถามว่าที่ว่า “ถ้าหาก…”
ถึงแม้ว่า Plan 75 จะมีโทนการเล่าเรื่องที่นุ่มลึกและค่อนข้างนิ่ง ๆ ไปตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็สามารถทำให้ผู้ชมจับจ้องติดตามความเคลื่อนไหวและพัฒนาการแนวคิดของทุกตัวละครได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นชีวิตประจำวันของผู้สูงวัย ที่พวกเขาต่างแก่ตัวลงทุก ๆ วัน และไม่อยากจะเป็นภาระให้กับใคร
แต่เพราะความโรยราของร่างกาย บางครั้งก็เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต หรือจะเป็นมุมมองของเจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลนโยบายนี้ ที่แม้ว่าจะแบกรับหน้าที่มาก่อนเรื่องส่วนตัว แต่พวกเขาก็ยังคงมีความเป็นมนุษย์แอบซ่อนอยู่ในตัวทุกคนPlan 75 ถือว่าเป็นหนังที่มีโจทย์เด่นชัดเป็นอย่างมาก
ชัดเจนว่าต้องการสื่อสารไปในทิศทางใดและสะท้อนทิศทางนั้น ๆ ออกมาได้ค่อนข้างชัดเจน แม้ว่าการมีหลายตัวละครให้โฟกัสนั้นอาจจะไม่สามารถครอบคลุมรายละเอียดได้ทั้งหมดก็ตาม แต่ต้องยอมรับว่าฉากเปิดของหนังเรื่องนี้เป็นอะไรที่น่าประหลาดใจและสะเทือนใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งกระนั้นก็ต้องเคารพมุมมองและแนวคิดของผู้กำกับที่อยากจะสื่อถึงผู้ชมได้อย่างตรงไปตรงมาตั้งแต่นาทีแรก มันเป็นฉากที่เป็นผลลัพธ์ของหนังทั้งเรื่องทั้งหมดเลยก็ว่าได้
และการที่หนังได้นักแสดงอาวุโส “จิเอโกะ ไบโซะ” มาแบกรับบทนำทั้งเรื่องในวัย 80 ปีของเธอ ก็ถือว่าเป็นการมอบโอกาสและปล่อยให้เธอได้โชว์ศักยภาพทางการแสดงของจริงออกมาอีกครั้ง นี่คือนักแสดงรุ่นเก๋าที่คร่ำหวอดในวงการบันเทิงญี่ปุ่นมานานถึง 6 ทศวรรษ ดูหนัง ออนไลน์ PLAN 75 กับงานแสดงที่น่าจะเป็นร้อยกว่าเรื่อง เธอสามารถแบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้ด้วยการแสดงง่าย ๆ และทรงพลัง ไม่ใช่แค่เพียงผ่านบทพูด แต่อินเนอร์และท่าทางต่าง ๆ ออกมาได้อย่างลึกซึ้งในทุกองค์ประกอบ หนังเรื่องนี้จึงกลายเป็นการกลับมาเป็นนางเอกหนังอีกครั้งในรอบหลายปีของเธอ
ในขณะที่นักแสดงอาวุโสอีกหลาย ๆ คนที่มาสมทบในเรื่องนี้ก็ถือว่าเข้ามาเสริมองค์ประกอบทำให้หนังดูแข็งแรงและตอบโจทย์หนังให้แข็งแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ “คาซุโยชิ คูชิดะ” ที่ถือว่าให้การแสดงแบบน้อยแต่มาก มาไม่เยอะแต่ค่อนข้างทรงพลัง ส่วนนักแสดงรุ่นใหม่ อย่าง “ฮายาโตะ อิโซมุระ” หรือ “ยูมิ คาวะอิ” บทบาทอาจจะไม่ได้มีแก่นลึกมากนัก แต่ก็เป็นส่วนเสริมที่สำคัญ เช่นเดียวกับ “สเตฟานี่ อาริแอนน์” ในบทผู้อพยพชาวฟิลิปปินส์ ที่เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ตัวละครนี้กลับเต็มไปด้วยมิติที่เสริมหนังเรื่องนี้ขึ้นมาได้ดีอีกตัวละครหนึ่ง
เอาเป็นว่า Plan 75 วันเลือกตาย จัดได้ว่าเป็นหนังที่กระแทกกระทั้นตรงโจทย์
ที่ต้องการจะสื่อสารได้เป็นอย่างดี แมสเสจของหนังค่อนข้างแข็งแรงมาก มากเสียจนทำให้ผู้ชมต้องคิดคล้ายตามและฉุกคิดและแอบมองไปถึงอนาคตว่า ถ้าหากเราตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับตัวละครในเรื่องนี้
เราจะตัดสินใจจัดการชีวิตตัวเองอย่างไร? และยิ่งคิดตามก็ยิ่งอินไปกับเนื้อหาของหนัง กับอนาคตที่ยังไงเราอาจจะต้องเจอกับภาวะสังคมผู้สูงวัยรออยู่ข้างนานแน่นอนดังนั้นหนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เพียงเป็นหนังดราม่าเรื่องหนึ่งเท่านั้น มันกลายเป็นข้อความที่ถามกลับสังคมปัจจุบันเช่นเดียวกันว่า ผู้สูงวัยยังจะพอมีพื้นที่และโอกาสที่ยืนอยู่ได้หรือไม่
และแน่นอนว่าการดูแลและห่วงแหนพวกเขาในช่วงบั้นปลายชีวิตก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ ซึ่งบางครั้งคนหนุ่มสาวหรือลูกหลานก็ละเลยลืมเลือนตรงไป ปล่อยให้ท่านโดดเดี่ยวเดียวดาย ปลายทางของพวกเขาจึงไม่ต่างกับเพียงแค่รอวันนั้นมาถึง ทั้งที่คนกลุ่มนี้…ก็อยากจะมีวาระสุดท้ายที่เป็นสุขและยั้งยืนในชีวิตของพวกเขาเช่นเดียวกัน“Plan 75 วันเลือกตาย” เป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกของ
“จิเอะ ฮายากาวะ” ผู้กำกับหญิงหน้าใหม่ชาวญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัลพิเศษ “ผู้กำกับหน้าใหม่” (Caméra d’Or – Special Distinction) จาก “เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 75” (2022 Cannes Film Festival) พร้อมคำชมจากเหล่านักวิจารณ์ถึงการเล่าเรื่องที่ทรงพลังและน่าติดตาม ก็การันตีได้เลยว่าภาพยนตร์ของเธอนั้นมีความน่าสนใจให้ผู้ชมได้ร่วมค้นหาคำตอบกัน
ในอนาคตอันใกล้ ประเทศญี่ปุ่นออกนโยบาย Plan 75 มาให้ผู้สูงอายุวัย 75 ปีเลือกได้ว่าจะยัง “มีชีวิตอยู่” หรือ “จากไปด้วยการุณยฆาต” (การเลือกที่จะตายโดยสมัครใจ) โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์หลายอย่าง ทั้งการได้รับเงินจำนวนหนึ่งให้ใช้พักผ่อนในบั้นปลายชีวิต
สิทธิการจัดงานศพฟรี สิทธิการเข้าพักและจากไปในโรงแรมระดับห้าดาว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาจะได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่สละชีพเพื่อสังคมและประเทศชาติตามเกียรติที่ยึดถือกันมาอย่างยาวนานของประเทศญี่ปุ่น ตัวเอกของเรื่อง “มิจิ” หญิงชราวัย 78 ปี ยึดอาชีพแม่บ้านทำความสะอาดในโรงแรม เธอต้องอาศัยอยู่คนเดียวหลังสามีเสียชีวิต แต่แล้วก็มีเหตุที่ทำให้เธอต้องตกงานและไร้ที่อยู่ ทำให้เธอครุ่นคิดอย่างหนักเกี่ยวกับการเข้าร่วมนโยบาย Plan 75 นี้
หนังแสดงนำโดย “จิเอโกะ ไบโช” นักแสดงระดับตำนานของญี่ปุ่นวัย 81 ปี ซึ่งมีภาพยนตร์โรแมนติกดราม่า “Only the Cat Knows เจ้าเหมียวจิบิหายไปไหนนะ?” (2019) เข้าฉายวงกว้างในบ้านเราเป็นเรื่องล่าสุด และเป็นผู้พากย์เสียงตัวละคร “โซฟี” ทั้งวัยสาวและชราในอนิเมะแฟนตาซีค่ายจิบลิ “Howl’s Moving Castle” (2004)จุดแรกที่อยากชื่นชม คือ ไอเดียภาพยนตร์ นี่เป็นตัวอย่างของภาพยนตร์ที่มีไอเดียคมคาย โดยเฉพาะการตั้งคำถามที่ว่า”ความน่ากลัวในวัยชราเป็นอย่างไร และหากเราเลือกวันตายในวัยชราได้ ภาพที่เกิดขึ้นจะมีหน้าตาแบบไหนได้บ้าง”
จุดนี้เป็นประเด็นที่น่าขบคิด ในวันที่เราแก่ชรา พร้อมทั้งปัญหาทุกอย่างรุมล้อม ไม่ว่าจะสังขารเสื่อมถอย เงินเก็บไม่พอใช้ ไม่เหลือใครในชีวิต แถมคนในสังคมมองว่าเป็นภาระ การตายเพื่อหนีจากความอึดอัด (ทั้งความเหงา ความว้าเหว่ และความเจ็บปวด) อาจเป็นทางเลือกน่าตัดสินใจ แต่ครั้นพอถึงเวลาตาย เราจะทำใจกันได้ขนาดไหนเมื่อความตายเป็นเรื่องที่ไม่มีใครเคยสัมผัส ความรู้สึกขณะชีพจรหยุดเต้น ย่อมไม่มีใครบอกได้ว่า มันเจ็บปวดมากแค่ไหน หรือจริง ๆ แล้ว แค่หลับไป
สถานการณ์ที่ตัวละครได้พบเจอจึงเป็นเคสที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก… ที่สำคัญ มันเป็นชะตากรรมที่ทุกคนมีโอกาสได้สัมผัส (ถ้าไม่ตายก่อนแก่) ยิ่งพอนึกถึงช่วงเวลาที่ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงอายุ ภาพของสังคมในเรื่องก็สะท้อน พร้อมทั้งสะกิดถามเราว่า “เราพร้อมแค่ไหนที่จะเข้าสู่ภาวะแบบนี้”จุดเด่นถัดมาที่น่าชื่นชม ก็คือ “ความประณีตของภาพยนตร์” ดูหนัง ออนไลน์ PLAN 75 ความประณีตถูกใส่เข้ามาในทุกอิริยาบถ การดำเนินเรื่องค่อย ๆ เคลื่อนอย่างช้า ๆ แต่น่าติดตาม อีกทั้งยังแสดงมุมมองให้เราเห็นในทุกด้าน ไม่ว่าจะในมุมของผู้ตัดสินใจตายหรือมุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้เราได้เห็นภาพที่เกิดขึ้นจากทุกมุมมอง
งานภาพ: สวยทั้งมุมกล้องและการให้แสงสี ที่เห็นใช้บ่อย ก็แสงคอนทราสต์ ซึ่งขับเน้นรอยย่นบนหน้า – สีหน้าแววตาของวัยชรา รวมถึง Filter สีอมเหลืองในบางซีน ดูแล้วหม่น ๆ ดีดนตรีประกอบภาพยนตร์: สะท้อนความเหงา ความว้าเหว่ และความเงียบงันอย่างจับใจ ในหนังมีหลายซีนที่ค่อนข้างสะเทือนใจ และเรียกให้น้ำตาคลอการแคสต์ตัวละคร แสดงได้ถึงทุกคน ที่เด่นสุดได้แก่ บท “มิจิ” ของคุณยาย จิเอโกะ ไบโช
แสดงได้สุดยอดจริงส่วนอีกบทที่ผมรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษ ก็บท “ฮิโรมิ (Hayato Isomura)” เจ้าหน้าที่รับสมัครโครงการ Plan 75 แสดงดราม่าได้เยี่ยมในหลาย ๆ ซีนเช่นกัน Plan 75 อาจไม่ใช่หนังดูง่าย แถมตัวหนังยังเป็นสไตล์หนังนอกกระแส Slow burn เต็มสูบ อย่างไรก็ตาม คุณภาพโดยรวมถือว่าน่าประทับใจ หนังสำรวจประเด็นความน่ากลัวของวัยชราและความตายอย่างลึกถึงแก่น ซึ่งช่วยให้ผู้ชมได้ตกผลึกความคิด
ดูจบก็นึกถึงเรื่อง Departures (2008) กับ Die Tomorrow (2016) สามเรื่องนี้มีประเด็นร่วมอย่างหนึ่ง นั่นคือ “มรณานุสติ” หรือการตระหนักถึงความไม่เที่ยงของสังขารและความตายอันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ อันเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกปล่อยวางและเข้าใจถึงคุณค่าของชีวิตได้ดีขึ้น
จะว่าไป ดูแล้วทางฝั่งญี่ปุ่นก็น่าจับไปส่งแข่งในเวทีออสการ์อยู่เหมือนกัน โอกาสทะลุถึงรอบลึก ๆ คงมีไม่น้อย !
คงต้องยอมรับกันละ ว่าประเทศไทยก็กำลังเดินหน้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่กำลังเห็นชัดมากขึ้นทุกที แต่ปัญหานี้ ญี่ปุ่นเขานำหน้าเราอยู่พอสมควร เพราะเขาเป็นประเทศแรกๆ
ของโลกที่ต้องเผชิญกับปัญหาประชากรส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย จนวันหนึ่ง มันก็เกิดเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้นมา จนทำให้ผู้กำกับหญิงคนหนึ่งเลือกจะทำหนังสั้นที่เล่าเรื่องนี้ ก่อนที่จะถูกขยายกลายเป็นหนังยาวที่ชื่อ ‘PLAN 75’ หรือชื่อไทย ‘วันเลือกตาย’ นั่นแหละครับด้วยความที่ 30% ของประชากรมีอายุมากกว่า 65 ปี แถมอัตราการเกิดก็น้อยลงทุกที
แน่นอนว่าต้องเกิดปัญหาขาดแคลนกำลังแรงงานที่จะมาดูแลเหล่าผู้สูงอายุ และวันหนึ่ง มันจะกลายเป็นปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในอนาคต ทั้งยังเกิดปัญหาสังคมตามมาอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะเมื่อคนวัยหนุ่มสาวต้องใช้ชีวิตที่กำลังผลิบานของตัวเองไปกับการดูแลผู้สูงอายุ แถมคนรุ่นใหม่ก็ลดน้อยลงทุกวัน ใครกันจะช่วยดูแลคนไม้ใกล้ฝั่งเรื่องราวของญี่ปุ่นกับปัญหาสังคมผู้สูงอายุในอนาคตอันใกล้ หลังจดจ่อชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียอยู่พักหนึ่ง รัฐก็ออกกฎหมายให้ผู้สูงอายุวัย 75 ปีเลือกได้ว่า
ยังจะใช้ชีวิตอยู่ต่อ หรือจะจากไปด้วยการการุณยฆาต เรียกได้ว่าเป็นการเลือกตายโดยสมัครใจนั่นเอง โดยเข้าร่วมกับโครงการนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์หลายอย่าง โดยเฉพาะการได้รับเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมถึงวัน ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องใช้ไปกับสิ่งใด ได้รับสิทธิการจัดงานศพฟรี
ทั้งยังได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่สละชีพเพื่อประเทศชาติอีกด้วยหนังเล่าเรื่องราวของคนสูงอายุกลุ่มหนึ่ง โดยมี มิจิ (Chieko Baishô/จิเอโกะ ไบโช ผู้พากย์เสียงโซฟีเวอร์ชันชราในแอนิเมชัน ‘Howl’s Moving Castle’) หญิงชราวัย 78 ปีที่ทำงานเป็นแม่บ้านในโรงแรมแห่งหนึ่ง เธออยู่ตัวคนเดียวหลังสามีเสียชีวิตและวันหนึ่ง เธอต้องตกงานทั้งยังไร้ที่อยู่ ทำให้คิดจะเข้าร่วมโครงการนี้
รีวิวหนัง ‘วันเลือกตาย’จากเดิมที่เคยเป็นหนังสั้น 1 ใน 5 เรื่องที่ถูกมัดรวมในชื่อ ‘Ten Years Japan’ หนังเมื่อปี 2018 ถูกหยิบจับมาขยายเป็นหนังยาวชื่อเดียวกันโดยผู้กำกับคนเดิม จิเอะ ฮายาคาวะ และได้ ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ มาเป็นโปรดิวเวอร์ควบคุมดูแลโปรเจกต์นี้ ที่มาของหนังมันเกิดจากเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่งก่อเหตุสุดสะเทือนขวัญ
สังหารผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ในสถานดูแลผู้สูงอายุไป 19 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 40 คน เพราะมองว่าคนพวกนี้เป็นภาระของสังคม ความโกรธแและความกังวลของผู้กำกับหญิงคนนี้ผลักดันให้เกิดไอเดียในการสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นเมื่อดูหนังจบ รู้สึกได้เลยว่า มันคือการตั้งคำถามคือการมีอยู่ของมาตรการที่เปิดให้คนชรา ‘เลือกวันตายของตัวเองได้’ ว่าสิ่งเหล่านี้เหมาะสมและสมควรสักแค่ไหน
หนังเรื่องนี้ ไม่ได้เล่าแค่เรื่องของหญิงชราที่ครุ่นคิดว่าตัวเองควรจะเลือกตายดีหรือไม่ดี แต่ก็ยังเล่าถึงชีวิตของหนุ่มสาวที่แวดล้อมพวกเขาอยู่ด้วย เราจึงได้พบกับนักแสดงอย่าง Hayato Isomura/ฮายาโตะ อิโซมุระ (จากซีรีส์เรื่อง ‘อลิสในแดนมรณะ’ และหนังเรื่อง ‘What Did You Eat Yesterday?’) ที่รับบทเจ้าหน้าที่รับสมัครเข้าร่วมโครงการ และ Yumi Kawai/ยูมิ คาวาอิ (จากหนังเรื่อง ‘It’s a Summer Film!’) ที่มารับบทพนักงานผู้ช่วยให้คำปรึกษากับผู้เข้าร่วมโครงการ แล้วก็ยังมี Stefanie Arianne/สเตฟานี อาริอาน
นักแสดงลูกครึ่ง ญี่ปุ่น-ฟิลิปปินส์ มารับบท มาเรีย แรงงานต่างด้าวผู้ทำงานเก็บกวาดของใช้ของผู้สมัครใจเสียชีวิตในโครงการด้วยหนังเปิดเรื่องมาได้น่าสนใจทีเดียว ด้วยการชี้ถึงเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น ต่อเนื่องด้วยข่าวของกฎหมายใหม่ที่รัฐนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาท่ามกลางการถกเถียงที่ยังไม่ได้ข้อยุติ จากนั้นก็เล่าถึงชีวิตต่างๆ ในสังคมผู้สูงวัย ช่วงหนึ่ง เราอาจคล้อยตามว่า คนชราบางคนอาจต้องผจญกับชีวิตที่เงียบเหงาและถึงทางตัน จนอาจคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่ต้องไป ขณะที่อีกช่วงเวลาหนึ่ง เราอาจฉุกคิดว่า สังคมกำลังบีบและผลักดันคนแก่ให้ยอมรับการเลือกตายอยู่หรือเปล่า
แม้ตัวหนังจะเดินไปอย่างเรียบเรื่อยมาตลอดเรื่อง ก่อนจะมีอะไรน่าสนใจในช่วงท้ายของเรื่อง แต่มันก็เป็นหนังที่ไม่ชี้นำอะไรมากนัก เรื่องราวในนั้นบ่งชี้ความเหงาและเดียวดายของคนแก่ใกล้ตายได้เป็นอย่างดี ดูหนังแล้วคิดต่อเอาเองว่า มาตรการนี้ควรมีหรือไม่ควรมี? และถ้าหากมี เมื่อเรามีอายุถึงวันนั้น เราจะเลือกเข้าร่วมมั้ย?
ตัวผู้กำกับ จิเอะ ฮายาคาวะ เองได้รับรางวัล Special Mention สาขา Camera D’or ในฐานะผู้กำกับหน้าใหม่จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ด้วย น่าชื่นชมมากเลย ล่าสุดก็ได้ข่าวว่า หนังได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนประเทศญี่ปุ่น เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 95 สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมด้วย แม้เธอจะเป็นผู้กำกับหน้าใหม่แต่ได้รับโอกาสและการตอบรับที่ดีขนาดนี้ ถือเป็นเกียรติประวัติของเธออย่างมากเลยครับ
แล้วคุณล่ะ ถ้ามีเวลา ลองให้โอกาสตัวเองไปชมหนังดีๆ เรื่องนี้กันดูนะครับ หนังเข้าฉาย 8 กันยายน 2022 นี้แล้วล่ะครับวันเลือกตาย เล่าถึงเหตุการณ์ในอนาคตเมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นออกกฎหมายปลิดชีวิตให้ผู้สูงอายุ 75 ปีขึ้นไปโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งมอบเงินชดเชยให้ด้วย เพื่อแก้ปัญหาตัวเลขผู้
สูงอายุที่มากจนเกินจุดสมดุล “คุณยายคนหนึ่ง” นำแสดงโดย “จิเอโกะ ไบโช” นักแสดงหญิงรุ่นลายครามของญี่ปุ่น (Only the Cat Knows, 2019) กำลังลังเลว่าเธอควรรับข้อเสนอนี้ของรัฐบาลหรือไม่ผลงานกำกับภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกของ “จิเอะ ฮายากาวะ” ผู้กำกับหญิงหน้าใหม่ชาวญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัลพิเศษ “ผู้กำกับหน้าใหม่” (Caméra d’Or – Special Distinction) จาก “เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 75” (2022 Cannes Film Festival)
โดยหนัง “Plan 75” จะเล่าถึงเหตุการณ์ในอนาคตอันไม่ใกล้ไม่ไกล
เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นออกกฎหมายปลิดชีวิตให้คนชราอายุ 75 ปีขึ้นไปฟรี พร้อมทั้งมอบเงินชดเชยให้ด้วย เพื่อแก้ปัญหาตัวเลขผู้สูงอายุที่มากจนเกินจุดสมดุล “คุณยายคนหนึ่ง” นำแสดงโดย “จิเอโกะ ไบโช” นักแสดงหญิงรุ่นลายครามของญี่ปุ่น
(Only the Cat Knows, 2019) กำลังลังเลว่าเธอควรรับข้อเสนอนี้ของรัฐบาลหรือไม่ แม้จะเป็นหนังจากคนทำหนังหน้าใหม่ แต่นักวิจารณ์ก็ชมกันเกรียวกราวว่าเล่าเรื่องได้ทรงพลังและน่าติดตามสุดๆเมื่อได้อ่านพล็อตเรื่องของ PLAN 75 ในใจก็เกิดความมุ่งมั่นเลยว่า ต้องดูหนังเรื่องนี้ให้ได้ อย่างน้อย ๆ มันก็ต้องมีคำตอบอะไรให้เราบ้างไม่มากก็น้อยแหละ
“PLAN 75 วันเลือกตาย” คือภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่บอกเล่าเรื่องราวของชีวิตที่เหลืออยู่ หรือจะเป็นชีวิตที่ดำเนินอยู่ ชีวิตที่กำลังก้าวเดินไปข้างหน้า หรืออาจจะเป็นชีวิตที่นับวันถอยหลังอยู่ก็ได้ แต่ละคนย่อมนิยามความหมายของชีวิตที่แตกต่างกันไป.จากปัญหา “สังคมผู้สูงอายุ” ที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
และเป็นปัญหาไปทั่วโลก ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่เดินหน้าเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ จำนวนประชากรเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ของญี่ปุ่นมีอายุ 65 ปีขึ้นไป และกำลังเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ กลับกันอัตราการเกิดของประชากรนับวันยิ่งน้อยลง และขาดแคลนกำลังแรงงานที่จะมาดูแลเหล่าผู้สูงอายุ ปัญหานี้กำลังจะกลายเป็นวิกฤติเศรษฐกิจในอนาคต
เมื่อคนหนุ่มสาวไม่อยากเอาเวลาอันมีค่าของพวกเขา มาเสียสละคอยดูแลคนแก่ชราที่ช่วยเหลือตัวเองได้อย่างยากลำบาก จึงเกิดคำถามขึ้นว่า เราจะแก้ปัญหาวิกฤติสังคมผู้สูงอายุได้อย่างไร การ “การุณยฆาต” เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องหรือไม่?
เมื่อคนแก่ชราที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถูกมองว่าเป็นภาระของสังคม มีผู้สูงอายุจำนวนหนึ่งที่ตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะไม่อยากเป็นภาระให้กับลูกหลาน เป็นภาระให้กับสังคม ในเมื่อหางานทำไม่ได้ เงินเก็บมีไม่เพียงพอ ลูกหลานไม่สนใจ จะมีทางเลือกไหนให้กับพวกเขาอีก.คือตัวเลือกชั้นยอดที่ถูกนำเสนอให้ อายุครบ 75 ปี
ก็เลือกตายอย่างสงบได้ เดี๋ยวหน่วยงานของรัฐจัดการให้เอง ได้ตายแบบไม่ทรมาน ก่อนตายได้เงินก้อนหนึ่งไปใช้ให้สบายใจก่อนด้วย ไม่มีคนจัดการงานศพให้ เดี๋ยวรัฐจัดการให้เอง ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ อย่างไรก็ตาม การกำจัดพวกเขาทิ้ง มันถูกต้องแล้วหรือ ทั้ง ๆ ที่ทุกคนก็ต้องแก่ชราทั้งนั้น แต่ความเห็นอกเห็นใจตรงนี้ของผู้คนทั่วไป มันหายไปได้อย่างไร? โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวที่ยังแข็งแรง เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้กับประเทศชาติ ทำไมถึงไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ ไม่มีสวัสดิการที่ดีให้กับผู้สูงอายุ
คนหนุ่มสาวส่วนใหญ่มองแค่ว่าสังคมจะก้าวเดินไปได้อย่างไร ในยุคที่มีผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ งบประมาณมากมายที่ต้องเสียไปกับการดูแลคนแก่ หมดไปโดยเปล่าประโยชน์ แทนที่จะนำมาพัฒนาประเทศ แต่พวกเราอาจลืมไปว่า อีกไม่นานทุกคนก็ต้องแก่ชรา เมื่อถึงวันที่คุณแก่ คุณจะดูแลตัวเองอย่างไร ในเมื่อสังคมไม่เต็มใจที่จะช่วยเหลือคุณ… หลังดูจบ “พี่เช” ขอบอกเลยว่า “PLAN 75 วันเลือกตาย” ไม่ได้มีคำตอบที่สวยหรู
งดงาม กับคำถามมากมายที่พวกเขาตั้งเอาไว้ให้กับคนดู ผู้กำกับหญิง “ฮายากาวะ จิเอะ” ไม่ได้ทำตัวเป็นพระเจ้าเหมือนกับหนังหลาย ๆ เรื่อง ที่ตอบคำถามนามธรรมเหล่านี้ด้วยความคิดเห็นแบบปัจเจกบุคคล หรือให้คำตอบในอุดมคติกับผู้คน พวกเขาเห็นคำถามที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งนำมาสู่การสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ไม่ได้สร้างเพื่อตอบคำถาม แต่สร้างเพื่อตั้งคำถามต่าง ๆ เพิ่มขึ้นไปอีก หากจะมองหาคำตอบที่ชัดเจนที่สุดจากการดูหนังเรื่องนี้ หากคุณกำลังสงสัยในชีวิตที่ดำเนินไป
ถ้าฉันแก่แล้ว ไม่มีคนดูแล ฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปยังไง? หรือควรจะตาย ๆ ไปซะ หรือต่อให้ฉันยังไม่แก่ แต่ไม่อยากอยู่แล้ว ฉันจะสามารถหาเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ต่อไปจากหนังเรื่องนี้ได้หรือไม่?คำตอบที่พี่เชค้นหาได้จาก PLAN 75 ก็คือ ก็แค่ใช้ชีวิตต่อไป ชีวิตต้องดำเนินต่อไป มันจะเป็นยังไง ก็ให้มันเป็นไป ไม่มีคำตอบสวยหรูรอเราอยู่หรอก ไม่มีเหตุผลที่สวยหรูให้เราหรอก ไม่ว่าเราเลือกที่จะอยู่หรือเลือกที่จะตายถ้ายังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องดิ้นรนต่อไป ก็ต้องสู้กันต่อไป ก็เท่านั้น
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังญี่ปุ่น เรื่อง PLAN 75 (2022) วันเลือกตาย เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี ดูหนัง ออนไลน์ หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน ดูหนัง PLAN 75 หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
7.1