หมวดหมู่: ดูหนัง Venom ครบทุกภาค

เรื่องย่อ

• Venom (2018) เวน่อม

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ ดร.คาร์ลตัน เดรก นักวิทยาศาสตร์ขององค์กร Life Foundation ได้ทดลองนำเชื้อ “ซิมไบโอต” มาทดลองกับมนุษย์ โดยเชื่อว่าจะนำไปสู่วิวัฒนาการใหม่ แต่เชื้อเหล่านั้นกลับทำให้มนุษย์กลายเป็นสัตว์ประหลาดดุร้าย เอ็ดดี้ บร็อค นักข่าวหนุ่มที่พยายามขุดคุ้ยเรื่องการทดลองนี้ ได้ติดเชื้อจากผู้ที่ถูกทดลอง ทำให้เขากลายเป็นเวน่อม เวน่อมมีพลังพิเศษมากมาย เช่น พละกำลังที่แข็งแกร่ง ความเร็วที่เหนือมนุษย์ และความสามารถในการฟื้นฟูร่างกาย แต่เขาก็มีด้านมืดที่คอยควบคุมจิตใจของเอ็ดดี้ ทำให้เขาต้องต่อสู้กับตัวเองเพื่อควบคุมพลังนี้ ในขณะเดียวกัน เวน่อมก็ต้องต่อสู้กับวายร้ายตัวอื่น ๆ ที่ต้องการใช้พลังของซิมไบโอตเพื่อทำลายโลกภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นสุดมันส์ และการแสดงที่ยอดเยี่ยมของทอม ฮาร์ดี้ ในบทเอ็ดดี้ บร็อค และเวน่อม นอกจากนี้ ยังมี มิเชล วิลเลียมส์ ในบทแอนน์ เวย์อิ้ง อดีตแฟนสาวของเอ็ดดี้ และริซ อาห์เหม็ด ในบทคาร์ลตัน เดรก วายร้ายหลักของเรื่องเวน่อมเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมจากแฟน ๆ ทั่วโลก และทำรายได้ถล่มทลาย เป็นการเปิดตัวซูเปอร์ฮีโร่ตัวใหม่ที่น่าสนใจ และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

• Venom 2 Let There Be Carnage (2021) เวน่อม 2

เวน่อม 2 สงครามอสูรแดงเดือด (Venom: Let There Be Carnage) เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อเมริกันปี ค.ศ. 2021 สร้างจากตัวละครในชื่อเดียวกันของมาร์เวลคอมิกส์ ผลิตโดยโคลัมเบียพิกเจอร์สและจัดจำหน่ายโดยโซนีพิคเจอร์สรีลีสซิง เป็นภาคต่อของเวน่อม (Venom) ในปี ค.ศ. 2018 และเป็นภาพยนตร์ลำดับที่สองในจักรวาลตัวละครของโซนีจากมาร์เวล ทอม ฮาร์ดี กลับมารับบทเอ็ดดี้ บร็อก/เวน่อมเช่นเดิม พร้อมด้วยมิเชล วิลเลียมส์, นาโอมิ แฮร์ริส และวูดดี ฮาร์เรลสัน ซึ่งรับบทเป็น คลีตัส แคสซาดี/คาร์เนจ วายร้ายหลักของเรื่อง ภาพยนตร์กำกับโดยแอนดี เซอร์กิส จากบทภาพยนตร์โดยเคลลี มาร์เซลเรื่องราวในภาคนี้ต่อจากภาคแรก เมื่อเอ็ดดี้ บร็อก และเวน่อมยังคงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ยังคงไม่ราบรื่นนัก เอ็ดดี้พยายามที่จะกลับไปคืนดีกับแอนน์ เวย์อิง อดีตแฟนสาวของเขา ในขณะเดียวกัน เวน่อมก็ต้องการที่จะกินสมองของคนเพื่อมีชีวิตรอดต่อไปเรื่องราววุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อคลีตัส แคสซาดี ฆาตกรต่อเนื่องที่ถูกตัดสินประหารชีวิต ได้รับการฉีดวัคซีนที่ทำให้เขากลายเป็นคาร์เนจ ซิมไบโอตอีกตัวหนึ่งที่มีความแข็งแกร่งและอันตรายกว่าเวน่อม คาร์เนจหลบหนีออกมาจากคุกและเริ่มต้นการฆ่าผู้คนอย่างโหดเหี้ยม เอ็ดดี้และเวน่อมจึงต้องร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งคาร์เนจ ก่อนที่มันจะสร้างความเสียหายไปมากกว่านี้ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นสุดมันส์ และการแสดงที่ยอดเยี่ยมของทอม ฮาร์ดี และวูดดี ฮาร์เรลสัน นอกจากนี้ ยังมี มิเชล วิลเลียมส์ ในบทแอนน์ เวย์อิง และนาโอมิ แฮร์ริส ในบทฟรานซิส บาร์ริสัน/ชรีก คนรักของคลีตัส แคสซาดีเวน่อม 2  สงครามอสูรแดงเดือด เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมจากแฟน ๆ ทั่วโลก และทำรายได้ถล่มทลาย เป็นการสานต่อเรื่องราวของเวน่อมได้อย่างน่าสนใจ และยังคงความสนุกสนานและตื่นเต้นเหมือนเดิม

• Venom The Last Dance (2024) เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ

มหาศึกอสูรอหังการ (Venom: The Last Dance) เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่จากมาร์เวลคอมิกส์ มีกำหนดเข้าฉายในปี พ.ศ. 2567 ภาพยนตร์เรื่องนี้นับเป็นภาคต่อของ เวน่อม 2: สงครามอสูรแดงเดือด (Venom: Let There Be Carnage) และเป็นภาพยนตร์ลำดับที่หกในจักรวาลตัวละครของโซนีจากมาร์เวล ทอม ฮาร์ดี กลับมารับบท เอ็ดดี้ บร็อค/เวน่อม เช่นเดิม พร้อมด้วย มิเชล วิลเลียมส์, จูโน่ เทมเปิล และชิเวเทล เอจิโอฟอร์ ที่มารับบทตัวร้ายคนใหม่ของเรื่องเรื่องราวในภาคนี้ เอ็ดดี้และเวน่อมต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหม่ เมื่อพวกเขากลายเป็นเป้าหมายของกองทัพทหารและเหล่าซิมไบโอตต่างดาวที่มาจากจักรวาลอื่น การต่อสู้ครั้งนี้นำพาพวกเขาไปสู่การผจญภัยที่ยิ่งใหญ่และอันตรายกว่าที่เคยเจอมา

ผู้กำกับ

• Venom (2018) รูเบน เฟลสเชอร์
• Venom Let There Be Carnage (2021) แอนดี เซอร์คิส
• Venom The Last Dance (2024) เคลลี มาร์เซล

บริษัท ค่ายหนัง

• โคลัมเบีย พิคเจอร์ส (Columbia Pictures) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของโซนี่ พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์

นักแสดง

Venom (2018)

• ทอม ฮาร์ดี
• มิเชล วิลเลียมส์
• ริซ อาห์เหม็ด
• สกอตต์ เฮซ
• รีด สกอตต์
• วู้ดดี ฮาร์เรลสัน

Venom: Let There Be Carnage (2021)

• ทอม ฮาร์ดี
• มิเชล วิลเลียมส์
• วูดดี ฮาร์เรลสัน
• นาโอมิ แฮร์ริส
• สตีเฟน เกรแฮม

Venom: The Last Dance (2024)

• ทอม ฮาร์ดี
• จูโน เทมเปิล
• ชิเวเทล เอจิโอฟอร์
• รีส อีแวนส์

โปสเตอร์หนัง

รีวิว Venom (2018) เวน่อม

⭐ นักเลงโรงหนัง

🤩 คะแนน: 8.5/10 ดาว

รีวิว Venom — ( สนุกและโคตรกวนตีน กล้ายืนยันเลยว่า Venom จะเป็นตัวละครที่ทุกคนจะต้องตกหลุมรักแม้ใบหน้าพี่เค้าจะไม่น่าถวิลหาก็ตามที ทอม ฮาร์ดี้ เรื่องนี้คือโคตรเท่ จากที่ชอบอยู่แล้วกลายเป็นโคตรชอบเข้าไปอีก ) 8.5/10 คะแนน ก่อนดูก็ใจตุ๊มๆต่อมๆเพราะคะแนนมะเขือนี่เละอย่างกับขี้ที่ปลิวไปตามลม แต่พอได้ดูจริงๆนี่คือเกินคาด หนังมันสนุกและมีเสน่ห์สุดๆ คำเปรยที่บอกโลกนี้มีซุปเปอร์ฮีโร่เพียงพอแล้วนี่คือโคตรใช่ โอ้ยยชอบบบบบบ ..หนังว่าด้วยเรื่องราวของปรสิตที่ได้เดินทางมายังโลกจากการไปสำรวจอวกาศขององค์กรหนึ่ง ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีองค์กรนี้จะเอาเชื้อพวกนี้มารักษาโรคมะเร็ง โดยทำกันแบบลับๆด้วยการนำคนจรจัดมาเป็นหนูทดลอง แต่สิ่งที่คิดไม่เป็นดังที่หวัง ปรสิตพวกนี้มีความโหดและความรุนแรงเกินจะต้านไหว ขณะเดียวกัน เอ็ดดี้ บร็อค นักข่าวสายลุยได้ล่วงรู้ความลับและต้องการที่เปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะชน แต่ตัวเค้าดันไปโดน ปรสิตอย่าง venom สิงร่าง เป็นเหตุให้ทั้งคู่ต้องร่วมมือกันเพื่อหลบหนีและยับยั้งความไม่ถูกต้องเหล่านี้ …หนังปูเรื่องช่วงแรกนานพอสมควร แต่ผมกลับรู้สึกว่าหนังมันไม่ได้น่าเบื่อเลยนะ เพราะเสน่ห์และออร่าความเป็น ทอม ฮาร์ดี้ มันเลยทำให้หนังมันน่าติดตามตลอดเวลา ก่อนที่เวน่อมจะมาแสยะยิ้มให้เราเห็นก็ล่วงไปจนกลางเรื่องแล้ว แต่บอกได้เลยว่า คุ้มค่าแก่การรอคอย พอพี่แกมาปุ๊บความบันเทิงนี่คือมาเต็มมาก เนื่องด้วยลักษณะตัวละครมันออกแนวโนสนโนแคร์ กูอยากทำอะไรกูทำเลย ไล่ล่ากันกลางเมือง จับคนแดกหัว กระซวกกันแต่ละดอกนี่โคตรสะใจ

แต่เห็นโหดแบบนี้ ตลอดเรื่องเราแทบไม่เห็นเลือดซักหยด ฮ่าๆ นี่ถ้าหนังยึดตามเดิมที่ตั้งใจไว้ให้เป็นเรท r จะเป็นอะไรที่เพอร์เฟคมาก ..พระเอกของงานอย่าง เวน่อม ผมคาดการณ์ว่าตอนพี่แกอยู่บนดาวบ้านเกิด เค้าจะต้องเป็นสายมุ้งมิ้งช่วยแม่ล้างจาน พอเสร็จแล้วก็กลับบ้านไปเปิดชินจังหรืออาราเล่ดูแน่นอน เพราะมันน่ารักซะเหลือเกินขัดกับใบหน้าที่โหดอย่างกับเมียตอนโมโหเพราะต่อคิวยาวเหยียดรอซื้อชาไข่มุก ถ้าคิดในอีกมุมผมว่าหนังมาแนวสดใสดูได้ทุกวัยแบบนี้มันก็ดีเหมือนกันนะ ดูง่ายและแมสดี marvel มันต้องหนังแบบนี้แหละ ใครโหยหาหนังแอคชั่นมันส์ๆตามสไตล์ superhero marvel นี่จิ้มมาได้เลยไม่ผิดหวังแน่นอนส่วนพระเอกของพระเอกอย่าง ทอม ฮาร์ดี้ นี่ไม่มีอะไรให้ติ เสน่ห์พี่แกเรื่องนี้เหลือล้นมากกก โดยเฉพาะความเข้าขากันของตัวละคร เอ็ดดี้ กับ เวน่อม นี่เป็นอีกอย่างนึงที่ทำให้หนังมันดูสนุกและไหลลื่น ส่วนงานแอคชั่น ช่วงแรกๆอาจเนือยไปนิดและมาน้อยไปหน่อย แต่ช่วงครึ่งหลังตอนเวน่อมปรากฏตัวนี่ ขยับที่ขยับทางให้ดีเลย เพราะสนุกจนละสายตาไม่ได้ ฉากขี่มอไซนี่ผมยกให้เป็นแอคชั่นแห่งปีเลย ชอบมากกกก ข้อเสียของหนังอย่างเดียวก็คือเนื้อหาที่มันดูสูตรสำเร็จแอบเชยนิดๆและเดาทางง่ายไปหน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเมื่อหนังมันทำให้เราสนุก ก็ถือว่าโอเคแล้วหละ …สรุป … มาดูเลย หนังสนุกกกกกกกกกมากกก รอคนซาๆผมคงต้องไปจัดอีกรอบ ดู imax เสียงเวน่อมนี่สะเด่ารูหูมากกก เอ็นเครดิตมี 2 ตัว ตัวแรกสำคัญ ส่วนตัวที่สอง อิอิอิอิ ไปดูเองโพสนี้สนับสนุนโดย : ฮัมฮอม สบุ่เหลวทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นสำหรับท่านชาย กลิ่นหอมวอดวายจนคุณยายข้างบ้านต้องมาขอดม มี 3 กลิ่นให้เลือกใช้ กลิ่นมังคุด กลิ่นลองกอง และกลิ่นเงาะโรงเรียน

⭐ ThomDerd

🤩 คะแนน: 8/10 ดาว

Venom เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกันระหว่างมนุษย์กับเอเลี่ยน โดยเอเลี่ยนเป็นตัวละครที่น่ารังเกียจ มีบางครั้งที่ตลก และมีการแสดงที่ยอดเยี่ยมจากทอม ฮาร์ดี้ หากคุณเป็นแฟนของมิสเตอร์ฮาร์ดี้ เรื่องนี้จะน่าดูสำหรับคุณ ครึ่งแรกดำเนินเรื่องได้ดีมากในแง่ของการวางฉากและจักรวาลของ Venom ส่วนครึ่งหลังเน้นไปที่ฉากแอ็กชั่นซึ่งมีข้อบกพร่องเล็กน้อย แต่ก็ยังสนุกและน่าสนใจที่จะดู เป็นมุมมองที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับตัวละคร Venom/Eddie ที่ “แทบจะเป็นแอนตี้ฮีโร่” ที่ดึงดูดความสนใจของฉันได้ ฉันสนุกมากกับการดูเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ และฉันจะดูซ้ำอย่างแน่นอนเมื่อออกฉายในรูปแบบดีวีดีหรือบรี ดังนั้น โดยรวมแล้ว นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์แอ็กชั่นที่ดีที่สุดตลอดกาลหรือแม้แต่ในปี 2018…แต่อย่าคาดหวังไว้สูงเกินไป และคุณจะต้องชอบมันอย่างแน่นอน 8/10

รีวิว Venom 2 Let There Be Carnage (2021) เวน่อม 2

⭐ guskeller

🤩 คะแนน: 5/10 ดาว

Venom: Let There Be Carnage เป็นหนังที่เล่นได้แค่ท่าเดียวแต่ไม่เข้าท่า หนังทั้งเรื่องเป็นการยืดเวลาการต่อสู้ครั้งสุดท้าย แต่การเผชิญหน้าครั้งนี้กลับน่าผิดหวัง ใช่แล้ว เป็นการต่อสู้ระหว่างตัวละครจากหนังสือการ์ตูนที่ขายได้สองคน แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ตัวร้ายไม่ได้รับการพัฒนาและน่าเบื่อ ภาพดูไม่เรียบร้อยและยุ่งเหยิง และการออกแบบท่าเต้นก็ไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากไม่มีรูปแบบหรือวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกัน ฉากจึงจบลงด้วยความยุ่งเหยิงที่น่าเกลียดและใหญ่โต โดยปกติแล้ว รายละเอียดของฉากแอ็กชั่นจะไม่สำคัญมากนัก แต่หนังเรื่องนี้เน้นแค่ตรงนั้นเท่านั้น ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องราวนั้นเร่งรีบ ซ้ำซาก และไม่มีแรงบันดาลใจ ไม่มีช่วงเวลาใกล้ชิดที่จะทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเพราะบทขาดสาระที่ควรค่าแก่การไตร่ตรอง อารมณ์ขันนั้นโอเคในบางครั้ง ทอม ฮาร์ดี้มีความสามารถเพียงพอที่จะมีเคมีกับตัวเอง และความพยายามก็ทุ่มเทให้กับ CGI (แม้ว่าจะใช้มากเกินไปก็ตาม) อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากนั้น การผลิตนี้ไม่มีจุดหมาย แม้แต่ความรุนแรงก็ยังถูกจำกัดไว้อย่างไม่น่าพอใจสำหรับเรท PG-13 ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแฟนบอยบางคนจะพอใจกับการต่อสู้ที่ธรรมดาๆ ระหว่างตัวละครสองตัวที่พวกเขารู้จัก แต่ในฐานะภาพยนตร์ Venom: Let There Be Carnage เป็นกองพะเนินที่ไม่มีเสียงดังการเขียนบท: 2/10 การกำกับ: 2/10 การถ่ายภาพ: 2/10 การแสดง: 7/10 การตัดต่อ: 4/10 เสียง: 7/10 ดนตรีประกอบ/ดนตรีประกอบ: 5/10 การออกแบบงานสร้าง: 3/10 การคัดเลือกนักแสดง: 7/10 เอฟเฟกต์: 6/10

⭐ Movies_Frever

🤩 คะแนน: 6/10 ดาว

ปัญหาหลักคือมันควรจะเป็นเรท R ฉากของ Carnage ทุกฉากจะต้องเจ๋งกว่านี้มาก CGI ส่วนใหญ่ดูดี แต่บางฉากดูแปลกๆ เช่น ฉากที่เกือบจะแย่ใน Ghost Rider (2007) ตอนที่ Carnage กระโดดไปมาอย่างรวดเร็ว ตอนที่เขาเดิน มันดูดีกว่า ฉันไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าทำไมฉันถึงคาดหวังว่าหนังจะดีกว่านี้ เพราะ Venom ภาคแรกก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ในภาคแรก CGI ของ Venom อย่างน้อยก็ดูดีมากโดยรวมแล้ว ฉันยังคงดีใจที่พวกเขาสร้างหนังเรื่องนี้ และในที่สุดก็มีเวอร์ชันไลฟ์แอ็กชันของตัวร้าย Spider-Man ที่ชั่วร้ายที่สุดตัวหนึ่ง ส่วนที่ดีที่สุดของหนังทั้งเรื่องคือฉากเครดิตท้ายเรื่อง

รีวิว Venom The Last Dance (2024) เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ

⭐ หนังดีมีรีวิว 

🤩 คะแนน: 6/10 ดาว

เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการเรื่องย่อ เวน่อมกับเอ็ดดี้ถูกใส่ร้ายและถูกตามล่าไปทั่วโลกรวมถึงการตามล่าของลูกสมุนของ Knull ผู้สร้างซิมบิโอตที่พบว่าเวน่อมมีกุญแจสำคัญที่จะปลดเขาออกจากพันธนาการเคมีคู่หูของเวน่อมและเอ็ดดี้ก็ยังคงเป็นจุดขายและจุดแข็งของหนังได้อยู่ สเกลความโหดของเวน่อมอาจจะดูเบาลงสักหน่อย บางฉากให้ความรู้สึกน่ารักเสียด้วยซ้ำ รวมถึงฉากแอ็คชั่นตอนสุดท้ายก็ดูพอสนุกได้อยู่ถึงจะอีรุงตุงนังไปหน่อย ฉากดราม่าความสัมพันธ์ของเอ็ดดี้และเวน่อมก็พอใช้ได้อยู่
ในความรู้สึกนะ รู้สึกว่าหนังดูเกรดลดลงเหมือนภาค 2 ความต่อเนื่องจากภาคที่แล้วตัวละครหายเพียบให้ความรู้สึกเหมือนดูซีรี่ย์จบในตอนที่มีตัวเอกผจญภัยไปเรื่อยๆ ภาคนี้มีแต่ตัวละครใหม่เต็มไปหมดแต่รู้สึกเหมือนยัดๆ เข้ามาใส่ดราม่าซึ่งผมไม่ค่อยซื้อเท่าไหร่ตัดออกก็ได้ หลายตัวปูมหลังจางๆ แรงจูงใจต่างๆก็หยาบๆ ส่วนปัญหาหลักๆก็คลาสสิคของหนังซูเปอร์ฮีโร่คือตัวร้ายบัฟเก่งเว่อร์เกินแต่จบง่าย ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ สรุป Venom The Last Dance ภาพรวมผมว่าดีกว่าภาค 2 แต่ยังเทียบภาค 1 ไม่ติด ภาค 1 นี่ให้ทิศทางใหม่กับเวน่อมที่น่าสนใจมากๆและยกเป็นหนัง Anti-Hero ชั้นดีเลย ภาคนี้จั่วหัวไว้แล้วเป็นภาคสุดท้าย(อย่างน้อยก็สำหรับทอม ฮาร์ดี้)ทรงหนังก็จะแบบมีดราม่าหน่อยๆ แต่ดูแล้วผมรู้สึกดูยัดเหยียดให้ปิดฉากการเดินทางของทั้ง 2 ทำภาคจบทำฉากซึ้งๆ ให้ตราตรึงแต่กลับไม่ได้รู้สึกว่ามันไปถึงขั้นนั้นสู้ปล่อยทิ้งไปเลยไม่ทำต่อให้เรารู้ว่าทั้งเวน่อมและเอ็ดดี้ยังโลดแล่นอยู่ในจักรวาลแต่ไม่พูดถึงน่าจะดีกว่า และยังมี Knull Last Boss ที่ทรงมาแนวธานอสให้เห็นว่ามีตัวตนจะทำอะไรบางอย่างแต่ยังไม่มีอนาคตให้ตอนนี้
หนังมี End Credit 2 ตัว ตัวแรกก็..เหรอ ตัวที่ 2 รอนานหน่อยเป็นปลายเปิดเล็กๆ พล็อตเรื่อง 6/10 ดำเนินเรื่อง 5.5/10 ตัวละคร 6/10 ความบันเทิง 7/10 สรุป 6/10

⭐ จดอ. JUST ดู IT.

🤩 คะแนน: 6/10 ดาว

เวน่อม: มหาศึกอสูรอหังการ “พยายามมาตั้งนาน เพิ่งลงตัวตอนสุดท้าย”หลังพยายามทำทรงโหด แต่ได้ฮาในภาคแรก… วางท่าเดือด แต่ไปไม่ถึงในภาคสอง ภาคปิดท้ายอย่าง “Venom: The Last Dance” กลับเต็มไปด้วยองค์ประกอบที่พอเราปล่อยจอย (ย้ำ! ปล่อยแบบสุด ๆ) ก็พบว่า “สนุกเฉย” หนังทำหน้าที่ได้ดีในรูปแบบของสูตรสำเร็จการปิดไตรภาค คืออะไรที่เคยเปิดไว้ในภาคแรก หรือระเบิดระเบ้อในภาคสอง ล้วนถูกตกผลึกอีกครั้ง และม้วนกลับมาเข้าช่วงสรุปประเด็น โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่าง Eddie Brock และ Venom ที่ผสานมุมมองเป็นหนึ่งเดียวกันได้สำเร็จ… ตีกันเหมือนเดิม แค่น้อยกว่าทุกภาค เพราะถ้าไม่จับมือกันให้มั่น ก็ไม่อาจรอดจากภัยคุกคามถึงสองทาง ไม่ว่าจะทั้งกองกำลังพิเศษจากองค์กรลับ และอสุรกายเครื่องจักรสังหารจากผู้สร้างเหล่า Symbiote ที่หวังปิดฉากสายพันธุ์ที่ตนสร้างด้วยตนเองในทางกลับกัน หากมองว่าแฟรนไชส์ Venom คือหนังเรื่องเดียว ที่มีความยาวราว 6 ชั่วโมง Venom: The Last Dance ก็เปรียบเสมือนองค์ 3 ที่พาเข้าช่วงไคลแม็กซ์ได้อย่างชวนลุ้นชวนน่าสนใจ อะไรที่ดูหลุด ๆ หลอย ๆ สุดกาวในสองภาคแรก กลับกลายเป็นการปูทางให้รายละเอียดที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะภาคแรก ที่ถูกกลับไปความเชื่อมโยงได้อย่างเหนียวแน่นเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าจะให้ดี ควรดูภาคแรกไว้กันลืม เพราะหลายเหตุการณ์ในภาคนี้ คือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออุดช่องโหว่จากภาคแรกโดยเฉพาะ แต่ภาคสอง อย่าง Let There Be Carnage น่าสงสารที่หลายอย่างถูกเททิ้ง

แม้แต่บทบาทของตัวละคร “นักสืบ Mulligan” (รับบทโดย Stephen Graham) ก็เปรียบเสมือนเป็นเพียงเศษซากจากภาคสอง เอามาแค่ให้รู้ว่าไม่ได้ลืมกัน อีกหนึ่งสิ่งที่แข็งแรงไม่แพ้มิติของตัวละครเอก ด้วยการแสดงของ Tom Hardy คือคอนเซ็ปต์ของหนัง ที่ในที่สุด หนังก็เลือกทิศทางที่ “ดูเป็นหนังเอเลี่ยนจริง ๆ สักที” ด้วยองค์ประกอบของเรื่องที่มีทั้งคู่ซี้ต่างสายพันธุ์ที่สร้างความอลหม่านตลอดการเดินทาง มีองค์กรลึกลับไล่ล่า และภัยร้ายที่แท้จริงที่เกี่ยวข้องกับต้นกำเนิดของเอเลี่ยนคู่ซี้… นี่มันสูตรหนังเอเลี่ยนของ Spielberg ชัด ๆ มันสูตรสำเร็จ เดาได้ แต่ในทางกลับกัน กับหนังที่ไม่ได้เข้ารูปเข้ารอยมาแต่แรก นี่คงเป็นสิ่งที่ลงตัวที่สุดแล้ว แม้กระทั่งอะไรที่ดูงง ๆ ลอย ๆ อย่างฉากนั่งรถไปกับครอบครัวเนิร์ดเอเลี่ยน ก็ยังดูเป็นจุดแวะพักที่ชวนให้รู้สึกร่มรื่นอย่างน่าประหลาด ในมุมมองของคู่หูคู่ลุยที่เริ่มรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าเต็มทนเมื่อใกล้ถึงปลายทาง ทั้งหมดทั้งมวลนี้ กลับกลายเป็นเรื่องน่าเสียดายไปในทันที เมื่อ Venom: The Last Dance คือภาคที่มีหน้าที่ในการปิดเรื่องราว ทั้งที่หนังเพิ่งค้นพบทางที่ลงตัว ด้วยประเด็นด้านตัวละครที่แข็งแรง แต่ยังมีอีกหลากประเด็นของจักรวาลที่น่าไปต่อ เสมือน Iron Man 3 ที่ปิดประเด็นตัวละคร Tony Stark ในฐานะของหนังเดี่ยว แต่เพราะเคยล้มลุกคลุกคลาน เสียหายหลายล้านกันไปถึงสองครั้ง ยังไม่รวมถึงหนังร่วมจักรวาลที่ทำให้ดูแล้วยากจะไปต่อ… Venom: The Last Dance จึงกลายเป็นเพียงความสนุกส่งท้ายเฉพาะเรื่องราวของตัวเองเท่านั้นแต่อย่างไรก็ตาม ใครที่เป็นแฟนของคู่หูคู่ซี้ Anti-Hero พันธุ์เขมือบ ก็ไม่ควรพลาดไปร่วมส่งท้ายพวกเขาด้วยประการทั้งปวง!

รวมหนัง Venom

Venom (2018) เวน่อม

Venom 2 Let There Be Carnage (2021) เวน่อม 2

Venom The Last Dance (2024) เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ