อุดม แต้พานิช (ชื่อเล่น: อู๊ด แม้กระนั้นรู้จักกันในชื่อ โน้ส มาจากคำว่า nose ที่แสดงว่า จมูก เพราะเหตุว่าเป็นสมญานามที่เพื่อนพ้องตั้งให้แล้วเรียกกันจนกระทั่งเคยปาก) เป็นนักแสดง คอมเมเดียน ดาราหนัง ผู้เขียน ผู้เขียนบท ดำเนินงานศิลป์ แล้วก็เป็นผู้สถาปนาการแสดง “โดดเดี่ยวไมค์” (Stand Up Comedy) หรือการแสดงขบขันผู้เดียวบนเวทีในประเทศไทย
อ่านต่อที่นี่
เดี่ยวไมโครโฟน 1 (1995)
เล่าเรื่องราวของ โน้ต อุดม แต้พานิช ชายหนุ่มธรรมดาที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดงตลก เขาตัดสินใจเข้าร่วมประกวดเดี่ยวไมโครโฟน เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเขาก็เป็นนักตลกที่เก่งได้ โน้ตใช้ความสามารถพิเศษในการเล่าเรื่องตลกและมุกตลกที่ไม่เหมือนใครของเขา ในการเอาชนะคู่แข่งและได้รับตำแหน่งชนะเลิศ ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในด้านรายได้และคำวิจารณ์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นการปฏิวัติวงการตลกไทย
เดี่ยวไมโครโฟน 2 (1996)
อุดม แต้พานิช เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2511 ที่ตำบลคลองพลู อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรของคุณแม่ทองสุข อารีล้น กับคุณพ่อสมจิต แต้พานิช ครอบครัวมีเชื้อสายจีน มีพี่น้อง 3 คนโดยอุดมเป็นลูกคนกลางสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนวัดศาลาลอย เทศบาล 2 (ปัจจุบันคือ โรงเรียนเทศบาล 2 (วิภัชศึกษา) จังหวัดสุรินทร์) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนสุรวิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์ และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ จาก วิทยาลัยอาชีวศึกษาชลบุรี และได้หนีออกจากบ้านมาอยู่กับญาติที่เปิดร้านขายผลไม้ อุดมเคยเรียนศิลปะที่ วิทยาลัยเพาะช่าง แต่เรียนได้ถึง 2 ปีต้องออกจากการศึกษาเพราะไม่มีเงินเรียนต่อ อุดมเริ่มงานแรกโดยการเป็นนักเขียนการ์ตูนที่นิตยสารชัยพฤกษ์การ์ตูน ของไทยวัฒนาพานิช โดยใช้นามปากกาว่า ‘Note Namun’ (โน้ต หน้ามึน) ได้ค่าวาด 150 บาทต่อการ์ตูน 2 ช่อง[2] และเมื่อได้อ่านนิตยสาร ไปยาลใหญ่ ฉบับแรกบนแผงเขารู้สึกถูกใจในบุคลิกของหนังสือ และอยากร่วมงานด้วย จึงเข้าไปสมัครเป็นพนักงานฝ่ายศิลป์ของนิตยสารไปยาลใหญ่ ทำหน้าที่ออกแบบจัดทำภาพปกและภาพประกอบต่าง ๆ ในไปยาลใหญ่ และได้เป็นนักแสดงละครของศิษย์สะดือ ความรักของมาลัยในห้องไอซียู ในเวลาต่อมา เป็นละครเรื่องแรกที่เขาเล่น รับบทเป็นคนแก่ในโรงพยาบาล เดี่ยวไมโครโฟน 2
เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วนั้น นิตยสารไปยาลใหญ่จากสำนักพิมพ์ “สำนักศิษย์สะดือ” ถือว่าเป็นนิตยสารที่ฉีกแนวออกมาจากนิตยสารอื่นๆบนแผง ได้รับความนิยมและได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก ทั้งจากนักอ่านและผู้คนในแวดวงต่าง ๆ ที่ไปยาลใหญ่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตอุดมเพราะสังคมในไปยาลใหญ่ล้วนเป็นนักอ่านตัวยงและมีอิทธิพลต่ออุดม นอกจากนั้นเขายังค้นพบความสามารถในการเขียนหนังสือ เมื่ออุดมอ่านหนังสือมาก ๆ จึงเกิดแรงบันดาลใจให้อยากเขียนหนังสือบ้าง ต่อมาครั้งหนึ่งในชีวิตกับแตงโมปั่น งานเขียนเรื่องแรกของเขาก็แจ้งเกิดในสนามที่ไปยาลใหญ่นั่นเอง หลังจากที่งานได้ตีพิมพ์ อุดม เริ่มรับผิดชอบคอลัมน์ต่างๆ ในไปยาลใหญ่ โดยใช้นามปากกาว่า “โน้ตหน้ามึน หลานเจ๊นี้ขายผลไม้” ควบคู่กับตำแหน่งฝ่ายศิลป์ของหนังสือ เขาเป็นคนเขียนคอลัมน์ ‘สารภีมีดีให้’ รวมถึงเกมส์กวน ๆ ในคอลัมน์นั้น ก่อนที่นิตยสารไปยาลใหญ่จะปิดตัวเองลงในเวลาต่อมา
เดี่ยวไมโครโฟน 3 (1997)
เล่าเรื่องราวของ โน้ต อุดม แต้พานิช ที่ได้กลายมาเป็นนักแสดงตลกชื่อดังระดับประเทศ แต่เขาก็ยังคงมีปัญหาชีวิตมากมาย ทั้งเรื่องครอบครัว ความรัก และงาน โน้ตใช้ความสามารถพิเศษในการเล่าเรื่องตลกและมุกตลกที่ไม่เหมือนใครของเขา ในการแก้ปัญหาชีวิตเหล่านี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในด้านรายได้และคำวิจารณ์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นการต่อยอดความสำเร็จของภาคแรกและภาคสอง
เดี่ยวไมโครโฟน 4 (1999)
อุดม แต้พานิช เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2511 ที่ตำบลคลองพลู อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรของคุณแม่ทองสุข อารีล้น กับคุณพ่อสมจิต แต้พานิช ครอบครัวมีเชื้อสายจีน มีพี่น้อง 3 คนโดยอุดมเป็นลูกคนกลาง[1] สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนวัดศาลาลอย เทศบาล 2 (ปัจจุบันคือ โรงเรียนเทศบาล 2 (วิภัชศึกษา) จังหวัดสุรินทร์) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนสุรวิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์ และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ จาก วิทยาลัยอาชีวศึกษาชลบุรี และได้หนีออกจากบ้านมาอยู่กับญาติที่เปิดร้านขายผลไม้ อุดมเคยเรียนศิลปะที่ วิทยาลัยเพาะช่าง แต่เรียนได้ถึง 2 ปีต้องออกจากการศึกษาเพราะไม่มีเงินเรียนต่อ อุดมเริ่มงานแรกโดยการเป็นนักเขียนการ์ตูนที่นิตยสารชัยพฤกษ์การ์ตูน ของไทยวัฒนาพานิช โดยใช้นามปากกาว่า ‘Note Namun’ (โน้ต หน้ามึน) ได้ค่าวาด 150 บาทต่อการ์ตูน 2 และเมื่อได้อ่านนิตยสาร ไปยาลใหญ่ ฉบับแรกบนแผงเขารู้สึกถูกใจในบุคลิกของหนังสือ และอยากร่วมงานด้วย จึงเข้าไปสมัครเป็นพนักงานฝ่ายศิลป์ของนิตยสารไปยาลใหญ่ ทำหน้าที่ออกแบบจัดทำภาพปกและภาพประกอบต่าง ๆ ในไปยาลใหญ่ และได้เป็นนักแสดงละครของศิษย์สะดือ ความรักของมาลัยในห้องไอซียู ในเวลาต่อมา เป็นละครเรื่องแรกที่เขาเล่น รับบทเป็นคนแก่ในโรงพยาบาล
เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วนั้น นิตยสารไปยาลใหญ่จากสำนักพิมพ์ “สำนักศิษย์สะดือ” ถือว่าเป็นนิตยสารที่ฉีกแนวออกมาจากนิตยสารอื่นๆบนแผง ได้รับความนิยมและได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก ทั้งจากนักอ่านและผู้คนในแวดวงต่าง ๆ ที่ไปยาลใหญ่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตอุดมเพราะสังคมในไปยาลใหญ่ล้วนเป็นนักอ่านตัวยงและมีอิทธิพลต่ออุดม นอกจากนั้นเขายังค้นพบความสามารถในการเขียนหนังสือ เมื่ออุดมอ่านหนังสือมาก ๆ จึงเกิดแรงบันดาลใจให้อยากเขียนหนังสือบ้าง ต่อมาครั้งหนึ่งในชีวิตกับแตงโมปั่น งานเขียนเรื่องแรกของเขาก็แจ้งเกิดในสนามที่ไปยาลใหญ่นั่นเอง หลังจากที่งานได้ตีพิมพ์ อุดม เริ่มรับผิดชอบคอลัมน์ต่างๆ ในไปยาลใหญ่ โดยใช้นามปากกาว่า “โน้ตหน้ามึน หลานเจ๊นี้ขายผลไม้” ควบคู่กับตำแหน่งฝ่ายศิลป์ของหนังสือ เขาเป็นคนเขียนคอลัมน์ ‘สารภีมีดีให้’ รวมถึงเกมส์กวน ๆ ในคอลัมน์นั้น ก่อนที่นิตยสารไปยาลใหญ่จะปิดตัวเองลงในเวลาต่อมา เดี่ยวไมโครโฟน 4
เดี่ยวไมโครโฟน 5 (2002)
“เดี่ยวไมโครโฟน 5” (2002) เป็นภาพยนตร์ที่เป็นตำนานในวงการภาพยนตร์ไทยที่ได้รับความนิยมและรักษาความเป็นเอกลักษณ์อย่างต่อเนื่อง นำมาโดยกลุ่มนักแสดงที่มีประสบการณ์และทัศนคติเชี่ยวชาญ ซึ่งสร้างเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและหลงใหลในโลกของดนตรีและความรัก
“เดี่ยวไมโครโฟน 5” เริ่มต้นด้วยการนำเสนอเรื่องราวของกลุ่มนักดนตรีหนุ่มที่มีความฝันที่จะก้าวเข้าสู่โลกของการแสดงและการแสดงอย่างมืออาชีพ ภาพยนตร์นำเราไปสู่ความสนุกสนานและความโรแมนติกของการเป็นนักดนตรี โดยแสดงให้เห็นถึงความพยายามและความอดทนของนักดนตรีที่ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคต่างๆ ทั้งจากการฝึกฝนความสามารถในดนตรีและการต่อสู้กับภาวะอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง
หนึ่งในความน่าสนใจของ “เดี่ยวไมโครโฟน 5” คือการสร้างตัวละครที่น่ารักและสะดุดตาของมัน แต่ละตัวละครมีเรื่องราวและบทบาทที่น่าสนใจ เราสามารถรับรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ทำให้เราสนุกกับการติดตามเรื่องราวของพวกเขาไปในที่สุด
นอกจากนี้ “เดี่ยวไมโครโฟน 5” ยังเสนอเพลงที่สร้างความประทับใจและความท้าทาย แม้ว่าเป็นเพลงช่วงของวงการดนตรีไทย แต่เพลงกลางที่เข้าใจง่ายและน่าประทับใจได้รับการพิจารณาเป็นส่วนสำคัญของเรื่องราว
“เดี่ยวไมโครโฟน 5” ยังนำเสนอโลกที่แสนสดใสและสดใสของวงการดนตรีในยุคนั้น ภาพยนตร์นำเราไปสู่ความสนุกสนาน “เดี่ยวไมโครโฟน 5” (2002) เป็นภาพยนตร์ที่เป็นตำนานของวงการภาพยนตร์ไทยที่ได้รับความนิยมและความชื่นชมอย่างแพร่หลาย ภาพยนตร์นี้ถูกผลิตโดยกลุ่มนักแสดงที่มีประสบการณ์และทัศนคติที่มีความชำนาญ ซึ่งสร้างเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและหลงใหลในโลกของดนตรีและความรัก
เดี่ยวไมโครโฟน 6 (2003)
และถือเป็นแรงบันดาลใจให้นักแสดงตลกหลายคนหันมาแสดงเดี่ยวไมโครโฟนอุดม แต้พานิช (ชื่อเล่น: โน้ส) เป็นศิลปิน คอมเมเดียน นักแสดง นักเขียน เดี่ยวไมโครโฟน 6 (2003) ผู้มีผลงานอันเป็นที่ยอมรับอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะในด้านการแสดง เดี่ยวไมโครโฟน
หรือการแสดงตลกคนเดียวบนเวที (Stand Up Comedy) นอกจากด้านการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนแล้ว อุดมยังเป็นคนทำงานศิลปะ เป็นคนเขียนบทและแสดงภาพยนตร์ รวมทั้งเป็นนักเขียนที่มีผลงานโดดเด่น และอยู่ในความทรงจำของผู้คน
อุดม แต้พานิช เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2511 ที่จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรของทองสุข อารีล้น กับสมจิต แต้พานิช มีพี่น้อง 3 คน เขาเป็นลูกคนกลาง
อุดมเริ่มงานแรกเป็นคนเขียนการ์ตูนที่ชัยพฤกษ์ และเมื่อได้อ่าน ไปยาลใหญ่ ฉบับแรกบนแผงเขารู้สึกถูกใจในบุคลิกของหนังสือ และอยากร่วมงานด้วย จนได้เข้าไปสมัครเป็นนักแสดงละครของศิษย์สะดือ ความรักของมาลัยในห้องไอซียู เป็นละครเรื่องแรกที่เล่น ได้รับบทเป็นคนแก่ในโรงพยาบาล จบจากละครก็ก้าวเข้าสู่ถนนหนังสือ ในตำแหน่งฝ่ายศิลป์ของไปยาลใหญ่
ที่ไปยาลใหญ่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต[ต้องการอ้างอิง] สังคมในไปยาลใหญ่ล้วนเป็นนักอ่านตัวยง อุดมได้รับอิทธิพลนี้มา แล้วยังค้นพบความสามารถในการเขียนหนังสือ เดี่ยวไมโครโฟน 6 (2003) เมื่ออุดมอ่านหนังสือมาก ๆ จึงเกิดแรงใจอยากเขียนหนังสือบ้าง ครั้งหนึ่งในชีวิตกับแตงโมปั่น
งานเขียนเรื่องแรกแจ้งเกิดในสนามไปยาลใหญ่นั่นเอง หลังจากงานได้ตีพิมพ์ อุดม เริ่มรับผิดชอบคอลัมน์ต่างๆ ในไปยาลใหญ่ โดยใช้นามปากกาว่า “โน้ตหน้ามึน หลานเจ๊นี้ขายผลไม้” ควบคู่ตำแหน่งฝ่ายศิลปของหนังสือ ใครที่เป็นแฟนไปยาลใหญ่คงคุ้นเคยและติดอกติดใจกับเกมส์กวนๆ ในคอลัมน์ ‘สารภีมีดีให้’ อุดมเป็นสารภีในช่วงท้ายของหนังสือก่อนที่ไปยาลใหญ่จะปิดตัวเองลง
อุดมพาความสามารถเข้าสู่เส้นทางสายบันเทิงโดยเริ่มจากเป็นตัวประกอบในวิก 07 ของเจเอสแอล และเล่นเกมส์จุดเดือด ทางผู้ใหญ่ในเจเอสแอลประทับใจลีลาจึงชักชวนมาร่วมงานด้วยในรายการ ยุทธการขยับเหงือก ซึ่งเป็นรายการ Comedian Show ที่มีความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ
เดี่ยวไมโครโฟน 7 (2008)
เป็นการแสดงเดี่ยวที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิดและมุมมองของอุดม แต้พานิช เกี่ยวกับชีวิต สังคม และการเมือง อุดม แต้พานิช ใช้มุกตลกเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาต่างๆ ในสังคมไทย และเพื่อเรียกร้องให้คนในสังคมร่วมกันแก้ไขปัญหาเหล่านั้น การแสดงเดี่ยวครั้งนี้ถือเป็นการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดครั้งหนึ่งในประเทศไทย
และถือเป็นแรงบันดาลใจให้นักแสดงตลกหลายคนหันมาแสดงเดี่ยวไมโครโฟนเป็นการแสดงเดี่ยวครั้งที่เจ็ดครึ่งของ อุดม แต้พานิช นักแสดงตลกชื่อดังของไทย การแสดงนี้จัดขึ้นที่หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 การแสดงเดี่ยวครั้งนี้ของอุดม แต้พานิช เป็นการแสดงเดี่ยวพิเศษที่เป็นการรวมเอาเนื้อหาบางส่วนจากการแสดงเดี่ยวครั้งที่ 7 มาแสดงอีกครั้ง อุดม แต้พานิช เล่าถึงช่วงเวลาที่เขาห่างหายจากการแสดงเดี่ยวไปนานถึง 5 ปี และพูดถึงความประทับใจที่เขาได้รับจากแฟนๆ ของเขา
เนื้อหาของการแสดงเดี่ยวครั้งนี้ของอุดม แต้พานิช แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่
ช่วงแรก: แนะนำตัวและประสบการณ์
ช่วงที่สอง: เล่าเรื่องตลก
ช่วงแรก: แนะนำตัวและประสบการณ์
ในช่วงแรก อุดม แต้พานิช เดี่ยวไมโครโฟน 7 (2008) เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวและเล่าถึงประสบการณ์ของเขาในวงการตลก อุดม แต้พานิช พูดถึงความยากลำบากที่เขาต้องเผชิญในช่วงเริ่มต้นอาชีพนักแสดงตลก และพูดถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวงการตลกไทย
ช่วงที่สอง: เล่าเรื่องตลกในช่วงที่สอง อุดม แต้พานิช เล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับประสบการณ์ส่วนตัวของเขา เช่น ประสบการณ์สมัยเรียน ประสบการณ์การทำงาน และประสบการณ์ส่วนตัวอื่นๆอุดม แต้พานิช หรือ โน้ส เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2511 ที่จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรของนางทองสุข แต้พานิช มีพี่น้อง 3 คน เป็นคนกลาง ไม่สำเร็จการศึกษาจากแผนกวิชาพาณิชยศิลป์ วิทยาลัยเพาะช่าง
เริ่มงานแรกเป็นคนเขียนการ์ตูนที่ชัยพฤกษ์ ทำได้สองเดือนก็ลาออกด้วยเหตุผลที่มันไม่ตรงกับใจเท่าไร เมื่อได้อ่าน ไปยาลใหญ่ ฉบับแรกบนแผงรู้สึกถูกใจในบุคลิกของหนังสือ อยากร่วมงานด้วย ครั้งแรกไปสมัคร TRY OUT เป็นนักแสดงละครของศิษย์สะดือ ด้วยลูกตื้อและบุคลิกที่ไม่เหมือนใคร จึงได้ร่วมงานกับศิษย์สะดือสมใจ ความรักของมาลัยในห้องไอซียู เป็นละครเรื่องแรกที่เล่น ได้รับบทเป็นคนแก่ในโรงพยาบาล จบจากละครก็ก้าวเข้าสู่ถนนหนังสือ ในตำแหน่งฝ่ายศิลปของไปยาลใหญ่
ที่ไปยาลใหญ่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต สังคมในไปยาลใหญ่ล้วนเป็นนักอ่านตัวยงด้วยกันทั้งนั้น
อุดมได้รับอิทธิพลนี้มาและได้มาค้นพบโลกของตัวเองอีกโลกหนึ่งที่นี่ คือโลกของการอ่าน แล้วยังค้นพบความสามารถในการเขียนหนังสือ เดี่ยวไมโครโฟน 7 (2008) เมื่ออุดมอ่านหนังสือมากๆ จึงเกิดแรงใจอยากเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง ครั้งหนึ่งในชีวิตแตงโมปั่น งานเขียนเรื่องแรกแจ้งเกิดในสนามไปยาลใหญ่นั่นเอง
เดี่ยวไมโครโฟน 9 (2011)
โน้ต อุดม แต้พานิช ย้อนกลับไปเล่าราวชีวิตของเขาตั้งแต่วัยเด็กจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ เขาได้เล่าเกี่ยวกับรายละเอียดความจำในวัยเด็กเรื่องราวความรักคราวแรก เรื่องราวความฝันรวมทั้งความทะยานอยากของเขาการยินยอมรับตนเอง: โน้ต อุดม แต้พานิช ได้ทำความเข้าใจที่จะสารภาพตนเอง เขาพบว่าตนเองเป็นคนเดินดินคนหนึ่งที่มีอีกทั้งส่วนที่ดีและส่วนที่เสีย การใช้ชีวิตอย่างสื่อความหมาย: โน้ต อุดม แต้พานิช ได้ศึกษาและทำการค้นพบความหมายของชีวิต เขาพบว่าความหมายของชีวิตนั้นมิได้อยู่ที่การบรรลุเป้าหมายหรือเกียรติศักดิ์ แม้กระนั้นอยู่ที่การใช้ชีวิตอย่างสื่อความหมาย
Superstar Comedian บัตรเข้าชม 60,000 กว่าใบหมดด้านในไม่กี่ชั่วโมง อาจจะเป็นเครื่องการันตีถึงความนิยมในอารมณ์ขันรวมทั้ง.มุมมองของอุดม แต้พานิชได้อย่างดีเยี่ยม ผู้เดียว 9 คราวนี้ อุดมพาผู้ชมย้อนกลับมาสมัยก่อนวัยเด็กของเขาและก็.วัยเด็กของเราไปพร้อมๆเกัน เรื่องราวพ่อตาย
ชีวิตครอบครัวแตกกัน ถูกเอามาหยอกให้เกิดเรื่องขำ คนเดียวไมค์ 9 (2011) เป็นความขำบนความขม เป็นมิติใหม่ของอุดม ที่พาผู้ชมลงลึกเข้าไปในศาสตร์ที่การหัวเราะ ที่คุณจะไม่เคยสัมผัสได้ในคนเดียวคราวไหนๆเอุสูดดมเชิญชวนคุณคร่ำครวญหาสมัยก่อน Feel good ไปกับเพลงได้รับความนิยม ใต้สามัญสำนึก ถุงเท้า ยางลบ ยางเป่ากบ แล้วก็.พากลับมาสู่ตอนนี้ในเรื่องที่จี๊ดใจดำกับ Facebook, iPhone, Whatsapp จนกระทั่งลุกลามไปถึงเรื่องอนาคต ถ้าเกิดอุดมเป็นนายก อนาคตของชาติไทยพวกเราจะก้าวไปในแนวทางไหน
เดี่ยวไมโครโฟน 10 (2013)
แต่ว่าภาพยนตร์หัวข้อนี้ก็พรีเซนเทชั่นข้อความสำคัญที่น่าดึงดูดอีกหลายประการ เช่น การยินยอมรับตนเอง: โน้ต อุดม แต้พานิช ได้ศึกษาที่จะเห็นด้วยตนเอง เขาพบว่าตนเองเป็นคนเดินดินคนหนึ่งที่มีอีกทั้งส่วนดีส่วนเสียการใช้ชีวิตอย่างสื่อความหมาย: โน้ต อุดม แต้พานิช ได้ศึกษาค้นพบความหมายของชีวิต เขาพบว่าความหมายของชีวิตนั้นมิได้อยู่ที่การบรรลุผลหรือความโด่งดัง แต่ว่าอยู่ที่การใช้ชีวิตอย่างสื่อความหมาย การแบ่งปัน: โน้ต อุดม แต้พานิช ได้แบ่งปันเรื่องราวชีวิตของเขากับผู้ชม เขาปรารถนาส่งต่อแรงใจแล้วก็แรงจูงใจให้กับทุกคน
ภายหลังผ่านการขึ้นโดดเดี่ยวไมค์ของเขา โดดเดี่ยว 10 ชื่อของเขาก็ได้รับการค้นหาในสารบบมากเพิ่มขึ้น คนไม่ใช่น้อยคงจะทราบครับผม ว่าเพราะเหตุใด แต่ว่าเมื่อมองจากเรื่องราว ที่ Sanook MEN จะพรีเซนเทชั่นแล้ว ลำพังไมค์ 10 (2013) ก็ถือว่า เขาเป็นเพศชายเก่งอีก 1 คนเลยทีเดียว
โน้ต อุดม เริ่มงานแรกเป็นผู้แต่งการ์ตูนที่ชัยพฤกษ์ และก็เมื่อได้อ่าน ไปยาลใหญ่ ฉบับแรกบนแผงเขารู้สึกชื่นชอบในบุคลิกลักษณะของหนังสือ รวมทั้งต้องการร่วมงานด้วย จนได้เข้าไปสมัครเป็นดาราหนังละครของลูกศิษย์สะดือ ความรักของพวงมาลัยในห้องห้องดูแลผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาล เป็นละครเรื่องแรกที่เล่น ได้รับบทเป็นคนชราในโรงหมอ จบจากละครก็ก้าวเข้าสู่ถนนหนทางหนังสือ ในตำแหน่งข้างศิลปของไปยาลใหญ่
เดี่ยว 13 (2022)
หัวข้อสำคัญของอุดม แต้พานิชใน ‘ผู้เดียว 13’ มีศูนย์กลางสำคัญๆเป็นเรื่องของความแก่ที่เริ่มมาเยี่ยมในวัย 54 ปี ซึ่งอุดมก็ปลดปล่อยฮุกมุกแรกด้วยการบรรยายซีนการตรวจโรคมะเร็งต่อมลูกหมากที่ได้ลงรายละเอียดตั้งแต่แพทย์เพศชายที่เขาบรรจงเลือกมาและก็เซอร์ไพร์สด้วยการพบว่าพยาบาลสาวเป็นแฟนๆของเขารวมทั้งยิ่งทวีความอึดอัดเมื่อเธอแปลงเป็นผู้เห็นเหตุการณ์รู้เรื่องการตรวจต่อมลูกหมากทีแรกในชีวิต
แล้วก็อุดมก็ใช้จุดประกายตอนเริ่มโชว์เพื่อเชื่อมโยงข้อความสำคัญไปสู่เรื่องเล่าขำขันอันเกี่ยวพันความแก่แล้วก็วุฒิภาวะในวัยเลข 5 นำหน้า ดูหนัง คนเดียว 13 (2022) ด้วยการกล่าวถึงในช่วงเวลาที่ไร้ประโยชน์ที่เขามีความรู้สึกว่าก่อนวัย 65 ปีที่เขาคิดว่าตัวเองดำรงชีพสุดกำลังและก็พร้อมจากโลกไปแล้ว ซึ่งมีอีกทั้งมุกจิกกัดงานเลี้ยงวันเกิดที่เขาไม่เคยเซอร์ไพรส์ งานเผาศพซึ่งมีแต่อะไรรีรอรวมทั้งงานแต่งงานที่มีระบบระเบียบแบบแผนเยอะแยะเกินจำเป็นซึ่งในจุดนี้เองที่ผู้ชมหลายท่านคงคิดเหมือนกับผมว่าหลายมุกเริ่มเหมือนการรีไซเคิลมุกเก่ามาใช้แม้ว่าจะมีแปลงรายละเอียดบ้างถึงแม้ก็แอบเสียดายตังค์ไปไม่น้อยเลย
ผู้กำกับ
ชาตรีเฉลิม ยุคล
บริษัท ค่ายหนัง
พอดีพานิช
นักแสดง
อุดม แต้พานิช
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
The MATTER
บทความโดย ‘คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง’ รีวิว ‘เดี่ยว 13’ เดี่ยวไมโครโฟนของอุดม แต้พานิช ที่จัดอีกครั้งหลังจากเลื่อนมา 3 รอบ ในเวลาเกือบ 2 ปีด้วยสถานการณ์โควิด-19
“‘เดี่ยวไมโครโฟน’ ของอุดม แต้พานิช สร้างปรากฏการณ์บัตร sold out ทุกครั้งมาอย่างยาวนาน ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะเขาแทบจะเป็น the only one ของวงการแสตนด์อัพคอเมดี้ บ้านเราไม่ใช่นิวยอร์กซิตี้ที่สามารถหาโชว์เดี่ยวไมค์ดูได้ทุกคืน”
“ธีมหลักของเดี่ยว 13 เป็นประสบการณ์ของเขาที่เพิ่งไปบวชมา การบวชทำให้เขาตระหนักถึงการเกิด-แก่-เจ็บ-ตาย นำไปสู่การบรรลุว่าเขาใกล้จะตายแล้ว จึงไม่ควรเสียเวลากับเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะการร่วมพิธีสารพัดที่นำมาซึ่งความกระอักกระอ่วนใจ”
LifestylePlaty-ใช้เอง รีวิวเอง
เป็นการรอคอยที่คุ้มค่ามากจริงๆ #เดี่ยว12 เริ่มจาก packaging ทำออกมาดีมากแข็งแรง เปิดมาข้างใน มีหนังสือหลังไมค์ 1 เล่ม / ผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ ผืนใหญ่สีสันสดใส อีก1 ผืน / เหรียญกล้าหาญ / DVD 2 แผ่น / และที่พีคสุด เริ่ดมาก คือ Flash Drive ไมโครโฟน ไฟล์เสียงเดี่ยว 12 สามารถเปิดฟังในรถได้ทุกคัน
เป็นการดูที่หัวเราะตลอดทั้ง3 ชั่วโมง พี่โน๊ตพูดเพลินมาก แถมบางเรื่องยังแฝงสาระสำคัญในการใช้ชีวิต ชอบมาก ดูกี่รอบก็ไม่เบื่อ
รวมหนัง เดี่ยวไมโครโฟน ทุกตอน รวมทั้งหมด 14 ตอน
เดี่ยวไมโครโฟน 1 (1995)
เดี่ยวไมโครโฟน 2 (1996)
เดี่ยวไมโครโฟน 3 (1997)
เดี่ยวไมโครโฟน 4 (1999)
เดี่ยวไมโครโฟน 5 (2002)
เดี่ยวไมโครโฟน 6 (2003)
เดี่ยวไมโครโฟน 7 (2008)
เดี่ยวไมโครโฟน 8 (2010)
เดี่ยวไมโครโฟน 9 (2011)
เดี่ยวไมโครโฟน 9.5 (2011)
7