ดูซีรีย์ The Silent Sea (2021) ทะเลสงัด
เรื่องย่อ
ทีมสำรวจอวกาศต้องปฏิบัติภารกิจสุดหิน 24 ชั่วโมงเพื่อเก็บกู้ตัวอย่างทดลองจากศูนย์วิจัยร้างบนดวงจันทร์ซึ่งเต็มไปด้วยความลับที่ทางการปิดไว้อย่างมิดชิดในอนาคตอันใกล้โลกกำลังเผชิญกับภาวะทะเลทราย รุนแรง มีการใช้มาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อจำกัดปริมาณน้ำดื่ม นักวิทยาศาสตร์ ซอง จีอัน ( แบดูนา ) เข้าร่วมทีมบุคลากรชั้นนำที่คัดเลือกมาเป็นพิเศษในภารกิจไปยังดวงจันทร์ พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังสถานีวิจัยบัลแฮ ที่ถูกทิ้งร้าง ซึ่งเป็นสถานที่ที่น้องสาวของเธอเสียชีวิตเมื่อห้าปีก่อน หลังจากที่มีบุคลากร 117 คนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว สถานการณ์โดยรอบเหตุการณ์นี้เป็นความลับ
ภารกิจของพวกเขาคือการเก็บตัวอย่างที่ลึกลับและละเอียดอ่อน กัปตันทีม ฮัน ยุนแจ ( กง ยู ) เป็นทหารของหน่วยงานอวกาศ ร้อยโท รยู แทซอก ( อีจุน ) จากกระทรวงกลาโหมอาสาเป็นส่วนหนึ่งของทีม ที่ศูนย์อวกาศ ซองพบว่าผู้บริหารระดับสูงได้เปิดเผยความจริงครึ่งๆ กลางๆ และเรื่องโกหกมากมายเกี่ยวกับภารกิจและสิ่งอำนวยความสะดวก และธรรมชาติของอุบัติเหตุที่ทำให้พนักงานเสียชีวิต ตัวอย่างปรากฏว่าประกอบด้วยองค์ประกอบใหม่ที่ดูเหมือนน้ำ แต่ขยายตัวเหมือนไวรัสเมื่อสัมผัสกับเซลล์ที่มีชีวิต ทีมถูกโจมตีโดยหญิงสาวพลังเหนือมนุษย์ที่รุนแรงบนสถานีอวกาศ ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำบนดวงจันทร์ในขณะเดียวกัน พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าสมาชิกบางคนในกลุ่มของพวกเขาอาจมีเจตนาแอบแฝงที่นำไปสู่การทรยศ
ผู้กำกับ
- Choi Hang-yong
บริษัทค่ายซีรีย์
- Artist Studio
นักแสดง
- Bae Doona
- Gong Yoo
- Lee Joon
- Kim Sun-young
- Lee Moo-saeng
โปสเตอร์ซีรีย์
รีวิว The Silent Sea (2021) ทะเลสงัด
🤩 คะแนน: 7/10 ดาว
ทะเลสงัด เล่าเรื่องราวของทีมสำรวจอวกาศ ขององค์การการบินอวกาศแห่งชาติเกาหลีใต้ร่วมมือกับรัฐบาลเกาหลีใต้ ที่ต้องปฏิบัติภารกิจสุดหิน 24 ชั่วโมงเพื่อเก็บกู้สสารบางอย่างจากห้องทดลองบนดวงจันทร์ ซึ่งเต็มไปด้วยความลับมากมายที่รัฐบาลปกปิดเอาไว้อย่างมิดชิดทีมนักสำรวจที่สำคัญประกอบด้วยดร.ซอง นักดาราศาสตร์สัตววิทยา เป็นหัวหน้าทีมสำรวจวิทยาศาสตร์ โดยมีกัปตันฮันเป็นผู้ดูแลภารกิจกับลูกเรือ มีทั้งแพทย์ วิศวกร นักการสื่อสาร และนักบินประมาณ 10 คน ร่วม ภารกิจสำคัญของมวลมนุษยชาติในครั้งนี้ แต่การลงจอดบนดวงจันทร์นั้นไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด ยานอวกาศเกิดการเสียหาย
ต้องลงจอดอย่างฉุกเฉิน และเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด พวกเขาลงจอดห่างสถานีอวกาศบัลแฮมากกว่า 7 กิโลเมตร จึงจำเป็นต้องตัดสินใจเดินเท้า และเหตุการณ์ในจุดเริ่มต้นนี้ทำให้สูญเสียลูกเรือไป 1 คนในขณะที่ออกซิเจนกำลังใกล้หมดเต็มทีทีมนักสำรวจก็ถึงสถานีบัลแฮจนได้กัปตันฮัน สั่งให้ลูกเรือทุกคนแยกออกเป็น 3 ทีม เพื่อไปเก็บกระบอกควบคุมอุณหภูมิที่มีสสารบางอย่างอยู่ภายใน ที่แยกไว้ห้องเก็บ 3 ห้อง แต่เมื่อทุกทีมไปถึงก็พบว่าแต่ละห้องนั้นไม่มีกระบอกสสารเหลืออยู่เลย แล้วภายในห้องเก็บห้องที่ 3 นั่นเอง ดร.ซอง กับนักบินอีก 1 คนได้เข้าไป
นักบินได้ปะทะกับสิ่งมีชีวิตลึกลับภายในห้องนั้น สิ่งมีชีวิตที่มีความเร็ว มีพละกำลังมาก แล้วนักบินก็เสียชีวิต เจ้าสิ่งมีชีวิตประหลาดก็ได้นำกระบอกสสารเพียงหนึ่งเดียวไปเก็บไว้ในห้องลับแห่งหนึ่งของสถานี ในการเดินทางสำรวจทั่วสถานีบัลแฮ ทีมนักสำรวจก็พบว่า นักวิจัยที่เคยทำงานอยู่ในสถานีแห่งนี้เมื่อ 5 ปี ได้เสียชีวิตไปทั้งหมด โดยมีสาเหตุการตายมาจากการจมน้ำ ซึ่งก็ไม่น่าเป็นไปได้ แต่แล้วมีลูกเรือจากทีมสำรวจคยหนึ่งดันได้รับละอองบางอย่างจากศพเก่า จากนั้นภายในไม่กี่นาที จะรอออกบางอย่างก็ไปทำปฏิกิริยาภายในร่างกาย ทำให้น้ำไหลออกจากปากอย่างมากมาย แล้วก็เสียชีวิตทันทีจากอาการจมน้ำภายในร่างกายนั้นเอง
กลับกลายเป็นว่าสสารที่ที่นักสำรวจได้รับมอบภารกิจให้ไปนำกลับมาสู่โลกนั้นกลายเป็นน้ำที่อยู่ในดวงจันทร์ แล้วทีมสำรวจชุดแรกก็ต้องการวิจัยนำน้ำบนดวงจันทร์กลับมาใช้ในโลก เพราะคุณสมบัติของน้ำมันดวงจันทร์นั้นสามารถรักษาเซลล์ร่างกายให้กลับมาสู่ปกติได้อย่างรวดเร็ว สามารถแบ่งเซลล์ขึ้นมาได้อย่างอนันต์ แต่ก็มีผลเสียคือ น้ำทำปฏิกิริยากับมนุษย์ เมื่อมนุษย์ได้รับน้ำนี้ไปเพียงแค่ละออง น้ำจะทำปฏิกิริยากับเลือด แล้วเกิดการแบ่งตัวไปเรื่อยๆ จนเมื่อร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถทนรับปริมาณน้ำได้แล้ว น้ำก็จะไหลออกมาอยู่ข้างนอกร่างกาย และมนุษย์จะเสียชีวิตไม่ถึง 1 นาที จากนั้นน้ำจะหยุดการแบ่งเซลล์ และนี่คืออันตรายที่มาพร้อมกับคุณประโยชน์ของน้ำบนดวงจันทร์
แต่กระนั้นทีมนักสำรวจก็ยังต้องเผชิญกับอันตรายที่ไม่แพ้น้ำบนดวงจันทร์ก็คือ สิ่งมีชีวิตบางอย่างที่อยู่ในสถานีบัลแฮ เป็นสิ่งมีชีวิตที่รวบรวมกระบอกน้ำบนดวงจันทร์ทั้งหมดเอาไว้ในห้องทดลองลับ สิ่งมีชีวิตนี้ รูปลักษณ์ภายนอกคือเด็กหญิงธรรมดา มีปฏิกิริยาที่รวดเร็วว่องไว เคลื่อนไหวรวดเร็ว มีสัมผัสพิเศษรับรู้อันตรายได้ หายใจด้วยปอดและเหงือกที่อยู่ข้างลำคอ ถึงอย่างไรดีนักสำรวจก็ต้องนำน้ำนี้กลับไปโลกให้ได้ และต้องนำสิ่งมีชีวิตกลับไปยังโลกด้วย แม้จะต้องเผชิญอันตรายมากแค่ไหนก็ตาม เพราะน้ำมันดวงจันทร์และเซลล์ในร่างกายของเด็กบนดวงจันทร์จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้โลกมนุษย์กลับมาสู่ภาวะปกติ ไม่ต้องแย่งชิงน้ำกันอีกต่อไป เป็นซีรีย์แนวไซไฟจากเกาหลีใต้ ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์เรื่องสั้น The Sea of Tranquility ที่ฉายในปี 2014
เขียนบทและกำกับโดย ชเวฮันยง โดยมีนักแสดงนำระดับดาราแม่เหล็กของเกาหลีใต้อย่าง แบดูนา ที่เคยฝากผลงานเอาไว้ อย่างมากมายในประเทศเกาหลีใต้รวมถึงผลงานในระดับฮอลลีวู้ดอย่าง Cloud Atlas หยุดโลกข้ามเวลาเป็นต้น และคนต่อมาที่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของดาราเกาหลีใต้ยุคปัจจุบันก็คือ กงยู ที่ทุกคนล้วนยกฉายาให้เป็นสามีแห่งชาติ โดยมีผลงานสำคัญเช่น Coffee Prince, ก็อบลินคำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ, Train to busan และ Squid Game เป็นต้น ดังนั้นในแง่ Production ดารานักแสดงระดับแม่เหล็ก รวมถึงเนื้อเรื่องทั้งหมด นับเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ The Silence Sea จึงน่าสนใจเป็นอย่างมาก เปิดเรื่องมาได้อย่างน่าสนใจโดยแสดงให้เราเห็นอนาคตอันใกล้ในโลก ที่กำลังประสบปัญหากับภัยธรรมชาติอย่างรุนแรง อากาศเป็นพิษ พื้นดินไม่สามารถเพาะปลูกได้ น้ำมีสารพิษเจือปน เด็กที่เกิดใหม่ต้องไปชนปัญหากับการรับสารพิษเข้าไปในร่างกาย มีอัตราการสูญเสียชีวิตสูง
ต้องมีกฎหมาย ออกมาสำหรับการแจกจ่ายทรัพยากรน้ำแต่กระนั้นก็ยังมีการแบ่งชนชั้นของมนุษย์ผู้คนมีบัตรทองจะสามารถใช้งานได้อย่างไม่จำกัด ส่วนมนุษย์ บุคคลธรรมดาจะใช้น้ำได้จัดการปันส่วนเพียงน้อยนิด ผู้คนและสังคมกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤต และใกล้จะเข้าสู่ยุคแห่งการสูญพันธุ์ ดังนั้นในฐานะรัฐบาลชาติจึงร่วมมือกับ องค์กรการบินอวกาศแห่งชาติเกาหลีใต้ ในการเดินทางไปสำรวจน้ำบนดวงจันทร์ ซึ่งคุณสมบัติของน้ำไม่เหมือนกับน้ำที่อยู่บนโลกของมนุษย์ หากสามารถนำมาใช้ได้ มนุษย์จะสามารถใช้น้ำอุปโภคและบริโภคได้อย่างไม่จำกัดอีกต่อไป ถ้าจะพูดให้ชัด ๆ ก็คือ เป็นซีรีส์ที่ต้องการให้มนุษย์สำนึกในแง่การใช้ชีวิตและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมนั่นเอง
ซีรีส์เขาทำให้เราเห็นว่าน้ำมีความสำคัญต่อชีวิตอย่างมหาศาล สำคัญถึงขนาดที่ว่าสามารถใช้เป็นแรงจูงใจให้หลายคนเอาชีวิตไปทิ้งบนดวงจันทร์ กับภารกิจเสี่ยงตาย 24 ชั่วโมงที่ไม่มีทางเป็นไปได้ และหากทำภารกิจสำเร็จพวกเขาจะได้ใช้น้ำอย่างไม่จำกัด อย่างไรก็ตามแม้ว่าน้ำจะมีคุณประโยชน์กับมนุษย์ แต่เขาก็ยังทำให้เห็นว่าน้ำก็ยัง เป็นโทษกับมนุษย์อย่างไรแรงอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นภัยจากการจมน้ำ น้ำเป็นพิษ หรือน้ำบนดาวจันทร์ที่สามารถแบ่งเซลล์และฆ่ามนุษย์ได้ทันที และหาดูให้ลึกลงไปมากกว่านั้นเขาก็ทำให้เห็นว่า สิ่งมีชีวิตทั้งหลายแหล่ล้วนแต่เกิดมาจากน้ำทั้งสิ้น ดังนั้น จึงให้ความสำคัญกับน้ำเป็นอันดับแรก แล้วหัวใจสำคัญที่สุดของเรื่องก็คือ น้ำให้กำเนิดชีวิตแถมยังฆ่าชีวิตไปพร้อม ๆ กัน แค่น้ำธรรมดาก็ทำให้เรารู้สึกถึงอันตรายมาก ๆ ได้แล้ว เนื่องจาก เป็นซีรี่ส์ไซ-ไฟอวกาศ
เนื้อเรื่องส่วนใหญ่จึงเล่าเรื่องอยู่ในสถานีอวกาศบัลแฮบนดวงจันทร์ ความระทึกของเรื่องทั้งหมดจึงเน้นไปที่ปัญหาที่อยู่บนอวกาศเช่น ปัญหาเกี่ยวกับออกซิเจนที่มนุษย์ต้องใช้ ปัญหาเกี่ยวกับเครื่องมือสื่อสารที่ต้องติดต่อมายังโลกให้ได้ ปัญหาที่เกี่ยวกับระบบ แผนที่และห้องต่าง ๆ ในสถานีอวกาศ เรียกได้ว่าอุปสรรคที่เกิดกับหนังอวกาศเรื่องไหน ใน ก็มีทั้งหมด ส่วนหนึ่งที่ผมดูแล้วก็รู้สึกตลอดเวลาคือ ทุกครั้งที่ทีมสำรวจเดินผ่านห้องต่างๆในสถานีอวกาศ เพราะอดทำให้คิดถึงหนังเรื่องเอเลี่ยนไม่ได้ คิดตลอดว่าจะมีสัตว์ประหลาดพุ่งออกมาจากจุดใดจุดหนึ่งเสมอ ดังนั้นในเรื่องความรู้สึกระทึกขวัญก็สามารถทำได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวแล้วรู้สึกว่า The Silence Sea เล่าเรื่องได้ค่อนข้างช้ามาก ตลอดทั้งซีรี่ส์มีอยู่ 8 ตอน แต่ละตอนจะค่อย ๆ เผยความลับออกมาทีละตอน ซึ่งระหว่างตอนดำเนินเรื่องได้ช้ามาก ๆ กว่าตัวละครจะหยิบจับหรือเดินไปไหนมาไหนก็ช้ามาก และเมื่อนำพล๊อตเรื่องหรือเหตุการณ์ทั้งหมดมารวมกันแล้ว ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะจบได้ภายใน 2 ชั่วโมง
ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องมาทำเป็นซีรีย์เรื่องยาวขนาดนี้ เพราะพล๊อดเรื่องและสถานการณ์ต่าง ๆ นั้นไม่ได้มีอะไรมากมายเลย และอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นนั้นก็เหมือนกับว่าเขาต้องการใส่เข้าไปให้ครบองค์ประกอบของหนังอวกาศเพียงเท่านั้น บางตัวละครไม่จำเป็นต้องตายด้วยซ้ำ ในแง่การแสดงนั้นถือว่านักแสดงทุกคนทำหน้าที่ได้ดี และเป็นไปในแบบเอกลักษณ์ของหนังเกาหลีใต้ บางตัวที่เรียบนิ่งก็นิ่งซะแทบไม่ขยับ เน้นการแสดงทางด้านสีหน้าแววตาและคำพูด ส่วนตัวละครที่เป็นตัวโกง เขาก็ทำให้เราเห็นอย่างชัดเจน คนดีก็ดีมาก คนเลวก็เลวไปเลย ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาคาดเดาว่าใครจะดีหรือโกง ส่วนตัวแล้วผมชอบการแสดงของแบดูนามาก ๆ ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกกันใจของตัวละครได้ดีมาก การเล่าเรื่องก็ถือว่าใช้ได้ และเรื่องส่วนใหญ่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์ในสถานีอวกาศ แต่เขาก็ได้ทำให้เราเห็นภูมิหลัง เรื่องราวในอดีต แรงจูงใจของตัวละคร หรือหาอาจารย์ต่างๆในโลกก่อนหน้าเหตุการณ์ที่จะส่งทีมสำรวจขึ้นไปบนดวงจันทร์ ผ่านช่วง 5 นาทีแรกของแต่ละตอน ซึ่งใช้เวลาเล่าน้อยมากแต่ก็ดูรู้เรื่อง
ไม่ต้องเสียเวลาปูเนื้อเรื่องยืดยาดน่ารำคาญ แล้วก็เป็นการตอบคำถามหลายอย่างที่อยู่ในเนื้อหาหลักได้ดี โดยรวมแล้วการออกแบบหรือ Production ทั้งหมดทำได้ดี ทำให้เรารู้สึกว่าทีมนักสำรวจทุกคนอยู่บนดวงจันทร์จริง ดวงจันทร์ก็เวิ้งว้างว่างเปล่าจริง อยู่ภายในสถานีอวกาศจริง ๆ ดูแล้วรู้สึกสงบสงัดจริง ๆ เพลงประกอบเพื่อดึงอารมณ์ของคนดูก็ทำได้ดี ดีงามแม้กระทั่งโพสต์เครดิต ดูแล้วก็เหมือนกับซีรีส์ฝรั่งชั้นเยี่ยม ดูแล้วก็รู้สึกว่าอิจฉาอุตสาหกรรมภาพยนตร์และบันเทิงของเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก เขาสามารถสร้างภาพยนตร์ไซ-ไฟที่บรรยากาศไม่แพ้กับฮอลลีวูดสร้าง ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นมาแล้วอย่างในภาพยนตร์เรื่อง Space Sweeper
ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล ที่ทำบรรยากาศทั้งหมดของอวกาศออกมาได้ดีมาก ดูแล้วก็ได้แต่คิดว่าเมื่อไหร่ไทยเราจะสร้างอะไรแบบนี้ได้บ้างนอกจากนี้ซีรีส์ เขาก็ได้ใส่สัญลักษณ์หรือนัยยะสำคัญลงไปใน ซีรี่ส์ไว้หลายอย่างเช่น ภาพที่แสดงให้เห็นว่าน้ำให้กำเนิดชีวิต ภาพสถานีอวกาศที่สร้างอยู่บนปากเหวของดวงจันทร์ ภาพของการที่ตัวละครมองโลกบนพื้นดวงจันทร์ เป็นซึ่งเขาจะเสนอออกมาในแง่มุมไหนอย่างไรก็ต้องไปดูและตีความเอาเองนะครับ กล่าวโดยสรุป ทะเลสงัด เป็นซีรีส์แนววิทยาศาสตร์ปรัชญาอวกาศ ที่ตั้งคำถามถึงความสำนึกในการใช้ทรัพยากรของมนุษย์ ให้ความรู้สึกระทึกขวัญแบบหนังอวกาศ แม้จะดำเนินเรื่องช้าและอืดอาด แต่ก็ยังให้ความสนุกความลุ้นอยู่บ้าง และยังสะท้อนอีกว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลีใต้เขาไปไกลเกินกว่าที่ไทยจะไปอยู่ในจุดนั้นแล้ว
🤩 คะแนน: 7/10 ดาว
ละครอวกาศดำเนินเรื่องได้ดีและท้าทายตัวละครมากมาย มีบางเรื่องที่ไร้เหตุผลอย่างมากจนทำให้คุณสงสัยว่าผู้เขียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์มากแค่ไหน ตัวอย่างเช่น ตัวละครเดินช้าๆ ทุกครั้งที่อยู่ในสุญญากาศ ซึ่งดูไร้สาระและไม่ได้เกิดขึ้นจริง ลองดูฟุตเทจการเดินบนดวงจันทร์จริงสิ ความต้านทานอยู่ที่ไหนในสุญญากาศและถอดหมวกกันน็อคในสถานที่ที่พวกเขารู้ว่าอาจมีอันตรายทางชีวภาพที่ตรวจจับไม่ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่เสียชีวิตด้วยสาเหตุที่ไม่ทราบแน่ชัดก่อนหน้านี้ และก่อนที่พวกเขาจะตรวจสอบอากาศเพื่อหาอันตราย คล้ายกับฉากไร้สาระที่คล้ายกันใน Prometheus ที่นักวิทยาศาสตร์ที่เรียกตัวเองว่าถอดหมวกกันน็อคในอาคารบนดาวต่างดาวดวงใหม่หลังจากที่พวกเขาเพิ่งมาถึงนอกจากนี้ เรื่องราวหลักก็ค่อนข้างดี แต่ควรจ้างที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ในอนาคต
⭐ rich-mac
🤩 คะแนน: 7/10 ดาว
เป็นหนังแนว SciFi ระทึกขวัญที่ทำได้ดีทีเดียว แน่นอนว่ามีช่วงที่ดูเก้กังอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ นอกเหนือจากเรื่องราวดราม่าของมนุษย์แล้ว ซึ่งอาจเป็นเรื่องแปลกเล็กน้อยสำหรับผู้ชมชาวตะวันตก เรื่องราวยังมีแง่มุมที่ดีที่ค่อยๆ พัฒนาไปเป็นหลายชั้นฉันเบื่อหนังแนว SciFi ที่แสดงตัวละครในทางเดินที่ไม่มีที่สิ้นสุดบ้างเล็กน้อย เมื่อคุณจ่ายเงินจำนวนมากต่อตารางฟุตเพื่อสร้างพื้นที่ว่าง สิ่งสุดท้ายที่คุณจะทำคือการใช้พื้นที่ทางเดินอย่างสิ้นเปลือง แต่การออกแบบสถานีอวกาศที่แย่ก็ไม่ใช่สิ่งที่มีเฉพาะในหนังเรื่องนี้เท่านั้น และยังมีรายละเอียดภายในอีกมากมายที่ค่อนข้างน่าพอใจโดยรวมแล้ว หนังแนว SciFi เรื่องนี้เป็นหนังที่ดีที่ควรค่าแก่การดูและติดตามชม คุ้มค่าที่จะให้คะแนน 7 คะแนน
ซีรีย์ที่คล้ายกัน
Monstrous (2022) พระพุทธรูปผีสิง
Annarasumanara (2022) โอม รักเอยจงมา
9.3