ดูหนังออนไลน์ใหม่ 2024 หนังเต็มเรื่อง ดูหนังใหม่ ดูหนังฟรี HD Netflix
บาคาร่า ออนไลน์
สล็อตเว็บตรง

Wild card (2015) มือฆ่าเอโพดำ

2 คะแนน

ตัวอย่าง

Wild card (2015) มือฆ่าเอโพดำ

Wild card (2015) มือฆ่าเอโพดำ

เรื่องย่อ

เรื่องราวของนิค ไวลด์ (เจสัน สเตทแธม) บอดี้การ์ดมาดเหี้ยมผู้มีชีวิตอีกด้านคือการเป็นผีพนัน นิค มีความใฝ่ฝันที่อยากจะทำงานหาเงินได้มากพอที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ห่างไกลจากเมืองแห่งแสงสี และการพนันอย่างลาสเวกัส แต่ทุก ๆ อย่างไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เมื่อ นิค พบว่าเพื่อนสาวคนสนิท ดีดี (โซเฟีย เวอร์การ่า) ถูกทำร้ายโดยแกงค์มาเฟียผู้มีอิทธิพล เขาจึงตัดสินใจเผชิญหน้ากับเหล่าวายร้ายเพื่อทวงแค้นเอาคืนอย่างสาสม

ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังฝรั่ง เรื่อง Wild card (2015) มือฆ่าเอโพดำ หนังประเภท Thriller ระทึกขวัญ เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน ดูหนังออนไลน์ หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS

ผู้กำกับ

Simon West

บริษัท ค่ายหนัง

  • Current Entertainment
  • Quad Films
  • SJ Pictures
  • Sierra/Affinity

นักแสดง

  • Jason Statham
  • Michael Angarano
  • Milo Ventimiglia
  • Dominik Garcia-Lorido
  • Anne Heche
  • Sofia Vergara
  • Max Casella
  • Jason Alexander
  • Hope Davis
  • Stanley Tucci

โปสเตอร์หนัง

AnyConv.com 01270009 20151118133142 0 AnyConv.com 01158548 20150409113357 0 AnyConv.com 01270008 20151118142442 0

รีวิว มือฆ่าเอโพดำ

ekka_eak

[SR] Wild Card นักฆ่าเอโพดำ – พัฒนาการทางบทบาทการแสดงของ Jason Statham ที่ผมอยากเห็น

ดาราหลายคนปีนึงๆ เล่นหนังหลายเรื่องมากนะครับ แป้บๆ หนังคนนี้เข้าฉายอีกละ จนบางทีเราก็เบื่อหน้าดาราคนนั้นไปเลย แต่เบื่อหน้ายังไม่เท่าเบื่อบทบาทที่ซ้ำซากนะครับ อย่าง Liam Neeson พักหลังผมว่าบทบาทที่ลุงแกรับเล่นมันไม่แตกต่างกันเลย ทำให้บางทีถ้าหนังไม่สนุกจริง เราก็เบื่อที่ต้องมาดูหนังคล้ายๆ เดิม กับตัว Jason Statham เองผมว่าหลายๆ คนคงเบื่อกับบทบาทที่เค้าได้รับ เพราะมันหนีไม่พ้นการเป็นอดีตทหารผันตัวมาเป็นบอดี้การ์ด ซึ่ง Jason เล่นบทนี้แทบจะทุกเรื่อง มีเรื่องเดียวที่บทบาทการแสดงเปลี่ยนไปจากที่ผ่านมาคือ Hummingbird ที่เป็นหนัง Drama เลยล่ะ ส่วนกับ Wild Card เราก็จะได้เห็นอีกบทบาทการแสดงของ Jason เช่นกัน

“Wild Card” เป็นเรื่องของ นิค ไวลด์ (เจสัน สเตทแธม) บอดี้การ์ดฝีมือระดับพระกาฬแห่งลาสเวกัสผู้มีปัญหาส่วนตัวคือติดการพนัน แต่วันหนึ่งเพื่อนของเขาอย่าง ดีดี (โซเฟีย เวียร์การา) ถูกนักเลงทำร้ายร่างกายจนบอบช้ำ ซึ่งนิคค้นพบว่าหนึ่งในกลุ่มนักเลงนั้นเป็นลูกชายของหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ ด้วยเหตุนี้ นิคจึงตัดสินใจเดินทางสู่มหานครแห่งคาสิโนอย่างลาส เวกัส เพื่อมุ่งไปจัดการล้างแค้นแก๊งค์ชั่วร้ายนี้อย่างสาสม และถอนรากถอนโคนให้สิ้นซาก !

อ่านเรื่องย่อ หลายคนคงยี้ ว่าเนื้อหามันหนีไม่พ้นแบบเดิมๆ อีกแล้ว ตอนผมดูตอนแรก ผมก็คิดเหมือนกัน มันก็คงเป็นหนัง action เหมือนที่ผ่านๆ มา แต่พอดูไปเรื่อยๆ มันกลับไม่ใช่แฮะ ทั้งเรื่องมีฉาก Action อยู่สามฉากแค่นั้นเอง ซึ่งแปลกมากสำหรับหนังที่โปรโมทว่าเป็นหนัง action เต็มตัว แต่หนังกลับไปเล่นถึงความสับสนในตัวเองของตัวละครอย่าง นิค ไวลด์ ที่ออกจะเกือบเป็น Drama ซะด้วยซ้ำ หนังไม่ได้เน้นที่ action เท่าไหร่ ไปเน้นอารมณ์ที่ทำให้เราเข้าใจในตัวละครมากกว่า ส่วนตัวผมว่าเรื่องนี้ก็มีกลิ่น Hummingbird พอสมควรเลยนะครับ เพราะ Jason ใช้ฝีมือในการแสดงมากกว่าแค่การมาเตะต่อยไปวันๆ อย่างเรื่องอื่นๆ เรื่องนี้เราจะได้เห็นการแสดงออกทางสีหน้า ความสับสนในแววตา และความอึดอัดที่ถูกปล่อยออกมาของตัวละครตัวนี้

แต่หนัง Jason ก็ยังต้องเอาจุดขายของ Jason มาเล่นอยู่ดี ฉาก action ทั้งสามฉากในเรื่องยังคงความเป็นตัวเค้าได้อย่างยอดเยี่ยม ผมว่าเรื่องนี้การออกแบบการต่อสู้ทำดีกว่าบางเรื่องที่ผ่านมาด้วยซ้ำ แต่คงไม่พูดถึงเยอะ เพราะระดับ Jason เชื่อมือได้อยู่แล้ว แต่บางอย่างในฉาก action ที่มันควรจะเป็นจุดที่ถูกชูให้เด่นขึ้นมาอย่างไพ่เอโพดำที่พระเอกใช้ กลับไม่ได้ถูกเอามาแตกเป็นประเด็นสำคัญอะไรเลย ซึ่งผมว่ามันแปร่งๆ ไปหน่อยว่าจะชูประเด็นนี้มาทำไมแค่ฉากเดียว

ตัวละครอื่นๆ แทบไม่มีบทบาทเลย นอกจาก Michael Angarano ที่ออกมาเล่นกับพระเอกอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ตัวที่เหลือคือออกมาส่งให้พระเอกเดินเรื่องต่อไปได้มากกว่า ผมเสียดายนางเอก Dominik García-Lorido อุตส่าห์หาคนสวยเซ็กซี่ขนาดนั้นมาได้ แต่กระจายบทให้อย่างน้อยนิด ไม่คุ้มเลยจริงๆ

ตอนเดินออกจากโรง ผมได้ยินคนข้างหลังคุยกันว่า หนังห่วย อุตส่าห์เอา Jason มาเล่น แต่ให้ action แค่นี้ จะเอามาทำไม ผมฟังแล้วผมก็รู้สึกว่า ถ้าดูหนัง Jason หรือดาราคนอื่นในแบบที่บทบาทซ้ำซากจำเจ จะไม่เบื่อหันเหรอครับ ผมกลับมองว่าเรื่องนี้ผมชอบซะอีกที่ได้เห็นพัฒนาการทางการแสดงของเค้า อยากให้มีบทบาทที่แตกต่างออกไปมาให้ดูอีกเรื่อยๆ จะได้ไม่เบื่อ Jason Statham ไปซะก่อน

ขอบคุณบัตรรอบสื่อจาก สหมงคลฟิล์ม ด้วยครับ

หนังโปรดของข้าพเจ้า

Wild Card (2015)

ฉากต่อสู้ยังคงไว้ใจเจสัน สเตแธมได้ตามเคย แต่พล็อตหนังนี่ไม่แปลกใจเลยว่ามาจากยุค 80’s ซึ่งพอมาเล่าในยุคนี้แล้วไม่เข้มข้นแบบที่ควรจะเป็นจึงทำให้แรงผลักดันของตัวละครไม่หนักแน่นพอ แถมการจบหนังยังราบเรียบอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าเน้นแอ็คชั่นมันก็ไม่ได้เจ๋งขนาดเป็นหนังห้ามพลาด ถ้าเทียบกับงานเจสันเรื่องอื่น ๆ ก็มีหนังที่เขาออกลีลาบู๊ได้ถึงใจกว่านี้ และถ้าจะมาดู Wild Card เน้นพล็อตเรื่องก็คงเป็นเรื่องน่าผิดหวัง เพราะถึงแม้บทที่พูดถึง ‘คุณค่าของนักสู้ที่ขี้แพ้เพราะติดพนัน’ จะเปิดมาได้น่าสนใจว่าทำไมคน ๆ หนึ่งถึงติดแหง็กในลาส เวกัส แต่การเล่าไม่เพียงพอจะทำให้เชื่อสักเท่าไร โดยเฉพาะการใส่ตัวละครอีกคนเข้ามาพูดเรื่องการหาหนทางดับความกลัวในใจตัวเองนั้นมันช่างไร้ชั้นเชิงในการคลายปมเหลือเกิน ไม่ใช่แฟนเจสัน สเตแธมก็บอกผ่านหนังได้เลย
.
‘นิก’ (Jason Statham) ทำงานเป็นบอดี้การ์ดอิสระในลาส เวกัส กระทั่งวันหนึ่งหญิงสาวใกล้ชิดของเขาถูกทำร้าย เขาไม่ค่อยอยากยุ่งกับแก๊งมาเฟียเท่าไรแต่ด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจึงทำให้เขาลงมือช่วยเหลือหญิงสาวเพื่อล้างแค้น โดยที่เขารู้ตัวดีว่าจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายตามมาขนาดไหน เช่นนั้นแล้วทำไมเขาไม่ขนเงินหนีออกจากเมืองเสียเลยล่ะ
.
จริง ๆ ตัวละครของเจสัน สเตแธม น่าสนใจมาก ๆ เพราะมันพูดถึงเส้นแบ่งความเห็นใจเพื่อนมนุษย์ ใช้พละกำลังความสามารถของตัวเองในทางที่ควรจะทำ และตัวละครดังกล่าวยังพูดถึงหนทางในการเลิกติดพนันในบ่อนคาสิโนอีกด้วย ตัวหนังจึงเหมือนมีสองภารกิจให้ตัวละครต้องก้าวผ่านไปให้ได้ ซึ่งการจะก้าวข้ามนั้นก็มีบทบู๊แทรกมาพอเป็นพิธี ความเด็ดขาดอย่างหนึ่งของหนังคือการโชว์ทักษะการต่อสู้ระยะประชิดที่ผ่านการออกแบบท่วงท่าคิวบู๊มาอย่างดี รุนแรงและรวดเร็ว ไม่ได้เน้นสวยงามอย่างเดียวแต่ยังดูเป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์เต็มที่ กระทั่งฉากจบยังไม่ลีลามากความ ซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็นจุดขายของหนังก็ว่าได้ที่ได้เห็นเจสันโดนรุมทั้งเรื่องแต่ก็เอาตัวรอดมาได้ตามสไตล์ที่คุ้นเคย

Director: Simon West (ผู้กำกับ Con Air, Lara Croft: Tomb Raider, The Mechanic)
novel ‘Heat’: William Goldman (ผู้แต่ง The Princess Bride)
screenplay: William Goldman (เขียนบท All the President’s Men, Absolute Power)

Genre: action, crime, drama
6.5/10

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Parker (2013) ปล้นมหากาฬ

Wrath Of Man (2021) คนคลั่งแค้น ปล้นผ่านรก

Hamilton 2 But Not if it Concerns Your Daughter (2012) สายลับล่าทรชน 2

The Skulls (2000) องค์กรลับกะโหลกเหล็ก

Homefront (2013) โคตรคนระห่ำล่าผ่าเมือง

แสดงความคิดเห็น

แชร์

หนังอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ดูหนังออนไลน์ 2024

เว็บดูหนังมาแรงในตอนนี้ สามารถดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ที่มีคุณภาพที่สุดในตอนนี้ ไม่มีโฆษณามารบกวนใจ อีกทั้งมีหนังมากมายมาให้เลือกชม มากมายกว่า 10,000 เรื่อง ที่นี่มีหนังใหม่2023 จากค่ายดังทุกค่ายมาให้ทุกคนได้รับชมกันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่า Netflix, Disney+, Viu , DC , Marvel ทำให้ท่านได้รับความสนุกเพลิดเพลินเหมือนได้รับชมอย่างสมจริงทั้งภาพที่คมชัดระดับ Full HD และเสียงภาพยนตร์ที่คมชัดมากที่สุด

ดูหนัง Netflix หนังใหม่

อ่านต่อที่นี่