Vacation (2015) พักร้อนอลวน ครอบครัวอลเวง
เรื่องย่อ
Vacation เดินตามรอยพ่อของเขาคลาร์กกริสโวลด์ชายผู้มีวิสัยทัศน์ในวันหยุดแห่งชาติลำพูน (1983) ลูกชายของเขาเช่นกันรัสตี้กริสโวลด์ซึ่งเป็นคนในครอบครัวที่ทำงานหนักต้องการมีช่วงเวลาที่มีคุณภาพกับเด็บบี้ภรรยาของเขา และลูกชายสองคนของพวกเขาเควินและเจมส์ ด้วยความคิดที่จะกลับไปเยือนสถานที่แห่งความทรงจำอันสดใสในวัยเด็กของเขา Walley World ที่น่าตื่นเต้นทำให้นึกถึง Rusty
ตัดสินใจที่จะทำให้ครอบครัวของเขาประหลาดใจด้วยข้อเสนอของเขาสำหรับการเดินทางที่น่าจดจำทั่วประเทศด้วยรถ SUV แอลเบเนียให้เช่า อย่างไรก็ตามในขณะที่ Griswolds เข้าสู่ถนนเพื่อสร้างความผูกพันในครอบครัวอย่างจริงจังสิ่งนี้พูดได้ง่ายกว่าทำและหายนะหลังจากภัยพิบัติความตั้งใจอันแสนโรแมนติกของ Rusty ดูเหมือนจะลงไป อุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถขัดขวางแผนการของ Rusty ในการสร้างวันหยุดพักผ่อนของครอบครัวที่สมบูรณ์แบบได้หรือไม่?
ผู้กำกับ
- John Francis Daley
- Jonathan Goldstein
บริษัท ค่ายหนัง
- New Line Cinema
นักแสดง
- Ed Helms
- Christina Applegate
- Skyler Gisondo
- Steele Stebbins
- Chris Hemsworth
- Leslie Mann
- Chevy Chase
โปสเตอร์หนัง
รีวิว
“ระหว่างการเดินทางมันห่วย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องไปให้ถึงจุดหมาย” Vacation หนังบอกเล่าตรงตัวเหมือนชื่อเลย ว่าด้วยเรื่องของวันหยุด ‘รัสตี้’ หัวหน้าครอบครัว เขามีอาชีพเป็นนักบินอยากพาครอบครัวของเขาไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง ภรรยาเขาอยากไปปารีสเพราะมีเพื่อนมาอวดว่ามันเหมาะกับการไปพักผ่อนที่คลายเครียดได้ดีมาก แต่เขามีไอเดียที่ดีกว่า เขาจะพาครอบครัวไป Walley World สวนสนุกที่มีรถไฟเหาะที่สูงมากและตีลังกาถึงสามรอบ ทริปนี้จึงเริ่มต้นขึ้น
ด้วยรถที่เช่ามาพร้อมสเปเชี่ยวเอฟเฟ็คสุดพัง ภรรยาแสนสวยของเขา ‘เด็บบี้’ และลูกชายคนโต ‘เจมส์’ กับน้องชายสุดแสบที่ชอบแกล้งพี่ชายเป็นประจำ ‘เควิน’ แต่เพียงแค่เริ่มต้นเดินทาง ทุกอย่างก็ดูจะเละตุ้มเป๊ะตั้งแต่แรก ความฮาจึงบังเกิด จะเป็นทริปหรรษาหรือทริปสุดเฟล และพวกเขาจะไปถึงจุดมุ่งหมายได้ไหมนี่?!! หนังโคตรมีสีสันเลยว่ะ…ผมรู้สึกได้ตั้งแต่หนังเริ่มจนดูจบก็ไม่เปลี่ยนคำพูด แม้ครอบครัวนี้จะเป็นครอบครัวที่ดูไม่เต็มกันทุกคน และมีปัญหาเฟลๆเกิดขึ้นมากมาย แต่เป็นอะไรที่มีสีสันและเรียกเสียงหัวเราะได้มาก หนังค่อนข้างเบาสมอง ดูง่าย และเหมาะกับดูคลายเครียดได้สุดๆ
การดำเนินเรื่องก็ไม่ค่อยมีอะไร ว่ากันไปตามเนื้อเรื่อง และค่อนข้างจะตรงประเด็นเนื่องจากหนังมีชื่อว่า Vacation ฉะนั้น เนื้อหาก็จะเจาะอยู่ที่ ระหว่างทริปนี้ กับคำถามที่ว่า จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง? และตามสไตล์ความคอมเมดี้ที่ยังคงสดใหม่ จะต้องเกิดเรื่องราววายป่วงขึ้น จนจุดหมายที่ตั้งใจไว้แต่แรกก็อาจล้มเหลวเพราะความพังที่เกิดขึ้นตลอดทริป หนังเล่าชีวิตครอบครัวนี้ได้เห็นภาพชัดเจน ความแสบของสองพี่น้อง และรัสตี้ นักบินสุดเฟล ที่หวังดีจะพาครอบครัวไปเที่ยวและได้ใกล้ชิดกัน แต่หลายอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่ฝันเอาไว้ ส่วนเด็บบี้ ภรรยาของเขาก็มีวีรกรรมสุดแสบเมื่อยังเป็นวัยรุ่นเรียนในมหาลัย ผมว่าครอบครัวนี้มันมีสีสันมากและลงตัวสุดๆไปเลย
หนังใส่มุกที่ฮามากๆ สดใหม่ Vacation เป็นมุกที่ติดอยู่กับตัวละครและพฤติกรรมที่ออกจะแนวตื้นๆไม่คิดอะไรมาก เหมือนกับว่าการที่ตัวละครทำสิ่งหนึ่ง ไม่ได้ตั้งใจจะให้ฮา แต่มันกลับฮาได้เพราะความพังทั้งหมดทั้งมวลเหล่านั้น และครอบครัวนี้ค่อนข้างจะซื่อ ชอบความเป็นธรรมชาติของนักแสดงที่ดูไม่มีใครเกร็ง มุกฮาไม่ล้น หนังที่ดูเหมือนจะไร้สาระจริงๆแล้วแก่นเต็มไปด้วยสาระเพียงแต่นำเสนอออกมาทางไร้สาระให้บันเทิงมากกว่า หนังสอดแง่คิด ข้อคิดเกี่ยวกับการเดินทางเมื่อดูจบให้คนดูเอาไปคิดต่อ แต่ทั้งเรื่องคือความแสบซ่า เราขำได้ทุกมุข ไม่ว่าจะสุข เศร้า เหงา หนังเรื่องนี้ทำออกมาได้โดนมากๆ ตลอดการรับชมบอกได้เลยว่าบันเทิง
ส่วนตัวชอบมากกก ไม่รู้จะหาคำดีๆมันบรรยายยังไง ชอบก็คือชอบ หนังดูมีความพอดีในความฮา มุกอะไม่เท่าไหร่ แต่ชอบหนังที่เล่าเรื่องของครอบครัวแบบนี้ ชอบการจัดการปัญหาและสิ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัวกันเอง แม้จะท้อแท้ เหน็ดเหนื่อย หรือโมโหใส่กัน แต่นั่นก็เป็นอารมณ์แค่ชั่วคราว และครอบครัวจะต้องผ่านมันไปด้วยกัน ผมว่าหนังมันให้ความประทับใจ และผมสัมผัสได้ถึงเนื้อในความเป็นครอบครัวที่ดูเป็นหนึ่งมากๆแม้ในหนังจะไม่ใช่อย่างที่เห็น
นอกจากครอบครัวนี้ ยังมีนักแสดงสมทบ อย่าง Chris Hemsworth มาแจมช่วยเพิ่มความบันเทิงให้ และยัวโชว์ความแซ่บซึ่งคงไม่พ้นเสียงกรี๊ดของสาวๆ ใครชอบเฮียก็ไปดูโลด รับรองว่าคุ้ม แม้จะไม่ใช่ตัวหลักแต่ก็เด่น หลายฉากในเรื่องคือติดเรทเลย โนเซ็นเซอร์ ได้อรรถรสและความฮากลับไป ไม่รู้ว่าจะมีใครแอบซี้ดรึเปล่า… บทสรุปหนังทำได้ดีเลย สุดท้ายพวกเขาได้ไป Walley World รึเปล่าขอไม่สปอยล์ (555+) แต่บทสรุปนั้นมีความสุขสันและความฮาบังเกิดต่อเนื่องลากยาวไปจนจบ ประทับใจภาพรวมทั้งหมดของหนัง หากต้องพูดฉากที่ชอบย่อยออกมา ก็คงเยอะมาก บอกเลยว่าชอบทั้งเรื่อง
ไม่รู้ว่าสำหรับคนอื่นหนังจะฮาและไปได้สักกี่น้ำเชียว แต่สำหรับผมชอบ และคิดว่าอย่างน้อยคุณจะต้องยิ้มกับมันได้ถ้าคุณดูหนังเรื่องนี้ ควรค่าและคุ้มค่ามากที่จะดู รับรองไม่เสียเวลาไปเปล่าๆ ผมนั้นได้รับความสนุกมากมายก่ายกอง และติดอกติดใจ ขำจนกรามค้างจริงๆ แม้ว่าการเดินทางมันจะเฟลแค่ไหน แต่มันก็เป็นความทรงจำอันมีค่าความทรงจำหนึ่ง ที่ครอบครัวๆหนึ่งจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน…ผมว่ามันไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว 9/10
การจะพูดถึงหนังเรื่องนี้ผมคงต้องแบ่งออกเป็น 2 แบบครับ แบบแรก แบบธรรมดา (ไม่คิดเยอะ) หนังก็ออกมาเรื่อยๆ Vacation ครับ เรื่องของครอบครัวกริสวอลด์นำโดย รัสตี้ (Ed Helms), เด็บบี้ (Christina Applegate) และลูกชาย 2 คน (Skyler Gisondo และ Steele Stebbins) กับการพักร้อนสุดป่วนเมื่อรัสตี้อยากใช้เวลากับครอบครัว ก็เลยพากันนั่งรถเที่ยวโดยมีเป้าหมายคือเครื่องเล่นสวนสนุกที่รัสตี้โปรดปราน แต่ก็คงพอเดาได้ล่ะนะครับว่าระหว่างทางมันก็จะเต็มไปด้วยเรื่องเพี้ยนๆ วุ่นๆ สารพัด เรียกว่ากว่าพวกเขาจะไปถึงที่หมายก็แทบจะหมดกำลังใจไปตั้งหลายหนแน่ะ ครับ คือถ้าจะดูเอาเพลินเอาขำมันก็เรื่อยๆ นะ เพียงแต่อาจจะไม่ถึงกับสนุกหรือชวนติดตามอะไรมากมาย หลายมุกตลกก็พอจะเดาได้หรือไม่ก็เคยเห็นจากหนังเรื่องอื่นๆ มาแล้ว (บางมุกก็รีเมคมาจาก Vacation ต้นฉบับอีกที) บางมุกก็ดูต๊องมากจนรู้สึกเฉยๆ
ในขณะที่บางมุกที่จริงๆ แล้วเวิร์ก (อย่างเรื่องของ “ไกด์ล่องแก่งคนนั้น”) แต่ด้วยการเล่าลำดับเรื่องที่ยังไม่แม่น ทำให้มุกออกมากลางๆ แทนที่จะขำเป็นเรื่องเป็นราวนี่เป็นงานกำกับหนัง ใหญ่ครั้งแรกของ John Francis Daley เจ้าของบท ดร.แลนซ์ สวีทส์ จากซีรี่ส์ Bones โดยเขากำกับร่วมกับ Jonathan M. Goldstein มือเขียนบทที่กำกับเป็นหนแรกเช่นกัน ผลที่ได้ก็ออกมากลางๆ ครับ ด้านมุกตลกน่ะพอไหว แต่การดำเนินเรื่องและการลำดับเรื่องมันดูไม่ค่อยเป็นเนื้อเดียวเท่าไร และดูหนังจะเน้นไปที่ความขำมากกว่าแก่นของเรื่องจริงๆ (อันว่าด้วยเรื่องของครอบครัว) ก็เลยทำให้ความสนุกยังไม่มาแบบเต็มที่
แต่ก็นั่นล่ะครับ หากใครชอบหนังตลกสไตล์ Road Movie ว่าด้วยครอบครัวป่วนๆ หากอยากจะลองดูก็ได้ครับ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่า RV (ที่ลุง Robin Williams ผู้ล่วงลับแสดงไว้) จะดูลงตัวมากกว่าครับ เอาล่ะ เมื่อกี้เล่าแบบธรรมดาไป ทีนี้ขอเล่าแบบจัดหนักในฐานะคนที่ชอบหนังเวอร์ชั่นต้นฉบับบ้าง ^_^ (อาจมีสิ่งที่หลายคนเรียกว่าสปอยล์ครับ หากไม่อยากทราบก็ข้ามๆ ไปได้) ออกตัวเลยว่าผมเป็นแฟนหนังชุด Vacation ดั้งเดิมที่มีออกมา 4 ภาค (ภาคแรกปี 1983) นำแสดงโดย Chevy Chase ในบท คลาร์ก กริสวอลด์ ซึ่งสำหรับฉบับใหม่นี่จริงๆ ก็ถือเป็นภาคต่อล่ะครับ Vacation เพราะ Chase ก็กลับมารับเชิญในบทเดิม และเขาก็คือพ่อของรัสตี้นั่นเอง (เช่นเดียวกับ Beverly D’Angelo ที่กลับมารับเชิญในบทเอลเลน คู่ชีวิตคนเดิมคนเดียวของคลาร์ก)
จริงๆ ต้องบอกว่าผม “รัก” หนังฉบับเก่าเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะภาคแรกกับภาค 3 ที่เป็นส่วนผสมอันลงตัวระหว่างหนังตลก, หนัง Road Movie และหนังครอบครัวแฝงแง่คิดดีๆ ซึ่งจริงๆ หนังฉบับใหม่ก็ถือว่าเป็นทั้งภาคต่อ (เนื่องจากเอาตัวละครรุ่นลูกมาผูกเรื่องต่อ) และเป็นการรีเมค (เพราะพล็อตหลักๆ ก็คือภาคต้นฉบับนั่นแหละ) แต่ความลงตัวคนละรสกันเลยครับ ภาคต้นฉบับนั้นมุกตลกอาจไม่ได้ฮาหนัก แต่ก็ดูเพลินและเบาสมองกำลังดี ที่สำคัญคือครอบครัวกริสวอลด์นั้นพวกเขาก็เป็นครอบครัวธรรมดาๆ นี่แหละครับ ไม่ได้เพี้ยนหรือต๊องอะไรมากมาย เพียงแต่พวกเขามักจะชอบตัดสินใจผิดจนนำตัวเองไปเจอกับเรื่องบ้าๆ เท่านั้นเอง ดังนั้นถึงที่สุดแล้ว ทุกตัวละครในครอบครัวกริสวอลด์ภาคต้นฉบับก็ยังดูเป็นมนุษย์ปุถุชน มีเลือดเนื้อและสามารถสร้างความประทับใจให้คนดูได้ในหลายวาระ
ในขณะที่ฉบับใหม่นี่คาแรคเตอร์ตัวละครดูจะเพี้ยนหรือถูกทำให้ดูตลกโดยเจตนา พวกเขาเลยดูขาดมิติไปเลยน่ะครับ ซึ่งจริงๆ ถ้าว่ากันถึงพล็อตแล้ว หนังมีพล็อตที่น่าสนใจนะ อย่างรัสตี้ก็มีปมเรื่องการอยากอยู่กับครอบครัว หรืออยากทำให้เมียและลูกได้มีความสุข มันคือโจทย์ที่หัวหน้าครอบครัวทุกคนมี แต่ทว่าเขาก็ชอบทำมันพลาดบ่อยๆ จนตัวเองรู้สึกแย่ จริงๆ ปมนี้น่ะเล่นให้เป็นประเด็นกินใจเลยก็ได้ครับ แต่หนังก็จับเพียงผิวๆ เท่านั้น บางฉากนี่ทำเอางงเหมือนกัน อย่างตอนที่รัสตี้เดินไปแซวลูกชายที่กำลังอยู่กับสาวน้อยนามว่าอดีน่า (Catherine Missal) ตรงบ่อน้ำ แล้วดันแซวจนสาวหนีไปเลย… ระหว่างดูนี่คิดในใจเลยว่า “พี่ทำแบบนั้นไปทำไมล่ะครับ ลูกพี่กำลังคุยกับผู้หญิงอยู่ มันเพี้ยนไปไหมอ้ะ”
ไหนจะคาแรคเตอร์ของเด็บบี้ ที่ดูแข็งๆ หงุดหงิดเงียบๆ อยู่ตลอดเวลา มันทำให้ภาพของครอบครัวกริสวอลด์ฉบับนี้ดูไม่สมดุลย์น่ะครับ คือก็พอเข้าใจนะว่าจะสื่อภาพของครอบครัวที่ไม่ลงตัว ไม่เข้าใจกัน หรือมีกำแพงต่อกันอะไรประมาณนั้น แต่อารมณ์ที่ได้มันเหมือนกับเรากำลังดูคน 4 คน Vacation ที่ไม่เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน มาเดินทางไปด้วยกันในฐานะครอบครัวน่ะครับ อารมณ์มันแปลกและรู้สึกว่าหลายอย่างมันขัดกันยังไงก็ไม่รู้ โดยรวมแล้วผมเลยออกจะเฉยกับภาคนี้น่ะครับ และทำให้รักต้นฉบับมากขึ้นกว่าเดิมอีกต่างหาก แต่ก็นั่นล่ะครับ ผมมองจากมุมของผม และไม่อยากสรุปฟันธงอะไรขนาดนั้น เอาเป็นว่าใครอยากลองลิ้ม หรือใครไม่เคยดูต้นฉบับมาก่อน (ซึ่งผมก็เชื่อว่าคงเป็นส่วนใหญ่น่ะนะครับ) ก็ลองดูได้ครับ เผื่อจะชอบนะครับ ^_^
เมื่อ Rusty กัปตันขับเครื่องบินของสายการบินเล็กๆ ที่วางแผนกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ส่อแววหายนะกับการที่ Debbie ผู้เป็นภรรยาเบื่อกับการไปเที่ยวสถานที่เดิมๆ กับครอบครัวอยู่ทุกปี ส่วนลูกชายทั้ง 2 คน James และ Kevin ก็ทะเลาะกันเป็นประจำ เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนแผนในทริปพักร้อนช่วงวันหยุดยาวปีนี้เป็นการขับรถระยะไกลจากบ้านไปยังสวนสนุกยักษ์ที่เขาประทับใจในวัยเด็ก แต่ระหว่างการเดินทางอันยาวไกลนี้ก็เต็มไปด้วยอุปสรรคและความวุ่นวายสารพัดที่รอคอยพวกเขาอยู่! หากมองไปที่เป้าหมายของการออกทริปเดินทางครั้งนี้ของ Rusty ก็ถือว่าน่าเอาใจช่วยอยู่เหมือนกัน เพราะมันเริ่มมาจากการต้องการเอาใจภรรยาและต้องการให้ลูกสามัคคีกันมากกว่านี้
อยากให้ครอบครัวมีความทรงจำดีๆ เหมือนที่เขาเคยมีในวัยเด็ก ซึ่งการเป็นหัวหน้าครอบครัว เมื่อมองเห็นวี่แววปัญหา มันก็ต้องหาทางแก้ ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายบานปลายไปมากกว่านี้ แม้การเลือกปลายทางที่มาจากความทรงจำตัวเองจะออกไปแนวมัดมือชกไปหน่อยก็ตามที เวลาเจอเรื่องเลวร้ายด้วยกัน มันเป็นบทพิสูจน์ได้ดีเลยว่าคนในครอบครัวห่วงใยกันมากน้อยแค่ไหน ทั้งยังเป็นโอกาสให้เราได้แสดงความเห็นออกมามากที่สุด ซึ่งตลอดการเดินทางนี้ของ Rusty เราก็จะได้เห็นการค่อยๆ เปิดใจ การปรับความเข้าใจ ของคนที่เราคิดว่ารู้จักกันดีแล้วเป็นครั้งแรกอีกด้วย Vacation ถ้าถามว่าความซวยของครอบครัว Rusty อยู่ในระดับไหนก็คงเรียกว่า “ซวยหนักมาก” ก็คงได้ ซึ่งมันก็เอื้อต่อการสร้างสถานการณ์คับขันเพื่อเรียกเสียงฮาอยู่เรื่อยๆ
ท่ามกลางความซวยที่ดาหน้าเข้ามาหาครอบครัวนี้ (จนเราอดคิดไม่ได้เหมือนกันว่าพวกเขาส่อแววตายยกครัวอยู่รอมร่อ) นักแสดงก็เป็นส่วนที่เข้ามาเสริมสีสันได้ดี ทำให้บางมุกที่ไม่ฮา กลับดูมีความน่าสนใจขึ้น นอกจากนักแสดงนำอย่าง Ed Helms หนังยังได้ Chris Hemsworth (ที่พกข้าวหลามมาขึ้นจอด้วย!?), Charlie Day, Nick Kroll, Norman Reedus และ Michael Peña โผล่มาร่วมแจม ทั้งยังมี Chevy Chase และ Beverly D’Angelo สองนักแสดงรุ่นเก่าจากหนังภาคเดิมมาร่วมแสดงด้วย
ฉากที่ดีที่สุดในเรื่องคือฉากในโรงแรม เมื่อ Rusty ถามภรรยาว่า “คุณคิดว่าชีวิตคู่ของเราจะไปกันไม่รอดรึเปล่า?” ก่อนที่ Debbie จะตอบว่า “มันจะไปไม่รอด ถ้าคุณเลิกพยายาม” แม้จะเป็นบทสนทนาสั้นๆ แสนธรรมดา แต่มันมาอยู่จังหวะพอดี ชีวิตคนเรามีเรื่องใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดในแต่ละวัน โดยที่เราไม่รู้ว่ามันจะมีอะไรเหนือความคาดคิดรอเราอยู่บ้าง วันนี้เราคิดว่าเข้าใจกันดี พรุ่งนี้ตื่นมาอาจทะเลาะกันใหญ่โตแบบจำสาเหตุไม่ได้ด้วยซ้ำ สิ่งที่ทำได้คือเมื่อเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้น จงตั้งเป้าไว้เลยว่าจะแก้ไขมันอย่างไร เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดในการเยียวยาแผลที่เกิดขึ้นไม่ให้บานปลาย โดยสรุป เป็นหนังสูตรสำเร็จที่ดูได้เพลินๆ ทั้งมันก็ทำให้เราได้เห็นว่าครอบครัวย่อมไม่มีคำว่าทอดทิ้งกัน เวลาเจอปัญหา เราก็ต้องฝ่ามันไปด้วยกัน ต้องร่วมมือกันแก้ไข เวลามีเรื่องแคลงใจก็ต้องเปิดใจคุยกัน ปรับความเข้าใจกัน ความสุขเพิ่มพูนขึ้นได้ถ้าทุกคนในครอบครัวเข้าใจกัน
ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Wolfs (2024) สองคมคู่แสบมหากาฬ
Bat War (2024) ศึกค้างคาวกินกล้วย
The Ministry of Ungentlemanly Warfare (2024) แสบจารชนคนพลิกโลก
8.2