KUBHD ดูหนังออนไลน์ Toy Story 4 (2019) ทอย สตอรี่ 4
เรื่องย่อ
Toy Story 4 (2019) ทอย สตอรี่ 4 เรื่องราวการผจญภัยครั้งใหม่ของวู้ดดี้ ที่เริ่มต้นชีวิตในบ้านของเจ้าของคนใหม่ คือ บอนนี่ ซึ่งเธอได้ใช้ช้อนกึ่งส้อม ประดิษฐ์ออกมาเป็นของเล่นใหม่ที่ตั้งชื่อว่า ฟอร์คกี้ แต่เจ้าฟอร์คกี้ รู้ว่าแท้จริงเขาไม่ใช่ของเล่นแต่เป็นขยะ ดูหนัง ออนไลน์ จึงอยากกลับไปสู่ชีวิตที่แท้จริง เดือดร้อนถึงวู้ดดี้ต้องตามกลับมา กลายเป็นการผจญภัยของเหล่าของเล่นครั้งใหม่ รวมถึงการกลับมาของโบ ของเล่นหวานใจของวู้ดดี้ที่เธอกลับมาในมาดใหม่เป็นสาวสุดแกร่งด้วย
ผู้กำกับ
Josh Cooley
บริษัท ค่ายหนัง
- Walt Disney Pictures
- Pixar Animation Studios
นักแสดง
- Tom Hanks
- ทิม อัลเลน
- Annie Potts
- Tony Hale
- Keegan-Michael Key
- Jordan Peele
- Madeleine McGraw
- Christina Hendricks
- เคอานู รีฟส์
- Ally Maki
- Jay Hernandez
- Lori Alan
- Joan Cusack
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
ทำเรื่องเล่นให้เป็นเรื่องใหญ่
รีวิว – Toy Story 4
ต้องบอกตามตรงว่าตอนแรกที่ได้ยินข่าวหนัง Toy Story 4 มันก็เป็นความรู้สึกที่ผสมปนเปกันสำหรับผมอยู่เหมือนกัน เพราะใจนึงก็ดีใจที่จะได้กลับมาพบวู้ดดี้และเพื่อนๆ อีกครั้ง แต่อีกใจก็แอบเสียดายตอนจบของภาค 3 ที่ปิดไตรภาคเอาไว้อย่างสวยงามแล้ว
เรื่องราวในภาคนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อบอนนีได้ประดิษฐ์ของเล่นที่มีชื่อว่า ฟอร์คกี้ ขึ้นมาจากช้อนกึ่งส้อมอันนึง และวู้ดดี้ก็เข้าใจดีว่าฟอร์คกี้นั้นเป็นของเล่นที่มีคุณค่าทางจิตใจสำหรับบอนนี่มากแค่ไหน
ปัญหาก็คือฟอร์คกี้ไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นของเล่น และในวันนึงที่ครอบครัวของบอนนี่เดินทางออกไปเที่ยวพักผ่อน ฟอร์คกี้ก็ได้หนีออกจากรถไป วู้ดดี้จึงต้องพยายามตามตัวเขากลับมา แต่ในระหว่างนั้นเอง เขาก็ได้พบกับ โบพีพ ตุ๊กตาสาวเลี้ยงแกะที่พลัดพรากจากกันไปนาน
สิ่งนึงที่รู้สึกได้จากหนังภาคนี้ก็คือโทนของหนังจะให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากภาคก่อนๆ คือหนังมันจะมีความนิ่งขึ้น ฉากแอ็คชั่นต่างๆ จะไม่โฉ่งฉ่างเหมือนภาคอื่น และตัวละครต่างๆ ก็ดูจะเติบโตและเข้าใจชีวิตมากขึ้น
ภาคนี้ตัวละครภาคเก่าๆ จะมีบทบาทน้อยลง และหนังก็สร้างคาแรคเตอร์ตัวละครใหม่ๆ ออกมาได้น่าสนใจมากๆ เรียกได้ว่ามีอะไรน่าจดจำกันทุกคน ส่วนที่น่าประทับใจมากอีกอย่างก็คือทางมุกแบบใหม่ๆ ที่เราไม่ค่อยได้เห็นในภาคเก่าๆ และมันก็ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนัง Pixar ที่ฮาสุดๆ อีกเรื่องนึง
ประเด็นสำคัญของภาคนี้ก็คือการที่เหล่าของเล่นทั้งหลายต้องค้นหา ‘ความหมายของการมีชีวิต’ ของตัวเอง ทั้งตัววู้ดดี้เองที่ผ่านวันเวลามาอย่างยาวนาน และของเล่นใหม่ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของการเป็นของเล่นอย่างฟอร์คกี้ รวมไปถึงตัวละครอื่นๆ อีกหลายตัว ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า มันเป็นการสานต่อเรื่องราวจากภาคก่อนที่น่าสนใจ แต่ส่วนของดราม่า มันก็ยังมีจุดที่น่าจะพัฒนาให้เข้มข้นกว่านี้ได้อีก
ในภาพรวม Toy Story 4 ก็ถือว่าเป็นหนังภาคต่อที่ดีมากอีกเรื่องนึง มันให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้เจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานานและไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเสียความรู้สึกกับตอนจบของภาค 3 อย่างที่คิด แต่กลับทำให้รู้สึกว่า มันคือการผจญภัยบทใหม่ของเหล่าของเล่นทั้งหลายที่น่าจะพัฒนาไปเป็นไตรภาคชุดใหม่ได้สบาย
เรื่องเล่น รีวิว – 9 เต็ม 10
Kanin The Movie
Toy Story 4 (2019) เป็นภาคที่ประเด็นต่างๆเข้มข้นขึ้นมาก รู้สึกว่ามันผู้ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเรื่องตัวตนของเหล่าของเล่น การตั้งคำถามกับเป้าหมายชีวิต ตั้งคำถามกับการมีอยู่ของตัวเอง ซึ่งย้อนกลับไปสู่เรื่องราวตั้งแต่ภาคแรก เหล่าของเล่นที่มีจุดประสงค์ในการสร้างความสุขให้แก่เจ้าของ เมื่อถึงวันหนึ่งพวกเขากลับถูกทอดทิ้ง ถูกลดทอนความสำคัญ แต่นั่นไม่ใช่จุดจบของชีวิตของเล่นหากแต่เป็นเส้นทางเริ่มต้นในการค้นหาเป้าหมายอื่นให้แก่ชีวิต การมีภาค 4 ทำให้เราได้เห็นความเป็นไปได้ที่หลากหลายของชีวิต การไม่ยึดโยงคุณค่าอยู่กับบางสิ่ง หรือบางคนจนสูญเสียโอกาสที่จะมอบความสุขให้กับตัวเอง ซึ่งเราว่ามันให้บทสรุปกับจักรวาล Toy Story ได้ดีมากๆ การที่สุดท้ายพวกเหล่าของเล่นมองเห็นคุณค่าในตัวเองที่ไม่ได้เกิดจากเจ้าของแต่เกิดขึ้นเพราะพวกเขาสร้างมันขึ้นมา ใช้ชีวิตบนเส้นทางที่ตัวเองเลือก โดยไม่ตัดสินว่าชีวิตของใครอื่นผิด เพราะสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่เราควรหรือไม่ควรทำอะไร แต่มันเป็นเรื่องของการทำสิ่งใดแล้วเรามีความสุข ทำแล้วรู้สึกมีคุณค่า ซึ่งทุกคนต้องกำหนดขึ้นมาเอง
– Toy Story 4 (2019)
หนังโปรดของข้าพเจ้า
Toy Story 4 (2019) เข้าฉายแล้ววันนี้
ตอนข่าวจะสร้างภาค 4 ออกมาก็รู้สึกแหม่ง ๆ เพราะคิดว่าไตรภาคมันจบสวยงามไปแล้ว แต่มองในแง่ธุรกิจของดิสนีย์ก็พอเข้าใจได้ว่าทำไมต้องต่อยอดแฟรนไชส์ไปเรื่อย ๆ เพราะตัวแบรนด์ Toy Story มันยังขายได้อยู่ทั้งสินค้าและธีมสวนสนุก โชคดีหน่อยที่การสร้างภาคต่อไม่ออกมาในลักษณะสุกเอาเผากินหรือขอไปที เพราะงานที่ออกมามันดูดีมาก ยังมีความเป็นแอนิเมชั่นสำหรับเด็กแต่เนื้อหาก้าวหน้าขึ้นจนแทบจะมองเป็นเรื่องมนุษย์ตาสว่างสักทีว่าตัวเองไม่ได้เกิดมามีคุณค่าเพียงเพื่อจะทำหน้าที่เดียวที่ได้รับตั้งแต่เกิด เพิ่มตัวละครเพื่อขยายจักรวาลตัวเองโดยไม่ละทิ้งความผูกพันเดิมที่มีมากว่า 20 ปี ผลลัพธ์จึงเป็นที่น่าพอใจ ยังคงเป็นภารกิจผจญภัยที่สนุก มุกตลกเรียกเสียงหัวเราะได้ตลอด ตัวละครทั้งเก่าและใหม่มีสีสันและความน่ารักจนเชื่อได้ว่าไปดิสนีย์แลนด์ครั้งหน้าคงเจอเดอะแก๊งนี้เป็นขวัญใจหนู ๆ อย่างแน่นอน
เนื้อเรื่องของภาคนี้คือ ‘วู้ดดี้’ กลายเป็นของเล่นตกกระป๋องไปเสียแล้ว จนกระทั่งการเข้าเรียนวันแรกของบอนนี่ที่ได้เอาส้อมมาสร้างเป็นของเล่นขึ้นมาเป็นเพื่อนใหม่ชื่อ ‘ฟอล์คกี้’ แต่เจ้าฟอล์คกี้ดันมีจิตใจสำนึกว่าตัวเองเป็นขยะไม่ใช่ของเล่น จนเมื่อมันหนีออกจากรถบ้านไปจึงทำให้วู้ดดี้ที่คิดว่าตัวเองมีหน้าที่ต้องสร้างความสุขให้บอนนี่ต้องออกไปตามมันกลับมา เรื่องราวควรจะจบแค่ตรงนั้นถ้าไม่ใช่เพราะวู้ดดี้ดันบังเอิญเจอโคมไฟของ ‘โบ’ ซึ่งทำให้เกิดเรื่องวุ่น ๆ ตามมาเมื่อต้องไปพัวพันกับแก๊งของเล่นในร้านขายของเก่า
ประเด็นของภาคนี้พูดถึงการหลงทาง(ที่คนหลงทางไม่ตระหนักว่าตัวเองกำลังหลงทาง) ของเล่นอย่างวู้ดดี้เกิดมาพร้อมความเชื่อติดตัวว่าต้องสร้างความสุขให้เด็กที่เป็นเจ้าของและอยู่ในชุดยูนิฟอร์มนายอำเภอมาตลอดโดยไม่เคยคิดว่าตัวเองสามารถหลุดออกจากวังวนดังกล่าวมาเป็นอิสระได้ ถามว่าผิดไหม มันก็ไม่ผิดอะไรที่วู้ดดี้จะมีความจงรักภักดี แต่ขณะเดียวของเล่นบางกลุ่มที่มีโอกาสได้เปิดหูเปิดตาออกไปสัมผัสมุมอื่นในโลกก็ย่อมเกิดความเปลี่ยนแปลงทางความคิดจนนำพาตัวเองหลุดจากกรอบความเชื่อเดิม ๆ ได้เหมือนกัน จนสามารถมีอิสระในการดำเนินชีวิตและเปลี่ยนแปลงเครื่องแต่งกายไม่ให้มากำหนดบทบาทตัวเอง ของเล่นอย่างวู้ดดี้อาจจะอยู่ในโลกที่ปลูกฝังค่านิยมดั้งเดิมมาแต่กำเนิด และเชื่อว่าการทำตามประเพณีปฏิบัติคือคุณค่าที่ไม่อาจละทิ้งได้ แต่ความท้าทายคือการได้เปิดรับทัศนคติจากอีกโลกหนึ่งที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนจะทำให้เขามองโลกกว้างกว่าเดิมหรือไม่
ภารกิจของภาคนี้ยังคงเป็นการผจญภัยที่สนุก ถึงแม้ภารกิจหลักจะโฟกัสไปที่วู้ดดี้และโบที่ต้องช่วยฟอล์คกี้ให้ได้ แต่ของเล่นเก่าก๊วนใหญ่ก็ยังมีบทบาทสมทบในการช่วยเหลือวู้ดดี้อีกทางด้วยการถ่วงเวลาครอบครัวบอนนี่ และเราก็ชื่นชอบที่พิกซาร์ไม่ได้สร้างตัวร้ายมิติเดียวแต่เลือกให้ตัวร้ายเป็นเพียงของเล่นที่มีปมในใจ เชื่อว่าความบกพร่องของกล่องเสียงคือสาเหตุที่ถูกทอดทิ้ง แถมยังใส่ตัวโจ๊กที่ตลกบ้าบออย่างบันนี่และดั๊กกี้ที่ขยันเรียกเสียงหัวเราะ จะว่าไปตัวโจ๊กใน Toy Story นี่คือจุดแข็งของทุกภาคเลยก็ว่าได้ ด้วยเนื้อหาที่ตัวละครเติบโตและก้าวหน้าขึ้นจึงทำให้ Toy Story 4 เป็นการผลิตภาคต่อที่ยอมรับได้ ยินดีอย่างยิ่งถ้าจะทำภาค 5 ถ้ายังคงรักษามาตรฐานเอาไว้ได้เป็นอย่างดีเช่นนี้
Director: Josh Cooley
screenplay: Andrew Stanton, Stephany Folsom
Genre: animation, adventure, comedy, fantasy
8/10
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Toy Story 3 (2010) ทอย สตอรี่ 3
Toy Story 2 (1999) ทอย สตอรี่ 2
Toy Story That Time Forgot (2014) ทอย สตอรี่ ย้อนเวลาตามหาอาณาจักรนักสู้
8.3