The Pianist (2002) สงคราม ความหวัง บัลลังก์ เกียรติยศ
เรื่องย่อ
นักเปียโนชาวยิว วลาดิสลอว์ ซพิลแมน (เอเดรียน โบรดี้) มีงานเล่นเพลงที่สถานีวิทยุในกรุงวอร์ซอว์ โปแลนด์ ตามปกติ แม้ว่าจะเป็นช่วงที่พวกทหารนาซีจะบุกเข้ามาโปแลนด์หลายสัปดาห์แล้ว เขาต้องเดินข้ามศพคนและซากม้าตายจำนวนมากกว่าจะไปถึงสถานีวิทยุ จนกระทั่งบ่ายวันหนึ่ง ขณะที่เขากำลังเล่นเพลงของโชแปงอยู่นั้น ห่าระเบิดของฝ่ายศัตรูก็ถล่มลงมาในเมืองเสียหายยับเยิน หลายวันต่อมาวอร์ซอว์ตกเป็นของนาซี แม้ว่าจะรู้ดีถึงสิ่งที่จะเกิดตามมาภายหลังจากนี้แต่เขาก็ยังเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย
ผู้กำกับ
- โรมัน โปลันสกี
ผู้จัดจำหน่าย
- โฟกัสฟิวเจอส์
- นนทนันท์ เอนเตอร์เทนเมนท์
นักแสดง
- เอเดรียน โบรดี
- โทมัส เคร็ทช์มัน
- แฟรงค์ ฟินเลย์
- มัวร์รีน ลิปแมน
- เอมิลลา ฟอกซ์
- มีคาว เซบรอฟสกี
โปสเตอร์หนัง The Pianist (2002) สงคราม ความหวัง บัลลังก์ เกียรติยศ
รีวิวหนัง The Pianist (2002) สงคราม ความหวัง บัลลังก์ เกียรติยศ
สมาชิกหมายเลข 1375262
“The Pianist” หนังสะท้อนชะตากรรมชาวยิวแบบถึงแก่น
ภาพยนตร์ชั้นดี ระดับพรีเมียม ที่เอาไปเลย 10 คะแนนเต็ม 10 คะแนนเต็ม!! กับถ่ายทอดโชคชะตาอันเลวร้ายของชาวยิวกับสงครามโลกครั้งที่ 2
ที่กระทำโดยกลุ่มนาซี เรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาได้อย่างหดหู่ สะเทือนใจ บีบคั้น และสะกัดกั้นอารมณ์เป็นที่สุด
The Pianist (สงคราม ความหวัง บัลลังก์เกียรติยศ) ดัดแปลงมาจากงานเขียนเชิงอัตชีวประวัติของ “วลาดิสลอว์ ซพิลแมน” อดีตนักแต่งเพลงและนักดนตรีชื่อดัง ในแวดวงวิทยุกระจายเสียงของโปแลนด์
หนังถ่ายทอดเรื่องราวของ “วลาดิซสลาฟ สปิลมัน” นักเปียโนชาวโปแลนด์ เชื้อสายยิว ที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งมีบ้านและครอบครัวที่แสนอบอุ่น แต่เมื่อโลกเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว ชีวิตของเขากลับต้องพลิกผันเป็นอย่างมาก เพราะทหารเยอรมัน หรือกลุ่มนาซี ได้บุกเข้ายึดประเทศโปแลนด์ และทำการกดขี่ชาวยิวจากพฤติกรรมต่างๆ อันโหดเหี้ยมอำมหิตที่ต้องจารึกเอาไว้บนหน้าประวัติศาสตร์
ผู้กำกับฯ “โรมัน โปลันสกี้” เชื่อว่า “The Pianist” คือหนังที่สะท้อนภาพแท้จริง ของชะตากรรมคนยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ตรงตามความเป็นจริงมากกว่าหนังอื่นๆ มีหลายเหตุการณ์ในหนังที่ทำเอาคนดูต้องจุกจนน้ำตาไหล ไม่เพียงแค่เฉพาะชะตากรรมอันโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับชีวิตตัวเอกเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงชาวยิวรอบๆ ข้างที่หนังทำให้เห็นว่าชีวิตพวกเขาก็พินาศไม่แพ้กัน เพียงเพราะเขาเกิดมาเป็นชาวยิวเท่านั้น หนังเต็มไปด้วยเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่ชวนบีบหัวใจมากมาย และเส้นทางของชีวิตชาวยิวในเรื่องก็ดูช่างไร้ความหวัง และหนทางในการที่จะกลับไปมีชีวิตปกติ
เรื่องนี้เหมาะจะเป็นตำราชั้นดี ของคนที่อยากศึกษาประวัติศาสตร์อันเลวร้ายของสงคราม และการกระทำของนาซีที่มีต่อชาวยิว ใครที่ใจบางอาจจะไม่เหมาะกับหนังเรื่องนี้ เพราะชวนหดหู่ใจมาก แต่ใครที่ใจแข็งพอ แนะนำให้ดูเป็นอย่างยิ่ง เรื่องนี้เป็นหนังเด่นเป็นสง่าบนเวทีออสการ์ ที่คว้าไปได้ทั้ง นักแสดงชายยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
ดูหนังให้หมดทั้งโลก
รีวิว The Pianist (2002)
Score 8/10
Genre : Biographical, War, Drama
Director : Roman Polunski
Screenplay : Ronald Harwood
อาจจะเป็นเพราะได้ดูเรื่องนี้หลังจาก Schindler’s List เลยทำให้ความชอบลดลงไประดับหนึ่งเพราะบางอย่างของหนังอาจจะไม่ได้ประณีตเท่า จึงไม่แปลกใจว่าทำไมหนังถึงแพ้ Best Picture ให้กับ Chicago หรือแม้แต่ The Hours จากลูกโลกทองคำ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่เป็นหนังที่จารึกประวัติศาสตร์อันน่ากลัวของนาซีได้อย่างดีเยี่ยม ยิ่งเป็นหนังชีวประวัติของบุคคลจริงและผู้กำกับก็เคยเป็นคนหนึ่งที่เคยใช้ชีวิตในค่ายกักกัน จึงถ่ายทอดหนังออกมาได้อารมณ์มากจริงๆ
.
“วลาเดค” (Adrien Brody) นักเปียโนชื่อดังที่หลังจากการเข้ามาของนาซีจึงต้องไปอาศัยอยู่ในเขตกักกันชาวยิว จนวันหนึ่งที่เขาและครอบครัวต้องถูกส่งไปยังค่ายกักกัน เขาเป็นคนเดียวในครอบครัวที่มีทหารช่วยไว้ได้ และต้องอาศัยอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆจากนาซีที่มียู่เกลื่อนเมือง
.
หนังถ่ายทอดจากมุมมองของวลาเดคเพียงอย่างเดียวตลอดเวลาสองชั่วโมงครึ่งของหนัง ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องดีที่ทำให้เราอินไปกับตัวละครได้ง่าย เพราะขนาดในบางครั้งที่เหมือนเขาจะปลอดภัยแต่ก็ต้องมีเหตุอะไรซักอย่างลากเขากลับไปอยู่ในจุดที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนอยู่เสมอ (ฉากผู้หญิงห้องข้างๆนี่สาระแนนักจนอยากจะทุบหลังซักแอ้ก) โดยที่หนังก็แสดงให้เห็นถึงมุมมองแปลกๆที่ไม่ค่อยได้เห็นจากหนังแนวๆนี่คือชาวยิวที่ไม่ยอมก้มหัวอีกต่อไป เลือกที่จะสู้ถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองจะตายแน่ๆก็ตาม
.
หนังยังแสดงให้เราเห็นถึงน้ำใจระหว่างเพื่อนมนุษย์แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นนาซีก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกลียดชังชาวยิวอย่างไร้เหตุผล ถึงแม้จะไม่ได้รับรู้ถึงแรงจูงใจอะไรที่ทำให้เขาเลือกช่วยเหลือชาวยิว แต่พอมองในมุมมองของมนุษยธรรมก็เข้าใจได้อยู่
.
แต่ปัญหาใหญ่สุดของหนังคือการตัดต่อที่ตัดฟีลมากในบางครั้ง (แพ้ออสการ์ให้ Chicago) ยกตัวอย่างชัดๆก็ฉากฆ่าชาวยิวที่ให้เรียงหน้ากระดานแล้วกราดยิงเกลี้ยง แทนที่จะแช่กล้องไว้ซักหน่อยให้รู้สึกหดหู่มากขึ้นแต่หนังก็ตัดฉับมาหาพระเอกทันที เลยมีช่วงที่หลุดกับหนังพอสมควร แต่ก็ไม่ได้เยอะเกินไปจนทำลายความดีของหนังไป
Fella_shibby
10/10
ผลงานชิ้นเอก การแสดงที่ยอดเยี่ยมของบรอดี้
นี่เป็นเรื่องราวที่น่าหดหู่ใจของชายคนหนึ่งที่ครอบครัวของเขาเสียชีวิตในช่วงโฮโลคอสต์ และเรื่องราวเกี่ยวกับความอยู่รอดของเขาจากความโดดเดี่ยว ความอดอยาก ความอดอยาก และความหวาดกลัวในขณะที่เขาซ่อนตัวในช่วงที่นาซียึดครอง ในความคิดของฉัน เรื่องนี้เป็นหนึ่งในภาพที่แสดงถึงโฮโลคอสต์ได้ดีที่สุด หนังเรื่องนี้เกือบจะอยู่ในรายชื่อของชินด์เลอร์สเพราะสามารถถ่ายทอดความน่ากลัวของโฮโลคอสต์ได้ บรอดี้แสดงได้อย่างยอดเยี่ยมและซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง เรื่องราวนี้แสดงให้เห็นถึงความล่มสลายทางอารมณ์และวัฒนธรรมของชุมชนชาวยิวที่ถูกข่มเหงขณะที่นโยบายของนาซีเข้มงวดขึ้นต่อพวกเขา การแสดงที่ยอดเยี่ยมของบรอดี้
Smells_Like_Cheese
10/10
ยอดเยี่ยม เศร้าแต่ยอดเยี่ยม
ฉันลืมหนังเรื่องนี้ไม่ได้เลย หายากมากที่หนังเรื่องใดจะส่งผลต่อฉันแบบที่ “The Pianst” ทำ หนังเรื่องสุดท้ายที่ส่งผลต่อฉันคือเรื่อง “Casino” ฉันเหนื่อยมากตอนที่ดูหนังเรื่องนี้ ตอนนั้นเกือบเที่ยงคืนแล้ว ฉันเลยคิดว่าจะเริ่มดูและจะดูให้จบในตอนเช้า จริงเหรอ ไม่หรอก ฉันไม่ได้หยุดดูเลย ฉันหยุดไม่ได้ ฉันแค่อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ฉันร้องไห้ระหว่างดูเรื่อง “Schindler’s List” ฉันสะอื้นไห้ในหนังเรื่องนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้ช่างน่าเศร้าเหลือเกิน Adrien Brody แสดงได้ยอดเยี่ยมมากในหนังเรื่องนี้ ฉันขอแนะนำหนังเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนชอบประวัติศาสตร์ โปรดเถอะ ฉันคิดว่าหนังเรื่องนี้ควรอยู่ใน 10 อันดับหนังที่ดีที่สุดตลอดกาล
ฉันดูในกระดานข้อความที่คุณทราบและความคิดเห็นของผู้ใช้คนอื่นๆ ที่ไม่ค่อยชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ พวกเขาวิจารณ์การแสดงของ Adrien Brody และบอกว่าเขาเป็นคนน่าเบื่อและแสดงอารมณ์ได้เพียงเท่านั้น โปรดเถอะ คุณคงล้อฉันเล่นแน่ๆ ผู้ชายคนนี้ถ่ายทอดความรู้สึกสิ้นหวัง รู้สึกโดดเดี่ยว และรู้สึกเกลียดชังออกมาได้หมดสิ้น ครั้งหนึ่งฉันเคยออดิชั่นในโรงเรียนมัธยมแบบนี้เพื่อดูว่าฉันสามารถแสดงแบบด้นสดได้หรือไม่ และวิธีที่ฉันจินตนาการถึงความรู้สึกนี้เหมือนกับใน Dodgeball ที่คุณไม่มีใครอยู่ในทีมและคุณเป็นเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ แต่ในทีมอื่นกลับมีผู้ชายตัวใหญ่ 20 คนที่รอที่จะฟาดลูกบอลนั้นใส่คุณ Adrien ทำได้ดีที่สุดแล้ว ฉันกลัวแทนเขามากและร้องไห้ให้เขาตลอดทั้งเรื่องในขณะที่เขากำลังวิ่งอยู่
โรมัน โปลันสกี้ในฐานะผู้กำกับ เขาหนีรอดจากความหวาดกลัวจากการเป็นนักโทษในเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้ แต่เขาก็สูญเสียแม่และสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ไป ใช่ ฉันแน่ใจว่าการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาใหม่สำหรับเขาคงเป็นเรื่องยาก แต่เขาอาจเป็นผู้กำกับเพียงคนเดียวที่สามารถสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างที่เขาทำได้ เขาสร้างเรื่องราวนี้ขึ้นมาและทำให้มันมีประสิทธิภาพมาก ฉันจึงโทรหาแม่และบอกเธอว่าฉันรักแม่มากเพราะเราถือเอาสิ่งต่างๆ มากมายเป็นเรื่องปกติ จริงอยู่ว่านี่ไม่ใช่ช่วงปี 1930 หรือ 1940 และเราอยู่ในอเมริกา แต่การคิดว่ามนุษย์มีความสามารถที่จะเกลียดชังและโหดร้ายต่อมนุษย์ด้วยกันได้มากขนาดนั้นก็ยังเป็นเรื่องที่น่ากลัวอยู่ดี
สงครามโลกครั้งที่สองเป็นหนึ่งในสงครามที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์ หากคุณอ่านเกี่ยวกับ Holocaust มากกว่านี้ คุณก็ควรเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม และคุณควรจะเข้าไปชม หากคุณไม่สนใจ ก็ให้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ต้องชม ไม่เช่นนั้นเราจะเรียนรู้จากความผิดพลาดของเราได้อย่างไร The Pianist เป็นเรื่องราวที่สวยงามและมืดมนอย่างยิ่งเกี่ยวกับชายคนหนึ่งและการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด ตอนจบนั้นทรงพลังและกินใจมากเมื่อรู้ว่าบางครั้งผู้ชายคนหนึ่งก็สามารถสร้างความแตกต่างให้กับฝูงชนจำนวนมากได้ และฉันไม่ได้หมายถึงตัวละครที่รับบทโดยเอเดรียน โบรดี้ คุณจะเข้าใจเองว่าฉันหมายถึงอะไร
10/10
ดูหนัง ออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Life is Beautiful (1997) ยิ้มเข้าไว้โลกไม่สิ้นหวัง
All Quiet On The Western Front (2022)
6.8