ดูหนังออนไลน์ใหม่ 2024 หนังเต็มเรื่อง ดูหนังใหม่ ดูหนังฟรี HD Netflix
VegusCasino
บาคาร่า ออนไลน์
สล็อตเว็บตรง

วิมานหนาม The Paradise Of Thorns (2024)

4 คะแนน

Trailer

วิมานหนาม The Paradise Of Thorns (2024)

วิมานหนาม The Paradise Of Thorns (2024)

เรื่องย่อ

ทองคำ และ เสก เป็นคู่รักต่างเพศที่ทุ่มเทสร้างชีวิตขึ้นมาด้วยกัน โดยทั้งสองเป็นเจ้าของบ้านและสวนทุเรียนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่เรื่องเศร้าก็เกิดขึ้นเมื่อ เสก จากไปอย่างกะทันหันจากอุบัติเหตุ และความจริงที่ว่าทั้งสองไม่เคยแต่งงานกันอย่างถูกกฏหมายของประเทศไทยกลายมาเป็นปัญหาที่ทำให้ ทองคำ ไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ร่วมสร้างขึ้นมาด้วยกัน ในตอนนี้บ้านและสวนทุเรียนจึงตกเป็นของแม่ของ เสก ผู้ที่ย้ายเข้ามาอยู่อาศัยพร้อมกับลูกสาวบุญธรรมและคนสวนอีกคนหนึ่ง ทำให้ ทองคำ ต้องต่อสู้เพื่อทวงคืนสิ่งที่เป็นนํ้าพักนํ้าแรงที่เขาและอดีตคนรักร่วมสร้างขึ้นมาด้วยกัน

ผู้กำกับ

  • นฤเบศ กูโน

บริษัท ค่ายหนัง

  • จอกว้างฟิล์ม
  • ใจ สตูดิโอ

นักแสดง

  • วรกมล ชาเตอร์
  • อิงฟ้า วราหะ
  • พงศกร เมตตาริกานนท์
  • สีดา พัวพิมล
  • หฤษฎ์ บัวย้อย

โปสเตอร์หนัง

วิมานหนาม | SF Cinema

เรื่องย่อ The Paradise of Thorns วิมานหนาม

ตัวอย่างภาพยนตร์ ‘วิมานหนาม’ | OFFICIAL TRAILER

รีวิวหนัง

หนังโปรดของข้าพเจ้า

วิมานหนาม ถือเป็นหนังที่ไดเรคชั่นความต้องการจะเล่าเรื่องชัดเจน พูดเรื่องเหยื่อความไม่เป็นธรรมทางกฎหมายสองคนที่ต้องมาฟาดฟันแย่งชิงสิ่งที่ควรจะเป็นของตัวเอง หลังจาก ‘เสก’ (พงศกร เมตตาริกานนท์) ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตโดยทิ้งมรดกไว้เป็นที่ดินเพิ่งปลดจำนองได้ด้วยการลงแรงทำสวนทุเรียนกับ ‘ทองคำ’ (เจฟ ซาเตอร์) คนรักเพศเดียวกันที่ไม่มีสิทธิ์ทางกฎหมาย เพราะตามกฎหมายมรดกจะต้องตกเป็นของ ‘นางแสง’ (สีดา พัวพิมล) แม่ของเสก ซึ่งมี ‘โหม๋’ (อิงฟ้า วราหะ) ลูกสาวที่เก็บมาเลี้ยงแบบไม่ได้จดทะเบียนรับเป็นบุตรบุญธรรม ผู้คอยดูแลแม่ที่เป็นอัมพาตครึ่งท่อนล่างมานับสิบปี ทั้งคู่ต่างคิดว่าตัวเองสมควรจะได้เป็นเจ้าของทุเรียนจึงต้องแย่งชิงความเป็นลูกรักของนางแสงให้จงได้

ในแง่โครงใหญ่ที่ครอบหนังและโทนการเล่าคือเวิร์คหมด (มีไม่เวิร์คสะดุดนิดหน่อยเป็นจุด ๆ อย่างเช่นการมอบเวลาให้เหยื่อไม่เท่าเทียมกัน ทั้งเรื่องเทไปหาทองคำหมด กว่าโหม๋จะได้เล่าของตัวเองคือช้าไปมาก และที่สะดุดก็เขียนในป.ล.) มันแอบมีความเป็นหนังซ่องแตกฟีลแบบลุ้นคนแลกกับตบมันส์ ๆ ซ่อนอยู่แต่กว่าจะมาเถิดเทิงก็ช่วงไม่กี่สิบนาทีตอนท้าย แต่ระหว่างทางก็แอบหยอดความกวนประสาทหรือตลกร้ายเอาให้แอบขำเยอะอยู่ อย่างซีนถอดแหวนทองจากศพ วิธีแพนกล้องไปรับหน้าเจฟที่กำลังอึ้งยังไงก็ตั้งใจให้ฮา หรือซีนพูดถึงไต้หวันรองรับการสมรสของบุคคลเพศเดียวกัน แค่ว่ามันไม่ได้มาต่อเนื่อง ซึ่งส่วนตัวชอบที่หนังเล่าเว้นวรรคห่างประมาณนี้เพื่อมอบเวลาให้รายละเอียดความขัดแย้งที่ค่อย ๆ เผยให้เห็นสถานะเหยื่อชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ จากหน้าหนังที่เหมือนคนรักเพศเดียวกันจะเป็นเหยื่อเพียงคนเดียว ก็ทำให้เห็นว่าสถานะแบบโหม๋ ที่เป็นผู้หญิงหลายบทบาท ทั้งลูกสาวเก็บมาเลี้ยงและ…. ก็คือเหยื่อความไว้ใจและกฎหมายไม่ต่างกัน
ป.ล. ค่อนข้างอี๋ฉากพยายามข่มขืนมาก ตอนดูคือคิดว่าพ.ศ.นี้แล้วยังมีฉากแบบนี้ด้วยเหรอ มันมีทางเลือกอื่นที่หนังทำได้แต่หนังก็เลือกทำทางนี้ ซึ่งเป็นฉากสะดุดสุดในหนังละ
ป.ล.2 เป็นการพิสูจน์อีกครั้งว่าคนทำงานเบื้องหลังเก่ง ๆ ในไทยมีเยอะ เพราะทั้งงานโปรดักชั่นและงานกำกับภาพคือดีมาก ยิ่งพอหนังไดเรคชั่นชัดยิ่งเห็นว่างานกำกับภาพที่ทำให้สวนทุเรียนเป็นหนึ่งในแกนหลักของเรื่องทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ
—————–
วิมานหนาม (พ.ศ.2567) เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 22 สิงหาคมนี้
ผู้กำกับ: นฤเบศ กูโน
ประเภทหนัง: ดราม่า
7.5/10

BT Beartai แบไต๋

รีวิว ‘วิมานหนาม’ หนังใหม่ฉีกภาพจำจากค่ายหนัง GDH ที่เป็นความร่วมมือกับสตูดิโอน้องใหม่ ใจ สตูดิโอ (Jai Studio) โดยหนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับและเขียนบทหนังฉายโรงครั้งแรกของ บอส นฤเบศ กูโน ผู้กำกับและเขียนบทที่เคยสร้างชื่อให้กับซีรีส์ดัง ๆ อาทิ ‘My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน’ (2562) และ ‘แปลรักฉันด้วยใจเธอ’ (2563-2564)

‘วิมานหนาม’ เล่าถึงชีวิตของ ทองคำ (เจฟ ซาเตอร์) และเสก (พงศกร เมตตาริกานนท์) คู่รักเกย์ที่ช่วยกันปลูกบ้านหลังเล็ก ๆ บนที่ดินสวนทุเรียนของเสกในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทองคำช่วยทำงาน และใช้เงินก้อนใหญ่ทั้งชีวิตไถ่ถอนที่ดินที่ติดจำนองคืนมาให้เสก และหวังจะใช้ที่แห่งนี้เป็นวิมานแห่งรัก โดยมีโฉนดที่ดินเสมือนเป็นทะเบียนสมรสของทั้งคู่ แต่แล้วเหตุการณ์กลับพลิกผัน เมื่อเสกกลับเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ชีวิตของทองคำจึงต้องพบกับความยากลำบากในยามที่การสมรสเท่าเทียมยังไม่ทันมาถึง

บ้าน และสวนทุเรียนจึงต้องตกเป็นของแม่แสง (สีดา พัวพิมล) แม่ของเสกผู้มีสิทธิ์ได้รับมรดกตามกฎหมาย แถมยังพาโหม๋ (อิงฟ้า วราหะ) ลูกสาวที่เก็บมาเลี้ยง และจิ่งนะ (หฤษฎ์ บัวย้อย) น้องชายของโหม๋เข้ามาถือครองสิทธิ์โดยพลการ ทองคำจึงต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทวงคืนบ้าน สวน และทุเรียนทุกลูกที่เขาลงมือสร้างมาด้วยตัวเอง ในขณะที่โหม๋ก็พร้อมที่จะช่วยแม่แสงแย่งชิงกลับคืนมาในฐานะกรรมสิทธิ์ของครอบครัวเช่นเดียวกัน
แม้ตัวหน้าหนังจะชวนให้นึกถึงภาพของความไม่เท่าเทียมของชุมชนชาว LGBTQIA+ ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากข้อกฎหมายที่ไม่ครอบคลุม และตัวหนังในองก์แรกก็พยายามจะสอดแทรกปัญหาต่าง ๆ ที่คนเหล่านี้ต้องเจอ โดยเฉพาะปัญหาทางด้านกฎหมายจุกจิกวุ่นวายที่คนเป็น LGBTQIA+ (และคนที่คิดจะใช้ชีวิตคู่ในยามที่ยังไม่มีกฎหมายคุ้มครอง) ต้องเผชิญ

BT BUZZ

รีวิว ‘วิมานหนาม’ หนังตลกร้ายจริตจะก้านอันเผ็ดร้อน แหกแผลชีวิตบัดซบ เจฟ-อิงฟ้า สลัดลุคแบบทำถึง

หลังจากที่ GDH ประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับ ‘หลานม่า’ ที่ทำรายได้และคำวิจารณ์งดงาม และกำลังทยอยไปเข้าฉายในต่างประเทศอยู่ในขณะนี้ ค่ายหนังอารมณ์ดีก็ได้ฤกษ์เข็นโปรเจกต์ใหม่อย่าง ‘วิมานหนาม’ ที่เป็นความร่วมมือกับสตูดิโอน้องใหม่ ใจ สตูดิโอ (Jai Studio) โดยหนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับและเขียนบทหนังฉายโรงครั้งแรกของ บอส นฤเบศ กูโน ผู้กำกับและเขียนบทที่เคยสร้างชื่อให้กับซีรีส์ดัง ๆ อาทิ ‘My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน’ (2562) และ ‘แปลรักฉันด้วยใจเธอ’ (2563-2564)

เรื่องราวของ ‘วิมานหนาม’ เล่าถึงชีวิตของ ทองคำ (เจฟ ซาเตอร์) และเสก (พงศกร เมตตาริกานนท์) คู่รักเกย์ที่ช่วยกันปลูกบ้านหลังเล็ก ๆ บนที่ดินสวนทุเรียนของเสกในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทองคำช่วยทำงานและใช้เงินก้อนใหญ่ทั้งชีวิตไถ่ถอนที่ดินที่ติดจำนองคืนมาให้เสก และหวังจะใช้ที่แห่งนี้เป็นวิมานแห่งรัก โดยมีโฉนดที่ดินเสมือนเป็นทะเบียนสมรสของทั้งคู่ แต่แล้วเหตุการณ์กลับพลิกผัน เมื่อเสกกลับเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ชีวิตของทองคำจึงต้องพบกับความยากลำบากในยามที่การสมรสเท่าเทียมยังไม่ทันมาถึง

บ้านและสวนทุเรียนจึงต้องตกเป็นของแม่แสง (สีดา พัวพิมล) แม่ของเสกผู้มีสิทธิ์ได้รับมรดกตามกฎหมาย แถมยังพาโหม๋ (อิงฟ้า วราหะ) ลูกสาวที่เก็บมาเลี้ยง และจิ่งนะ (หฤษฎ์ บัวย้อย) น้องชายของโหม๋เข้ามาถือครองสิทธิ์โดยพลการ ทองคำจึงต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทวงคืนบ้าน สวน และทุเรียนทุกลูกที่เขาลงมือสร้างมาด้วยตัวเอง ในขณะที่โหม๋ก็พร้อมที่จะช่วยแม่แสงแย่งชิงกลับคืนมาในฐานะกรรมสิทธิ์ของครอบครัวเช่นเดียวกัน
แม้ตัวหน้าหนังจะชวนให้นึกถึงภาพของความไม่เท่าเทียมของชุมชนชาว LGBTQIA+ ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากข้อกฎหมายที่ไม่ครอบคลุม และตัวหนังในองก์แรกก็พยายามจะสอดแทรกปัญหาต่าง ๆ ที่คนเหล่านี้ต้องเจอ โดยเฉพาะปัญหาทางด้านกฎหมายจุกจิกวุ่นวายที่คนเป็น LGBTQIA+ (และคนที่คิดจะใช้ชีวิตคู่ในยามที่ยังไม่มีกฎหมายคุ้มครอง) ต้องเผชิญ

ในองก์แรกจึงค่อนข้างเน้นไปที่การใช้ชีวิตสมรสผ่านกลิ่นโรแมนติกแบบ BL ที่ดำเนินบนความกะพร่องกะแพร่งของทองคำและเสก ซึ่งล้วนเกิดจากการขาดหลักฐานการเป็นคู่ชีวิตที่เรียกว่าทะเบียนสมรส ที่ทำให้ภาพการหมั้นหมาย การแต่งงาน การมอบอำนาจ และการจัดการมรดกของทั้งคู่บิดเบี้ยวจนถึงขั้นที่ต้องติ๊งต่างเอาบ้านเป็นวิมานเรือนหอ และเอาโฉนดที่ดินมาเป็นทะเบียนสมรส

แต่สิ่งที่ตัวหนังแอบเอาไว้และเกินจากตัวอย่างไปอย่างคาดไม่ถึง และมันชวนให้นึกถึง Vibe บางอย่างในหนัง ‘Parasite’ (2019) แบบกลาย ๆ ก็คือการเล่าเรื่องความผิดเพี้ยนของเหล่าตัวละครที่ต่างพร่องในบางสิ่งบางอย่าง โดยเฉพาะความเท่าเทียม และสิทธิ์อันชอบธรรมในฐานะมนุษย์ (ที่อาศัยอยู่ภายในรัฐ) ในขณะที่คนฟากหนึ่งคือ LGBTQIA+ ที่อยู่ในดินแดนที่ตัดขาดโอกาส และการทำความเข้าใจในความหลากหลายทางเพศอย่างแทบจะสิ้นเชิง ในขณะที่คนอืกฟากหนึ่ง คือตัวแทนของคนจนที่โดนเอารัดเอาเปรียบจนแทบไม่มีโอกาสได้ลืมตาอ้าปาก และอีกฝั่งหนึ่งก็คือ ‘คนนอก’ ที่ถูกมองเป็นกาฝากที่ไม่มีสิทธิ์มีเสียง เพราะไม่ต้องการจะตกไปจากขอบของธรรมเนียมและสถานะทางสังคมที่ตัวเองอิงแอบอาศัยอยู่

ถ้า ‘หลานม่า’ คือการชิงผลประโยชน์ผ่านมุมมองของครอบครัวชนชั้นกลางชาวไทยเชื้อสายจีน และการสะท้อนภาพของความเข้าอกเข้าใจอันลึกซึ้งอันดีระหว่างญาติมิตร วิมานหนามก็คือการแหกแผลชีวิตบัดซบอันเป็นผลจากนโยบายภาครัฐ ที่ก่อให้เกิดเป็นความสัมพันธ์แห่งผลประโยชน์ และนำไปสู่ความแตกแยก ที่ถูกเล่าผ่านเส้นเรื่องไม่ซับซ้อน ก่อนจะค่อย ๆ แกะเปลือกให้เห็นความเป็นละครน้ำเน่าแม่ผัว-ลูกสะใภ้ที่ค่อย ๆ ใช้หนามเชือดเฉือนกันผ่านพล็อตชิงดีชิงเด่น ชิงโง่ชิงฉลาด หาเหลี่ยมหามุมบนความได้เปรียบเสียเปรียบทางกฎหมายหรือสถานะสังคม และไดอะล็อกที่จิกกัดเผ็ดแสบจนต้องร้องอื้อหือ ก่อนจะคลี่คลายทะลุหนามแหลมคมเข้าไปพบเนื้อในความเป็นมนุษย์ของตัวละครที่ถูกความบัดซบเหล่านั้นกดเอาไว้ รวมทั้งผลลัพธ์จากความรักและความไว้ใจที่แสนจะหอมหวานและแหลมคม
อีกสิ่งที่ผู้เขียนชื่นชมโดยส่วนตัวก็คือ การเลือกสวนทุเรียน และพื้นเพของความเป็นชาวไทใหญ่บนดอยในจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาเป็นโลเคชันหลัก ซึ่งนอกจากจะถ่ายทอดผ่านงานโปรดักชันคุณภาพดี เพลงสกอร์ที่มีกลิ่นความเป็นหนังทริลเลอร์ปั่นประสาท มุมกล้องที่มีความเป็น Art House การตัดต่อที่ถ่ายทอดความเป็นต่างจังหวัดออกมาได้สวยและมีความเป็นสากลมาก ๆ สิ่งที่ตัวหนังทำได้ดีก็คือ การใช้ความเป็นต่างจังหวัดที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ไม่ว่าจะเรื่องของความห่างไกลจากโครงสร้างพื้นฐาน ระยะทางของตัวละคร และ Vibe บางอย่างของคนต่างจังหวัด เป็น 1 ในแกนขับเคลื่อนเรื่องราวที่สำคัญไม่ต่างอะไรกับสัญญะความแตกต่างของห้องคนจน-บ้านคนรวยใน ‘Parasite’ เลยแหละ

ในแง่โดยรวม ตัวหนังถือว่ามีธีมและโทนการเล่าเรื่องอยู่ในระดับที่ดีนะครับ ตัวหนังค่อย ๆ สลับเล่ามุมมอง จังหวะชีวิต อุปสรรค และอารมณ์ความรู้สึกของแต่ละฝั่ง ระหว่างทางมีจังหวะตลกร้ายให้ขำ ค่อย ๆ บีบคั้นด้วยอารมณ์ทริลเลอร์ ก่อนจะระเบิดโทนความตลกร้ายและตึงเครียดซ่องแตก จนไปถึงการตัดสินใจทำสิ่งอันเลยเถิด ที่ก็ชวนให้นึกถึง ‘Parasite’ อีกเหมือนกัน

แต่ก็แอบมีข้อสังเกตในองก์ที่ 3 ที่แม้ตัวหนังจะอุตส่าห์ปูทางตลกร้ายมาโดยตลอด แต่ก็แอบน่าเสียดายที่ตัวหนังแอบมีความเซฟ เล่นท่าง่ายในระดับหนึ่ง รวมทั้งการกระทำของตัวละครบางจุดที่ไม่ชวนให้ซื้อเลย จนแอบรู้สึกว่าหนังหาทางลงง่ายไปหน่อย และยังไม่ชวนให้รู้สึกถึงโศกนาฏกรรมความฉิบหายบรรลัยซ่องแตกอย่างที่ตัวหนังอุตส่าห์ปูมา และอย่างที่ใจอยากเห็น (และอยากช็อกแตกคาเก้าอี้) สักเท่าไหร่

ส่วนของตัวละคร แม้จะมีอาการติดเล่นใหญ่บ้าง แต่ก็เรียกได้ว่าตัวหนังให้ความสำคัญกับพฤติกรรมและความรู้สึกของตัวละครให้ดูมีทั้งความน่าเกลียด และน่าสงสารได้อย่างมีมิติ ไม่ว่าจะเป็นระดับมือโปรอย่างแม่สีดา พัวพิมล ที่ดีงามในระดับไม่ต้องพูดถึงเยอะ เป็นชาวบ้านร้าย ๆ ได้แสบสันดีจริง ๆ ส่วน 2 นักแสดงที่รับบทครั้งแรกอย่าง เจฟ ซาเตอร์ ที่รับบทได้มีความขบถหัวดื้อ แต่แอบมีความแรดและร้ายมาก ๆ (อันนี้ชมนะครับ) ส่วนอิงฟ้า วราหะ ก็แสดงได้อย่างน่าสงสารแกมหมั่นไส้ มีรังสีความทะเยอทะยาน อีกอย่างคือ อิงฟ้ารับบทชาวบ้านได้เหมือนมากกก เหมือนยันชุดลงไปถึงท่าทาง สายตา และการพูดเลยแหละ (เอ่อ อันนี้ก็ชมนะครับ)

สำหรับผู้เขียน ถ้า ‘หลานม่า’ คือก้าวแรกแห่งความสำเร็จของ GDH ในยุคใหม่ หนังเรื่องนี้ก็คงเป็นจังหวะการทลายและท้าทายกรอบ Branding ของ GDH ที่ว่าด้วยสารของวัยรุ่น อารมณ์ ทัศนคติแบบชนชั้นกลาง และอารมณ์อันเปี่ยมสุขที่เป็นเซฟโซน ไปสู่การเล่าเรื่องตลกร้ายจริตจะก้านอันเผ็ดร้อน แฝงนัยเกี่ยวกับประเด็นสังคมอันแหลมคม และความเป็นมนุษย์ที่แสนจะน้ำเน่าและตรอมตรมได้อย่างน่าสนใจ และมีงานโปรดักชันที่มีความเป็นสากลได้อย่างท้าทายและกล้าหาญมาก ๆ ถ้าเทียบเป็นความสุกของทุเรียน ประมาณองก์แรก-ครึ่งแรกขององก์ 2 คือทุเรียนเนื้อไก่ฉีกที่หวานนิดหอมหน่อย กินได้แบบเพลิน ๆ ส่วนครึ่งหลังทั้งหมดคือทุเรียนเนื้อปลาร้า ที่แม้จะแอบเลี่ยนบ้าง แต่ก็เรียกได้ว่าหอมฉ่ำจัดจ้านทีเดียว

‘วิมานหนาม’ ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์

ดูหนัง ออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

One for the Road (2022) วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

Uranus 2324 (2024) ยูเรนัส 2324

Not Friends (2023) เพื่อน(ไม่)สนิท

How to Ting (2019) ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ

Man Suang (2023) แมนสรวง

แสดงความคิดเห็น

Share

หนังอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ดูหนังออนไลน์ 2024

เว็บดูหนังมาแรงในตอนนี้ สามารถดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ที่มีคุณภาพที่สุดในตอนนี้ ไม่มีโฆษณามารบกวนใจ อีกทั้งมีหนังมากมายมาให้เลือกชม มากมายกว่า 10,000 เรื่อง ที่นี่มีหนังใหม่2023 จากค่ายดังทุกค่ายมาให้ทุกคนได้รับชมกันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่า Netflix, Disney+, Viu , DC , Marvel ทำให้ท่านได้รับความสนุกเพลิดเพลินเหมือนได้รับชมอย่างสมจริงทั้งภาพที่คมชัดระดับ Full HD และเสียงภาพยนตร์ที่คมชัดมากที่สุด

ดูหนัง Netflix หนังใหม่

อ่านต่อที่นี่