The Negotiator (1998) คู่เจรจาฟอกนรก
เรื่องย่อ
The Negotiator ท่ามกลางการสมรู้ร่วมคิดที่ซับซ้อนนักเจรจาผู้เชี่ยวชาญถูกผลักดันให้ไปสู่จุดสูงสุดเมื่อเขาถูกล้อมกรอบในข้อหาฆาตกรรมคู่หูของเขารวมทั้งยักยอกเงินจากกองทุนบำนาญของแผนกของเขา โอกาสเดียวที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาคือการจับตัวประกันด้วยตัวเองรับบริการจากนักเจรจาผู้เชี่ยวชาญอีกคนและค้นหาว่าใครเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดก่อนที่จะสายเกินไป
ผู้กำกับ
- F. Gary Gray
บริษัท ค่ายหนัง
- New Regency Productions
นักแสดง
- Samuel L. Jackson
- Kevin Spacey
- David Morse
- Ron Rifkin
- John Spencer
โปสเตอร์หนัง
รีวิว
เป็นหนังทริลเลอร์ที่พล็อตโคตรมันส์ The Negotiator (และมีอ้างอิงจากเรื่องจริงด้วย) ว่าด้วยนักเจรจาที่ถูกใส่ร้ายในคดีฆาตกรรมเพื่อนร่วมงาน ที่กำลังสืบสวนเรื่องคดีฉ้อฉลในวงการตำรวจ เมื่อเขารู้ว่าตัวเองกำลังจะสูญเสียชื่อเสียง การงาน และภรรยาในแบบที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ นักเจรจาจึงบุกออฟฟิศกรมสืบสวนภายใน จับหัวหน้า และพนักงานจำนวนหนึ่งโดยเขาเชื่อว่าคนเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยักยอกเงินหลายล้านที่เพื่อนร่วมงานเขากำลังขุดคุ้ย เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่สถานการณ์ตึงเครียดที่สั่นสะเทือนไปทั้งเมือง การชิงไหวชิงพริบของเหล่าตำรวจที่พยายามอ่านเกมของอีกฝ่าย (ซึ่งก็เป็นเพื่อนร่วมงานของตัวเอง)
.
เรื่องมันเริ่มสนุกก็ตอนที่พระเอก (ซามูเอล แอล. แจ็กสัน) สร้างเงื่อนไขขึ้นมาว่าเขาจะต่อรองกับนักเจรจาที่ตัวเองเลือกเท่านั้น (เควิน สเปซีย์) ซึ่งไม่ใช่นักเจรจาที่เขารู้จัก หากแต่เป็นคนนอกที่เขาอยากให้ช่วยสืบสวนเรื่องราวทั้งหมด แต่ประเด็นคือทั้งคู่เป็นนักเจรจามือเก๋า (หนังแอบติดตลกด้วยว่านักเจรจาอยู่ด้วยกันสองคนไม่ได้) และต่างมีเป้าหมายของตัวเอง เลยเกิดเป็นการต่อรองที่เชือดเฉือนไปมา เป็นสงครามประสาทที่ทั้งคู่ต่างพยายามบรรลุเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้ให้ได้ (ซามูเอลต้องการความเป็นธรรมให้ตัวเอง ส่วนเควินต้องการช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกจับไป) ซึ่งบันเทิงมาก หนังทำให้เรารู้สึกว่าพวกเขาเป็นคนมีของกันทั้งคู่ และตัวละครทั้งสองต่างมีอุปสรรคที่แตกต่างกัน ในขณะที่ซามูเอลต้องดิ้นรนสืบสวนในพื้นที่ และความสามารถที่จำกัด เควินก็ต้องมือกับเหล่าตำรวจ และสถานะคนนอกของตัวเอง ทั้งกับตำรวจในพื้นที่ และการแทรกแซงของ FBI ที่พยายามยึดคดีเป็นของตัวเอง
.
หนังใช้ความเป็นนักเจรจาของสองตัวละครกับเรื่องได้ดี เราได้เห็นสกิลของสองตัวละครตั้งแต่ซีนแรกที่เปิดตัว (แต่ตลกตรงที่ซีนเปิดของเควินคือเขากำลังเจรจากับเมีย และลูก ซึ่งไม่สำเร็จ) ชอบที่มันความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมงานอยู่ในหนัง ชอบที่พระเอกสามารถพูดเจรจาจนทำให้เพื่อนลังเลใจในการพยายามกำจัดเขาได้ ซึ่งจริงๆก็ต้องชมบทภาพยนตร์ด้วย ที่ค่อนข้างคม แม้ว่ากลางๆจะมีแผ่วๆ แต่หลายๆซีนได้ใจเรามาก ชอบแก๊กที่ตัวละครคุยกันเรื่องหนัง Western The Negotiator และตั้งคำถามว่าตัวละครในหนังตายหรือไม่ตาย การที่เราไม่เห็นเขาตาย แค่ล้มเฉยๆ แปลว่าเขาตายไหม ซึ่งมันถูกใช้ซ้ำในช่วงท้ายเรื่องได้เจ๋งมาก เป็นโจ๊กที่โคตรเท่เลย
.
เอฟ. แกรี่ เกรย์ เป็นหนึ่งในผู้กำกับที่เราชอบนะ ถ้าไม่นับ Men in Black: International เรื่องที่เหลือเราเอนจอยหมดเลย ทั้ง Law Abiding Citizen, The Italian Job, Straight Outta Compton, A Man Apart กระทั่ง The Fate of the Furious ก็เข้าทางสุดๆ และ The Negotiator ก็เป็นหนึ่งในงานที่บันเทิงของเรา เป็นหนังที่แค่อ่านพล็อตก็มันส์แล้ว และหนังจริงก็สนุกตามนั้น มิติเรื่องการคอรัปชั่นอาจจะไม่ได้ลุ่มลึก แต่เรื่องความเชือดเฉือน เกมจิตวิทยา ถือว่าผ่านเลย ใครสนใจตามไปดูกันได้
หนังทริลเลอร์สุดเข้มข้นที่มีบทสนทนาอันเชือดเฉือน และลีลาการแสดงระดับขั้นเทพของ Samuel L.Jackson กับ Kevin Spacey ตัวหนังว่าเด็ดแล้ว เสียงพากย์ไทยเมื่อครั้งฉายโรงก็เด็ดดวงพอๆกัน เพราะทางผู้จัดทำเสียงไทยอย่าง กันตนา ได้นำสองนักพากย์นักแสดงมือพระกาฬอย่าง ‘พ่อรอง เค้ามูลคดี’ กับ ‘อาปุ๊ มนตรี เจนอักษร’ มาให้เสียงสองตัวละครหลักในภาพยนตร์ พ่อรองแม้ไม่ใช่เสียงพากย์ประจำกาย Samuel L.Jackson แต่ก็ให้เสียงได้อย่างน่าจดจำ แผ่ความกดดันสู่ผู้ชมแบบเข้าเป้า
ส่วนอาปุ๊ก็มีความเหมาะสมในบทบาทตนเอง น้ำเสียงนิ่งสงบ สื่อถึงความเป็นคนฉลาด วางแผนแก้เกมตามหมากต่างๆ และเมื่อสองยอดฝีมือแห่งวงการพากย์ไทยมาเชือดเฉือนด้วยบทสนทนาสุดเข้มข้นตามประสาตำรวจเจรจา มันจึงฟังออกมาเพลินหู ลื่นไหลไปตลอดฝั่ง น่าเสียดายที่พากย์ไทยฉบับฉายโรงไม่สามารถหาชมได้แบบถูกลิขสิทธิ์ในปัจจุบัน นี่คืองานพากย์อีกชิ้นของทั้งสองที่ควรค่าแก่การพูดถึงอย่างยิ่ง
เป็นหนังอีกเรื่องที่ผมดูแล้วชอบสุดๆ The Negotiator ด้วยความเข้มข้นของบทและการแสดงระดับยอดของ Samuel L. Jackson และ Kevin Spacey และเป็นหนังอีกเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ไม่ต้องกระหน่ำแอ็กชันก็มันส์ได้ เนื้อหาว่าด้วยนายตำรวจนักเจรจา แดนนี่ โรมัน (Jackson) เกิดตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆาตกรรมเพื่อนตำรวจด้วยกัน (Paul Guilfoyle) แต่แดนนี่ไม่ได้ทำครับ อีกทั้งเขายังรู้ด้วยว่าสาเหตุที่เพื่อนถูกฆ่าก็เพราะรู้มากเกินไป เขารู้ว่ามีการโกงกินในกรมตำรวจก็เลยโดนเก็บ
เมื่อแดนนี่ต้องเผชิญกับความกดดัน แล้วด้วยความต้องการหาหลักฐานพิสูจน์ความจริง เขาเลยตัดสินใจจับคนเป็นตัวประกันกลางสำนักงานกิจการภายในซะเลย ตัวประกันที่เขาจับไว้ก็มี สารวัตรนีบอม (J.T. Walsh), รูดี้ ทิมมอนส์ (Paul Giamatti) ที่ช่างพล่ามสุดๆ และแม็กกี้ (Siobhan Fallon) เลขาหน้าห้องของนีบอม โดยแดนนี่ตั้งใจว่าจะบีบและวางหมากให้ฆาตกรตัวจริงเผยตัวออกมา และเขาก็มั่นใจสุดๆ ว่าคนทำก็ต้องเป็นตำรวจด้วยกันนี่แหละ
พอเกิดสถานการณ์กดดัน ทางตำรวจก็ย่อมต้องส่งตำรวจเจรจามาต่อรองเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน ซึ่งแดนนี่ได้เรียกร้องให้ไปตามเจ้าหน้าที่คริส เซเบียน (Spacey) นักเจรจาต่อรองมือพระกาฬที่อยู่อีกเขตให้มาเป็นคนเจรจาต่อรองกับเขา… ทีนี้ล่ะครับ เมื่อสองยอดนักเจรจามาเจอกัน คุณก็จะได้พบกับความสนุกในการวางหมาก หาทางแก้เกมกันไปมา แดนนี่น่ะอยากให้คริสมาเป็นหนึ่งในหมากการหาตัวคนผิด ส่วนคริสเองก็ไม่สนใจอะไรนอกจากการช่วยตัวประกันออกมาให้ครบจำนวน
แล้วความเข้มข้นสุดมันส์ก็เริ่มที่ตรงนั้นล่ะครับ หนังยาวสองชั่วโมงกว่า แต่น่าติดตามไปตลอดทั้งเรื่อง คนที่สมควรได้รับการคารวะก็หนีไม่พ้นสองนักแสดงนำ Jackson และ Spacey สองคนนี่เฉือนฝีมือกันตลอดครับ รายแรกก็แสดงท่ากดดันกันไป รายหลังก็มาเนิ่บๆ แบบขงเบ้ง วางแผนไว้ในใจเดินหมากแก้เกมตลอด ความสนุกมันก็คืออะไรเหล่านี้ล่ะครับ ใช้สมอง ตามเกม วางแผน คนที่ชอบหนังใช้สมองหรือหนังเชิงจิตวิทยาหน่อยๆ น่าจะโปรดหนังเรื่องนี้ได้อย่างไม่ยากเย็น
ว่ากันว่าตัวหนังเองได้แรงบันดาลใจมาจากเค้าโครงเรื่องจริงครับ The Negotiator ช่วงกลางยุค 80 ที่เซ็นต์หลุยส์ก็เคยมีเหตุการณ์โกงในกรมตำรวจและเกิดเรื่องทำนองนี้อีกต่างหาก James DeMonaco กับ Kevin Fox เลยเอามาเขียนเป็นบท แรกเริ่มเดิมทีบทคริส เซเบียนนั้นจะได้ Sylvester Stallone มารับไปครับ ส่วนบทแดนนี่ โรมันนั้นก็ตกเป็นของ Spacey แต่ต่อมาพี่บึกสไลแกก็บอกปัดบทไป ทำให้ Spacey ได้โอกาส ขอเปลี่ยนบทมาแสดงเป็นฝ่ายคริสแทน แล้วก็แคสดาราคนใหม่มารับบทแดนนี่ หวยก็มาลงที่ Jackson ครับ
งานนี้ต้องขอบคุณพี่สไลที่บอกปัดบท เราเลยมีหนังชั้นยอดให้ดูกัน (อย่าโกรธกันนะครับพี่สไล) ตัวหนังจัดว่ามันส์ครับ ข้นจริงๆ ช่วงต้นๆ มันอาจจะช้าๆ เนือยๆ ไปบ้าง เพราะมันต้องปูพื้นตัวละครแล้วก็บอกเล่าที่มาที่ไป แต่พอแดนนี่ตัดสินใจจับตัวประกันเมื่อไรล่ะก็ ความเข้มข้นก็เริ่มไหลมาเทมาครับ หมัดเด็ดแรกของหนังคือ การที่ให้นักเจรจากลายเป็นคนจับตัวประกันซะเอง ดังนั้นแผนสารพัดที่ตำรวจเคยใช้ก็ไม่ได้ผลแล้วจริงไหมครับ อย่างการสอดกล้องเพื่อสอดแนม แดนนี่ก็จับทางได้หมด หรือการเอาตำรวจมาเจรจา ก็ดันไปพาเอาผู้ช่วยแดนนี่มา แหม มวยมันคนละชั้นนี่ครับ จะมาทำอะไรได้ จากนั้นหนังก็ทิ้งปมให้เราสงสัยว่า ทำไมแดนนี่ต้องเรียกคริสมาด้วย ทั้งๆ ที่ทั้งสองคนก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด
ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Abang Long Fadil (2014) ลูกพี่ฟาดิล
Fierce Hunt (2024) เปลวไฟยุติธรรม
8.2