KUBHD ดูหนังออนไลน์ The Last Witch Hunter (2015) เต็มเรื่อง เพชฌฆาตแม่มด
เรื่องย่อ
500 ปีภายหลังจากสงครามครั้งใหญ่ระหว่างมนุษยชาติและเหล่าแม่มดที่ต้องการจะปลดปล่อยพลังแห่งความชั่วร้ายให้ครอบครองโลก กลุ่มเพชฌฆาตแม่มดต้องทุ่มเทชีวิตเพื่อปราบเหล่าอธรรมพวกนี้ให้สิ้นซาก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ คาลเดอร์ (วิน ดิเซล) ยอดนักรบที่เป็นผู้ฆ่าราชินีแม่มดลงได้ แต่เขากลับถูกสาปให้กลายเป็นคนที่มีชีวิตเป็นอมตะเป็นการแก้แค้น
นับจากวินาทีนั้นเองชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลหลังจากที่ลูกและภรรยาเสียชีวิตลง คาลเดอร์ ต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในฐานะเพชฌฆาตแม่มดคนเดียวที่เหลืออยู่นานนับหลายศตวรรษ จนกระทั่งศัตรูที่อันตรายได้ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับแผนการที่จะปลุกราชินีแม่มดให้ฟื้นคืนขึ้นมาอีกครั้ง คาลเดอร์ ก็รู้ดีว่านี่คือหน้าที่สำคัญที่เหลือเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถช่วยมนุษยชาติได้
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังฝรั่ง เรื่อง The Last Witch Hunter (2015) เพชฌฆาตแม่มด หนังประเภท Adventure ผจญภัย เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
Sergei Bodrov
บริษัท ค่ายหนัง
- Legendary Pictures
- Moving Picture Company
- Outlaw Sinema
- Pendle Mountain Productions
- Thunder Road Pictures
- China Film Group
นักแสดง
- Jeff Bridges
- Ben Barnes
- Alicia Vikander
- Kit Harington
- Olivia Williams
- Antje Traue
- Djimon Hounsou
- Julianne Moore
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
จิบชา รับลม กับมิสเตอร์ อเมริกัน
The Last Witch Hunter (เพชฌฆาตแม่มด) (2015) (Breck Eisner) (C)
โคเดอร์ นักล่าแม่มดผู้เป็นอมตะด้วยคำสาปของราชินีแม่มดจนต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังมากว่าร้อยปีได้พบว่า คู่หูของเขา โดแลนคนที่ 36 ได้ถูกสังหารด้วยฝีมือของแม่มดกลุ่มหนึ่งที่วางแผนจะคืนชีพราชินีแม่มดให้กลับมาอีกครั้ง นั่นเองที่ทำให้โคเดอร์ต้องร่วมมือกับโดแลนคนที่ 37 และแม่มดสาวหัวขบถอย่าง โชลอี้ เพื่อขัดขวางการคืนชีพของนางให้ได้
ถ้าจะมองหาหนังสักเรื่องที่มีคุณสมบัติจะดัง แต่ทุกอย่างดันกลายเป็นแป้กได้ หนังเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องนั้นครับด้วยคุณสมบัติอย่าง ผลงานแนวดาร์คแฟนตาซี แอ็คชั่น ที่นำแสดงโดย วิน ดีเซล ที่กำลังขึ้นหมอจากหนังอย่าง Fast ที่หันมาเล่นหนังแนวแฟนตาซีดูบ้าง ทว่า ดีเซลก็ยังคงเป็นดีเซลที่ไม่ว่าเล่นเรื่องไหนก็จะมีแอ็คติ้งดอม โทเรโต้ จาก Fast ติดมาตลอดราวกับสลัดออกไปไม่ได้เรื่องนี้ก็เช่นกัน มันทำให้เรารู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่พอ เรายังรู้สึกว่า การแสดงของดีเซลช่างไร้มิติ แม้ว่าเขาจะพยายามรีดเร้นการแสดงของตัวเองออกมาแล้วก็ตาม เรายังรู้สึกเลยว่า เขาเล่นไม่ดีนักเมื่อเทียบกับอย่าง ริคดิกที่ยังออกมาดูดีกว่าด้วยซ้ำ แต่ที่น่าตกใจก็คือ นอกจาก วินดีเซล แล้ว ทุกอย่างในหนังเรื่องนี้ออกมาดูดีนะทั้งการดีไซน์งานตัวร้ายอย่าง นางพญาแม่มด พวกพ่อมดที่มีพลังต่าง ๆ กัน มันทำให้เรารู้สึกว่า มันเป็นหนังแฟนตาซีที่มีงานสายวิช่วลดูน่าพอใจนะ แต่ทำไมกันหน่อ เรารู้สึกว่า หนังมันไม่สนุกน่าติดตามเลย
เอาจริงแล้วตรรกะของหนังมันค่อนข้างล่ม ๆ และเดาทางได้ง่าย ๆ ว่า มันจะต้องมีอะไรแบบนี้แน่ ๆ และมันก็จริงทุกอย่างจนเหมือนเราได้แต่หัวเราะว่า หาอะไรที่มันใหม่กว่านี้หน่อยสิเฟ้ย !! เพราะมันไม่มีอะไรใหม่เลยในหนังเรื่องนี้รวมทั้งจุดหักมุม จุดพลิกพันด้วย คือ พูดง่าย ๆ หนังมันเฉยมาก ๆ คือ มันไม่ได้แย่นะ แต่มันไม่น่าสนใจเลย ดูแล้วได้แต่ถอนหายใจว่า อ๋อ เหรอ แบบนี้เหรอ คือ เราแทบไม่มีอารมณ์ร่วมกับมันเลยจนเราได้แต่ส่ายหัวทั้งที่หนังมีคุณสมบัติที่จะทำให้สนุกนะ แต่มันดันไม่ค่อยสนุกเลยนี่สิ
ยิ่งหนังมันพยายามเน้นย้ำว่า ตัวเอกของเรื่องทรมานกับการอมตะแค่ไหน เรายิ่งหัวเราะว่า หนังมันไม่ได้ทำให้เราเห็นว่า พระเอกมันทรมานเลย คือ มันพยายามใส่ไอ้พวกนี้ลงมานี่ล่ะให้ตัวเรื่องมันมีน้ำเนื้อ แต่แค่เล่าเรื่องแม่มดกับไล่ล่านี่ก็เสียเวลาโคตร ๆ แล้ว หนังมันจึงไม่มีอารมณ์ให้เรารู้สึกเห็นใจไปกับชะตากรรมของตัวเอกเลยสักนิด ยิ่งเน้นย้ำว่า ความอมตะเป็นสิ่งทรมานยิ่งทำให้เรายิ่งหัวเราะไปใหญ่ว่า ตูก็เห็นพี่แกแฮปี้กับชีวิตอมตะด้วยซ้ำ นี่มันความฝันผู้ชายเลยนะเฟ้ย 55
ครับ นอกจากเนื้อหาที่ไม่มีอะไรแล้ว แอ็คชั่นเองก็ไม่มีตรึงใจน่าจดจำเลยสักนิด เป็นหนังที่ดูรอบเดียวก็จำได้แล้วสามารถลืม ๆ ไปได้ด้วยซ้ำครับ ซึ่งนับว่าน่าเสียดายนะที่หนังมันมีวัตถุดิบดี ๆ เพียบ แต่ไม่ได้นำเสนอ
และตอกย้ำว่า ผู้กำกับอย่าง ฺBreck Eisner ไม่เหมาะกับการทำหนังใหญ่ ๆ แต่เหมาะกับการทำหนังสยองขวัญมากกว่่า
น่าเสียดายจริง ๆ
ดาราปังหนังเปรี้ยง
— The Last Witch Hunter (2015)
ขอเชิญพบกับเฮียโล้นอมตะเพราะโดนสาป กับภารกิจล่าล้างโคตรแม่มดมาตั้งแต่ยุคโบราณที่ยืนยาวมายันยุคปัจจุบัน ในฐานะนักล่าแม่มดคนสุดท้ายที่ยังต้องเผชิญกับการคืนชีพของราชินีแม่มดคู่ปรับเก่าตัวฉกาจที่หวังจะกลับมาครองโลกอีกครั้ง
ยอมรับเลยว่าเป็นหนังที่ได้ดูในสภาพหลับๆ ตื่นๆ เบลอๆ จากความง่วงอันเนื่องมาจากความน่าเบื่อของมันมาก หนังโคตรจะสูตรสำเร็จจ๋า ฉากแอคชั่นก็ไม่โดนเท่าที่ควร มีดีแค่ตรงการออกแบบแม่มดได้สยองดีเท่านั้นเองมั้ง
Wasant Tong Suthanyaphruet
[Movie Review] – The Last Witch Hunter (2015)
คะแนน C –
ไม่รุ้จะเขียนถึงงานนี้ในแง่มุมใด ไม่ใช่เพราะการนั่งสัปงกใส่หนังตลอดทั้งเรื่อง แต่เพราะเนื้อหามันไม่มีอะไรซะจน 106 min เป็นเวลาแสนยาวนานไปเลย พลิกข้อมือดูเวลาหลายรอบมาก ตามองบนจอแต่ใจคิดถึงการเอาเวลาไปจัดโปรแกรมเก่าอย่าง The Intern / The Down (ที่หลุดโรงเครือใหญ่ตามห้างแล้วเรียบร้อย) และติดโผชอบสุดๆแห่งปี White God / Crimson Peak แต่เพื่อประโยชน์ต่อผุ้อ่าน อย่างไรก็ต้องแจกแจงข้อดี-ข้อเสียกันไปละนะ
ประการแรกคงเป็นบทภาพยนตร์ ที่ลางร้ายตั้งแต่มีชื่อของสองผุ้เขียนบท Dracula Untold แล้วนี่หละ ส่วนอีกรายประสบการณ์ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ซึ่งผลที่ออกมาย่ำแย่กว่างานโน้นมากทุกทาง ทั้งโครงเรื่อง ธีมหนัง และประเด็นต่างๆ ที่แทบไม่น่าติดตามเอาเลย ทั้งที่เปิดเรื่องน่าสนใจใช้ได้(ตามสูตร) จากการเผยที่มาของการเป็นอมตะในตัวละคร Kaulder, การพยามอธิบายการใช้พลังเวทย์ หรือศาสตร์มนต์ดำในแบบวิทยาศาสตร์พื้นฐาน, ความสัมพันธ์อันยาวนานที่ชวนค้นหากับ Dolan 36th, การอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับเหล่าพ่อมด-แม่มด อย่างมีกฏระเบียบแบบแผน, กระทั่งเกิดเหตุพลิกผันและได้เจอกับแม่มดสาว Chloe นับจากนั้นการเล่าเรื่องก็แทบไม่มีอะไร นอกจากตามหาวิธีฟื้นความทรงจำ สลับกับตามไล่ล่าตัว Belial ที่พยามปลุกชีพ Witch Queen ขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งการที่ฝั่งตัวร้ายไม่มีมิติจนราบแบนคือสิ่งที่เข้าใจได้ แต่ปัญหาคือการที่ไม่พัฒนาปมต่างๆที่ปูไว้ต้นเรื่องนี่หละ (ประโยคนี้ใช้บ่อยมากกับหนังฮอลลีวู้ด)
ประการที่สองคือตัวเลือกที่สื่อว่าผุ้สร้างไม่ได้อยากให้เป็นหนังที่ดีอะไร ด้วยการโยนงานนี้ให้ผุ้กำกับ Breck Eisner ที่มีผลงาน 5 ปี ต่อ 1 เรื่อง อาทิ Sahara (2005), The Crazies (2010) แล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวังโดยขาดความสร้างสรรค์ในการถ่ายทำกันไป จุดขายหลักอย่างแอ็กชั่นยังน่าหลับใส่ การจัดตำแหน่งและการเคลื่อนที่ของกล้องหลายครั้งไม่รองรับทั้งความสวยงามและการสนองอารมณ์ หลังดูจบนึกย้อนไปจึงไม่ฉากไหนที่น่าจดจำเลย แตกต่างกับหนังแอ็กชั่นอื่นๆที่แม้เนื้อหาจะเลวร้ายอย่างไร แต่ต้องสร้างช็อตที่ติดตาต้องใจคนดูให้สำเร็จไม่มากก็น้อย
ประการที่สามคือความสามารถของดารานำอย่าง Vin Diesel ที่แฟนๆก็รุ้กันว่าไม่มีความแตกต่างในแต่ละเรื่อง งานนี้ก็พาลให้นึกถึงความเป็นตัวละคร Dominic Toretto แค่ไม่ซิ่งรถแข่งกับแม่มดเท่านั้นเอง ด้านแอ็กชั่นก็ดูโรยราลงไปในวัย 48 ขวบ แม้หนังจะตัดต่อช่วยอยู่ตลอด น่าไปศึกษาการดูแลตัวเองของซุปตา Tom Cruise ในวัย 53 ทำไมยังเล่นได้แรงจัดชัดจริงขนาดนั้น ถ้าอยากเป็นแอ็กชั่นสตาร์อีกนานๆ.. ด้านขวัญใจหนุ่มๆ Rose Leslie ก็ช่วยหนังได้ระดับหนึ่ง แต่ก็น่าสงสารยามต้องแสดงแบบกั๊กๆ เพราะร่วมฉากกับพระเอกหน้าตาโมโนโทน หากจัดเต็มจะกลายเป็นเล่นเยอะเล่นใหญ่ไปอีก.. Elijah Wood ก็ไม่วายมาในคาแร็กเตอร์ที่ต้องโดนเหยียดสภาพร่าง และเป็นตัวละครสับขาหลอกที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ในบทหนังแบบนี้.. ทีแรกแอบข้องใจว่า Michael Caine รับงานนี้เข้าไปได้อย่างไร แต่เมื่อได้ชมก็สบายใจที่บทบาทไม่มากพอให้เสียของ ออกแนวไม้ประดับทรงคุณค่ามากกว่า
สรุปส่งท้ายด้วยประการที่สี่ The Last Witch Hunter ยังมีงานเทคนิคสร้างภาพที่ได้มาตราฐาน หลายฉากไม่ได้ออกมาขี้ริ้วขี้เหร่อะไร แต่หากเปรียบกับทุกสร้างที่สูงถึง 90 ล้านเหรียญ มันก็เป็นอะไรที่ไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ จากสิ่งที่เห็นถ้าใช้แค่ 60 ก็พอจะชื่นชมได้บ้าง ในเมื่อเลือกใช้ผุ้กำกับค่าตัวไม่แพงแบบนี้แล้ว งบตรงนี้หายไปกับอะไรหรือเข้ากระเป๋าใครก็คงไม่ใช่เรื่องของคนดู แต่ที่แน่ๆมันเดือดร้อนเพราะหนังไม่ตอบโจทย์ได้สักทางนี่หละ!!!
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Hansel and Gretel Witch Hunters (2013) ฮันเซล แอนด์ เกรเทล นักล่าแม่มดพันธุ์ดิบ
Season of the Witch (2011) มหาคำสาปสิ้นโลก
The Huntsman: Winter’s War (2016) พรานป่าและราชินีน้ำแข็ง
7.1