The Kissing Booth (2018) เดอะ คิสซิ่ง บูธ
เรื่องย่อ
The Kissing Booth (2018) เดอะ คิสซิ่ง บูธ แอล วัยรุ่นสาวเสี่ยงทำลายมิตรภาพที่เธอมีกับเพื่อนซี้ เมื่อจูบแรกทำให้เธอได้พบกับรักต้องห้ามกับหนุ่มฮอตที่สุดของโรงเรียน ในลอสแองเจลิส Elle Evans และ Lee Flynn เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดมาตั้งแต่เกิด เมื่อเธออายุ 11 ปี แม่ของเธอป่วยและเสียชีวิตในสามปีต่อมา การที่แอลแอบชอบโนอาห์พี่ชายยอดนิยมของลีลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งเธอเก็บกดเอาไว้
The Kissing Booth ในวันแรกของการเรียนมัธยมปลาย แอลลี่ถูกบังคับให้สวมกระโปรงที่เล็กเกินไป เมื่อทัพเพนสัมผัสเธออย่างไม่เหมาะสม โนอาห์ก็เริ่มต่อสู้กับเขา ทัพเพน โนอาห์ และแอลถูกควบคุมตัว โดยทัพเพนขอโทษ ต่อมาแอลตกลงที่จะออกเดตกับเขา แต่เขากลับยืนหยัดกับเธอ ขณะที่โนอาห์เตือนทุกคนว่าอย่าไล่ตามเธอแอลและลีเสนอให้มีบูธจูบเพื่อระดมทุนในโรงเรียน ในงานปาร์ตี้ เธอบอกสาวๆ OMG ชื่อดัง (โอลิเวีย มีอา และกวินเน็ธ) ว่าโนอาห์จะเป็นส่วนหนึ่งของบูธ แม้ว่าเขาจะปฏิเสธที่จะเข้าร่วมแล้วก็ตาม ดูหนังออนไลน์
ผู้กำกับ
Vince Marcello
บริษัท ค่ายหนัง
Komixx Entertainment
นักแสดง
Joey King
Joel Courtney
Jacob Elordi
Meganne Young
Jessica Sutton
Molly Ringwald
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
ถ้าใครกำลังหาหนังเบาๆสบายๆในช่วงวันหยุดบอกเลยว่าแนะนำเรื่องนี้ ดูแล้วฟีลกู๊ดมาก ไม่น่าเบื่อเลย หนังน่ารักเป็นแนวไฮสคูล เน้นเรื่องราวความรักและมิตรภาพ
.
หนังพูดถึงเรื่องของ “แอล” วัยรุ่นสาวที่มีเพื่อนสนิทมากที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กอย่าง “ลี” เขาและเธอตั้งกฏขึ้นมากหลายข้อและดันมีกฏหนึ่งในนั้นคือห้ามชอบพี่ชายของเพื่อนสนิทเด็ดขาด ไม่ั้นจะตัดขาดความเป็นเพื่อน แต่ทำไงได้ในเมื่อพี่ชายของลีทั้งหล่อและแซ่บขนาดนั้น แอลเลยห้ามใจไม่ไหวไปตกหลุมรักพี่ชายของลีซะงั้น ความสัมพันธ์ลับๆของแอลและพี่ชายของลีจะเป็นยังไง ต้องรอลุ้น
.
หนังฟีลกู๊ดแบบฟีลกู๊ดมาก เล่าเรื่องได้ไม่น่าเบื่อเข้าใจง่ายดี ชอบซีนบูทที่ขายจูบมากดูแล้วฟิน หนังเน้นคอมเมอดี้มากกว่าดราม่า ดูแล้วยิ้มไปขำไป นักแสดงในเรื่องจะหุ่นแซ่บไปไหน ที่สำคัญเพลงเพราะมากทุกฉากเลย
.
ดูแล้วบันเทิงดี เหมาะสำหรับการคลายเครียดในวันหยุด ดูเพลินๆ ฟินๆ The Kissing Booth สามารถหาดูได้แล้วใน Netflix
ด้วยความที่ช่วงนี้จะป่วยกายหนักหน่อย เลยต้องนอนซมอยู่บ้าน เลยกะว่าจะหาไรดูใน Netflix แก้เซ็งหลังจากพึ่งดู Dynasty จบไป ก็เลยลองเปิด “ The Kissing Booth “ ดู เพราะเห็นนักแสดงที่เราคุ้นตาอย่าง ‘ Joey King ‘ จาก Wish Upon และ The Conjuring มาแสดงนำนี่แหละ ซึ่งมันเป็นหนังวัยรุ่นไฮสคูลที่น่ารัก แบบน่ารัก “ มากกกกกกกกกกกกกกก “ ดูแล้วมีความสุข เพราะหนังมี moment ดีๆมากมายที่ชวนสนุกและอมยิ้มได้ตลอดเวลาจริงๆ
The Kissing Booth เล่าถึงชีวิตสาว “ แอล (Joey King) “
ที่ได้โตมาพร้อมกับเพื่อนชายสุดซี้ “ ลี ฟลินน์ (Joel Courtney) “ ตั้งแต่เด็กทั้งคู่มักเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน และชอบไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ และได้ตั้งกฏของการเป็นเพื่อนซี้ขึ้นมา แต่แล้ว แอลก็ได้ตกหลุมรัก “ โนอาห์ ฟลินน์ (Jacob Elordi) “ พี่ชายของลี หนุ่มฮอตสำหรับสาวๆในโรงเรียน ซึ่งจริงๆแล้วลึกๆนั้นเธอรู้ว่าการตกหลุมรักญาติคนสนิท มันผิดหนึ่งในกฏของเพื่อนซี้ เธอจึงพยายามเก็บความรู้สึกนั้นเองไว้ และได้แต่แอบมองอยู่ใกล้ๆ แต่เธอไม่รู้เลยว่า “ โนอาห์ “ ก็แอบชอบเธอมาตั้งแต่เด็กแล้วเหมือนกัน แต่แล้วเมื่อเรื่องทั้งหมดที่เธอพยายามปิดบัง มันกำลังทำให้เธอและโนอาห์ได้ใกล้ชิดกัน เมื่อเหตุการณ์โดยบังเอิญที่ซุ้มขายจูบนั้น ทำให้ความรู้สึกลึกๆที่เก็บเอาไว้จึงไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป
เราชอบการดำเนินเรื่องของเรื่องนี้พอสมควรเลย มันรวดเร็ว แต่มีแต่ความสนุกสนาน และเบิกบานใจตลอดเวลา ถึงแม้หนังจะอัดเรื่องราวทั้งหมดไว้ใน 1 ชม.กว่า ทั้งที่หนังสือมันมีเนื้อหามากมายหลายอย่าง ซึ่งถือว่าทำได้ดีระดับนึงเลย เพราะหนังมีความเข้าใจดูง่าย และสนุก อีกครั้งมี moment ชวนน่ารัก ชวนกรี๊ดได้เสมอๆ ช่วงแรกหนังจะเล่าประเด็นมิตรภาพตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันแบบรวดเร็ว และชวนมีกิมมิคในการเล่า ซึ่งช่วงนี้เป็นการเปิดเรื่องที่โอเค ถึงแม้จะไม่ได้ขยายและลงลึกมากมาย แต่ก็พอจะเข้าถึงได้ว่า สองตัวละคร “ แอล “ และ “ ลี “ มีความสนิทสนมกันมาก และไม่นาน หนังก็เริ่มเจาะไปถึงตัวละครมากขึ้น ให้เราได้เห็นการใช้ชีวิต และคาแรคเตอร์ของแต่ละคนที่ชัดเจนมากขึ้น เห็นมุมมองความคิดและความรู้สึกมากขึ้น ทำให้เราเริ่มเข้าถึงตัวละครและมันจะส่งผลทำให้เราอินไปกับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้
จากนั้นหนังก็เริ่มเข้าสู่โหมดความรักที่มีขีดจำกัด แต่หนังพยายามใส่บรรยากาศชวนโรแมนติคแบบวัยรุ่น กุ๊กกิ๊ก น่ารัก สดใส และเฮฮาได้ดี พูดได้เลยว่าถึงแม้หนังจะเล่าประเด็นนี้อย่างรวดเร็วแค่ไหน มันก็ทำให้เราอินได้ไม่มากก็น้อย แต่มันก็ชวนดิ้นไม่หยุดเลยจริงๆ ด้วยออร่าของพระ-นางที่ต่างกันสุดขั้ว แต่มีคารมที่ตรงเคมีกันนี่แหละ สร้างความน่ารักได้ดีมากเลยทีเดียว
จะว่าไปแล้ว The Kissing Booth มันเป็นหนัง Romance / Comedy / Drama ของวัย Teenage ที่มีประเด็นทุกอย่างที่หนังวัยรุ่นควรจะมี และเล่าออกมาได้สร้างสีสันไม่ชวนดาร์คและรุนแรง ซึ่งถือว่าทำให้คนดูได้รู้สึกเพลิดเพลินและคลายเครียดได้ดี ฟิลหนังให้อารมณ์ไม่เหมือนหนังยุคปัจจุบัน ทั้งๆที่มันก็น่าจะใช้อยู่พอสมควร ให้อารมณ์ร่วมสมัย โดยการใส่รายละเอียดต่างๆ เสื้อผ้า หน้าผม รวมถึงรถยนต์ที่ตัวละครใช้นั่น ให้อารมณ์ยุค 90s มากๆ มีเสน่ห์พอสมควร
ด้านนักแสดงทั้งสาม มีคาแรคเตอร์ชัดเจน มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร
และสร้างความประทับใจได้ตลอด ทำให้เข้าถึงตัวละครและบทบาทนั้นๆไม่มากก็น้อยเช่นเดียวกัน การส่งอารมณ์กันไม่ว่าจะเป็นรูปแบบเพื่อน พี่น้อง หรือคนรัก มันค่อนข้างดี รู้สึกว่าขาดใครคนใดคนหนึ่งไป หนังจะไม่มีความสนุกเลยก็เป็นได้อะ
สรุปแล้ว The Kissing Booth เป็นหนังรักวัยรุ่นฟีลกู๊ดแรงมาก เพราะมันน่ารักมากจริงๆ เพลิดเพลิน สนุก และมีความสุขสุดๆ สามารถดูแก้เบื่อได้เลย เพราะเรื่องราวย่อยง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก แต่หนังสร้าง moment ดีๆไว้มากมาย เชื่อว่าใครได้ดู น่าจะยิ้มไม่หยุดเหมือนเราเลยแหละ สามารถดูได้แล้วใน Netflix เลยยย
Score : 8/10
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Larry Crowne (2011) รักกันไว้ หัวใจบานฉ่ำ
Joe Versus the Volcano (1990) บิ๊กโจภูเขาไฟ
Nothing in Common (1986) คุณพ่อคร้าบ
6.8