The Kick (2011) วอนโดนเตะ
เรื่องย่อ
มุนเป็นชาวเกาหลีที่อพยพมาประเทศไทย The Kick และเป็นปรมาจารย์เทควันโดที่เปิดยิมเทควันโดเก่าแก่ในกรุงเทพฯ สมาชิกทั้งห้าคนในครอบครัวของเขาล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญเทควันโดเช่นกัน โดยแต่ละคนต่างก็ใช้ทักษะเฉพาะของตนในการผสมผสานศิลปะการป้องกันตัวเข้าด้วยกัน ได้แก่ ภรรยาของเขาชื่อมิจาที่ทำอาหาร ลูกชายชื่อแทยังที่เต้นรำ ลูกสาวชื่อแทมีที่เล่นฟุตบอล และน้องคนเล็กชื่อไต้ฝุ่นที่เล่นด้วยพละกำลังมหาศาล เขาสามารถทำลายทุกสิ่งได้ด้วยหน้าผากอันแข็งแกร่งของเขา
มุนอยากให้ลูกๆ ของเขาเป็นโค้ชเทควันโดและดูแลยิมของเขาในอนาคต อย่างไรก็ตาม แทยังอยากเป็นนักร้องป๊อปชื่อดัง ส่วนแทมีสนใจแค่เพื่อนร่วมชั้นที่โรงเรียนเท่านั้น ซึ่งเธอแอบชอบเขาอยู่ วันหนึ่ง แทยังขัดขวางความพยายามของกลุ่มอันธพาลที่จะขโมยคริส โบราณอันล้ำค่า ปอม หัวหน้ากลุ่มเป็นคนเดียวที่หลบหนีและขู่จะแก้แค้น ครอบครัวของมุนมีชื่อเสียงมากขึ้นในสายตาประชาชน แต่พวกเขาไม่รู้ว่าปอมจะพยายามแก้แค้นเมื่อใดหรือที่ไหน และต้องละทิ้งความขัดแย้งเพื่อยืนหยัดเพื่อครอบครัวของพวกเขา
ผู้กำกับ
- Prachya Pinkaew
บริษัท ค่ายหนัง
- Baa-Ram-Ewe
- Bangkok Film Studio
นักแสดง
- Cho Jae-hyun
- Ye Ji-won
- Phetthai Vongkumlao
- JeeJa Yanin
- Tae-joo Na
โปสเตอร์หนัง
รีวิว
ความเป็นแอ็คชั่นที่แตกต่างจากเรื่องอื่นๆที่ผ่านมา The Kick มีอาวุธเข้ามาใช้ในการต่อสู้ คือ ไม้ง่าม ซึ่งถือว่าเป็นอาวุธที่หาได้ตามธรรมชาติ สอดคล้องกับบุคลิกของหวาหว่า ที่เป็นผู้หญิงชอบอยู่กับธรรมชาติ เหมือนพอเห็นไม้ง่ามเป็นสิ่งรอบตัวปุ๊ป ก็หยิบขึ้นมาใช้ หยิบขึ้นมาสู้ได้อย่างทันที ความยากง่ายของอาวุธไม้ง่ามที่นำมาประกอบคิวบู๊ในครั้งนี้ เริ่มจากการออกแบบท่าทางก่อนค่ะ จากนั้นเริ่มฝึกซ้อม และลงสถานที่จริง มีการเปลี่ยนไม้ง่ามกันบ่อยมาก เพราะว่าบางจังหวะพอต้องต่อสู้กันปุ๊ป ไม้ไม่แข็งพอก็จะหักทันที ก็ต้องรู้จังหวะน้ำหนักของไม้ง่ามที่ต้องใช้ต่อสู้กัน ถ้าเราเล่นด้วยไม้พองหรือว่าดาบไปเลยมันจะเป็นก้านเดียว แต่ด้วยความที่มันมีง่ามแยกออกไป สิ่งที่เราจะต้องหาคือคิวในการเล่นแอ็คชั่น เราจะต้องหาว่าจะเล่นยังไง จะล็อคยังไง ล็อคขาล็อคแขน ก็ต้องมานั่งออกแบบคิดท่าจะให้ออกมายังไงคือพอเรามานั่งเจาะกับไม้นี้จริงๆก็ทำให้รู้ว่า ยังมีอะไรให้เล่นได้อีก และก็ยากด้วย ตอนซ้อมก็แทงผิดแทงถูก แทงเข้าคอบ้าง แทงเข้าปากด้วย ตัวจ้าเองก็โดนไปหลายครั้งเหมือนกัน ก็มีโดนที่หางคิ้ว เข้าปากเหมือนกันค่ะ
เล่าถึงฉากแอ็คชั่นที่ประทับใจ แอ็คชั่นไม้ง่าม เป็นฉากที่จะเข้าไปช่วยลุงหม่ำ แล้วโดนแก๊งค์ผู้ร้ายดัก เราต้องสู้เพียงคนเดียวบนถนนลาดยางและวงเวียนรอบๆเป็นฉากในสวนสัตว์ หาทางหนีก็ไม่ได้พอเห็นต้นไม้ก็หักกิ่งไม้มาใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้ ไม้ง่ามจะยากตรงที่เราต้องคอนโทลควบคุมในการต่อสู้ จะแตกต่างจากไม้พองเพราะจะไปทางทิศเดียวกัน แต่ไม้ง่ามมันจะแยกคนละทิศบางทีก็ยาวไม่เท่ากัน ต้องระวังเรื่องการผิดคิว หากว่ามันพลาดขึ้นมา ฉากแอ็คชั่นน่ารักๆกับแทยังและแทมิ ฉากนี้คือลุงหม่ำพามาหลบจากพวกผู้ร้าย และด้วยความที่เป็นเด็กในเมืองจะติดเกมส์ ต้องคุยโทรศัพท์ ต้องเช็คอินเตอร์เน็ท The Kick จะไม่ยอมทำความสะอาดบ้าน จึงต้องสอนให้พวกเขารู้จักปรับตัว ด้วยวิธีของลุงหม่ำคือ ให้ประลองฝีมือกับหว่าหวา หากใครชนะก็ไม่ต้องทำงานบ้าน
ฉากแอ็คชั่นกับหัวหน้าแก๊งค์โจร ด้วยความที่ซอคดู เขาเป็นคนตัวสูง ส่วนจ้าจะตัวเตี้ยกว่าเขาเยอะเลย เขาจะต้องถีบมาที่หน้าอกจ้า ซึ่งเขาก็พยามถีบให้ต่ำเท่าที่จะต่ำได้นะ แต่ต่ำสุดของเขาคือระดับหน้าจ้า(หัวเราะ) ตอนเล่นแอ็คชั่นด้วยกันก็แอบหวั่นเพราะด้วยความท่เขาเป็นผู้ชายและตัวสุง แต่พอเล่นด้วยกันเขาก็ช่วยเซฟความปลอดภัยให้จ้าได้อย่างดีค่ะ ก็มีเจ็บตัวเป็นธรรมดาแต่เจ็บแป๊ปเดียวก็หายไม่มา สปิริตของนักแสดงเกาหลี แทจู คยองสุก และอิรุ จ้ายกให้เลย เล่นจริงเจ็บจริง คือเขาเล่นกันจริงๆ สปิริตเขาแรงมาก เจ็บจริงๆด้วย ปากแตกก็ประคบ แล้วก็เล่นกันต่อ หรือ นิ้วซ้น เขาก็มาเล่นกันต่อได้เลย อย่างอิรุ กับ คยองสุกเป็นหนังแอ็คชั่นเรื่องแรกของเขา และก็เป็นผู้หญิงด้วยแต่เต็มที่มาก เจ็บตัวก็ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น หัวแตกปากแตกก็เล่นต่อ ใจถึงมากค่ะ ส่วนนักแสดงรุ่นใหญ่เกาหลีทั้งคุณโจแจฮุน และคุณเยจีวอน จ้าสัมผัสจากการแสดงของเขาทั้งสองโดยตรงเลย ไม่ว่าเขาจะทำอะไรอยู่ เขาสามารถเรียกสมาธิกลับมาได้เร็วมาก บทร้องไห้ก็ร้องไห้ได้เลย เก่งมากค่ะ
ความน่าสนใจของภาพยนตร์ สำหรับภาพยนต์ ก็เป็นภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ เป็นการร่วมทุนกันระหว่างไทย-เกาหลี เป็นภาพยนต์ระดับโลก ที่สำคัญเป็นแนวแอ็คชั่น คอมิดี้ด้วย ในเรื่องนี้ก็จะมีอะไรให้ดูหลายๆอย่าง ในส่วนของครอบครัวที่อบอุ่น สนุกสนาน เฮฮา แบบสไตล์เกาหลี คือคุณพ่อจะกลัวภรรยา คุณแม่ก็จะแบบบ้าพลัง คุณลูกจะออกแนวK-Popมากๆ ถ้าจะดูในเรื่องตลกๆ ของฝั่งไทยเราก็มีพี่หม่ำ มีจ้าเข้าไปแทรกด้วย ก็คือพี่หม่ำจะเป็นตัวนำเล่นตลกในเรื่อง มีสีสันหลายๆอย่าง แต่ที่แน่ๆ คือความเข้มข้นของแอ็คชั่นในเรื่องนี้รับรองว่ามันส์ระเบิดแน่นอนค่ะ ฝากผลงาน ขอฝากภาพยนต์เรื่องผลงานล่าสุดของจีจ้าด้วยนะคะ ผลงานกำกับโดยพี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว และก็เป็นการร่วมทุนของไทย-เกาหลี นับว่าเป็นภาพยนต์ฟอร์มยักษ์แห่งปีเลยทีเดียว ครบรสทั้งแอ็คชั่นและสนุกสนานด้วยอารมณ์คอมิดี้ค่ะ
เมื่อฉันบังเอิญไปเจอภาพยนตร์เรื่องนี้โดยบังเอิญ The Kick ฉันก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะปกดูน่าสนใจ และการผสมผสานระหว่างแอ็คชั่น/ศิลปะการต่อสู้และตลกก็ยอดเยี่ยมมาก ฉันจึงซื้อภาพยนตร์เรื่องนี้ทันที การที่ฉันเป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์เอเชียตั้งแต่แรกก็ช่วยได้มาก อย่างไรก็ตาม ไม่ได้โดดเด่นในตลาดภาพยนตร์เอเชียเท่าไรนัก เพราะมีภาพยนตร์ที่ดีกว่ามากมาย อย่างไรก็ตาม อย่าเข้าใจฉันผิด เพราะฉันไม่ได้บอกว่า เป็นภาพยนตร์ที่แย่เลย มันตรงกันข้ามเลย มันแค่ไม่โดดเด่นในตลาดภาพยนตร์แอ็คชั่น/ตลก เรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวชาวเกาหลีที่เคารพศิลปะการต่อสู้เทควันโดโบราณของเกาหลี ซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศไทย พวกเขาเข้าไปพัวพันกับเครือข่ายของการลักพาตัว อาชญากรรม และแก๊งอันธพาล เพราะพวกเขาถูกบังคับให้ขโมยสมบัติของชาติไทยหากต้องการให้สมาชิกครอบครัวที่อายุน้อยที่สุดกลับคืนมาหลังจากถูกลักพาตัวไป
มีตัวละครที่หลากหลาย ตัวละครที่แสดงออกมาได้ดีบนจอและล้วนมีลักษณะ บุคลิก และลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันมาก และขอชื่นชมในเรื่องนี้ เพราะพวกเขาสามารถสร้างกลุ่มคนดีๆ ขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดตัวละครที่มีสีสันเหล่านี้ได้ ในแง่นี้ จึงสร้างความประทับใจได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม เนื้อเรื่องโดยรวมกลับทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูแย่ลงและไม่สามารถสร้างความโดดเด่นให้กับผู้ชมได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้มีสิ่งดีๆ มากมาย หากคุณชื่นชอบศิลปะการต่อสู้
ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นถึงสิ่งเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี และโดยส่วนตัวแล้ว ฉันพบว่าการได้พบกับจีจา ยานนิน (รับบทวาว่า) ในภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก แต่ก็ขอชื่นชมคยองซอก คิม (รับบทแทมี) และแทจู นา (รับบทแทยัง) ด้วยเช่นกัน แม้ว่าฉันจะไม่ชอบการเต้นรำ แต่แทจู นาก็แสดงการกระโดด หมุนตัว และต่อสู้ได้อย่างน่าประทับใจมาก เป็นภาพยนตร์แนวศิลปะการต่อสู้ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว เพราะไม่ได้มีความรุนแรงมากเกินไป แต่มีองค์ประกอบที่เหมาะสำหรับคนทุกวัย มีทั้งฉากแอ็กชั่น ศิลปะการต่อสู้ และตลกขบขัน ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ของแจ็กกี้ ชานเวอร์ชั่นเกาหลี/ไทยก็ได้
น่าเศร้าที่เป็นภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้ของไทยอีกเรื่องหนึ่งที่จบลงด้วยความผิดหวังมากกว่าความตื่นเต้น อย่าเข้าใจฉันผิด ฉันรักและหลงใหลในสี่อันดับแรกของภาพยนตร์ไทยเหล่านี้ที่ฉันดู: ONG BAK, BORN TO FIGHT, WARRIOR KING และ CHOCOLATE เป็นภาพยนตร์เล็กๆ ที่ยอดเยี่ยมที่ฉันสามารถดูซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อย่างมีความสุข แต่ทุกอย่างที่ตามมาหลังจากนั้นล้วนน่าผิดหวัง แม้ว่าผู้กำกับ ONG BAK อย่างปรัชญา ปิ่นแก้วจะเข้ามาควบคุมงาน และการออกแบบท่าต่อสู้จากปันนา ฤทธิไกร ผู้เฒ่าผู้แก่ ก็ยังเป็นภาพยนตร์ที่น่าผิดหวัง มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการตามล่าหากริช (มีดสั้นประเภทหนึ่งของตะวันออก) ที่ล้ำค่า แต่เรื่องราวหลักกลับถูกขัดขวางด้วยการแสดงตลกของทีมเทควันโดเกาหลีที่น่ารังเกียจซึ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง เหตุผลที่รวมอยู่ด้วยก็เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับทุนสนับสนุนบางส่วนจากเกาหลีใต้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเกาหลีใต้ต้องการมีส่วนร่วมในศิลปะการต่อสู้
ปัญหาคือเราจะเห็นนักแสดงอย่างแทจู นา ครองเวลาส่วนใหญ่ในจอ นักแสดงเกาหลีคนนี้แสดงได้แย่และศิลปะการต่อสู้ของเขาก็ไม่ดีขึ้นเลย และฉากที่เขาเต้นฮิปฮอปเพื่อปราบผู้ร้ายก็น่าอายมาก อย่างน้อยก็มีเพชรไท วงศ์คำเลา (THE BODYGUARD) ที่น่าเชื่อถือมาสร้างเสียงหัวเราะ และจีจ้า ญานิน (CHOCOLATE) ที่ยอดเยี่ยมมารับบทนักสู้อีกคน แต่พวกเขาควรจะเน้นเรื่องราวไปที่ญานินเท่านั้นและเน้นที่การออกแบบท่าเต้นที่ดีและฉากต่อสู้ที่เข้มข้นมากกว่า แล้วเรื่องนี้ก็จะเป็นอะไรที่พิเศษแทนที่จะเป็นอะไรที่อ่อนแอและธรรมดา
ครอบครัวนักศิลปะการต่อสู้ชาวเกาหลีใต้กำลังเดินทางไปแข่งขัน แต่บังเอิญว่าพวกเขาเข้าไปพัวพันกับแผนการขโมยมีดโบราณที่ประเมินค่าไม่ได้ แต่ถ้าจะให้ตีความก็คงประมาณ 33 ล้านเหรียญสหรัฐ ครอบครัวนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นฮีโร่จากการแทรกแซง The Kick แต่กลับกลายเป็นเป้าหมายของแก๊งค์เมื่อพวกเขามาเพื่อแก้แค้น หลังจากที่ประทับใจ Jija Yanin Mitananda ใน Chocolate มาก ฉันก็เลยหาหนังเรื่องอื่นที่มีเธอแสดงด้วย และตัวอย่างหนังเรื่องนี้ก็ดูดีมาก เหตุผลก็คือ หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม และโชคดีที่หนังเรื่องนี้สะท้อนถึงหนังได้ดี เพราะมีฉากแอ็กชั่นมากมาย และหลายฉากก็ประทับใจมาก ทักษะของนักแสดงหลักก็น่าประทับใจ และมีฉากที่ออกแบบท่าเต้นได้ดีมากอยู่หลายฉาก ปัญหาคือตัวหนังเองนั้นค่อนข้างแย่ และแม้ว่าฉากแอ็กชั่นบางส่วนจะชดเชยได้ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ เนื้อเรื่องค่อนข้างอ่อนแอและแทบไม่มีเหตุผลเลย การนำเสนอความตลกนั้นแย่มากและการใช้ดนตรีก็แย่มากโดยเฉพาะฉากต่อสู้ที่ตัวละคร “เต้นรำ” ฝ่าฟันผู้ร้าย มีหลายอย่างที่เป็นแบบนี้และมันทำให้หนังเรื่องนี้แย่ลง และฉันยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปอีกเมื่อการเคลื่อนไหวหรือฉากที่เจ๋งจริงๆ เข้ามาเตือนฉันว่าหนังสามารถทำอะไรได้บ้าง
ในแง่ของการแสดง ฉันตัดสินได้ยากเพราะฉันดูเวอร์ชันพากย์เสียง เช่นเดียวกับช็อกโกแลต ฉันชอบญานินมาก เธอสวยมาก แต่ความสามารถทางกายภาพของเธอสุดยอดมาก เธอต้องการภาพยนตร์ที่สนับสนุนเธอจริงๆ หว่องคำเหลาค่อนข้างตลกในเรื่องนี้ ฉันไม่ได้ชอบเขาเสมอไปในภาพยนตร์เรื่องก่อนๆ แต่ในเรื่องนี้ เขาทำหน้าที่สร้างความบันเทิงให้กับคนดูได้ อีคนเกาหลีเป็นตัวร้ายที่ดี ถ้าคุณมองข้ามแรงจูงใจของตัวละครของเขาไป แรงจูงใจของเขาแทบจะไม่สมเหตุสมผล แต่บอดี้การ์ดของเขานั้นดีมาก ครอบครัวที่เหลือก็ผสมปนเปกัน แต่ฉันชอบตัวละครลูกชาย ลูกสาว และแม่ พ่อและลูกที่น่ารักที่ฉันไม่ต้องการ เป็นภาพยนตร์ที่อ่อนแอ แต่มีฉากกายภาพที่ยอดเยี่ยมมาก ดีมากจนสมควรได้รับภาพยนตร์ที่ดีกว่าเรื่องนี้
ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Challengers (2024) ชาเลนเจอร์ส
6.8