ดูหนัง The Hobbit 3 The Battle of the Five Armies (2014) เดอะ ฮอบบิท 3 : สงคราม 5 ทัพ
เรื่องย่อ
The Hobbit 3 The Battle of the Five Armies (2014) เดอะ ฮอบบิท 3 : สงคราม 5 ทัพ บทสรุปการผจญภัยของ บิลโบ แบ็กกิ้นส์ (มาร์ติน ฟรีแมน), ธอริน โอเคนชิลด์ (ริชาร์ด อาร์มิเทจ) และคณะคนแคระที่ทวงคืนบ้านเกิดของตนจาก มังกรสมอว์ก (เบเนดิคต์ คัมเบอร์แบ็ตช์) ซึ่งเหล่าคณะได้ปลุกพลังอันชั่วร้ายขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ สมอว์ก โกรธแค้นและได้พ่นไฟทำร้ายมนุษย์ทั้งหญิงชายและเด็ก ๆ ที่ไม่มีทางสู้ในเมืองทะเลสาบด้วยความเดือดแค้น ด้วยความต้องการที่อยากจะไปทวงคืนทรัพย์สมบัติ ธอริน ยอมเสียสละมิตรภาพและเกียรติยศเพื่อใส่ร้ายว่าเป็นแผนชั่วของ บิลโบ
เพื่อทำให้เขาเห็นเหตุผลที่ควรให้ฮอบบิทเดินหน้าต่อไปท่ามกลางความรุนแรงและภัยอันตราย แต่กลับมีอันตรายที่โหดร้ายกว่ารออยู่เบื้องหน้า ซึ่งไม่มีใครมองเห็นได้นอกจาก พ่อมดแกนดาล์ฟ (เอียน แม็คเคลเลน) ศัตรูผู้ยิ่งใหญ่อย่า ซอรอน ได้เคลื่อนทัพไปพร้อมกับกองทัพออร์คเพื่อแอบซุ่มโจมตีที่หุบเขาเดียวดาย การต่อสู้ของพวกเขาทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ คณะคนแคระ พวกเอลฟ์และมนุษญ์ต้องเลือกว่าจะร่วมมือกันหรือยอมถูกทำร้าย ชีวิตการต่อสู้ของ บิลโบ และเพื่อน ๆ ของเขาต้องอยู่ใน Battle of the Five Armies อันยิ่งใหญ่ เมื่ออนาคตของมิดเดิ้ลเอิร์ธต้องอยู่บนความสมดุล
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังฝรั่ง เรื่อง The Hobbit 3 The Battle of the Five Armies (2014) เดอะ ฮอบบิท 3 : สงคราม 5 ทัพ หนังประเภท Adventure ผจญภัย เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนัง ออนไลน์ ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
ปีเตอร์ แจ็กสัน
บริษัท ค่ายหนัง
- วอร์เนอร์บราเธอร์สพิกเชอส์
- นิวไลน์ซินีมา
- เมโทร-โกลด์วิน-เมเยอร์
- วิงนัตฟิล์มส์
นักแสดง
- เอียน แมคเคลเลน
- มาร์ติน ฟรีแมน
- ริชาร์ด อาร์มิเทจ
- อีแวนเจไลน์ ลิลลี
- ลี เพซ
- ลุค อีแวนส์
- เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์
- เคน สตอตต์
- เจมส์ เนสบิตต์
- เคต แบลนเชตต์
- เอียน โฮล์ม
- คริสโตเฟอร์ ลี
- ฮิวโก วีฟวิง
- ออร์แลนโด บลูม
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
จิบชา รับลม กับมิสเตอร์ อเมริกัน
The Hobbit: The Battle of the Five Armies (สงครามห้าเหล่าทัพ) (2014) (Peter Jackson) (B+)
หลังสังหารมังกรสม็อคแล้ว เรื่องราวก็ยังไม่จบสิ้น เมื่อพวกธอรินและเหล่าคนแคระได้เข้าไปในอาณาจักรเดิมของพวกเขาอันมั่งคั้งเพื่อหาหินแห่งกษัตริย์ของพวกเขา รวมทั้งเสพความมั่งคงจนหลงลืมสัญญาที่มอบไว้ให้แก่ชาวเมืองที่นำโดย บาร์ด ผู้นำชาวเมืองที่เหลือรอดว่าจะแบ่งส่วนแบ่งไว้ให้ ทำให้ บิลโบไม่พอใจเท่าใดนักเพราะ รู้สึกว่า เจ้าชายคนแคระคนนี้ได้หลงลืมสัญญาไปเสียแล้ว ทว่าความขุ่นข้องหมองใจก็ได้มาถึงจุดสิ้นสุดเมื่อ ราชาเอลฟ์ พ่อของเลโกลัสได้นำทัพมายังที่นี่เพื่อทวงคืนอัญมณีของตัวเอง เช่นเดียวที่ญาติของธอรินนำทัพคนแคระมาช่วยด้วย และการตายของสม็อคได้ดึงดูดให้พวกอ็อคโฉดเดินทางมาที่นี่เพื่อสังหารทุกคนให้สิ้น จุดจบแห่งการเดินทางครั้งนี้ของบิลโบจะเป็นเช่นไร
ภาคจบของไตรภาค Hobbit ครับ และ มัจฉิมโลกครับ เป็นภาคจบที่เกิดขึ้นด้วยเหตุของเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ บวกกับการที่แจ็คสันมีเรื่องที่จะเล่าอีกเยอะทำให้เขาตัดสินใจเพิ่อภาคขึ้นมาเพือเล่าเรื่องนี้ต่อครับ (จากตอนแรกวางไว้สองภาค) ส่งผลให้เนื้อหาของภาคนี้มันดูเบา ๆ โหว่ง ๆ ไม่มีเนื้อเท่าไหร่ เสมือนองค์สามของหนังที่มีไว้ให้จบเนื้อหาลงเท่านั้นครับ แน่ล่ะว่า ความประทับใจของผมในภาคนี้ทั้งฉากสู้กับมังกรตอนแรก สงครามตอนกลาง กระทังจบ นั้นอยู่ในสภาพว่า มันก็สนุกแต่ยาวไปหน่อย คือ รู้สึกว่า มันใส่มาเยอะเกินไปจนเนื้อหามันเบามาก (เหมือนยัดฉากแอ็คชั่นมาเยอะเกินไป) ทำให้สงครามมันดูมั่ว ๆ แต่รู้สึกไม่ฟินเท่าไหร่นัก ถ้าเทียบกับ The Lord of the Ring 3 เอาจริงมันน่าจะอยูในระดับภาคสองล่ะมั้งครับ
แต่ผมว่า ภาคสองของ Lord ดีดว่า เพราะ เนื้อหามาจากหนังสือหนึ่งเล่ม แต่สำหรับเรื่องนี้คือการตัดช่วงหลังของหนังสือมาเล่าแล้วเสริมเข้าไปทำให้เนื้อหามันมีส่วนจำเป็นและไม่จำเป็นไปหมด
ส่วนจำเป็นเนื้อหาในการเรื่องความโลภที่หนังอย่าง Lord เหมือนจะเสนอมันมาตลอดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากความโลภทั้งนั้น ได้แก่ ความโลภในอำนาจ ความโลภในทรัพย์สมบัติ ความลุ่มหลงในสิ่งต่าง ๆ ที่ได้นำพาความตายหรือความพินาศมายังยังตัวละครต่าง ๆ อย่างไม่ละเว้น ไม่ว่าจะเป็นซอร์รอนเอง กอลลั่ม ไปจนถึงราชาคนแคระปู่ของธอริน มังกรสม็อค เจ้าเมือง ธอริน ไปจนถึงบรรดาคนอื่น ๆ ที่ไปข้องเกี่ยวกับสิ่งนี้ หากจะพูดว่า มันคือ มรณกรรมของความโลภ ไม่สิ ความคนที่โลภจนเกินเลยอาจจะย่อมได้ หนังพาเราเห็นจุดจบเหล่านั้นให้แบบเต็มตาและสอนเราว่า ความโลภความหลงมัวเมาในอะไรสักอย่างพร้อมจะทำลายเราให้หมดสิ้นได้ประดุจเพลิงเผาผลาญจนต้องทรมานไม่จบสิ้น
ผมชอบที่หนังมันแสดงภาพจุดจบพวกนี้มาตลอดนะ แต่สิ่งที่หนังพลาดคือ การขยายเรื่องนี่ล่ะที่เอาจริง แจ็คสันไม่น่าเพิ่มตัวละครใหม่เข้าไปเลย เพราะ มันทำให้หนังองค์นี้มันเบาไป (เมื่อเทียบกับภาคสองที่ผมชอบมาก ๆ ฉากเจอสม็อคในเหมืองนี่ไฮไลท์มาก ๆ) บทบาทของตัวละครอื่นที่เพิ่มมาก็ไม่มีอะไรโดดเด่นนักจนต้องถามว่า ใส่มาเพื่อ สุดท้ายแล้วหนังก็ไม่ได้ใช้ตัวละครนี้คุ้มค่าเท่าไหร่นักจนน่าเสียดาย
สิ่งที่ชอบคือ ฉากที่บิลโบกลับมาบ้านนั่นล่ะ ผมเขียนไว้นในภาคแรกว่า บิลโบคนเดิมได้จากไปแล้วในวันที่เขาวิ่งตามแกรนดาร์ฟออกจากบ้าน บิลโบผู้ใส่ซื่อเปลี่ยนไปแล้ว เขากลายเป็นคนเติบโตขึ้นแล้วนั่นเอง แม้ว่า แหวนที่เขาจะได้ทำให้เขาเปลี่ยนนิสัยไปเป็นคนล่ะคนและนำพาชีวิตเขาไปในสิ่งที่เรารู้ในตำนานแหวนนั่นเอง
กระนั้นการนั่งดูเรื่องนี้จนจบ ผมก้รู้สึกว่า น้ำตาไหลนะครับ ปริ่ม ๆ ออกมา เพราะนี่คือ ภาคสุดท้ายของไตรภาคนี้และสุดท้ายของตำนานมัจฉิมโลกแล้วนั่นเอง ผมเองก็โตมากับหนังชุดนี้และค่อนข้างผูกผันกับมันมาก ๆ (อาจจะมากกว่าพ่อมดบ้างเรื่องด้วย) การได้เห็นไตรภาคนี้มาจนจบได้ ผมแอบใจหายไปนิด ๆ ว่า กำลังเสียเพื่อนเก่าของตัวเองไปแล้วนั่นเอง ผมจึงนั่งดูและโบกมือลาให้เรื่องนี้ไปด้วยความดีใจและเศร้าใจเล็ก ๆ ที่จะไม่ได้ไปผจญภัยในดินแดนนี้อีกแล้ว
ขอบคุณแจ็คสันและทีมงานอีกครั้งครับที่ทำเรื่องนี้ให้ได้ดู !!
ป.ล. ชอบโปสเตอร์นี้ที่สุดครับให้อารมณ์ผู้กล้าสู้กับมังกรดี เจ๋งมาก 555
cricketbat
5/10
จุดอ่อนที่สุดในบรรดาการดัดแปลงโทลคีนของปีเตอร์ แจ็กสัน
The Hobbit: The Battle of the Five Armies เป็นภาพยนตร์ที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาภาพยนตร์ดัดแปลงของโทลคีนของปีเตอร์ แจ็คสัน แม้ว่านี่จะเป็นภาพยนตร์ที่สั้นที่สุดในมิดเดิลเอิร์ธ แต่เรื่องราวก็ดำเนินไปราวกับว่ามันยาวที่สุด แต่ฉันเดาว่านั่นคือสิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อคุณขยายหนังสือเล่มหนึ่งเป็นภาพยนตร์สามเรื่อง นอกจากนี้ ฉากการต่อสู้ยังสร้างด้วยคอมพิวเตอร์จนดูเหมือนเป็นภาพยนตร์ในเกม น่าเสียดายที่หนังซีรีย์เรื่องนี้ต้องจบด้วยบันทึกนี้
lightningnbreeze99
เรตติ้งหนังเป็นเรื่องส่วนตัวมาก…
แม้ว่าฉันจะสนุกกับภาคแรกและภาคสองมาก แต่ฉันก็ไม่อยากดูภาคสามเพราะว่าทุกคนที่ฉันรู้จักต่างก็บอกว่ามันน่าผิดหวัง วันนี้ฉันได้ดูมันแล้ว และรู้สึกผิดหวังในตัวเองมากที่ให้เครดิตกับสิ่งที่คนอื่นคิดมากเกินไปเกี่ยวกับสิ่งที่ปีเตอร์ แจ็คสัน นำเสนอผ่านภาพยนตร์สองภาคก่อน หนังดำเนินเรื่องเร็วมาก ไม่มีฉากที่น่าเบื่อเลย มีบางสิ่งเกิดขึ้นซึ่งฉันให้ความสนใจอย่างเต็มที่เสมอ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่สะเทือนอารมณ์และน่าจดจำซึ่งหาได้ยากในภาพยนตร์ที่ฉันดูตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทุกคนมาจากภูมิหลังที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบหรือไม่ชอบหนังเรื่องเดียวกัน แต่ฉันคิดว่าหนังเรื่องนี้มีความลึกซึ้งจริงๆ และฉันเสียใจที่ไม่ได้ดูในโรงภาพยนตร์ ภาพยนตร์ของ Peter Jackson มีแต่ IMO ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
The Hobbit: An Unexpected Journey (2012) เดอะ ฮอบบิท: การผจญภัยสุดคาดคิด
The Hobbit 2 The Desolation of Smaug (2013)
The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001) เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์: อภินิหารแหวนครองพิภพ
The Lord of the Rings The Rings of Power (2022) แหวนแห่งอำนาจ
7.1