The Godfather 1 (1972) เดอะ ก็อดฟาเธอร์ ภาค 1
เรื่องย่อ
เมื่อหัวหน้าใหญ่ของตระกูลมาเฟียเกือบเอาตัวไม่รอดจากแผนร้ายมุ่งเอาชีวิต ลูกชายคนสุดท้องของตระกูลจึงต้องก้าวมาตอบโต้ เทพนิยายหลายรุ่นของการเพิ่มขึ้นและการล่มสลายของตระกูลอาชญากรรม
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังฝรั่ง เรื่อง The Godfather 1 (1972) เดอะ ก็อดฟาเธอร์ ภาค 1 หนังประเภท Crime อาชญากรรม เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง ดูหนัง ออนไลน์ หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา
บริษัท ค่ายหนัง
- พาราเมาต์พิกเจอส์
- อัลแฟรนโปรดักชันส์
นักแสดง
- มาร์ลอน แบรนโด
- อัล ปาชิโน
- เจมส์ คาน
- ริชาร์ด คาสเตลลาโน
- โรเบิร์ต ดูวัล
- สเตอร์ลิง เฮย์เดน
- จอห์น มาร์เลย์
- ริชาร์ด คอนเต
- ไดแอน คีตัน
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
Zae50120
The Godfaher (Part1)เดอะ ก็อดฟาเธอร์(เจ้าพ่อมาเฟีย) สร้างจากนิยายของมาริโอ พูโซ
แนวภาพยนตร์ เป็นหนังแนวดราม่า โดยมีแอ็คชั่น+ดราม่ามี โรแมนติค เป็นส่วนประกอบในเรื่อง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ เล่าเรื่องราวของครอบครัวมาเฟียเชื้อสายอิตาลีครอบครัวหนึ่ง ในอเมริกายุค1940-1950 ที่ทรงอำนาจ มีบทบาทอย่างสูงและต้องดำรงอยู่บนเส้นทางแห่งอิทธิพล ท่ามกลางการแย่งชิงอำนาจ การหักหลัง การใช้ความรุนแรงของอิทธิเถื่อนระหว่างแก็งค์มาเฟียกลุ่มต่างๆ และความสัมพันธ์ครอบครัว สมาชิกในครอบครัว คนในปกครองและการก้าวขึ้นเป็นใหญ่บนวิถีแห่งมาเฟีย
ตัวละครหลัก
ดอน วิโต คอร์ลิโอเน่(มาร์ลอน แบรนโด) หัวหน้าครอบครัว เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด ลูกน้องทุกคนต้องเคารพยำเกรง มีความเป็นสุภาพบุรุษ เยือกเย็น ใจกว้าง ให้อภัย มีบารมีสูง เป็นที่เคารพนับถือของทุกคน
ซันนี่(ซานติโน) (ไมเคิล คาน)พี่ชายคนโต เป็นคนใจร้อน หุนหันพลันแล่น มุทะลุ ชอบควบคุมและออกคำสั่ง ชอบใช้กำลัง
เฟรดดี้ (เฟรโด) (จอหน์ คาเซล) พี่ชายคนรอง เป็นคนเสเพล ชอบความบันเทิง ดูอ่อนแอ และไม่มีบุคลิกของความเป็นผู้นำ
ไมเคิล (อัล ปาชิโน) มีความเด็ดขาด นิ่ง สุขุม ฉลาด แต่ร้ายลึก มีเล่ห์เหลี่ยม แอบโหด มองการณ์ไกล ในตอนแรกดูเป็นคนที่ ไม่สนใจเรื่องภายในคอบครัว และธุรกิจของครอบครัว แต่เพราะผลกระทบจากความรุนแรงจากแก็งค์มาเฟียฝ่ายตรงข้าม ในเหตุการณ์ลอบยิงผู้เป็นพ่อทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นสาเหตุทำให้ไมเคิลจำเป็นต้องก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งอำนาจมาเฟีย ซึ่งไมเคิลเป็นคนที่มีบุคลิก คุณสมบัติ เหมาะสมที่สุดในบรรดาพี่น้อง ที่จะก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าครอบครัวมาเฟียคนต่อไป
สิ่งที่ประทับใจ หรือ ฉากที่ประทับใจ
สิ่งประทับใจแรกที่ต้องบอกเลย คือ การแสดงอันยอดเยี่ยมบทบาทหนึ่งในโลกภาพยนตร์ (ตั้งแต่ดูหนังมาของจขกท.) ของมาลอน แบรนโด ในบทเจ้าพ่อ ดอน วิโต คอร์ลีโอเน่ แบรนโดทำให้ผู้ชมเชื่อว่ารูปร่างหน้า ลักษณะ บุคลิกแบบนี้ คือคนที่เป็นเจ้าพ่อมาเฟียจริงๆ ไม่ใช่เป็นนักแสดงที่กำลังสวมบทบาทแสดงเป็นเจ้าพ่ออยู่ ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า ท่าทาง การพูด โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวมือ(หรือใช้ภาษามือ) แบรนโดในบท เจ้าพ่อคอร์ลิโอเน่เป็นเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ คือคนที่ผ่านประสบการณ์มามาก อ่านเกม แผนการ ของฝ่ายตรงข้ามออก ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เขารู้ว่าเหตุการณ์อะไร กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป และจะเป็นไปอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น ในฉากหนึ่งที่เขานั่งคุยกับไมเคิล ลูกชายคนที่ไว้ใจได้มากที่สุด ที่สวนหลังบ้าน ดอน วิโต บอกกับไมเคิล ว่า อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อมีคนสนิทที่ครอบครัวไว้ใจที่สุด นัดพบกับหัวหน้าของอีกแก็งค์มาเฟียอีกฝ่ายหนึ่ง ในวันนั้นจะเป็นที่ไมเคิล จะถูกลอบปองร้าย
ฉาก ไมเคิลตัดสินใจ ยิงโซลอสโซกับหัวหน้าตำรวจในร้านอาหาร ขณะที่อาศัยใช้เสียงรถไฟผ่านเป็นโอกาสกลบเสียงปืน เป็นฉากเร้าอารมณ์คนดูพร้อมกับเสียงรถไฟใกล้เข้ามา
ฉากที่ดอน คอร์ลีโอเน่ ผู้พ่อ ต้องเก็บอาการเศร้าเสียใจ กลั้นน้ำตา เมื่อทนายประจำครอบครัว บอกว่า ซันนี่ ลูกชายคนโต ถูกลอบสังหารอย่างทารุณ
ฉากที่ดอน คอร์โอเน่นัดพบประชุมกัน ของหัวหน้าครอบครัว แก็งค์มาเฟีย จากเมืองต่างๆทั่วอเมริกา
ฉาก เล่นกับหลานในสวน ก่อน สิ้นลมหายใจ
ฉากที่ไมเคิลกำลังเข้าพิธีรับเป็นพ่อทูลหัวแก่ลูกชายของพี่สาวในโบสถ์ ตัดสลับกับภาพที่ลูกน้อง มือสังหารของไมเคิล กำลังปฏิบัติการสังหารบุคคลต่างๆที่เป็นเสี้ยนหนาม ขัดขวาง คิดล้มตระกูลคอร์ลีโอเน่ แสดงสื่อให้เห็นภาพของ เจ้าพ่อมาเฟียที่เบื้องหน้าดูสะอาด สุจริต น่านับถือ แต่มีเบื้องหลัง คือผู้บงการ สั่งฆ่าทุกคนที่ขวางเส้นทางอำนาจได้อย่างเลือดเย็น เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังอิทธิพลมืด
ฉากสุดท้าย ที่บรรดาลูกน้องคนสนิทของไมเคิล บรรจงจุมพิตมือของไมเคิลราวกับยกย่องให้ไมเคิล เป็นเจ้าพ่อ ดอน หัวหน้าแก็งค์คนใหม่ของครอบครัวคอร์ลิโอเน่ ซึ่งอยู่ในสายตาที่หวาดระแวง คลางแคลงใจของภรรยา
ธีมดนตรีประกอบ Speak Softly Love “The Godfather” theme song ให้ความรู้สึก นิ่ง ลุ่มลึก เรียบง่าย คลาสสิค ยิ่งใหญ่ และเป็นซิซิเลียนอย่างเด่นชัด
ในเรื่องนี้ ตัวละครผู้หญิงจะมีบทบาทค่อนข้างน้อย จะยกเว้นก็มีเพียงภรรยาของไมเคิล ที่ดูจะมีบทบาทค่อนข้างมากหน่อย เพราะดูเหมือน วัฒนธรรมของครอบครัวมาเฟียอิตาลี จะเน้นที่บทบาทของผู้ชายเป็นใหญ่ เพราะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องจัดการเรื่องธุรกิจ เป็นผู้จัดการงานนอกบ้านทุกอย่าง
ตัวหนัง
จะเล่าเรื่อง เดินเรื่องอย่างเรียบง่าย ค่อยๆเล่าเรื่องแบบร้อยเรียงเรื่องราว แต่มีรายละเอียดมากในทุกฉาก ผู้ชมต้องเก็บรายละเอียดในเรื่องราวในทุกฉาก จากคำพูดของตัวละครในเรื่อง เพราะมีตัวละครหลายตัว ตามการกระทำและตามความคิดของตัวละครตัวนั้นๆให้ทัน จึงจะซึมซับไปกับเนื้อเรื่องได้
ตย.เช่นฉากที่ ทนายประจำครอบครัวกับเทซซิโอคนสนิทของครอบครัว กำลังจะเดินทางไปพบกับหัวหน้าของอีกแก็งค์หนึ่ง แต่ลูกน้องของไมเคิลให้เทซซิโอนั่งรถอีกคันไปกับพวกเค้า แล้วทนายก็เลี่ยงตัวออกไป ตอนนั้น สีหน้า แววตาของเทซซิโอทำให้ผู้ชมรู้ว่า ตนจะต้องถูกเก็บ ไม่รอดแล้ว จึงพูดร้องขอชีวิต ในฐานะที่เป็นเพื่อนเก่าแก่ของครอบครัว)กับทนายแต่ไม่เป็นผล ในที่สุดเทซซิโอก็นั่งรถไปกับลูกน้องของไมเคิล (ซึ่งหมายถึงตัวเองจะต้องโดนเก็บอย่างแน่นอน)
มีการใช้เทคนิคเล่าเรื่องทางด้านภาพ และการตัดต่อสูง ตัดสลับช่วงเวลา/สถานที่ในบางฉาก หนังไม่ได้บอกตรงๆว่ากำลังจะทำอะไรกำลังจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น แต่ใช้เทคนิคบอกผ่านคำพูด สีหน้า ท่าทาง อารมณ์ การกระทำของตัวละครตัวนั้นๆเป็นตัวเล่าเรื่อง
นักแสดงแต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเอง รวมเป็นองค์ประกอบได้สมบูรณ์
โทนสีในหนัง เป็นสีแบบวินเทจ(Vintage) ให้ความรู้สึกเก่า แต่ดูมีคุณค่า คลาสสิค เน้นแสงเงาในบางฉาก ฉากบู๊ แอ็คชั่น
ความรุนแรงของภาพในหนัง ใช้เพื่อเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของเรื่องราวในหนัง ไม่มีการสร้างอารมณ์ร่วม แต่คนดูจะรู้ว่ามีการเตรียมตัวจะปฏิบัติการบางอย่าง จากการกระทำของตัวละคร ฉากความรุนแรงดูมีความเบา น้อยมาก เมื่อเทียบกับหนังสมัยนี้
สรุป
เป็นหนังที่สุดยอดครับ ละเมียดละไม นิ่ง สง่า คลาสสิค โดยเฉพาะการแสดงอันสุดยอดของมาลอน แบรนโดเป็นที่สุดจริงๆ หนังมีละเอียดในทุกฉาก เล่าเรื่องได้น่าติดตาม การใช้เทคนิภาพแทนการเล่าเรื่อง ผู้ชม ดูแล้วต้องตามรายละเอียดของเรื่องให้ทัน และต้องจดจำชื่อตัวละคร (ใครที่ไม่เคยดู แนะนำให้ดูฉบับพากย์ไทยก่อน และค่อยดูฉบับเสียงจริง จะทำให้ดูเข้าใจง่ายขึ้น ถ้าใครที่ดูแล้วตามเรื่องทัน ซึมซับไปกับชีวิตครอบครัวมาเฟียของตระกูลคอร์ลิโอเน่ จะซาบซึ้ง กับสำนวนที่ว่า “ยิ่งสูง ยิ่งหนาว, อยากจะใหญ่ ใจต้องนิ่ง(และเหี้ยมด้วย)”
คะแนนของเวปหนังต่างประเทศ
IMDB 9.2
Rotten Tomatoes 100%! เต็ม
หนังดี มันจะเป็นอมตะ ไม่มีคำว่าเก่า
ประโยคคลาสสิค
Don Corleone: “I’ll give him an offer he can’t refuse.”
One of the greatest quotes of all time
Don Corleone: You talk about vengeance. Is vengeance going to bring your son back to you? Or my boy to me?
Be my Friend? God Father
แกอยู่กับครอบครัวบ้างไหม
อ๋อ แน่นอนครับ
ดี เพราะคนที่ไม่อยู่กับครอบครัว ไม่มีทางเป็นลูกผู้ชาย
Don Corleone: Call Bonasera. We need him now.
[Tom Hagen calls Amerigo Bonasera]
Tom Hagen: [on the phone] This is Tom Hagen, calling for Vito Corleone at his request. Now, you owe your Don a service. He has no doubt that you will repay him. In one hour he will be at your funeral parlor to ask for your help. Be there to greet him.
[as ordered, a nervous Bonasera meets the Don at his parlor]
Don Corleone: Well, my friend, are you ready to do me this service?
Bonasera: Yes. What do you want me to do?
[the two walk into the embalming room, where a corpse lies on a table… ]
Don Corleone: [staring at the table] I want you to use all your powers, and all your skills. I don’t want his mother to see him this way.
[he draws back the sheet to reveal, to a horrified Bonasera, the bullet-smashed face of Sonny Corleone]
Don Corleone: [breaking down for a moment] Look how they massacred my boy…
โบนาเซร่า มิตรของฉัน พร้อมจะช่วยเหลือฉันแล้วหรือยัง (โบนาเซร่า คือสัปเหร่อ ที่มาขอความเป็นเพื่อนกับดอนในตอนต้นเรื่อง) ตอนแรกคิดว่าจะให้ช่วยแก้แค้น แต่กลับเป็นว่าให้ช่วยแต่งศพซันนี่ ลูกชายที่ถูกยิงเสียชีวิต
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
เพื่อให้ได้ภาพลักษณ์ของมาเฟีย แบรนโด ลงทุนเอาก้อนสำลียัดใส่ข้างกระพุ้งแก้มให้ดูหน้าตาขึงขัง ดุดันขึ้นและปรับโทนเสียงของตัวเอง
บทไมเคิล คอร์ลีโอเน่ เคยผ่านการทาบทามให้มารับบทนี้ ทั้งโรเบิร์ต เรดฟอร์ด ,ไรอัน โอนีล ซิลเวสเตอร์ สตอลโลนม แอนดี้ การ์เซีย ก่อนจะมาตกอยู่กับนักแสดงโนเนม(ในขณะนั้น)อย่างอัล ปาชิโน
ทาเลีย ไชร์ ในบทลูกผู้หญิงคนเดียวในบรรดาลูกๆ4คนของ วิโต เป็นพี่สาวแท้ๆของ ผกก.ฟรานซิส ฟ. คอปโปลา ซึ่งเกือบจะไม่ได้เล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะผกก.กลัวว่าจะถูกครหาเรื่องใช้เส้นผู้กำกับ
มาร์ลอน แบรนโด เขาได้รับออสการ์ในปี 1972 จาก The Godfather เขาปฏิเสธรางวัล เพราะเขาคิดว่าฮอลลีวูดนั้นสร้างภาพที่ไม่ดีนักให้กับเหล่าอเมริกันพื้นเมือง หรือ อินเดียนแดง
ขอออกตัวก่อนว่า เป็นมือใหม่หัดวิจารณ์
หากท่านใดมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมอย่างไร ก็เชิญโพสกันนะครับ
andrewburgereviews
The Godfather 1 (1972) เดอะ ก็อดฟาเธอร์ ภาค 1
10/10
ข้อเสนอที่ดีจนฉันปฏิเสธไม่ได้
ตอนนี้บ่าย 1 โมงแล้ว ฉันเพิ่งดู “The Godfather” ของ Francis Ford Coppola จบไป ฉันควรจะไปนอนได้แล้ว ดึกแล้วพรุ่งนี้ฉันต้องตื่นเช้าหน่อย แต่ยังไม่เร็วพอที่จะเลื่อนการเขียนบรรทัดเหล่านี้ ตอนนี้ฉันได้ดูมาแล้วสามครั้ง โอกาสในการแบ่งปันความคิดและข้อมูลเชิงลึกที่สดชื่นนั้นถือเป็นข้อเสนอที่ดีเกินกว่าจะรับไว้ ดังนั้นอดทนกับฉัน
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ผลดีมากเพราะมันเกิดขึ้นในยมโลกที่เราถูกฝังลึกจนเราไม่สามารถสังเกตเห็นมันได้ คอปโปลาทำให้เราตกอยู่ในศูนย์กลางของสังคมที่อาชญากรสร้างขึ้นเพื่ออาชญากร นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมที่นี่ถึงให้การต้อนรับดีมาก เราถูกรายล้อมไปด้วยผู้อยู่อาศัย ซึ่งเป็นฆาตกรเลือดเย็น ผู้ชายที่มองอาชญากรรมเหมือนกับงาน 9 ถึง 5 งานที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายที่มีเกียรติ และฉันหมายถึงผู้ชาย จากภายนอก เราจะเห็นเพียงการแสดงท่าทางที่น่าสะพรึงกลัวและน่ากังวลของการกระทำที่คิดมาอย่างดีของพวกเขาเท่านั้น
แต่มันไปลึกกว่านั้นอีก ทุกอย่างหมุนรอบครอบครัว Corleone ที่นำโดย Don Vito Corleone (Marlon Brando) เขาเป็นคนซื่อสัตย์ที่สุดในหมู่คนเหล่านี้ โดยนั่งอยู่ริมขอบถนน แต่สำหรับคนอย่างเขาที่ไม่ยอมรับโลกนี้อย่างเต็มที่ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาหลีกเลี่ยงความขัดแย้งจนกว่าจะมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เขาเป็นผู้ชายที่กำหนดโดยหลักศีลธรรม มีฉากหนึ่งในช่วงเริ่มต้นซึ่งในระหว่างวันแต่งงานของลูกสาว ลูก้า บราซี (เลนนี่ มอนทาน่า) เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของเขาฝึกพูดที่จะมอบให้ดอนเมื่อพบเขา ฉากของสองคนนี้ตลกและเกือบจะน่ารัก ฉันอดไม่ได้ที่จะเห็นอกเห็นใจพวกเขาทั้งคู่แต่กลับรู้ว่าฉันรู้สึกอบอุ่นกับมาเฟียสองคน ไม่ต้องพูดถึงด้วยซ้ำว่า Lenny Montana เป็นนักฆ่ากลุ่มคนจริงๆ และเขาก็รู้สึกประหม่าจริงๆ เมื่อเขาพูดประโยคนั้น
ยิ่งฉันดูมากเท่าไร ฉันก็ยิ่งตระหนักได้ว่าสังคมนี้ซับซ้อนและโหดเหี้ยมเพียงใด และมันมีพลังอำนาจที่จะคอร์รัปชันใครก็ตามที่จะเข้ามาติดต่อกับสังคมนี้ได้อย่างไร ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือ Michael (Al Pacino) ลูกชายคนเล็กของ Corleone เขากลับบ้านเพื่อไปงานแต่งงานของน้องสาว ในขณะที่วีรบุรุษสงครามสวมชุดนี้ร่วมกับเคย์ อดัมส์ (ไดแอน คีตัน) แฟนสาวที่คบกันมายาวนานของเขา ในตอนแรก เขาหลีกเลี่ยงโลกใต้พิภพนี้ แต่ความจำเป็น การได้สัมผัสโดยตรง และธรรมชาติอันน่าหลงใหลของมันดึงดูดเขาเข้ามา เมื่อเราก้าวต่อไปในภาพยนตร์เรื่องนี้ การเปลี่ยนแปลงก็น่าตกใจ และคนนอกทุกคนที่เคยเข้าใกล้เขาก็แปดเปื้อนไปด้วย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากพวกเขารอดมาได้ พวกเขาจะถูกดึงดูดเช่นเดียวกับเราในฐานะผู้ชม
ภายใน Coppola เปิดเผยครอบครัวให้เราเห็นอย่างเต็มที่ ด้วยแนวทางส่วนตัวที่กล้าหาญ และเราได้เห็นทุกการอภิปราย ทุกตัวเลือกที่คำนวณอย่างเป็นระบบ อาชญากรรมเกิดขึ้นเพียงเพราะมันเป็นธรรมชาติของธุรกิจของพวกเขา และเราก็นั่งเก้าอี้ข้างพวกเขา ดังนั้นเราจึงเชื่อมโยงได้อย่างง่ายดาย สำหรับเรา พวกเขาเป็นคนดี ครอบครัวคู่แข่งคือคนเลว นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่สามารถดึงเอาคนดีและคนเลวออกจากกันในโลกที่เต็มไปด้วยคนเลว
นี่คือภาพยนตร์ที่มีความละเอียดอ่อนที่ไม่มีใครเทียบได้ ไม่มีภาพยนตร์เรื่องอื่นใดที่จะรักษาตัวมันเองได้ดีเท่านี้ ไม่มีภาพยนตร์เรื่องอื่นใดที่ทำด้วยความแม่นยำ ความใส่ใจ และความครบถ้วนเท่านี้ มีหลายชั้นที่ฉันอาจจะพลาดและอาจจะไม่สังเกตเห็นเลย แต่ฉันรู้สึกถึงพวกเขา สิ่งที่ผู้กำกับฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลาและคู่หูของเขาก่ออาชญากรรม (เลือกใช้คำพูดไม่ดี ขออภัยด้วย) Mario Puzo ทำนั้นเป็นเพียงภาพยนตร์อ้างอิงเหนือกาลเวลาที่อิทธิพลไม่ได้ขึ้นอยู่กับการคิดค้นวงล้อใหม่ แต่เป็นการทำให้มันสมบูรณ์แบบสูงสุด
ผลงานชิ้นเอกส่วนใหญ่ได้รับการจดจำจากผลงานทางประวัติศาสตร์ “Citizen Kane” ยกระดับรูปแบบศิลปะครั้งใหญ่ที่สุด เช่นเดียวกับ “Gone With the Wind” หรือ “2001: A Space Odyssey” “The Godfather” เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องที่จะเป็นที่จดจำเพียงเพราะมันดีขนาดนั้น และฉันไม่สามารถจินตนาการถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ได้อีก
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Layer Cake (2004) คนอย่างข้า ดวงพาดับ
A Moment Of Romance (1990) ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ
Public Enemies (2009) วีรบุรุษปล้นสะท้านเมือง
6.8