ดูหนัง ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ (2020)
เรื่องย่อ
ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ (2020) “เมื่อกระแสดนตรีเปลี่ยนทาง เพลงหมอลำลูกทุ่งอีสานครองตลาดจนทำให้ BNK48 ต้องปรับตัวด้วยการเปิดโปรเจกต์ลับไปทำเพลงกับ ก้อง ห้วยไร่ ถึงจังหวัดศรีสะเกษ เนย, โมบายล์, แก้ว, ตาหวาน, น้ำหนึ่ง, น้ำใส, ปูเป้ และไข่มุก จึงต้องปรับตัวเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมไทบ้านโดยมี จาลอด ออนเดอะร๊อค มาช่วยเป็นพี่เลี้ยงด้วยอีกแรง เมื่อความน่ารักสดใสของสาวไอดอลมาเจอกับความซื่อความม่วนซื่นแบบโลคอล ภารกิจดนตรีนี้จึงนำพามิตรภาพแสนชุลมุนที่อบอุ่นจนฝุ่นตลบจากอีสานให้คนดูได้เบิกบานกันทั่วไทย”
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังไทย เรื่อง ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ (2020) หนังประเภท Comedy ตลก เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
- สุรศักดิ์ ป้องศร
- ธิติ ศรีนวล
บริษัท ค่ายหนัง
- ไอแอม ฟิลม์
- เซิ้ง โปรดักชั่น แอนด์ ออแกไนเซอร์
นักแสดง
- ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร
- อัครเดช ยอดจำปา
- กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล
- ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ
- พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค
- จิรดาภา อินทจักร
- พิชญาภา นาถา
- วรัทยา ดีสมเลิศ
- มิลิน ดอกเทียน
- อิสราภา ธวัชภักดี
- ณัฐพล บวรวัฒนะ
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก
ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ (2020) จากใจผู้สาวคนนี้ มันคือส่วนผสมที่ไม่ลงตัวอย่างแรง แม้ไทบ้านและbnkมันจะดีของมันอยู่แล้ว
บอกก่อนเลยว่าผมเขียนถึง bnk อย่างกลางที่สุดแล้ว bnk แสดงหนังมาสามสี่เรื่องแล้ว เรื่องไหนดีผมก็ชม ไม่ดีผมก็บ่น เรื่องที่ดีมากๆของ bnk ผมก็อวยฉิบหาย แต่สำหรับ ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ นี่ผมต้องบอกอย่างตรงไปตรงมาเลยว่า แม้ในส่วนของ ไทบ้าน ที่เอาเข้าจริงๆ มันมีความเรียล และธรรมชาติของมันอยู่แล้ว แต่ตัดมาในพาร์ทของ bnk กลับพบว่ามันทำให้หนังดูแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด โดยมี ก้อง ห่วยไร่ ที่เหมือนจะเป็นตัวเชื่อมที่ทำให้หนังดีขึ้นมากแต่มันก็ข่วยไม่ได้มากในภาพรวม
ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ เล่าถึงเรื่องราวของ bnk ขาลง ที่คนเสื่อมความนิยม เลยพยายามหาช่องทาวใหม่ๆด้วยการจะออกเพลงภาษาอีสาน โดยทางจ๊อบซังหัวหน้าคณะหรือผู้จัดการวงอะไรสักอย่างนี่แหละไปตัดสินใจจ้างเจ๊ก้อง มาเป็นคนทำเพลง และทางเจ๊ก้องก็เลยให้ทางวง bnk เดินทางไปศรีสะเกษ เพื่อศึกษาชีวิตคนอีสาน พร้อมทำเพลงและฝึกร้องเพลงอีสานไปด้วย โดยเรื่องราวก็จะเป็นเรื่องของสาวๆบีเอ็นเคกับตัวละครในจักรวาลไทบ้านนี่แหละ โดยมีเจ๊ก้อง เป็นตัวเชื่อมของเรื่อง
คืองี้ครับ ผมบอกตรงๆเลย หนังเนี่ย ในส่วนของไทบ้าน ผมพบว่ามันยังค่อนข้างจะโอเคอยู่มากกกกก ด้วยความเรียล และด้วยความเข้าอกเข้าใจตัวละครของผู้กำกับที่ปั้นตัวละครพวกนี้มากับมือ อย่างจ่ารอด ครูแก้ว บักมืด หมอปลาวาฬ อะไรพวกนี้ ตัวละครทุกตัวยังเหมือนเดิม ไม่มีหลุดคอนเซป มีความน่ารัก สดใสเหมือนเดิม แต่ในส่วนของ BNK นี่แหละที่เป็นปัญหาของหนัง ตัวหนังเองเอาจริงๆ ในส่วนของบทนี่แค่เห็นชื่อเรื่อง คอนเซป ก็เดาออกว่าคงมาแนวแบบไฮโซบ้านนอก แบบคนกรุงเทพมาวี๊ดว๊ายอยู่ในชนบทไม่ได้ ซึ่งเอาจริงๆ มันแทบไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรือเซอไพรส์เลยแม้แต่น้อย คือเราคาดหวังว่าจะเจออะไรเราก็ได้เจอแบบนั้นแหละ และไม่ได้เจออะไรแปลกใหม่เลย
ที่ผมบอกว่า BNK คือปัญหานี่ผมเองก็ไม่โทษเด็กๆในวงเลย เพราะเอาเข้าจริงๆ น้องเค้าไม่ใช่นักแสดงอาชีพ แต่น้องเค้าเป็นศิลปินไง ในเรื่องนี่น้องๆเค้าก็แสดงเป็น bnk นี่แหละ แต่น้องๆเค้าเหมาะที่จะอยู่บนเวทีไง ไม่เหมาะที่จะมาแสดงหนัง และทีนี้พอมาแสดงหนังเนี่ย ด้วยโครงสร้างบท และการออกแบบตัวละคร bnk ที่ผมไม่แน่ใจว่าเค้ามีข้อจำกัดอะไรไหม มันเลยทำให้แคแรคเตอร์ของ bnk ทุกตัวในหนังดูแบนราบมากกกกกกก คือไร้มิติ ไม่มีความเป็นมนุษย์ ดูไม่เรียล ดูเข้าไม่ถึงเลย นอกจากไปดูอะไรที่เรามองว่าเออน่ารักๆ แค่นี้เองจริงๆ เสียดายมากกกที่ผู้กำกับน่าจะดึงความน่ารักของ bnk ออกมาได้มากกว่านี้
ก้อง ห้วยไร่ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่ช่วยให้เราได้ยิ้มได้หัวเราะกับหนังได้ ผมว่าก้องเก่งมากนะครับ ที่เข้ามาเอาหนังให้มันพออยูได้ แต่สุดท้ายโดยองค์รวม ผมว่าหนังมันก็ยังไม่ค่อบเวิร์คอยู่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องชื่นชมก้องจากใจจริงครับ สำหรับการแสดงที่ดีมากและเต็มไปด้วยอินเนอร์ จนผมต้องถามผู้ใหญ่ที่รู้จักว่า ก้องนี่เป็นแบบในหนังจริงๆไหม ปรากฏ ไม่เป็นจ้า มีลูกมีภรรยาแล้ว ผมว่าก้องเก่งจริงๆนะครับ
Motto ข้างนอกคือสิ่งใหม่ ๆ ที่เราต้องเรียนรู้ , อย่าให้เสียงของคนอื่น มากลบเสียงในใจเรา นี่คือในเรื่องท่องกันเป็นนกแก้วนกขุนทอง แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรสะท้อนให้เราได้เห็นในหนังเลย คือเอาเข้าจริงๆ ผมอยากจะบอกว่า ไทบ้าน x BNK48 มันคือการพยายามเอาส่วนผสมที่เป็นวัฒนธรรมป็อปคัลเจอร์อีสาน กับวัฒนธรรมป็อปคัลเจอร์โอตะ มารวมตัวกัน เพื่อขายของแฟนคลับนั่นแหละ แต่น่าเสียดาย ที่ส่วนที่ดีๆของทั้งคู่มันดันเป็นส่วนผสมที่ไม่ลงตัวอย่างรุนแรง ผลที่ออกมามันก็เลยกลายเป็นหนังที่ขาดๆเกินๆ แฟนคลับน่าจะพอดูได้แหละครับ สำหรับคนทั่วไป อาจจะมองว่ามันไม่เข้ากันเลยแบบนีแหละ ลองไปดูนะครับ
ท่องเอาไว้
#ข้างนอกคือสิ่งใหม่ๆที่เราต้องเรียนรู้
6/10 ครับ
ซ่องหนัง – เพจรีวิวหนังระดับmultiverse
ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ (2020)
รีวิวสั้นๆ “หนังยืดจนกูต้องภาวนาให้จบ!”
เรื่องโคตรย่อ :
– เมื่อ BNK48 พากันไปอิสานเพื่อทำเพลงอิสาน โดยมีพี่ก้อง ห้วยไร่เป็นโค้ช จะเกิดอะไรขึ้น?
ความรู้สึกหลังดู :
– บอกก่อนว่านักแสดงคือเต็มที่มากๆ จ่ารอดก็ฮา สาวๆbnkก็ไม่ได้แย่ ที่ปังสุดคือก้อง ห้วยไร่ ยืนหนึ่งในย่าน ทุกคนคือแบกกันหลังหัก แต่แน่นอนว่าไม่ไหว
– ที่พังพินาจสุดคือการลำดับบทและการเล่าเรื่อง บทหนังนั้นแสนจะยืดเยื้อจนต้องภาวนาให้จบ อุปสรรคบางอย่างใส่มาดื้อๆ เหตุผลบางเบาราวกับไม่มี
– ทรมานน้อยหน่อยที่หนังยังพอมีความตลก และความอมยิ้มอยู่เรื่อยๆ ทว่าที่หงุดหงิดสุดๆ คือเพลงดีๆที่ซ้อมมาทั้งเรื่อง ทำไมไม่ใช้ โผล่มาแค่เนี่ยะหรอ?
ควรชวนใครไปดู :
– ปล่อยแฟนคลับ BNK48 กับ ไทบ้านไปดูเถอะ เราถ่างตาไม่ไหวจริงๆ
คะแนนที่ได้ : 2.5/10
นี่เป็นเพียงความคิดเห็นและความชอบส่วนบุคคลเท่านั้น
Ready Go Watch
ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ (2020,สุรศักดิ์ ป้องศร และ ธิติ ศรีนวล)
ต้องบอกก่อนว่าเราเองไม่เคยดูไทบ้านมาก่อนและติดตาม BNK48 เล็กน้อยจึงจัดได้ว่าเราค่อนข้างเป็นตรงกลางของกลุ่มเป้าหมาย แต่เราชอบและสนุกไปกับหนังจริงๆ หนังมีมุกตลกที่ใช้ได้และเสน่ห์แบบไทบ้านผสมกับเสน่ห์ของกลุ่ม BNK48 ที่เข้ากันและกลมกล่อมมากๆ
เราชอบในช่วงแรกๆที่กลุ่ม BNK48 เข้ามาอยู่อาศัยที่จ.ศรีสะเกษ หนังได้ใช้ความต่างของวัฒนธรรมเป็นตัวเรียกเสียงฮาได้อย่างดี ทั้งการที่ต้องกินก้อยเป็นครั้งแรก, การไปจับปลา หรือภาษาที่ใช้ในการพูดที่แตกต่าง , การไปจับปลา หรือภาษาที่ใช้ในการพูดที่แตกต่าง ทำให้เรียกเสียงฮาได้เป็นระยะๆ
ก้อง ห้วยไร่(อัครเดช ยอดจำปา) รับบทเป็น เจ๊ก้อง ที่ไม่ใช่ตัวเองเลย แต่คุณก้องก็ทำได้ดีมากๆ เราเชื่อตลอดทั้งเรื่องจริงๆว่านี่คือเจ๊ก้องของน้องๆ ทุกซีนที่ออกต้องมีขำ และดราม่าก็เล่นได้ดี สีหน้าที่จริงจังเมื่อถึงเวลาจริงจัง สมกับเป็นศิลปินมืออาชีพ ทำให้เราชอบตัวละครนี้ที่สุดในเรื่อง ส่วนในกลุ่มของ BNK48 เนยที่ได้รับบทนำในกลุ่มนี้นั้นเล่นได้ดีมาก สำหรับหนังเรื่องแรกในอาชีพ ดูขึ้นกล้องและมีเสน่ห์แบบไม่ต้องพยายามเลย ซีนดราม่าที่ร้องไห้ขี้มูกโป่ง(ขี้มูกไหลจริงๆ ฮา) ก็เล่นได้แบบไม่ห่วงสวยเลย ส่วนคนอื่นๆในกลุ่มแม้จะไม่ได้บทเด่นๆแต่ก็เข้ามาสร้างสีสันได้ดี เช่น ปูเป้ที่ออกมาน้อยซีนแต่ตลกมากๆ
ส่วนจาลอด (ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร )นี่สิตัวเรียกเสียงฮาของจริง ด้วยบุคลิกซื่อๆดูไม่มีพิษภัย ดูเป็นธรรมชาติ ทำให้เราตลกมากๆกับการเล่นมุก ประกบ เจ๊ก้อง และ มืด (ธนาดล บัวระบัติ) ที่ออกมาตลอดทั้งเรื่อง
หนังมีเวลาถึง 2 ชม. ที่สามารถจะปูเรื่อง,สร้างปมและขมวดปมที่ทำให้เรื่องดูลื่นไหลและสมบูรณ์ แต่หนังใช้เวลาเหล่านั้นไปกับการขับเคลื่อนพล็อตหลักคือการทำเพลงอีสานโดยที่ระหว่างทางนั้นได้สร้างปมใหม่ย่อยๆขึ้นมา เช่น เส้นเรื่องความรักสามเส้าของ เนย-จ่าลอด-ครูแก้ว หรือบางจุดในพล็อตหลัก(ซึ่งเราจะไม่สปอย) ที่ค่อนข้างคลี่คลายง่ายมากโดยไม่มีเหตุผลมารองรับ เช่น การทะเลาะกันของตัวละครสองตัวที่พึ่งเกิดขึ้นในวันนั้น พอตัดไปที่วันต่อมา ตัวละครกลับยิ้มแย้มต่อกัน ไม่ได้มีอารมณ์ขุ่นเขืองเหมือนกับเมื่อวาน ราวกับคนละคน ซึ่งถ้าหากหนังใช้เวลามาเล่าตรงจุดๆนี้ให้ชัดเจนขึ้น จะทำให้สมเหตุสมผลและมีอารมณ์ร่วมกับหนังมากกว่าเดิม
หนังใช้ประโยชน์ของโลเคชั่นอีสานต่างจังหวัด ได้เป็นอย่างดีสื่อให้เห็นถึงวิธิชีวิตของคนท้องถิ่น และยังถ่ายภาพสวย มีช็อตหลายๆช็อตเลยที่สามารถนำไปทำเป็นใบปิดได้
แม้ว่าจะมีปัญหาเล็กน้อยในเรื่องบท แต่ด้วยการแสดงของทั้งสองฝั่ง,มุกตลก และเพลงประกอบเพราะๆอย่าง จากใจผู้สาวคนนี้,โดดดิด่ง จึงทำให้หนังเรื่องนี้ดูสนุกและบันเทิงตลอดทั้ง 2 ชม.
ป.ล. หลังหนังจบสักครู่จะมีฉากพิเศษเพื่อปูไปยังโปรเจ็คต์ต่อไปของไทบ้าน
ขอบสหนัง
ขอบสหนังรีวิว
ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ (2020)
ไทบ้าน เดอะซีรีส์เป็นอีกหนึ่งแฟรนไซส์ภาพยนตร์ของไทยเรา ที่เรียกได้ว่ามีเสน่ห์แบบไม่เหมือนหนังไทยเรื่องไหน คือความสนุกของไทบ้าน คือความเป็นธรรมชาติ ทุกอย่างดูลืนไหล เหมือนตัวหนังสามารถพาคนดูไปรู้จักเพื่อนบ้านคนหนึ่ง ที่เป็นชาวอีสาน และก็ติดตามชีวิตเขาไป แต่มันจะเป็นอย่างไรล่ะ หากแฟรนไซส์ชุดนี้ เติมวัตถุดิบแปลกๆ อย่างวงไอดอลเข้าไป กับวงอย่าง BNK48
หนังมีไอเดียทีดีมากๆ ทีเอาชาวไทบ้าน เป็นตัวซัพพอตเรื่องราวของเหล่าชาววงไอดอล BNK48 และด้วยน้องๆทั้ง 8 คน ค่อยข้างมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน มันทำให้หนังมีจุดขายที่แปลกใหม่
ซึ่งน้องวง BNK48 ที่โดดเด่นในเรื่องจริงๆ ที่ผมรู้สึกแฮปปี้ก็คงเป็นสองคน นั้นคือ เนยและปูเป้
โดยสองคนมีพาร์ทของตัวเองแบ่งกันอย่างชัดเจน ปูเป้ จะเป็นตัวชูโรงในช่วงแรกๆ และเธอจะคอยเป็นคนตบจังหวะมุกตลอดตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่อง แฮปปี้กับความเป็นธรรมชาติของน้องมาก คือถ้าใครไม่เคยรู้จักวง BNK48 แต่เคยดู bnk48 girl don’t cry แล้วรักปูเป้จากสารคดีเรื่องนั้น เรื่องนี้น่าจะให้อารมณ์ไม่ต่างกัน
ส่วนอีกคนก็คือ น้องเนย เอาจริงๆ เหมือนหนังเรื่องนี้ เนยน่าจะเป็นคนทีมีช่วงเวลาแอร์ไทม์มากที่สุด ใครที่หลงรักน้อง คุณจะฟินมากๆ ซึ่งเอาจริงๆ น้องก็ทำได้ดีมากๆ เช่นกัน พวกการแสดงออกทางสีหน้าและแววตาน้อง โอเคมากๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเธอคือนางเอกของเรื่องนี้จริงๆ ดูเรื่องนี้เสร็จโดนน้องตกแบบปฎิเสธไม่ได้เลย
อีกคนก็คงเป็น พี่ก้อง ห้วยไร่ เอาจริงๆ แม้ผมจะไม่ได้ชอบการครีเอทคาแร๊คเตอร์ของพี่ก้องในหนังเรื่องนี้เท่าไร แต่แกก็สามารถทำหน้าทีได้ดี ในสิ่งทีทางทีมงานมอบหมายมา มีซีนฮาๆ ขายของและเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คุณสามารถดูไทบ้าน x bnk48 ได้แบบเรื่อยๆ
ว่าข้อดีกันมาเยอะ มาถึงข้อทีผมไม่ชอบกันบ้าง
ซึ่งเอาจริงๆ ก็มีเยอะพอสมควรเลย เพราะว่ากันตามจริง ไทบ้าน x bnk48 เป็นหนังที่เต็มไปด้วยบาดแผล คือหนังมันก็ดูเพลินนะ ถ้าคุณอยากเข้าไปดูน้องๆ แต่หนังแม่งก็ไม่ได้มีจุดขายใดๆเลย ทีสามารถเอาไปต่อยอดได้ในอนาคต
ทั้งสองจักรวาลไม่ว่าจะเป็น ไทบ้าน หรือ BNK48 ทีเหมือนต่างคนต่างเล่น แทบไม่ได้มีจุดเชือมโยงกันเท่าไร
ทั้งเพลง ทีเหมือนหนังจะพยายามขายเพลง แบบคิดว่าหนังเรื่องนี้คงเหมือนหนังเพลงเรื่องอืนๆ ทีดูเสร็จ แล้วอยากกลับไปฟังเพลงต่อ อย่างเพลง โดดดิด่ง แต่คือพอดูจบแล้ว หนังไม่ได้ขายจุดนี้ใดๆเลย หนังแม่งไม่ได้ชูเพลงเลย ส่วนอีกเพลง ทีหนังเก็บไว้ ก็รู้สึกว่า ไม่ได้อยากกลับไปฟังเช่นเดียวกัน เพราะตัวหนังแม่งไม่รู้จะกักอะไรหนักหนา กักจนคนดูอย่างผมรู้สึกรำคาญ หนังมันจะไปทิศทางไหนกันแน่ ดูไปหงุดหงิดไป
บทหนังก็ไม่ได้ส่งตัวน้องๆเลย แถมดูเสร็จอาจจะรู้สึกรำคาญน้องๆเพิ่มขึ้นก็เป็นได้ เพราะขนาดผมทีติดตามน้องๆพอควร ดูเสร็จยังรู้สึกเลยว่าบางซีน บางฉากน้องพวกนี้ มันน่าหงุดหงิดจริงๆ คือตรรกะทีหนังส่งให้น้องๆ ทำให้น้องๆดูป่วยมาก ซึ่งมันจะมีอยู่หนึ่งซีนทีแบบอิหยังวะ ทำไมต้องทำแบบนี้วะ มันไม่ใช่เปล่าวะ
ผมก็ไม่ได้รู้จักน้องๆเป็นการส่วนตัว แต่รู้สึกว่าตัวตนทีอยู่ในหนังเป็นตัวตนที่มีความประดิษฐ์พอสมควร มันเป็นประดิษฐ์ให้มีความน่ารำคาญจนเกินไป.. คือน้องๆพวกนี้ มันผ่านชีวิตการทำงานแบบนี้มาเยอะแล้วนะ 2 ปีเกือบ 3 ปี กับวงการบันเทิงไม่น้อยแล้วนะ มันควรเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ แต่คุณนำส่วนน่ารำคาญของเด็กผู้หญิง หรือคาแร๊คเตอร์ของตัวน้องๆในช่วงแรกๆ นำมาชูในหนัง เป็นอะไรทีรู้สึกอาจจะทำให้แย่ลงรึเปล่า
แถมตัวหนังยังเต็มไปด้วยดาราสมทบ ทีเข้ามาแล้วรู้สึกมันประดิษฐ์ไปหมด จนไร้ซึ่งความเป็นธรรมชาติมากๆ คือมันเป็นสูตรเคมีทีขัดกับไทบ้าน เดอะซีรีส์มากๆ
สรุป
ไทบ้าน x bnk48 เป็นหนังทีดูเพลิน แต่ก็อย่างว่า เป็นหนังทีสูตรเคมีไม่ลงตัวกันเลย ใครเป็นโอชิ เนย หรือปูเป้ น่าจะฟิน แต่สำหรับใครเป็นแฟนไทบ้าน รู้สึกเป็นหนังทีต่ำกว่ามาตราฐานพอสมควร
5.5/10
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
The Undertaker (2023) สัปเหร่อ
ThiBaan The Series 2 (2018) ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2 Part 1
ThiBaan The Series 2.2 (2018) ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2.2
8.2