Spy Game (2001) คู่ล่าฝ่าพรมแดนเดือด
เรื่องย่อ
Spy Game (2001) คู่ล่าฝ่าพรมแดนเดือด ในวันเกษียณอายุราชการ เจ้าหน้าที่ซีไอเอผู้มากประสบการณ์ได้ทราบว่าอดีตลูกศิษย์ของเขาถูกจับในประเทศจีน และถูกตัดสินให้เสียชีวิตในเช้าวันรุ่งขึ้นที่ปักกิ่ง และซีไอเอกำลังพิจารณาให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องอื้อฉาวระดับนานาชาติ เรื่องราวของเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน CIA นาธาน เมียร์ (โรเบิร์ต เรดฟอร์ด) กับคู่หูรุ่นน้อง ทอม บิช็อพ (แบรด พิตต์) ที่เดินทางร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมากว่าค่อนโลก
จากเวียดนาม เบอร์ลิน ไปจนถึงเบรุต การฟันฝ่าสถานการณ์ที่ล่อแหลมในดินแดนที่เรียกได้ว่าอันตรายที่สุดมาได้ทุกครั้งนั้นทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง เมียร์ และ บิช็อพ พัฒนาไปเป็นมิตรภาพที่เต็มไปด้วยความรัก-เคารพ และแน่นแฟ้นเป็นพิเศษ หลายปีผ่านไป เมียร์ อยู่ในวัยใกล้เกษียณ วันสุดท้ายของการทำงาน เมียร์ ได้ข่าวว่า บิช็อพ กำลังติดคุกโทษประหารชีวิตที่ปักกิ่งข้อหาจารกรรม หลังจากที่พยายามพานักโทษแหกคุกหนีไปจากเมืองจีน ทำให้ เมียร์ ต้องตัดสินใจระหว่างการรักษากฎของตัวเอง หรือช่วยเหลือ บิช็อพ ภายใน 24 ชั่วโมง
ผู้กำกับ
Tony Scott
บริษัท ค่ายหนัง
Universal Pictures
นักแสดง
- Robert Redford
- Brad Pitt
- Catherine McCormack
- Stephen Dillane
- Larry Bryggman
- Marianne Jean-Baptiste
โปสเตอร์ หนัง คู่ล่าฝ่าพรมแดนเดือด
รีวิว
หลายปีมานี้ มีภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับสายลับมากมายให้เราได้รับชม Spy Game (2001) คู่ล่าฝ่าพรมแดนเดือด แต่ในปี 2001 มีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ชื่อ Spy Game ชื่อไทยว่า คู่ล่าฝ่าพรมแดนเดือด อันเป็นเรื่องราวของสายลับหนุ่มใหญ่รุ่นเก๋า กับ สายลับหนุ่มไฟแรง โดยที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาราวกับครูกับลูกศิษย์ ที่ต้องร่วมกันเล่นเกมอันตรายที่พวกเขาจะแพ้ไม่ได้อันเกี่ยวข้องกับการกระทำจารกรรม
นี่คือเรื่องราวที่น่าติดตามของภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่องนี้ แต่เชื่อหรือไม่ว่า แท้จริงแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แรงบัลดาลใจมาจากบุคลากรของ CIA คนหนึ่งซึ่งมีนามว่า วิลเลียม ทอม โกลเด้น โดยที่เขามีชื่อจัดตั้งว่า “นาธาน เมียร์” อันเป็นชื่อเดียวกับตัวละครในภาพยนตร์ ซึ่งรับบทโดยโรเบิร์ต เรดฟอร์ด (ซึ่งจากนี้ไปจะขออธิบายเรื่องราวของเขาในชื่อของ นาธาน เมียร์) และนี่เป็นเพียงบางส่วนในภารกิจของเขา
ในเดือนมกราคม 1969 ซีไอเอและกองทัพสหรัฐฯ ตัดสินใจเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังในสถานทูตสหรัฐอเมริกาในเมืองมอนเตวิเดโอ ประเทศอุรุกวัย ภายใต้การคุ้มครองทางการฑูต และยังสนับสนุนปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย โดยเฉพาะกลุ่มทูปามารอส ในอุรุกวัย ซึ่งเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเสถียรภาพในภูมิภาค นาธาน เมียร์ จึงถูกส่งมาที่นี่ เมียร์เขียนในรายงานเบื้องต้นหลังจากเริ่มงานในมอนเตวิเดโอว่า กองทัพสหรัฐฯและซีไอเอไม่ได้เตรียมการและสนับสนุนอะไรแก่การปฏิบัติภารกิจในอุรุกวัยอย่างเหมาะสม
เนื่องจากสถานการณ์ด้านความปลอดภัย และเขายังขอให้เพิ่มจำนวนบุคลากรในปฏิบัติการอีกด้วย แต่ทว่าเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำอุรุกวัย โรเบิร์ต เซเยอร์ ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการประเมินสถานการณ์ด้านความปลอดภัยของเมียร์ โดยท่านทูตกลับเขียนรายงานแย้งว่านาธาน เมียร์ นั้นยังเด็กและไม่เข้าใจวัฒนธรรมของอุรุกวัยอย่างถ่องแท้ ขณะเดียวกันท่านทูตก็ยังเขียนไว้ในรายงานว่า กลุ่มทูปามารอส เป็นเพียงนักศึกษาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่งและไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อใครเลย นั่นจึงส่งผลให้ปฏิบัติการของเมียร์ในอุรุกวัย แทบไม่ได้รับความสนใจจากวอชิงตันเลย และอุรุกวัยอยู่ในอันดับท้ายสุดของข้อกังวลของกระทรวงการต่างประเทศอีกด้วย
แต่แล้วหกเดือนต่อมา แดน มิททริออน Spy Game (2001) คู่ล่าฝ่าพรมแดนเดือด เจ้าหน้าที่จากศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติสหรัฐฯ ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลสถานทูตสหรัฐฯ และเขายังมีหน้าที่ฝึกตำรวจอุรุกวัย ถูกกลุ่มทูปามารอสลักพาตัวและสังหารอย่างโหดเหี้ยม และยังมีนักการทูตของสถานทูตอีกสองคน กอร์ดอน โจนส์ และเนท โรเซนเฟลด์ ถูกลักพาตัวแต่โชคดีที่พวกเขาหลบหนีออกมาได้ด้วยการกระโดดลงมาจากรถบรรทุกที่กำลังลำเลียงพวกเขาไปสังหาร กลางสี่แยกไฟแดงในมอนเตวิเดโอ การสังหารเจ้าหน้าที่มิททริออน ก็กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ณ ขณะนั้น และประธานาธิบดีนิกสัน ก็ได้ประณามการกระทำนี้ ก่อนหน้าที่เขาจะมาทำงานในอุรุกวัยมิททริออน เคยเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐอินเดียนา หลังจากนั้นเขาผันตัวมาเป็นเจ้าหน้าที่ FBI และถูกย้ายมาเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
ไม่เพียงแต่เจ้าหน้าที่แดน มิททริออน ที่ตกเป็นเป้าสังหาร เดือนพฤศจิกายน ปี 1970 กลุ่มทูปามารอส ส่งคนเข้ามาวางระเบิด ถึงในโรงรถของนาธาน เมียร์ ในย่านชานเมืองสุดหรูของมอนเตวิเดโอ แต่โชคยังเข้าข้างเมียร์ในวันนั้นเพราะระเบิดที่สมาชิกของกลุ่มทูปามารอสนำมากลับระเบิดขึ้นเสียก่อนและสังหารเขาในทันที ตำรวจอุรุกวัยและซีไอเอของอเมิรกัน สืบหาหลักฐานและพบที่อยู่ของสมาชิกรายนี้และเข้าตรวจค้นบ้านพักของเขา และนั่นจึงทำให้ทุกคนได้พบว่า มือวางระเบิดรายนี้เตรียมแผนการเพื่อสังหารนาธาน เมียร์มาอย่างดี โดยพบแผนผังบ้านของเมียร์ รูปถ่ายของรถเขาพร้อมบันทึกรายละเอียดการเข้าและออกจากบ้านพัก รวมทั้งข้อความที่ระบุว่า นาธาน เมียร์ “เป็นเป้าหมายที่สำคัญสูงสุด”
การลอบสังหาร และความพยายามในการลอบสังหารโดยฝีมือสมาชิกกลุ่มกลุ่มทูปามารอส สร้างความแค้นแก่ฝ่ายอเมริกันอย่างมาก ดังนั้นซีไอเอจึงส่ง ลี เอโคลส์ ไปยังมอนเตวิเดโอเพื่อฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สถานทูตในการใช้อาวุธปืนสำหรับป้องกันตนเอง เขายังมีหน้าที่สืบหามือสังหารผู้ปลิดชีพเจ้าหน้าที่มิททริออน เขาจึงต้องทำงานร่วมกับนาธาน เมียร์ และตัวของเอโคลส์เอง ก็มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธปืน เมียร์ และเอโคลส์พวกเขาตระหนักดีว่า กลุ่มทูปามารอสกำลังจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขา ดังนั้นในวันสาธิตการใช้อาวุธปืนที่สนามยิงปืนในท้องถิ่น อันเป็นฝึกอบรมการใช้อาวุธสำหรับเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ พวกเขาทั้งสองวางแผนให้สื่อมวลชนอุรุกวัยรายงานข่าวการฝึกอบรมดังกล่าว เพื่อให้เป็นที่รู้กันว่า เจ้าหน้าที่ในสถานทูตอเมริกันถูกฝึกและพกพาอาวุธปืน
เมียร์และเอโคลส์ กลายมาเป็นเพื่อสนิทกัน และทั้งคู่ก็มุ่งมั่นที่จะติดตามผู้ที่รับผิดชอบต่อการฆาตกรรมเจ้าหน้าที่มิททริออน ก่อนหน้านี้เอโคลส์มีบทบาทสำคัญในการติดตามและสังหาร เช เกวาราในโบลิเวีย และนาธาน เมียร์ ผู้มีทักษะในการหาข่าวด้วยการทำธุรกิจบังหน้า และมีประสบการณ์มาแล้วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขาร่วมกันแกะรอยและตามล่าสมาชิกของกลุ่มทูปามารอส โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำของกลุ่ม และสามารถสามารถจับกุมราอูล เซนดิกผู้นำกลุ่มทูปามารอสได้ในเดือนสิงหาคม 1970
สมัยแรกๆ ที่ Brad Pitt เข้าวงการผมรู้สึกว่าพี่ท่านมีลักษณะคล้าย Robert Redford ตอนหนุ่มๆ ทั้งท่าทาง หน้าตาหล่อๆ และเป็นพวกมีความมั่นใจไม่ยอมใคร จนผมจะไม่แปลกใจเลยหากสองคนนี้จะมาเล่นเป็นพ่อลูกกันน่ะ (แต่ก็ไม่เคยได้เห็นสักที) และ Spy Game (2001) คู่ล่าฝ่าพรมแดนเดือด ก็เป็นการประกบกันของสองหล่อสองวัยคู่นี้ ซึ่งผมก็จับตามองตั้งแต่ตอนหนังเข้าโรงน่ะครับ หนังแนะนำให้เรารู้จักกับเนธาน เมียร์ (Redford) CIA เก๋ามือพระกาฬวัยเกษียณที่ทำงานวันนี้เป็นวันสุดท้าย แต่แทนที่เขาจะได้อำลาหน้าที่ไปอย่างสงบแบบคนสูงอายุทั่วๆ ไป
กลับเจองานเข้าครับ เมื่อได้ทราบว่า ทอม บิชอป (Pitt) ศิษย์เอกที่เขาฝึกมากับมือโดนจับตัวรอการประหารอยู่ที่เมืองซูโจว ประเทศจีน เนธานเลยต้องงัดทุกความสามารถ ใช้ทุกแหล่งข่าวที่มีในการรับมือกับพวกที่ไม่หวังดีต่อเขาในที่ทำงาน ซ้ำยังต้องช่วยทอมที่กำลังจะโดนยิงเป้าอยู่รอมร่อ แต่การช่วยเหลือนี่ก็ต้องช่วยแบบระยะไกลนับพันไมล์ครับ จะไปจีนก็ไม่ได้ ต้องอยู่สะสางงานที่นี่ แล้วเขาจะจัดการได้อย่างไร คำตอบอยู่ในหนังครับ
ช่วงต้นเรื่องหนังก็ตัดต่อฉับไวฟึ้บฟั้บๆ ตามสไตล์ผู้กำกับ Tony Scott ขานี้ทำหนังทีไรไวและสนุกเร้าใจเสมอครับ แต่จะสนุกมากน้อยต้องแล้วแต่ งานในทำเนียบพี่ท่านก็มีตั้งแต่ Top Gun, Beverly Hills Cop II, Days of Thunder, Crimson Tide และ Enemy of the State ส่วนเรื่องนี้ก็เข้าทำเนียบสนุกครับ ไม่ได้มันส์สุดยอด แต่ก็น่าติดตาม มันสนุกตรงการแสดงของ Redford นี่แหละ ดูแล้วเชื่อหมื่นเปอร์เซ็นต์ว่าพี่ท่านเก๋าเกม มาดนิ่ม ขนาดมีเรื่องคอขาดบาดตาย พี่แกยังนิ่มรับสถานการณ์ แต่นิ่มนี่ไม่ใช่ปล่อยให้เหตุการณ์แย่ไปตามยถากรรมนะครับ แกนิ่มเพื่อนิ่งและคิด ระหว่างที่พี่ท่านนั่งเฉยๆ เหมือนไม่ทำอะไรนั่น แกกำลังวางแผนซ้อนแผนเพียบไปหมด ยอมรับเลยครับว่าแกเก๋าเกมจริง
หนังยังสอนเกมการทำงานให้คนดูด้วย ถ้าลองสังเกต วิเคราะห์ แล้วนำไปใช้นี่จัดว่าได้ประโยชน์อยู่ครับ อีกทั้งอยากให้ลองสังเกตดูความแตกต่างระหว่าง เนธาน กับ ทอม สองคนสองวัย แต่เนธานเขาสุขุม ไม่โผงผาง ทำอะไรทีละก้าว แต่ก้าวทีหลายกิโลเมตร เรียกว่ามองการณ์ไกลเสมอครับ ไม่ได้คิดสั้นๆ หรือทำอะไรด้วยอารมณ์ ซึ่งอันหลังนี่สำคัญมาก เนธานจะไม่อนุญาตให้อารมณ์มาบงการการตัดสินใจเขาเป็นอันขาด ในขณะที่ทอมนี่มือไม่ใหม่ แต่เลือดร้อนครับ บางครั้งก็มั่นใจในตนเองจนผิดพลาด ทำเอาตัวเองเกือบตายจนต้องรอให้คนที่คมกว่าอย่างเนธานตามไปช่วย
Spy Game (2001) คู่ล่าฝ่าพรมแดนเดือด เป็นหนังฮอลลีวูดที่ไม่มีอะไรให้คาดหวังจากหนังฮอลลีวูดเรื่องใหญ่ๆ เลย มีทั้งความน่าสนใจ ความฉลาด บทดี การแสดงดี และกำกับดี แต่หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีที่สุดตั้งแต่ Memento เลยก็ว่าได้ แม้ว่าพิตต์จะเล่นได้ดีมากและเรดฟอร์ดก็เล่นได้ดีเหมือนที่เคยทำมาในรอบหลายปี แต่ฉันคิดว่าควรยกความดีความชอบให้กับโทนี่ สก็อตต์มากที่สุด ในมือของผู้กำกับที่ด้อยกว่า หนังเรื่องนี้อาจจะออกมาเหมือนกับ Mission Impossible ก็ได้ แต่สก็อตต์ยังคงทำได้ดี ทำให้เราสนใจ พัฒนาตัวละคร และรักษาจังหวะให้สมบูรณ์แบบ สก็อตต์ยังแสดงให้เราเห็นว่าเขายังคงใช้เทคนิคกล้องสมัยใหม่มาโดยตลอด เช่น การเคลื่อนไหวเร็ว
การซูมแบบย้อนกลับ และเลนส์แปลกๆ แต่กลับทำให้หนังดีขึ้นแทนที่จะสร้างความรำคาญ บทสนทนาให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ นักแสดงทุกคนแสดงได้ดี ไม่มีใครพยายามขโมยซีนหรือเป็นดารา เรื่องราวน่าสนใจและแทบจะไม่เคยหลุดลอยไปในความรุนแรงเกินเหตุหรือความซาบซึ้งแบบที่มักพบในภาพยนตร์สตูดิโอสมัยใหม่ คุณจะรู้สึกได้ว่าเรื่องนี้ใกล้เคียงกับการทำงานของ CIA จริงๆ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้เทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยม แต่ประสิทธิภาพสูงสุดนั้นขึ้นอยู่กับคนที่ทำภารกิจและเสี่ยงดวง ฉันสนุกกับภาพยนตร์เรื่องนี้มาก ฉันหวังว่ามันจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ใช่สิ่งหายาก
ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Super 8 (2011) ซูเปอร์ 8 มหาวิบัติลับสะเทือนโลก
Angry Scalper (2021) โทสะคนเถื่อน
Lost in the tomb (2024) โลงศพหมอกมรณะ
7.1