KUBHD ดูหนังออนไลน์ Spiral From the Book of Saw (2021) เกมลอกอำมหิต
Spiral From the Book of Saw (2021) เกมลอกอำมหิต คือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความเป็นจักรวาล SAW และหนังสยองขวัญเจนฯใหม่ ทันสมัยด้วยเรื่องราวของ นักสืบเอเซเกล ซีค แบงก์ส (รับบทโดย คริส ร็อก) เขามักจะถูกเปรียบเทียบฝีมือกับ อดีตตำรวจฝีมือระดับฉมัง มาร์คัส แบงก์ส (รับบทโดย ซามูเอล แอล. แจ็กสัน) พ่อของเขา ด้วยความที่ต้องการพิสูจน์ตัวเอง เขาจึงต้องไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดโหด
ร่วมกับคู่หูหน้าใหม่อย่าง นักสืบวิลเลียม เชงก์ (รับบทโดย แม็กซ์ มิงเกลลา) แต่เรื่องราวกลับเลวร้ายขึ้น เมื่อนักสืบแบงกส์พบว่า เหยื่อของคดีฆาตกรรมทั้งหมดเป็นตำรวจ และรูปแบบการฆ่าก็สยดสยองเกินมนุษย์ ด้วยการเลียนแบบฆาตกรในตำนานอย่าง จิกซอว์ และยิ่งพวกเขาถลำลึกไปกับคดีมากเท่าไหร่ ก็กลับพบกว่าตัวเองกำลังเดินสู่กับดักแสนวิปริตอย่างเลี่ยงไม่ได้
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังฝรั่ง เรื่อง Spiral From the Book of Saw (2021) เกมลอกอำมหิต หนังประเภท Horror สยองขวัญ เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน ดูหนังออนไลน์ หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
Darren Lynn Bousman
บริษัท ค่ายหนัง
Twisted Pictures
นักแสดง
- Chris Rock
- Max Minghella
- Marisol Nichols
- Samuel L. Jackson
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
Hollywood GossipGun
รีวิว : Spiral From the Book of Saw (2021) เกมลอกอำมหิต
เกมเชือดบทใหม่ที่ทั้งสดและโหดขั้นสุด
ใครว่าแฟรนไชส์ SAW จะจบลงง่ายๆ ในวันที่ต้นตำรับหนังโหดยุคมิลเลนเนี่ยม กระแสความนิยมเริ่มจะเฟดลง แต่อัศวินม้าขาวที่มากอบกู้มันคือนักแสดงตลกเลื่องชื่ออย่าง “คริส ร็อก” เขามาพร้อมกับไอเดียของการรีบูทหนังใหม่ด้วย SPIRAL เขาหอบไอเดียไปเสนอผู้บริหารไลอ้อนเกตส์ ก่อนที่จะลงเอยด้วยการนั่งแท่นอำนวยการสร้างพร้อมกับนำแสดงเอง การรีแบรนด์ SAW สู่ SPIRAL
ถือว่าเป็นโปรเจกต์กอบกู้ตำนานหนังโหดก็ว่าได้ เพราะรวมตัวเอาต้นฉบับผู้สร้าง SAW กลับมาเกือบครบ ไล่ตั้งแต่ เจมส์ วาน ผู้กำกับภาคแรกที่นั่งแท่น อำนวยการสร้าง เช่นเดียวกับ ลีห์ แวนน์เนล ที่โด่งดังสุดจาก The Invisible Man ซึ่งคนลืมไปแล้วว่าเขาเขียนบทภาคแรกก็กลับมาโปรดิวซ์เช่นกัน แต่คนที่ลงแรงหนักสุดคือ ดาร์เรน ลินน์ บอสแมน ผู้กำกับจาก SAW ภาคที่ทำเงินสูงสุดอย่าง 2-4 มานั่งแท่นผู้กำกับ ซึ่งการกลับมาแท็กทีีมในรอบนี้ ถือว่าไม่เสียเที่ยว เพราะผลลัพภ์ของ SPIRAL เพิ่มความสดใหม่ให้กับแฟรนไชส์อย่างมาก และน่าจะเป็นการวางไดเรคชั่นใหม่ที่แฟน SAW น่าพอใจ
คริส ร็อก รับบทนักสืบแบงก์ ตำรวจจอมขบถที่ใช้ชีวิตอยู่ใต้เงาความสำเร็จของพ่อ สารวัตรระดับตำนาน ซึ่งรับบทโดย ซามูเอล แอล.แจ็คสัน จนกระทั่งวันหนึ่งเพื่อนสนิทในกรมตำรวจของเขา ถูกฆ่าตาย
แต่การตายครั้งนี้ไม่ธรรมดา เพราะคนร้ายจำลองวิธีฆ่าแบบเดียวกับ “จิกซอว์” อดีตนักฆ่าในตำนานที่ตายไปแล้ว ฉากฆาตกรรมที่เต็มไปด้วยความโหดและกับดักสุดวิปริต แบงก์และคู่หูใหม่ของเขา (รับบทโดย แม็ก มิงเฮลล่า จาก The Handmaid’s Tale) เริ่มสืบสวนคดีนี้ และพบว่าปริศนาต่างๆวนเวียนอยู่รอบตัวเขา ไม่ว่าจะเป็นศพรายต่อมา ที่ล้วนแต่เป็นตำรวจทุจริต เหมือนฆาตกรเลียนแบบจิกซอว์มาเพื่อพิพากษาแวดวงตำรวจโดยเฉพาะ แต่อำมหิตรายใดที่อยู่เบื้องหลัง แบงก์ต้องแข่งกับเวลาเพื่อสืบสวนก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
SPIRAL คือ SAW ที่สดใหม่กว่า SAW ในทุกภาค ถ้านับว่านี่คือความพยายามที่จะรีแบรนด์ใหม่ให้กับแฟรนไชส์นี้ ถือว่าทีมงานทุกคนออกแบบหนังให้น่าสนใจ แทนที่มันจะเป็นหนังกับดักโหดแบบเพียวๆ SPIRAL เดินเรื่องตามสไตล์หนังตำรวจสืบสวนสอบสวน แบบเดียวกับหนังคลาสสิกอย่าง SE7EN ที่ดูเหมือนผู้สร้างจะยกให้เป็นไอเดียต้นแบบของเรื่องนี้ การใส่เส้นเรื่องที่เส้นสืบคดีเข้ามา
แล้วแทรกฉากโหดจากกับดักระหว่างทาง ทำให้ SPIRAL ดำเนินเรื่องได้อย่างน่าติดตามมากกว่า SAW ภาคหลังๆ ข้อเด่นมากๆของมัน คือการบิวด์อารมณ์คนดู ยิ่งเข้าสู่ครึ่งหลังของเรื่อง เหมือนอารมณ์ของเราจะยิ่งเครียด กดดัน และประสาทแดก ไม่แพ้กับตัวละครพระเอก ที่ความฉิบหายทุกอย่างค่อยๆถาโถมเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว ถ้านับตั้งแต่ภาคแรกๆ SPIRAL น่าจะเป็น SAW ภาคที่สร้างอารมณ์ร่วมให้กับเราได้ดีที่สุดอย่างไม่มีข้อสงสัย
องค์ประกอบสำคัญที่ดูผิวเผินแทบจะไม่เข้ากับแฟรนไชส์ SAW เลย จากการมองแว้บแรกคือตัว คริส ร็อก ที่พลิกคาแร็คเตอร์จากบทนำในหนังตลกมาตลอด มาอยู่ในหนังระทึกขวัญเข้มข้นแบบนี้ แต่กลายเป็นว่าตัวเขาเองนี่แหละ ที่นำรสชาติที่แตกต่างมาให้กับ SAW ทำให้ SPIRAL ไม่ได้โมโนโทนจนเกินไป กลายเป็นหนังที่มีความหลากรสมากขึ้น มีความบันเทิงมากขึ้น
ใครที่เคยรังเกียจ SAW เพราะโหดอย่างเดียว ไม่ได้บันเทิงแบบอื่นเลย จึงไม่อยากให้มองข้ามเรื่องนี้ เขาใส่อารมณ์ขันนิดๆเข้ามา และประเด็นดรามาในบางแง่มุม โดยเฉพาะความสัมพันธ์เรื่องพ่อลูกของเขากับ ซามูเอล แอล.แจ็กสัน ก็ทำได้ค่อนข้างโดย พูดถึงลุงซามูเอล แม้บทแกจะไม่มากมายนัก แต่ทุกครั้งที่ปรากฏตัวบนจอ ก็สร้างพลังให้กับหนังได้อย่างมากมาย ไม่เสียแรงที่ดึงเข้ามาร่วมแฟรนไชส์เลย
สำหรับแฟนหนัง SAW ที่สงสัยว่าจะยังเอ็นจอยกับ SPIRAL หรือไม่ แน่นอนว่าหนังยังมีฉากกับดักโหดๆที่น่าพึงพอใจ แม้ส่วนตัวคิดว่าจะไม่ได้วิปริตสุดเท่าบางภาค แต่ก็อยู่เกณฑ์โหดและครีเอทอย่างพอดี ยกตัวอย่างฉากเปิดหนังที่ปล่อยออนไลน์มาให้ได้ดูกันก่อน 3 นาที เป็นกับดักตัดลิ้นในรางรถไฟ แค่ฉากเปิดก็เชื่อว่าสะใจแฟนหนังแล้ว และของจริงในหนังเต็มๆ ยังมีอะไรซ่อนอยู่ ไม่ได้เผยมาในตัวอย่างอีกเพียบ และแน่นอนว่า SPIRAL ยังมีเส้นเรื่องที่ยากแก่การคาดเดา ประเด็นวิพากท์สังคม และอีกหลายองค์ประกอบชวนลุ้นระทึกที่น่าจะพึงพอใจแฟนประจำเช่นเคย
แม้ว่า SPIRAL จะไม่ใช่หนังเพอร์เฟกในทุกด้าน แต่ถือว่าเป็นความบันเทิงที่น่าพอใจ เป็น 90 นาทีในโรงหนังที่พาให้เราลืมความโหดร้ายในโลกภายนอก ไปบันเทิงกับฆาตกรเลียนแบบจิกซอว์แบบเต็มๆ แทบจะไม่มีนาทีไหนที่เราหลุดจากเส้นเรื่องได้เลย (ยกเว้นบางฉากที่เบือนหน้าหนีจากความโหดขั้นสุดในจอ) สำหรับแฟรนไชส์ที่อายุเก่าแก่ถึง 17 ปี หนังเรื่องนี้ เหมือนกับทำให้เราย้อนนึกไปถึง SAW ภาคแรกอีกครั้ง ความสดใหม่แบบนั้น กลับมารู้สึกอีกครั้ง แม้ว่า SPIRAL จะไม่ใช่ของใหม่ทั้งหมด แต่เราก็เชื่อว่า มันน่าจะชุบชีวิตหนังชุด SAW ได้ไม่มากก็น้อย
(ให้ 8 คะแนนจากเต็ม 10 คะแนน)
HAVE U EVER SEEN?
Spiral: From the Book of Saw (2021) [ 5/10 ]
แนว: Horror, Thriller
ความยาว: 1 ชั่วโมง 33 นาที
กำกับโดย: Darren Lynn Bousman
ถ้าพูดถึงหนังอย่าง Saw แล้ว เอาจริงๆแล้วสิ่งที่แฟนๆหลายๆคนคาดหวังก็คงจะเป็นความโหด ความดิบ เถื่อน ชวนเบือนหน้าหนี เน้นความเลือดสาดกระจาย กับเกมเอาตัวรอดที่น่าตื่นเต้นเล่นให้อดรีนาลีนสูบฉีด โดนที่ยังไม่ต้องไปพูดถึงเสื้อเรื่องซึ่งจะมองว่ามันเป็นเรื่องรองไปเลยก็ได้ ก็คือถ้าได้เนื้อเรื่องที่ดีมาด้วยนั่นก็คือกำไร
และ Spiral ก็ถือว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของเฟรนไชส์นี้
โดยที่ตัวเองเคลมว่านี่คือการเอามหกรรมการฆ่าที่เหนือจินตนาการของ Jigsaw มาต่อยอด และส่วนตัวก็ค่อนข้างสนใจในไอเดียนี้เพราะมันเหมือนกับการไปหยิบจับอะไรที่แปลกใหม่บนกลิ่นอายเดิมๆ โดยที่เจ้าของเกมมรณะในครั้งนี้จะพุ่งเป้าไปที่ตำรวจเลวไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปเหมือนต้นฉบับ และหนังจะมีความเป็นหนังสืบสวนมากขึ้นโดยการที่ให้ตัวเอก Chris Rock ที่เป็นตำรวจตามสืบหาและไล่ล่าฆาตกรที่ทยอยฆ่าตำรวจไปทีละคนๆและพยายามหาจุดเชื่อมโยงว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันเกี่ยวข้องอะไรกับการตามเช็คบิลตำรวจแต่ละคน แถมสอดแทรกเรื่องราวดราม่าของพ่อลูกเข้ามาเพื่อเพิ่มรสชาติและก็ค่อนข้างสำคัญกับตอนจบอีกด้วย ซึ่งตรงนี้ผมก็ไม่ได้ติดอะไร ดูได้เพลินๆเรื่อยๆ
แต่ถ้าพูดถึงความโหดเหี้ยมของเกมแต่ละเกมที่ใช้นั้น ก็ต้องพูดตรงๆว่า มันก็มีความโหดในระดับนึงสำหรับหลุ่มรนดูทั่วไป แต่สำหรับคนที่เป็นแฟนหนัง Jigsaw แบบจ๋าๆและคิดตามมาตลอดนั้น เรียกได้ว่านี่ยังไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่เฉพาะความโหด แต่ลูกเล่นหรือความคิดสร้างสรรค์ในการเล่นเกมก็ไปไม่ถึงอีกด้วย แถมสิ่งที่แย่มากที่สุดและเป็นจุดที่ทำให้หนังพลังทลายลงไปอีกขั้นนึงก็คงจะเป็นจุดหักมุมที่มันโคตรจะเดาได้ง่ายมากๆ
คือไม่ต้องเป็นคนที่ต้องสังเกตุวิเคราะห์หนังเก่งๆก็พอจะเดาออกแล้วว่ามันคืออะไรตั้งแต่ครึ่งเรื่องแล้วมั้ง ก็เล่นเล่ามาซะเห็นชัดเจนขนาดนั้น และที่สำคัญพี่จะเน้นตุ้งแช่ไปไหนนี่สะดุ้งหลายรอบมากกับไอหน้ากากหมูเอาถุงหรือผ้าอะไรซักอย่างนี่แหละมาแอบ Stealth เหยื่อ คือสะดุ้งมันจนรู้ทันมันจนตอนหลังรู้สึกเฉยๆไปแล้ว
ซึ่งถือว่ามันเป็นอะไรที่น่าผิดหวังมากพอสมควร ถือว่าน่าเสียดายกับไอเดียที่น่าสนใจมันไม่สามารถพาให้หนังมันพีคไปได้กว่าไปนั่งดูการสืบสวนหาฆาตกรไล่ฆ่าตำรวจธรรมดาๆ กับรายละเอียดยิบย่อยๆที่น่าหงุดหงิดที่มีอยู่ตลอดเรื่อง
จิบชา รับลม กับมิสเตอร์ อเมริกัน
Spiral: From the Book of Saw (เกมลอกอำมหิต) (2021) (Darren Lynn Bousman) (B)
เกิดเหตุฆาตกรรมน่าสยองขึ้นในรางรถไฟใต้ดินอันมืดมิด ศพของชายคนหนึ่งอยู่ในสารภาพแหลกจากการชนและเหมือนว่า เขาจะถูกพันธนาการด้วยบางสิ่งที่คล้ายเครื่องทรมานที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อน ใช่แล้ว มันเหมือนการฆาตกรรมของจิ๊กซอว์ ฆาตกรโหดที่ตายไปนานแล้ว และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ คนที่ถูกฆ่าคือ ตำรวจ !!
.
ร้อนถึงนักสืบหนุ่มเลือดร้อนอย่าง แซ็ค แบงค์ ต้องเข้ามาสืบคดีนี้พร้อมกับความไม่ไว้ใจของคนทั้งกรมที่เกลียดเขาอันมาจากคดีเก่าในอดีต แซ็คต้องร่วมมือกับพ่อของเขาที่เป็นอดีตตำรวจเก่าตามจับคนร้ายคนนี้ที่เลียนแบบเกมของจิ๊กซอว์โดยไม่รู้ว่า เขาจะได้เป็นส่วนหนึ่งของเกมนี้
“สวัสดีนักสืบแบงค์ ผมอยากจะเล่นเกม”
ครับ SAW ภาคใหม่อีกแล้วครับ คราวนี้มาถึงภาคที่ 9 แล้วสำหรับเกมทรมานนี้ จะมองว่า มันเป็นการรีบู้ทหนังชุดนี้ใหม่อีกครั้งรอบหลังจากคราวที่แล้วแม้ว่าจะทำเงินไปไม่ใช่น้อย แต่ก็โดนด่ายับเหมือนกันว่า ไม่มีอะไรแปลกใหม่เลยสำหรับหนังชุดนี้ มันยังเน้นการทรมานเหยื่อด้วยเครื่องทรมานและหักมุมตามเคย โดยเฉพาะบทสรุปของเรื่องที่ยังวนเวียนกับลูกศิษย์ของจิ๊กซอว์ก็ยิ่งทำให้คนดูรู้สึกว่า หนังเรื่องนี้น่าจะถึงทางตันแล้วเหมือนกัน
จนกระทั่ง คริส ร็อค ดาราตลกชื่อดังที่เป็นแฟนคลับของหนังเรื่องนี้ที่ตัดสินใจเข้ามาซื้อสิทธิในการสร้่างหนังชุดนี้เองด้วยความรู้สึกว่า หนังเรื่องนี้น่าจะยังมีอะไรให้เล่นได้อีกเยอะ และ หวังว่าจะมาชุบชีวิตหนังชุดนี้ได้ ร็อคจึงมองว่า เขาจะไม่ทำหนังแบบเดิมแต่ทำหนังในสภาพที่บอกว่า ได้รับแรงบันดาลใจจากจิ๊กซอว์แทน
ใช่ครับ หนังเรื่องนี้แทบจะเรียกว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับเรื่องราวของจอห์น เครเมอร์เลย ไม่มีลูกศิษย์จิ๊กซอว์ ไม่มีฮอฟแมน ไม่มีอะไรนอกจากเกมอำมหิตที่ลอกมาจากของจิ๊กซอว์เท่านั้นเอง และ เน้นที่การสืบสวนมากกว่า คริส ร็อคบอกว่า หนังภาคนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังอย่าง Seven กับ 48 Hour ซึ่งมันก็มีกลิ่นของมันอยู่นี่ละครับ เอาจริง ๆ มันเป็นแนวทางที่น่าสนใจแหละ แต่ปัญหาของหนังภาคนี้คือ มันมีคำถามเยอะไปหมดในด้านความสมจริงสมจังและแน่นอนว่า เดาคนร้ายง่ายมาก ๆ
เดาง่ายจนเรียกว่า หมดสนุกเลยครับ แถมบรรดากับดักถาคนี้ก็ออกแบบมาไม่ได้น่าจดจำเลย เข้าขั้นสิ้นหวังอีกต่างหาก (นี่ไม่รวมกับหนังภาคที่แล้วที่อนาถพอกัน) เรื่องหักมุมอีกหรืออะไรที่รวมแล้วไม่ได้รู้สึกว้าวกับมันเลย พูดคือ จิ๊กซอว์ภาคนี้ไม่ได้แปลกใหม่เลยครับ สูตรเดิมแค่เอาจิ๊กซอว์ออกไปแค่นั้นแหละ เนื้อหาก็ตามเดิม พระเอกตามสืบ แล้วพบว่า คดีเกี่ยวข้องกับตัวเองในอดีต และ เจอกับดัก หักมุม แล้วก็จบ แค่นั้นแหละ หนังมันแทบจะไม่มีอะไรน่าจดจำเลย
แถมสารที่พูดถึงเรื่องการชำระโลกให้สะอาด ศีลธรรมอันดีและอื่น ๆ ก็ดูล่องลอยมากจนรู้สึกว่า มึงลอกมาได้ลอยจริง ๆ ให้ตายเถอะ พูดคือ มันสู้อุดมการณ์ของจอห์น เครเมอร์ที่บอกว่า คนเราจะรู้จักคุณค่าของชีวิตเมื่อเข้าสู่ประสบการณ์เฉียดตายซะก่อน ไม่ได้ หากตีความเรื่องศาสดาก็คือ เมื่อศาสดาตาย คำสอนก็เพี้ยนตามไปด้วยไม่เว้นเรื่องฆาตกรก็ตาม ซึ่งมันน่าเศร้าที่หนังมันพยายาม ๆ นะ แต่มันไม่ถึงจริง ๆ เอาเวลาไปดูภาค 1-7 ยังดีกว่า (แค่ภาคนี้ดีกว่าที่แล้วนะ) รวมแล้วดูได้ครับ แต่ไม่ใช่งานที่จะมาชุบชีวิตแฟรนไชส์นี้ได้แบบที่ Halloween หรือ Scream ทำครับ
ป.ล. การแสดงของคริส ร็อค ทำลายหนังหมดเลยครับ แกไม่เหมาะกับบทนี้เลย เข้าใจแหละว่า โปรดิวเซอร์กับเจ้าของหนังอ่ะนะ แต่แกเล่นบทนี้ไม่ขึ้นจริง เข้าขั้นน่ารำคาญด้วย ส่วน ป๋าแซมมวลดีตามมาตรฐานแกครับ แต่บทก็น้อยไปหน่อย
ป.ล. จิ๊กซอว์คนใหม่ห่วยเกิน คือ แย่กว่า ฮอฟแมนอีกอ่ะ
ป.ล. จุดเชื่อมโยงหนังภาคนี้กับจิ๊กซอว์ภาคเดิมคือ คดีของเซอร์ซิล คนไข้ของจิ๊กซอว์ในภาคสองบนกระดานสืบสวนครับ แต่ก็ไม่ได้เฉลยว่า เกี่ยวยังไง คงกะเก็บไว้ทำภาคต่อ ซึ่งถึงภาคนี้จะไม่ดีนักก็ยังทำเงินไป 40 ล้านจากทุนสร้าง 20 ล้าน (แพงสุดในทุกภาคด้วย)
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Saw II (2005) เกมต่อตาย..ตัดเป็น 2
Saw VI (2009) เกมต่อตาย..ตัดเป็น 6
5.6