เดี่ยวไมโครโฟน 7.5 (2008) ยังคงเน้นไปที่การเล่าเรื่องราวชีวิตและปัญหาต่าง ๆ
เดี่ยวไมโครโฟน 7.5 (2008) ของโน้ต อุดม แต้พานิช แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็นำเสนอประเด็นที่น่าสนใจอีกหลายประการ ได้แก่ การกลับบ้าน: โน้ต อุดม แต้พานิช เดินทางกลับบ้านเกิดของเขา เขาได้พบกับผู้คนมากมายจากหลากหลายสาขาอาชีพ
เขาได้เรียนรู้เรื่องราวและมุมมองใหม่ ๆ มากมาย ซึ่งช่วยให้เขาเข้าใจชีวิตและตัวตนของตัวเองมากขึ้น ความรัก: โน้ต อุดม แต้พานิช ได้พบกับความรักครั้งใหม่ เขาได้เรียนรู้ที่จะรักและยอมรับตัวเอง ความสุข: โน้ต อุดม แต้พานิช ได้ค้นพบความสุขในชีวิต เขาพบว่าความสุขนั้นไม่ได้อยู่ที่ความสำเร็จหรือชื่อเสียง แต่อยู่ที่การใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย
เชื่อว่าทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ โน้ส อุดม แต้พานิช เดี่ยวไมโครโฟน 7.5 (2008) หนึ่งในศิลปินและดาราตลกที่คร่ำหวอดในวงการทอล์กโชว์มากว่า 20 ปี ทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มการแสดงเดี่ยวไมโครโฟน (Stand Up Comedy) ในเมืองไทย ด้วยลีลาการพูดที่สนุกสนาน สอดแทรกสาระและความบันเทิง
พร้อมการเล่าเรื่องที่มีเอกลักษณ์ ทำให้เขามีแฟนคลับทุกเพศทุกวัย และการกลับมาบนเวทีของ โน้ส อุดม ล่าสุด ในการแสดงชุดเดี่ยว 13 หลังนำมาเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม Netflix ก็ได้กลายเป็นประเด็นพูดถึงบนโลกออนไลน์อย่างมาก จากการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลในแง่มุมต่าง ๆ แต่รู้หรือไม่ว่ากว่าจะมีวันนี้ได้นั้น ประวัติดารา โน้ส อุดม เป็นมาอย่างไร วันนี้เราจะไปทำความรู้จักเขาให้
มากยิ่งขึ้นกันประวัติ โน้ส อุดม เจ้าพ่อคอมเมดี้เมืองไทยอุดม แต้พานิช มีชื่อเล่นเดิมว่า อู๊ด แต่รู้จักกันในชื่อ โน้ส มาจากคำว่า nose ที่แปลว่า จมูก เป็นฉายาที่เพื่อนตั้งให้แล้วเรียกกันจนติดปาก เนื่องจากเขามีจมูกที่โตและโดดเด่น โน้ส อุดม เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2511 ที่จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรของคุณแม่ทองสุข อารีล้น กับคุณพ่อสมจิต แต้พานิช ครอบครัวมีเชื้อสายจีน มีพี่น้อง 3 คน โดยเขาเป็นลูกคนกลาง
หลังจากคุณพ่อของโน้สจากไปตั้งแต่เขาอายุได้ 6 ขวบ ทำให้ต้องย้ายตามคุณแม่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ โดยสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนวัดศาลาลอย เดี่ยวไมโครโฟน 7.5 (2008) เทศบาล 2 (ปัจจุบันคือ โรงเรียนเทศบาล 2 “วิภัชศึกษา” จังหวัดสุรินทร์) และจบระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนสุรวิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งช่วงหนึ่งสมัยวัยรุ่น โน้สได้หนีออกจากบ้านมาอยู่กับญาติ
ซึ่งเปิดร้านขายผลไม้อยู่ที่ชลบุรี จากนั้นเขามาเรียนด้านศิลปะที่วิทยาลัยเพาะช่าง แต่เรียนได้เพียง 2 ปีก็ต้องออก เพราะไม่มีเงินเรียนต่อ ก่อนจะมาเป็น โน้ส อุดม เขาทำงานอะไรมาบ้างถึงจะเรียนไม่จบ แต่ด้วยความถนัดและชื่นชอบในศิลปะ เป็นแรงผลักดันให้โน้สเริ่มทำงานแรกในชีวิต ด้วยการเป็นนักเขียนการ์ตูนที่นิตยสารชัยพฤกษ์การ์ตูน ได้ค่าวาด 150 บาท ต่อการ์ตูน 2 ช่อง โดยมีนามปากกาว่า “Note Namun” (โน้ต หน้ามึน)
ต่อมาเมื่อเขาได้อ่านนิตยสารไปยาลใหญ่ ฉบับแรกบนแผง ก็รู้สึกถูกใจในบุคลิกของหนังสือและอยากร่วมงานด้วย จึงไปสมัครเป็นพนักงานฝ่ายศิลป์ ทำหน้าที่ออกแบบจัดทำภาพปกและภาพประกอบต่าง ๆ นอกจากนั้นเขายังค้นพบความสามารถในการเขียน จนเกิดแรงบันดาลใจให้อยากเขียนหนังสือบ้าง และแล้วงานเขียนเรื่องแรกของเขา “ครั้งหนึ่งในชีวิตกับแตงโมปั่น” เดี่ยวไมโครโฟน 7.5 (2008) ก็แจ้งเกิดที่นิตยสารไปยาลใหญ่นั่นเอง หลังจากงานได้ตีพิมพ์ เขาก็เริ่มรับผิดชอบคอลัมน์ต่าง ๆ โดยใช้นามปากกาว่า “โน้ตหน้ามึน
หลานเจ๊นี้ขายผลไม้” ควบคู่กับตำแหน่งฝ่ายศิลป์ของหนังสือ ซึ่งต่อมาโน้สก็ผลิตผลงานเขียนของตัวเองมากถึง 21 เล่ม ซึ่งบางเล่มยังได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศอีกด้วยเข้าสู่วงการบันเทิง จากการเป็นนักแสดงตลก
โน้ส อุดม พกพาความสามารถทางการพูด
และเขียนเข้าสู่เส้นทางบันเทิง โดยเริ่มจากการเป็นตัวประกอบในรายการวิก 07 ของเจเอสแอล และอีกหลายรายการตามมา จนผู้ใหญ่เห็นแววและประทับใจในลีลาจึงชักชวนมาร่วมงานในรายการ ยุทธการขยับเหงือก ซึ่งเป็นรายการ Comedian Show ที่ฮิตเป็นอันดับต้น ๆ ของช่อง 5 ในยุคนั้น ทำให้ โน้ส อุดม แจ้งเกิดในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัวในชื่อ “เสนาฯ โน้ส”
นอกจากจะเป็นนักแสดงตลกและนักเขียนแล้ว โน้สยังมีผลงานด้านอื่น ๆ ในวงการ เช่น การแต่งเพลง “แหล่หารสอง” ประกอบโฆษณา รวมพลังหารสอง จนฮิตติดหูไปทั่วประเทศ รวมถึงด้านการแสดง โดยเขาได้ฝากผลงานภาพยนตร์ไว้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น กล่อง (2541) กำกับโดย ท่านมุ้ย ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล, โคตรรักเอ็งเลย (2549), เมล์นรก หมวยยกล้อ (2550), อีติ๋มตายแน่ (2551), ฝันโคตรโคตร
(2553) เป็นต้นต่อมาในปี พ.ศ. 2562 โน้ส อุดม เดี่ยวไมโครโฟน 7.5 (2008) ยังมีผลงานเพลงในนามวง DTK BOY BAND โดยเป็นการรวมวงเฉพาะกิจกับก้อง ห้วยไร่ และสิงโต นำโชค มีเพลงแรกคือ “ลองรัก” เพลงต่อมา “ลองรวย” และเพลงล่าสุด “รองช้ำ”ผู้ริเริ่มการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนในเมืองไทยหลังจากความสำเร็จในบทบาทพิธีกรสายคอมเมดี้
โน้ส อุดม ได้ตัดสินใจแยกตัวออกมาจากรายการยุทธการขยับเหงือก แล้วหันไปจัดเดี่ยวไมโครโฟน ซึ่งเป็นการแสดงสดพูดตลกคนเดียวบนเวที จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2538 และเป็นผลงานสร้างชื่ออย่างที่สุด ส่งผลให้ อุดม แต้พานิช กลายเป็นตลกเดี่ยวชั้นแนวหน้าของประเทศ จนเกิด เดี่ยว อื่น ๆ ตามมา ซึ่งประสบความสำเร็จมาก จนถึงกับต้องเปิดการแสดงหลายรอบติดต่อกันทุกครั้ง ปัจจุบันมีการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนมาแล้ว 13 ครั้ง
และการแสดงพิเศษอีก 4 ครั้งมีธุรกิจถึง 5 แห่ง,นอกจากจะเป็นนักพูดและแสดงเดี่ยวแล้ว
เขายังเป็นนักธุรกิจอีกด้วย ซึ่งข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบรายชื่อของ โน้ส อุดม แต้พานิช นั่งเป็นกรรมการบริษัท 5 แห่ง ได้แก่
บริษัท ทุเรียน จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2546 โดยมีรายชื่อนายอุดม แต้พานิช เป็นกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ไอศกรีม เดี่ยวไมโครโฟน 7.5 (2008) และเบเกอรี่
บริษัท พอดีพานิช จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2539 โดยมีรายชื่อนายอุดม แต้พานิช เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจออกแบบผลิตภัณฑ์ รับจ้างการแสดง และเขียนหนังสือเพื่อจำหน่าย
บริษัท ลองรวย จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 โดยมีรายชื่อนายอุดม แต้พานิช เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจประกอบกิจการขายปลีก ตัวแทนจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค
บริษัท เมดอินแฮปปี้แลนด์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2561 โดยมีรายชื่อนายอุดม แต้พานิช เป็นกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจจัดงานแสดงโชว์ รับจ้างแสดง ถ่ายโฆษณา แสดงแบบ
บริษัท เอ็ม.โอ.ดี. ช็อป จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2557 โดยมีรายชื่อนายอุดม แต้พานิช เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจออกแบบและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ของที่ระลึก ทุกชนิดโน้ส อุดม อาจจะเป็นผู้ที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้าง แต่ในเรื่องของความรักแล้ว
เขาเป็นผู้ชายที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไร โดยเขาเคยมีข่าวกับสาว ๆ ในวงการหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เข็ม กฤตธีรา หรือ เข็ม ตีสิบ ที่เคยคบหาดูใจกันในระยะสั้น ๆ ตั้งแต่ฝ่ายหญิงยังไม่ได้เข้าวงการจริงจัง รวมถึง ป๊อป อารียา อดีตนางสาวไทยปี 2537 ก็เคยมีข่าวว่าทั้งคู่สานสัมพันธ์กัน เพราะสนิทกันมากและมีรสนิยมคล้ายกัน
แต่สาวป๊อปกลับออกมายืนยันว่าเป็นเพียงแค่เพื่อนเท่านั้น ต่อมา โน้ส ก็มีข่าวกับไฮโซสาว ปลา อัจฉรา บุรารักษ์ เจ้าของร้านไอศกรีมชื่อดัง Iberry ซึ่งทั้งคู่ได้เปิดร้านทำธุรกิจที่เชียงใหม่ด้วยกัน แต่ก็ไม่มีการยืนยันสถานะความสัมพันธ์จากทั้งสองฝ่ายแต่อย่างใดเคยคิดจะฆ่าตัวตายถึง 3 ครั้ง
แม้จะดูเป็นหนุ่มอารมณ์ดี เฮฮากับเพื่อนฝูง ใครจะรู้บ้างว่าเขาเคยมีความคิดที่จะฆ่าตัวตายถึง 3 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นตอนอกหักสมัยเรียนหนังสือ เดี่ยวไมโครโฟน 7.5 (2008) ตอนเป็นหนี้หลายล้านจากการค้ำประกันให้เพื่อนสนิท และตอนรู้ว่าถูกโกงต่าง ๆ นานา ซึ่งสุดท้ายแล้วเขาก็ผ่านมันมาได้เสมอ
โน้ส อุดม บวชศึกษาพระธรรม ฉายา “อธิจิตฺโต”โน้ส อุดม ได้เข้าอุปสมบทเป็นภิกษุ ในวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ณ วัดถ้ำพระบำเพ็ญบุญ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย มีฉายาว่า “อธิจิตฺโต” แปลว่า ผู้มีจิตสูง โดยศึกษาพระธรรมและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายภายใต้ผ้าเหลืองอยู่หลายเดือน ซึ่งปัจจุบัน โน้ส อุดม ได้ลาสิกขาเรียบร้อยแล้ว
I believe that nowadays there is probably no one who doesn’t know this man, Nose Udom Taephanich, one of the artists and comedians who has been in the talk show industry for more than 20 years and is also the pioneer of Stand Up Comedy. Moviehd3 in Thailand with a fun speaking style Inserting information and entertainment with unique storytelling Makes him have fans of all genders and ages. And Nose Udom’s recent return to the stage in his solo show 13,
after being released on the Netflix platform, has become a huge talking point online. From criticizing the work of the government in various aspects, but do you know how the history of Dara Nose Udom came to be until today?
Today we are going to get to know him even more, เดี่ยวไมโครโฟน 7.5 (2008) history of Nose Udom, the godfather of comedy in Thailand. Udom Taephanich’s original nickname was Ood, but he was known as Nose, which comes from the word nose, which means nose. It’s a nickname
that friends gave him and called each other until it stuck. Because he has a large and prominent nose, Nose Udom was born on Sunday, September 1, 1968 in Chonburi Province. He is the son of Mother Thongsuk Areelon and Father Somjit Taephanich. The family is of Chinese descent. He has 3 siblings. He is the middle child.
After Nose’s father passed away when he was 6 years old, he had to move with his mother to live in Surin Province. He completed his primary education from Wat Sala Loi Thetsaban 2 School (now Thetsaban 2 School “Wiphat Suksa” Surin Province) and graduated from junior
high school from Sura Wittayakarn School. Surin Province which during one period of adolescence Nose ran away from home to live with relatives. who opened a fruit shop in Chonburi Then he came to study art at Pho Chang College. เดี่ยวไมโครโฟน 7.5 (2008) But after studying for only 2 years, he had to leave because he had no money to continue his studies. Before becoming Nose Udom, what kind
of work did he do? Even though I haven’t finished studying. But with aptitude and passion for art It was the impetus for Nose to start his first job in life. By being a cartoonist at Chaiyaphruek Cartoon Magazine, I received a drawing fee of 150 baht per 2-panel cartoon with the pen name “Note Namun” (Note with a dizzy face).
Later, when he read the first issue of Paiyal Yai magazine on the newsstand, he was impressed by the personality of the book and wanted to work with it. So I applied to be an art employee. He designed and prepared various cover art and illustrations.
In addition, he also discovered the ability to write. Until it inspired me to want to write a book. And then his first writing “Once in a Lifetime with Watermelon Smoothie” was published in Paiyal Yai Magazine. After the work was published He began to be responsible for various columns using the pen name “Note Dumb Face, Lan Jae Nee Sells Fruit” เดี่ยวไมโครโฟน 7.5 (2008) along with the position of art department of books.
Nose later produced 21 volumes of his own writing, some of which were translated into foreign languages, entering the entertainment industry. From being a comedian Nose Udom brings his speaking and writing abilities into the entertainment path.
Starting with a supporting role in JSL’s Wig 07, many more programs followed. Until adults saw the spark and were impressed by her style and invited them to join in the program. Gum shifting strategy which was a Comedian Show that was the top hit on Channel 5 at that time, causing Nose Udom to fully emerge in the entertainment industry under the name “Sena Nose”
In addition to being a comedian and writer, Nose also has other works in the industry,
such as composing the song “Lae Harn Song” for the commercial Ruam Pharang Harn Song. until it became popular all over the เดี่ยวไมโครโฟน 7.5 (2008) country Including the performance side He has left many films including Box (1998) directed by Than Mui, M.C. Chatri Chalerm Yukol, Kot Rak Eng Loei (2006), Mail Narok Muay Yok Lo (2007), E Tim Tai Nae (2008), Fun Kot Kot (2010),
etc. Later in 2019, Nose Udom also produced music under the name DTK BOY BAND, which was a special band together with Kong Huai Rai and Singto Nam. Chok Mee’s first song was “Long Rak”, the next song was “Long Ruay” and the latest song.
“Rong Bruam”, the pioneer of stand-up comedy in Thailand
After success in his role as a comedy host, Nose Udom has decided to separate himself from the Gum-Moving Battle program. Then turned to arrange a solo microphone. which is a live performance of comedy alone on stage It was first held in 1995 and
was the most famous creation, resulting in Udom Taephanich becoming one of the leading stand-up comedians in the country. Other stand-ups followed, which were very successful. To the point of having to perform several shows in a row every time.
To date, there have been 13 stand-up shows and four special appearances at five businesses.
In addition to being a speaker and เดี่ยวไมโครโฟน 7.5 (2008) solo performer, He is also a businessman. which is information from the Department of Business Development The Ministry of Commerce found the names of Nose Udom Taephanich sitting on the board of 5 companies:
Durian Company Limited was ดูหนัง ออนไลน์ registered on October 14, 2003, with Mr. Udom Taephanich listed as a company director. Operates a business selling food, beverages, ice cream and bakery products.
Pordeephanich Company Limited was registered on September 4, 1996, with Mr. Udom Taephanich listed as one of the company’s directors. Run a product design business Hiring a show and write books for sale
Long Ruay Company Limited was registered on July 8, 2020, with Mr. Udom Taephanich listed as one of the company’s board of directors. Operating a retail business Distributor of consumer products
Made in Happy Land Company Limited was registered on January 22, 2018, with Mr. Udom Taephanich listed as a company director. เดี่ยวไมโครโฟน 7.5 (2008) Run a business of organizing shows, hiring shows, shooting advertisements, showing models.
M.O.D. Shop Company Limited was registered on October 16, 2014, with Mr. Udom Taephanich listed as one of the company’s directors. Running a business designing and selling all kinds of products, souvenirs, Nose Udom may be the person who creates laughter for those around him. But in the matter of love He is a man who is not very successful. He has been in the news with many women in the industry, such as Kem Krittheera or Kem Teesib,
who they dated for a short period of time before the women had yet to enter the serious industry, including Pop Areeya. The former Miss Thailand 1994 has also been rumored to be in a relationship. Because they are very close and have similar tastes. But the pop girl came out to confirm that they were just friends.
Later, Nose had news with a high society girl, เดี่ยวไมโครโฟน 7.5 (2008) Pla Atchara Burarak, the owner of the famous ice cream shop Iberry, where they both opened a business shop in Chiang Mai together. But there has been no confirmation of the relationship status from either side. He has thought about committing suicide 3 times.
Even though he looks like a young man with a good mood Have fun with friends Who knew that he had thoughts of committing suicide 3 times, whether it was when he was heartbroken while he was in school? When I was in debt of millions from a guarantee given to a close friend. And when he found out that he had been cheated in various ways, in the end he always got through it.
7.8