Ran (1985) ศึกบัลลังก์เลือด
เรื่องย่อ
ขุนศึกชาวญี่ปุ่นฮิเดโทริอิจิมอนจิตัดสินใจว่าจะถึงเวลาเกษียณและแบ่งศักราชเป็นบุตรชายทั้งสามของเขา ลูกชายคนโตและคนกลางของเขา – ทาโร่และจิโร่ – เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเขาและสัญญาว่าจะสนับสนุนเขาในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ซาบุโร่ลูกชายคนเล็กไม่เห็นด้วยกับทุกคนที่เถียงกันว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่พี่น้องทั้งสามจะยังคงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ขุนศึกจึงขับไล่ซาบุโร่ออกไป เมื่อขุนศึกเริ่มเกษียณอายุเขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าลูกชายคนโตสองคนเห็นแก่ตัวและไม่มีความตั้งใจที่จะรักษาสัญญา มันนำไปสู่สงครามและมีเพียง Saburo ที่ถูกเนรเทศเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาได้
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังญี่ปุ่น เรื่อง Ran (1985) ศึกบัลลังก์เลือด หนังประเภท Drama ดราม่า เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
- Akira Kurosawa
บริษัท ค่ายหนัง
- Herald Ace
- Nippon Herald Films
- Greenwich Film Productions
นักแสดง
- Tatsuya Nakadai
- Akira Terao
- Jinpachi Nezu
- Daisuke Ryu
- Mieko Harada
- Peter
- Hisashi Igawa
- Yoshiko Miyazaki
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
Form Corleone
หนังเก่าเล่าใหม่ 119: Ran (Akira Kurosawa, 1985) รีวิวโดย Form Corleone
หนังเก่าเล่าใหม่ 119: Ran (Akira Kurosawa, 1985)
“สูงสุดคืนสู่สามัญ ความทะยานอยากในอำนาจ” Ran ผลงานผู้กำกับ ‘อาคิระ คุโรซาวา’ เล่าเรื่องราวของ โชกุนผู้ยิ่งใหญ่ ฮิเดโตราและลูกชายทั้งสามคน เมื่อโชกุนผู้ยิ่งใหญ่เข้าสู่วัยชราจึงตัดสินใจสละทรัพย์สมบัติและดินแดนเพราะอยากไปใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข โชกุนจึงยกตำแหน่งให้กับลูกชายคนโตปกครองดินแดนแทนตัวเอง และมอบดินแดนส่วนที่เหลือให้กับลูกชายอีกสองคน แต่แล้วลูกชายคนเล็กที่รักในตัวโชกุนที่สุดได้พูดจาไม่ถูกใจเพราะเป็นคนซื่อตรงซื่อสัตย์ จนถูกเนรเทศออกจากเมือง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความตกต่ำในชีวิตโชกุนผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อลูกชายคนโตถูกภรรยาปั่นหัวให้ยึดอำนาจพ่อตัวเองมาทั้งหมด ทำให้ลูกชายคนโตทำการยึดทุกสิ่งของพ่อตัวเองมาเป็นของตัวเอง และทำให้โชกุนผู้ยิ่งใหญ่ต้องออกเดินทางจากเมืองที่ตัวเองเคยปกครอง ร่อนเร่พเนจรเหลือผู้ติดตามเพียงน้อยนิด จนตัดสินใจไปขออาศัยอยู่กับลูกชายคนกลาง แต่กลับถูกลูกชายคนกลางปฏิเสธให้การช่วยเหลือ เพราะจะไปขัดคำสั่งจากพี่ชายตัวเอง ทำให้โชกุนผู้ยิ่งใหญ่เจ็บซ้ำ ต้องเดินทางอย่างไร้จุดหมาย ไร้อำนาจ และสิ้นหวังเต็มทน เคราะห์กรรมยิ่งกว่านั้น เมื่อลูกชายคนโตตัดสินใจจะตามมาสังหารโชกุนผู้เป็นพ่อตัวเอง เพราะกลัวอำนาจจะหลุดมือ แต่สุดท้าย โชกุนผู้ยิ่งใหญ่ ก็รอดออกมาได้ โดยไม่เหลือทหารผู้ติดตามแม้แต่คนเดียว เหลือแค่เพียงตัวตลกข้างกาย และนั่นก็ทำให้โชกุนผู้ยิ่งใหญ่กลายเป็นคนบ้าในที่สุด
แต่ความโหดร้ายของชีวิตโชกุนไม่ได้จบลงแค่นั้น เพราะตัวโชกุนมีอาการเดียวบ้าเดียวดีสลับกันไป ชะตาชีวิตนำพาโชกุนไปพบกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำเมื่อครั้งเป็นหนุ่ม จากเมืองหนึ่งไปสู่เมืองหนึ่ง จากอดีตที่เคยกระทำต่อชีวิตคนหนึ่งไปสู่ผลกรรมในปัจจุบัน ทั้งหมดตามหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา ยิ่งไปกว่านั้น จุดจบของโชกุนกับลูกชายคนสุดท้องยังเป็นโศกนาฏกรรมที่แสนเจ็บปวดเศร้าใจหัวใจสลาย ส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดดูมีพลังคืองานภาพและบรรยากาศทั้งหมดที่ ‘อาคิระ คุโรซาวา’ ยึดความเป็นธรรมชาติทั้งแสงจริง ท้องฟ้าจริง ภูมิทัศน์แวดล้อมจริง ทั้งหมด สะท้อนให้เราเห็นถึงความตัวเล็กของมนุษย์ที่พยายามแย่งชิงอำนาจกันอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยไม่ได้สำนึกถึงว่าตัวเองนั้นเล็กเพียงนิดเดียวเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ และความวุ่นวายอลหม่านที่มนุษย์ก่อขึ้นคือนรกบนพื้นดินดี ๆ นี่เอง รวมไปถึงฉากรบกันของทหารที่ล้มตายกันด้วยเงื่อนไขอย่างไม่จำเป็น และฉากจบของตัวละครชายตาบอดที่มีเพียงภาพวาดพระพุทธเจ้าผู้เป็นลูกชายของศัตรูเก่าโชกุนที่รอคอยพี่สาวกลับมารับ ที่แสดงสัญลักษณ์ของความมืดบอดในชีวิตและไม่รู้ว่าจะต้องออกเดินไปในทิศทางไหน
ดังนั้น Ran จึงเป็นภาพยนตร์ซามูไรที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของโลกภาพยนตร์ ด้วยความยิ่งใหญ่ของงานสร้าง และฝีมือการกำกับช่วงปลายชีวิตของ ‘อาคิระ คุโรซาวา’ ที่ยอดเยี่ยม ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมง 42 นาที ตัวหนังพาเราไปพบเจอกับห้วงอารมณ์ความสิ้นหวังและแก่นแท้ของมนุษย์ที่โหยหาอำนาจ ฝักใฝ่อยากเป็นใหญ่โดยไม่สนวิธีการ ขนานไปกับการตกอับของผู้ที่เคยยิ่งใหญ่ที่สุดและค่อย ๆ กลายเป็นคนสติฟั่นเฟือน บนเรื่องราวที่สอดประสานซ้อนทับกันไปมาในเส้นเรื่องเดียวกัน แง่มุมของการต่อสู้กันระหว่างพี่น้องร่วมสายเลือดที่ทำสงครามแย่งชิงอำนาจกันเอง จุดต่ำสุดในชีวิตของคนที่เคยอยู่สูงสุด ตัวละครทุกตัวในเรื่องได้รับบทเรียนจากผลของการกระทำด้วยกันทั้งสิ้น ความคมลึกของบทภาพยนตร์จึงสะท้อนภาวการณ์ของด้านมืดในจิตใจมนุษย์ และแสดงให้เราตระหนักถึงความเจ็บปวด ความโหดร้าย ความสับสนในจิตใจ พร้อมทั้งโศกนาฏกรรมผลกรรมของตัวละคร ทั้งหมดมีครบทุกองค์ประกอบ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความยาวของหนังทำให้เราสามารถซึมซับและพินิจพิเคราะห์พัฒนาการของตัวละครอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงทรงคุณค่ามากที่สุดเรื่องหนึ่ง…
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ ยิ้ม
ไอ้นี่ก็บ้าเเต่หนัง
RAN(1985 ,☆☆☆☆1/2)
ปัญหาของการดูหนังเก่าๆคือ เราไม่สามารถรับรู้ได้ว่าความรู้สึกของคนในสมัยนั้นจะเป็นไง อยากรู้จังว่าคนในสมัยนั้นจะว้าวขนาดไหน เพราะตัวผมดูเองยังโคตรว้าวสุดๆเลย
RAN คือผลงานที่ว่ากันว่าเป็นผลงานมาสเตอร์พีคเรื่องสุดท้ายของAkira Kurosawa ดัดแปลงมาจากงานเขียนเรื่องKing LearของWilliam Shakespeare
ว่าด้วยเรื่องราวของท่านโชกุนที่ตัดสินใจสละทรัพย์สมบัติและดินแดนให้กับลูกชายคนโตปกครองดินแดนแทนตัวเอง แต่แล้วลูกชายคนเล็กก็ได้พูดแสดงอาการไม่พอใจด้วยความเป็นคนตรงๆ ท่านโชกุนจึงเนรเทศลูกชายคนเล็กออกไปอย่างไม่ใยดี แต่ท่านโชกุนหารู้ไม่ว่ากำลังทำบางอย่างผิดพลาดอันใหญ่หลวง เพราะนี่กำลังจะเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมอันโหดเหี่ยม!!!
RANจัดว่าเป็นหนังที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้นและน่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง คือเห็นหน้าหนังแล้วอย่าคิดว่าเป็นแนวต่อสู้ชิงบังลังค์เฉยๆนะ ถึงผมจะไม่เคยอ่านเรื่องKing Learแต่ผมก็สัมผัสได้ถึงเนื้อเรื่องที่ทรงพลังสุดๆเลย งานโปรดักชั่นปราสาทดูยิ่งใหญ่และฉากสู้รบก็ยอดเยี่ยม และแฝงแนวคิดและหลักธรรมได้ดีมากเลย
อีกอย่างนึงนอกจากความยิ่งใหญ่คือเนื้อหาที่หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดให้กับเราคือตลอด2ชั่วโมง42นาทีหนังได้พาเราดำดิ่งไปสู่ความโกลาหลที่สิ้นหวังแบบกู่ไม่กลับ ระหว่างดูมันจะมีความรู้สึกหนักและกดดัน คิดตามไปตลอดว่า”มึงเล่นแบบนี้แล้วจะเล่าต่อยังไงวะ”
พอดูจบแล้วรู้สึกปวดหัวเลย ได้แต่นั่งดูเครดิตและเดินจากโรงแบบใจลอยราวกับโดนผู้กำกับชกหมัดน๊อคคาโรงประมาณนั้นได้ ยิ่งใครที่ใจไม่ถึงนะอาจจะนั่งจิตตกเหมือนที่ดูPan’s labyrinth หรือหนังDarren Aronofskyก็ได้นะ
สรุปแล้วRANคืออีกหนึ่งความยิ่งใหญ่ที่ปรมาจารย์Akira Kurosawaถ่ายทอดออกมาสู่วงการภาพยนตร์ แนะนำสำหรับคอหนังซามูไร หรือคนที่ชื่นชอบอะไรที่หนักหน่วงๆ
หนังโปรดของข้าพเจ้า
Ran (1985)
Genre : Action, Drama, War
Director : Akira Kurosawa
Play “King Lear” by : William Shakespeare
Screenplay : Akira Kurosawa, Hideo Oguni, Masato Ide
Ran ผลงานของ Akira Kurosawa เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากงานเขียนของ William Shakespeare เรื่อง King Lear
ผมไม่เคยอ่านหรือได้ชมละครเวทีเรื่อง King Lear แต่ก็อ่านเรื่องย่อ ๆ มาจาก blog ของอาจารย์ประวิทย์ แต่งอักษร ใครสนใจบทวิจารณ์ของอาจารย์เชิญได้ที่นี่เลยครับ http://pwttas.wordpress.com/2012/03/05/ran1985/
อย่างที่บอกครับว่า Ran คืองานดัดแปลงโดยอาศัยแค่โครงเรื่องจาก King Lear ครับ เมื่อวรรณกรรมตะวันตกถูกดัดแปลงมาเป็นฝั่งตะวันออก Akira Kurosawa เปลี่ยนตัวละครลูกสาวสามคนเป็นลูกชายสามคน คนโตกับคนกลางได้ครอบครองปราสาทที่ได้จากการทำสงครามของคนพ่อ ในขณะที่ลูกคนเล็กซึ่งไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของพ่อก็พูดจาตรงไปตรงมาจนทำให้พ่อไม่พอใจและถูกเนรเทศจากเมือง โชคยังดีที่ความตรงไปตรงมาถูกใจพันธมิตรร่วมรบของคนพ่อจึงชวนไปอยู่ด้วย และเช่นเดียวกับในวรรณกรรม King Lear ครับ เมื่อคนพ่อได้มอบอำนาจให้ลูกทั้งสองคนแล้วก็แทบหมดสิ้นบารมีที่เคยมีครับ ถูกบีบให้ต้องออกจากปราสาทของลูกทั้งคนโตและคนกลาง
แต่เรื่องราวของ Ran เป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของตระกูลครับ Lady Kaede ภรรยาลูกชายคนโตก็มาจากครอบครัวที่พ่อตัวเองเคยรบชิงอำนาจมา นางคนนี้เมื่อสบโอกาสก็อยากล้างแค้นทำให้ตระกูลนี้ย่อยยับ ภรรยาลูกชายคนกลาง Lady Sue ก็มาจากครอบครัวที่คนพ่อชิงอำนาจมา แตกต่างตรงที่เธอไม่เกลียด Lord Hidetora เพราะเธอเชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรมของพุทธศาสนา
มหากาพย์ตระกูล Ichimonji เป็นเรื่องราวที่น่าติดตามครับ จะได้เห็นทั้งมารยาหญิงและขุนนางที่จงรักภักดี ให้แง่คิดทั้งในเรื่องอำนาจและกรรมครับ งานโปรดักชั่นปราสาทและฉากสู้รบต่าง ๆ ล้วนทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ที่สำคัญคือเครื่องแต่งกายของตัวละครในหนังถูกใจคณะกรรมการออสการ์จนคว้ารางวัล Best Costume Design ปี 1986 ครับ
ใครที่เป็นแฟนวรรณกรรม William Shakespeare รับรองว่าไม่ผิดหวังผลงาน Ran ของ Akira Kurosawa แน่นอนครับ แม้ผมไม่เคยอ่าน King Lear แต่ก็พอจะบอกได้ว่าหนังเรื่องนี้นำโครงเรื่องมาดัดแปลงได้อย่างยอดเยี่ยมครับ โดยที่สาระสำคัญของวรรณกรรม Shakespeare ในช่วงต้นเรื่องยังครบถ้วน (Ran อาจจะมีกลิ่นอายตะวันออกในเรื่องพุทธศาสนา)
ส่วนแฟน ๆ Akira Kurosawa คงไม่พลาดอีกหนึ่งงาน masterpiece กันแน่นอน
Why You Can’t Miss : อีกหนึ่งภาพยนตร์ดัดแปลงจากวรรณกรรมของ William Shakespeare ที่ยอดเยี่ยมครับ
9.5/10
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Land of Bad (2024) ภารกิจฝ่าแดนดิบ