KUBHD ดูหนังออนไลน์ One for the Road (2022) วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ
เรื่องย่อ
ภาพยนตร์ดราม่าแนว Road Trip ของเพื่อนเก่าเพื่อนแก่สองคนที่แยกห่างกันไปมานาน ต้องกลับมาร่วมเดินทางไปด้วยกัน ระหว่างทางนั้นพวกเขาหนึ่งคนในนี้ได้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ความสัมพันธ์ครั้งนี้จะถูกรื้อฟื้นกลับขึ้นมาได้หรือไม่ หรือภายในภาพยนตร์จะมีประเด็นอะไรต่อเนื่องต่อไป ต้องรอชม โดยในนักแสดงที่จะมาร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น นั่นคือ ต่อ-ธนภพ, ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์
ผลงานเรื่องปัจจุบันของบาส – นัฐวุฒิ พูนผู้กล้า ผู้กำกับ ‘เคาท์ดาวน์’ กับ ‘เฉลี่ยวฉลาดเกมส์ทุจริต’ ที่ตอนนี้พ่วงหว่องกาไว (Wong Kar-wai) โคจรผ่านโลกมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ พร้อมด้วยคีบรางวัล World Dramatic Special Jury Award: Creative Vision จาก Sundance Film Festival มาเป็นเครื่องรับประกันก่อนเข้าฉายในไทย
‘One for the Road’ เริ่มเมื่ออู๊ด (ไอซ์ซึ – ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์) ได้โทรมาหาบอส (ต่อ – ธนโลก ลีรัตนแผ่กว้าง) ว่าตัวเขาใกล้จะตายเพราะว่าลูคีภรรยา บอสก็เลยจำเป็นต้องผ่านน้ำผ่านสมุทรจากนิวยอร์กกลับมาไทย รวมทั้งพาอู๊ดไปปฏิบัติตามประณิธานในที่สุดก่อนตาย ซึ่งหมายถึงการเดินทางกลับไปคืนของให้เหล่าบรรดาคู่รักเก่า เรื่องราวการเดินทางหนสุดท้ายของชายป่วยไข้ใกล้ตายกับเพื่อนรักก็เลยเริ่มขึ้น
One for the Road (2022) วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ เกิดเรื่องราวของ บอส ชายหนุ่มนักธุรกิจที่ย้ายภูมิลำเนาจากรกราก มาเปิดกิจการบาร์ในมหานครนิวยอร์ก เขาได้ตกลงใจย้อนทางกลับไปยังประเทศไทยอีกรอบ เพื่อเจอกับ อู๊ด เพื่อนฝูงที่สนิทตั้งแต่ยุคเรียน ถือว่าเป็นการพบเจอกันคราวแรกในรอบยาวนานหลายปีที่ห่างเหินกันไป พวกเขาด้วยกันเริ่มเดินทางไปทั้งประเทศ เพื่อนึกย้อนและก็คิดถึงความจำก่อนหน้านี้ เพราะเหตุว่าอู๊ดกำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะแผ่ขยายรวมทั้งเหลือเวลาอีกเพียงแค่ไม่มากมายแล้ว
เป็นเพียงแค่ฟังจากเค้าโครงเรื่องก็คงจะเพียงพอทายใจทางออกได้ว่าน่าจะมาแนวไหน ก็คงจะหนีไม่พ้นหนังแนวโร้ดทริปเพื่อกลับไปทวนเรื่องราวสมัยก่อนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา พล็อตอย่างนี้แน่ๆว่าไม่ค่อยหวือหวาอะไร แต่ One for the Road ได้ใช้กิมไม่กสำหรับการเล่าที่มีแนวทางกลเม็ดเด็ดพรายเข้ามาช่วยสนับสนุน ก็เลยปรับปรุงให้หนังโร้ดทริปย้อนทางกลับไปพบคู่รักเก่าประเด็นนี้ เปลี่ยนเป็นหนังที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแล้วก็เรื่องเล่าสะกิดใจไปได้ทุกหลักกิโลเมตรของผู้แสดงที่พบปะมา
ในส่วนของบทภาพยนตร์ของบางทีอาจจะมิได้ถึงขนาดดีงามเพอร์เฟ็คอะไร ด้วยเหตุว่าหลายๆมุมก็ยังคงซ่อนเร้นด้วยสูตรสำเร็จกล้วยๆที่เข้าถึงผู้ชมได้อย่างง่ายดาย แต่ว่าลูกเล่นสำหรับในการเล่ารวมทั้งไดอะล็อกต่างๆที่ถูกวางเอาไว้อย่างบรรจงตลอดทั้งประเด็นนี้ ถูกปรุงออกมาเป็นสูตรที่กลมกล่อมละมุนละไมแล้วก็แยบคาย โดยคงจะแบ่งหนังออกได้เป็น 2 องก์สำคัญๆในเวลาที่องก์แรกเป็นโร้ดทริปไปตามตามทาง องค์สองก็คือความระบมจากผลที่พฤติกรรมทั้งสิ้น
เรื่องย่อหนัง ‘วันสุดท้าย..ก่อนบายคุณ’ เรื่องราวมันเริ่มขึ้นเมื่อ อู๊ด (ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ จากซีรีส์เรื่อง Voice แล้วก็ Diary of Tootsies) ตระหนักว่าชีวิตของตัวเองใกล้จะมาถึงวาระสุดท้าย ลูคิภรรยาที่รุมเร้า ทำให้เขาเลือกจะตามเพื่อนรักอย่าง บอส (ต่อ-ธนโลก จากหนังเรื่อง Ghost Lab, เมย์ไหนไฟแรงเฟร่อ รวมทั้งซีรีส์ ลอยเคว้ง) ให้ปิดบาร์ที่นิวยอร์กชั่วครั้งชั่วคราว เพื่อปฏิบัติหน้าที่เป็นพลขับพาเขาตระเวณไปทั่วไทยเพื่อคืนของ กล่าวคำพูดขอโทษรวมทั้งกล่าวลาเหล่าสมัยก่อนแฟนสาวของเขา
การตกปากรับคำคราวนี้ ทำให้บอสจำต้องขับขี่รถบีเอ็มสุดวินเทจพาเอาอู๊ดที่ภาวะไม่ไหวออกไปตามหาคนรักเก่าทั้งยังสามของอู๊ด ไม่ว่าจะเป็น หนูทุ่งนา (ดีไซน์-ชุติเตียนมณฑน์ จากหนัง ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งเช่นไรไม่ให้เหลือคุณ รวมทั้ง ฉลาดหลักแหลมเกมส์คดโกง), อลิส (พลอย หอพักวัง อดีตกาลสมาชิกวง H) รวมทั้งพี่รุ้งกินน้ำ (นุ่น-ศิรพันธ์ จากหนัง เพื่อนซี้, เปนชู้รักกับผี แล้วก็ Bad Genius เดอะซีรีส์) ด้วยความสามารถเกี่ยวกับการผสมค็อกเทล เขาก็เลยใช้มันเพื่อทำค็อกเทลคนรักเก่าให้เพื่อนพ้อง
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังไทย เรื่อง One for the Road (2022) วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ หนังประเภท Biography ชีวิตจริง เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง ดูหนัง ออนไลน์ หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
นัฐวุฒิ พูนพิริยะ
บริษัท ค่ายหนัง
- เจ็ต โทน ฟิล์ม
- เฮาส์ตัน
นักแสดง
- ธนภพ ลีรัตนขจร
- ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์
- วิโอเลต วอเทียร์
- พลอย หอวัง
- ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง
- ศิรพันธ์ วัฒนจินดา
- รฐา โพธิ์งาม
- ธเนศ วรากุลนุเคราะห์
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
Youth Drama Plus MAX
Youth Drama Plus Max Perspective 07/05/2565
One for the Road วันสุดท้ายก่อนบายเธอ ( 2022)
ผู้กำกับ : นัฐวุฒิ พูนพิริยะ
เป็นหนังที่ดูแล้วประทับใจมากๆอีกเรื่องนึง ด้วยทั้งวิธีเล่าเรื่องตามภารกิจตามหาแฟนเก่า(s) และการเล่าเรื่องผ่านภาพที่โคตรจะสวยและน่าสนใจ
และโดยเฉพาะคือcharismaของตัวละครแต่ละตัวที่โคตรจะดึงดูด
ภาพของเรื่องนี้มีความเป็นเอกลักษณ์มากๆ ทุกshotจะมีcomposition ที่ดูperfectอยู่เสมอ จนบางทีก็ทำให้เราตั้งคำถามว่ามันจะเป๊ะเกินไปป่าว 55555
ข้อดีของเรื่องนี้มากๆคือคนดูไม่จำเป็นที่จะคาดหวังอะไรก่อนดู แต่สามารถดูตามเรื่องไปได้เรื่อยๆ แล้วค่อยๆซึมซับสิ่งที่เรื่องโยนเข้ามา
จากที่ได้ดู เรื่องนี้ครึ่งแรกกับครึ่งหลังต่างกันอย่างสิ้นเชิง ครึ่งแรกตอนดูเราก็นั่งติดเก้าอี้ดูเพลินๆไป แต่พอครึ่งหลังมานี่มีแต่คำว่าห่ะๆ โอะ อ่อ เห้ย ในหัว
เรื่องนี้แบ่งออกเป็น2พาร์ท คือ Character introduction และ Motivation revealing (ชื่อคิดเองนะ55555)
Part 1 – Character introduction
ทั้งสองพาร์ทจะเล่นกันเรื่องการบอกลาในรูปแบบต่างๆ แต่จะชัดที่สุดในพาร์ทหนึ่ง
เรื่องเริ่มจากการที่ตัวละครที่ชื่อว่าอู๊ดต้องการตามหาแฟนเก่าเพราะว่าสุขภาพของเค้าเริ่มจะแย่ลง และได้ชวนบอสมาจอยด้วย
เริ่มกันที่แฟนเก่าคนแรก “อลิส” (บอกลา)
ส่วนตัวแล้วเราชอบเส้นนี้ที่สุดเพราะมันทำให้เรานึกถึงอะไรเก่าๆที่พอกลับไปมองอีกรอบแล้วมันทำให้เราเห็นคุณค่าของมันมากขึ้น (ดูเส้นนี้แล้วแอบยิ้มตลอดเวลาเลย) งานภาพก็สื่อmessageนี้ออกมาได้ดีทีเดียว แล้วก็สร้างภาพที่น่าจนจำขนาดที่ออกโรงมาแล้วยังติดตาอยู่เลย55555555 แอบน้ำตาซึมกับเส้นนี้เล็กน้อยแต่พาร์ทหลังหนักกว่านี้อีกเยอะ;-;
แฟนเก่าคนที่สอง “หนูนา” (ขอโทษ)
เส้นนี้รู้สึกว่าเป็นเส้นที่realistic ที่สุดแล้ว เพราะว่าด้วยเรื่องของการไม่เข้าใจมุมมองของอีกฝ่าย และการsupportกันในความสัมพันธ์ จนทำให้มันลงเอยตามในเรื่อง
แฟนเก่าคนสุดท้าย “รุ้ง” (เอาตรงๆเส้นนี้ไม่รู้อู๊ดจะบอกอะไรเหมือนกัน55555)
เส้นนี้จะเห็นได้ชัดถึงเรื่องความต้องที่ไม่ตรงกันในความสัมพันธ์ บวกกับการที่ตัวละครทั้งสองตัวมีอายุที่ต่างกันด้วย แต่ที่เราสัมผัสได้จากเส้นนี้ไม่ใช่แฟนเก่า แต่เป็นความสัมพันธ์ความเป็นเพื่อนระหว่าง อู๊ดกับบอส มากกว่า
มีซีนนึงที่เราจำได้แม่นมาก คือซีนที่หลังจากไปหาแฟนเก่ามาแล้ว อู๊ดกับบอสก็แวะไปกินเหล้ากัน จากนั้นอู๊ดก็อ้วกออกมาเป็นเลือด เป็นซีนที่แสดงที่เส้นความสัมพันธ์ของทั้งสองตัวได้ดีมากๆ ด้วยซีนนี้เลยที่ทำให้เราจูนอินกับเรื่องมากขึ้น
Part 2 – Motivation revealing
รอบนี้เปลี่ยนเป็นบอสไปทำภารกิจบ้างแต่ไม่ใช่แฟนเก่า เป็นครอบครัวอันสุดแสนประหลาดของบอส และแฟนเก่าของบอสที่ไม่เคยถูกพูดถึง นี้คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมเริ่ม ห่ะ เอ๊ะ จนกระทั่งซีนที่อู๊ดเผยความต้องจริงๆออกมา แล้วพูดว่า “กูอยากคืนพริมให้มึงวะ” ช็อทนี้ช็อทเดียวเฉลยทั้งเรื่องเลยว่าต้องการจะเล่าเรื่องอะไร
การหาคนมาทนแทนคนที่หายไปจากชีวิตเรา การหาตัวตน ความอยากใช้ชีวิตในตัวคนอื่น ความอยากใช้ชีวิตเพื่อคนอื่น มันอยู่ตรงนี้ครบเลย หลังจากที่ เรื่องเล่าความหลังของ บอส พริม อู๊ด เรียบร้อยแล้ว ทำให้เข้าใจเลยว่า ทำไมแต่ละตัวละครถึงออกมาแบบนี้ พาร์ทนี้สำหรับเราดูแล้วรู้สึก เข้าใจ เจ็บปวด และมีความสุขในเวลาเดียวกัน มันไม่ใช่แค่เรื่องความสัมพันธ์แต่มันมากกว่านั้น
เรื่องนี้เป็นการนำเรื่องเล่าเหล่านี้ออกมานำเสนอด้วยวิธีที่งดงามและลงตัวมากๆ มันทำให้เรารู้สึกโดนนำพาผ่านเรื่องราวต่างด้วยmoodและมวลอะไรต่างที่เราก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน เป็นหนังที่ออกมาจากโรงแล้วต้องมาตกผลึกต่อ (เรื่องนี้อยู่ในหัวผมนานมากๆๆๆๆ) รู้สึกคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์เลยจริงๆ
เก็ทนะ แสดงความคิดหนัง
One for the Road (2022) วันสุดท้าย…ก่อนบายเธอ
ภาพยนตร์ดราม่าสัญชาติไทย ผลงานการกำกับของคุณณัฐวุฒิ พูนพิริยะ เจ้าของผลงานดังอย่าง ‘ฉลาดเกมส์โกง’ และอำนวยการสร้างโดย “หว่องกาไว” แถมยังเป็นงานร่วมของไทย จีน และฮ่องกง
หนังว่าด้วยเรื่องราวของ ‘อู๊ด’ ที่รู้ตัวเองว่าเป็นมะเร็งและกำลังจะตายในไม่ช้า จึงขอให้เพื่อนสนิทอย่าง ‘บอส’ เจ้าของร้านบาร์ในนิวยอร์ก มาช่วยขับรถพาไปหาแฟนเก่าแต่ละคนที่ผ่านมาในชีวิต เพื่อไปขอโทษ พูดคุย เจอเป็นครั้งสุดท้าย และบอกลา
เป็นภาพยนตร์ไทยไม่กี่เรื่องที่ทำให้เราถึงกับร้องไห้เหมือนหมา
ถึงแม้หนังจะขายคอนเซ็ปโร้ดทริปเพื่อไปบอกลาแฟนเก่า แต่มันกลับมีอะไรที่มากกว่านั้น อารมณ์ประมาณ ‘ฮาวทูทิ้ง’ แต่ด้วยความที่หนังมีโปรดิวซ์เซอร์อย่าง ‘หว่อง กา ไว’ ที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง ก็เลยผสมผสานระหว่าง หนังจีดีเอช และหนังสไตล์หว่องได้อย่างลงตัว
แน่นอนว่าในความเป็น GDH ค่ายหนังคอมเมดี้ชั้นนำของประเทศ ‘One for the Road’ จึงมีความตลกคอมเมดี้เข้าไปด้วย
แต่ในความเป็นคอมเมดี้นี่แหละ ในบางทีที่กำลังจะเศร้า กำลังจะอินแบบซึ้งๆ กลับใส่ตลกเข้ามากลบเกลื่อน จนบางทีทำให้อารมณ์ที่กำลังจะขึ้นถึงจุดสูงสุด กลับไปไม่สุดในบางฉาก
ส่วนในงานด้านเทคนิค เราชอบการบันทึกเสียงที่สุดยอดมาก ถ่ายจากชั้น 5 ลงไปเห็นคนขึ้นบันไดยังได้ยินเสียงฝีเท้าแบบชัดเจน จะทำอะไรก็ได้ยินหมดไม่ว่าจะไกลแค่ไหน แม้ว่าคุณจะหลับตาก็ตาม
มาถึงบทไดอาร็อค ที่โคตรดี เป็นหนึ่งในหนังไทยที่รู้สึกเป็นกันเอง ไม่ว่าจะประโยคคำพูด ำด่า พูดกับผู้ใหญ่ ทะเลาะกัน มันเหมือนกับคนเราพูดไม่มีผิด
ด้วยความที่มันแบ่งพาร์ทแฟนเก่าแต่ละคน เราก็จะขอรีวิวพาร์ทแต่ละพาร์ท
1. อลิซ แดนซ์ พาร์ทแฟนเก่าคนนี้ก็ไม่มีไรมาก มีฉากซึ้งถึงแม้ไม่มาก แต่ออกมาดี จบพาร์ทแล้วรู้สึกโอเคไม่ได้ดาว์นอะไรมากนัก
2. นูน่า เทียร์ส (หนูนา) คนนี้สำหรับผมคือที่สุด แต่เล่าน้อยไปหน่อย ตอนสัมพาษณ์พี่ออกแบบ นี่เขาเล่ายอนไปยันตอนเด็ก แต่กลับไม่มีกับพาร์ทนี้ ไม่มีแม้กระทั่งความเป็นมาก่อนที่จะคบกัน ไม่อย่างนั้นคงมันจะสวยหรูกว่านี้
3. อาฟ เตอร์ เดอะ เรน (รุ้ง) คนนี้คือจบได้จุกมาก มีการสับขาหลอกเล็กน้อย มีบรรยากาศฟีลกู้ดอบอุ่นหัวใจ เป็นพาร์ทที่อมยิ้มจนจบ
4. พริม พาร์ทนี้คือปล่อยสุด เล่าตั้งแต่เริ่มรู้จักยันเลิกกัน เหมือนผู้กำกับเขาพยายามดันพาร์ทของพริมให้เด่นกว่าใคร และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ กับความรู้สึกที่อาจจะตรงกับชีวิตใครหลายคน…
5. พาร์ทนี้มันคือ ‘ไทม์บอมบ์’ ที่รอพร้อมจะระเบิด กับน้ำตาที่ไหลมาแบบไม่ทันตั้งตัว มันคือความเข้าใจในตัวละครทุกๆตัว ทุกคนมีเหตุผลที่ดีที่ทำ คำพูดตัวละครทุกประโยคมันคือความจริงจากชีวิตที่โคตรจุก บวกเข้ากับเพลงประกอบภาพยนตร์ที่โคตรเข้ากับบรรยากาศของตัวหนัง
สรุป คือในแต่ละพาร์ทหนังเล่าไม่เท่ากัน ฉากที่ควรเล่ายาวกว่านี้กลับไม่ได้ไปต่อ ภาพสวยมาก สไตล์ จีดีเอชผสมผสานกับหว่องกาไว และพาร์ทสุดท้ายที่โคตรระทม ถือเป็นหนังไทยคุณภาพอีกหนึ่งเรื่องที่ควรไปดู
4 สหายรีวิวหนัง
one for the road ( วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ) 2022
ผลงานการกำกับเรื่องที่3 ของผู้กำกับ บาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ โดยได้ หว่อง กาไว ผู้กำกับระดับตำนานมาเป็นโปรดิวเซอร์ ตัวหนังเล่าเรื่องถึง อู๊ด ชายผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ในโอกาสครั้งสุดท้ายของชีวิต ก็อยากนำของกลับไปคืนแฟนเก่าของเขา โดยมีเพื่อนสนิทของเขา บอส เป็นคนขับรถ หนังเรื่องนี้ เป็นหนังแนวดราม่า โรแมนติก โดยนำเสนอผ่านการเล่าเรื่องแบบ road movie ตลอดทั้งเรื่อง โดยของหนัง ด้วยการเล่าเรื่องและการนำเสนอผ่านมุมมองจากประสบการณ์ของผู้กำกับ ประกอบการแสดงจากนักแสดงที่สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม รวมไปถึงรายละเอียดของงานภาพ การตัดต่อ ก็สามารถทำได้ในระดับที่สุดยอด จึงสมควรที่จะเป็นหนังชิงรางวัลอีกหนึ่งเรื่อง
Cinema Paradiso by Golffy
#อินเนอร์จากหนัง | One For The Road วันสุดท้าย .. ก่อนบายเธอ (2022)
“ฉันคือใคร ในความจำเธอ”
—
เมื่อว่ากันถึงความรัก ความทรงจำที่เรามีต่อใครสักคน โดยเฉพาะแฟนเก่าส์ … มันก็มีหลายรูปแบบนะครับ
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรา Move On เป็นวงกลม หรือ ต้องมาคอยนั่งเริ่มต้นใหม่กับคำว่าลืมอยู่เรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะ เราเองก็สงสัยเหมือนกันว่า ในความทรงจำระหว่างเราและเขานั้น มันตรงกันหรือเปล่า …
ความรักนี่มันก็ทำให้คนเราเวิ่นกับอะไรงี่เง่าแบบนี้ได้เหมือนกัน
ในความทรงจำของเรา เขาอาจจะเป็นความทรงจำดี ๆ ที่เราไม่อยากลืม และทำให้ยิ้ม (ทั้งน้ำตาด้วยความคิดถึง) ได้เสมอ
แต่ในความทรงจำของเขา เราอาจจะเป็นแฟนเก่าที่เขาอยากลืม อยากลบ และเป็นช่วงเวลาแย่ ๆ ที่เขาเคยเจอมาครั้งหนึ่ง … ก็ได้
ยิ่งหากตอนเลิกกัน … มันเป็นการจากลา ที่คนหนึ่งเลือกจะเดินหนีไป ทิ้งอีกคนไว้ให้ยังอยู่กับความรู้สึก และคำถามด้วยแล้วล่ะก็
การ Move On มันจึงเป็นเรื่องที่ … ยากจัง
มันไม่ได้แค่เดินออกจากความคิดถึงถึงใครคนนั้นไม่ได้เท่านั้น แต่มันอาจจะมีแผลเล็ก ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกเสมอว่า เราคงไม่ดีพอ และไม่คู่ควรจะมีความรักอีกเลยก็ได้ …
….
แต่ในมุมกลับกัน
บางที การที่เราอยากรู้ ถึงความทรงจำที่เขามีต่อเรา มันคงไม่ได้มีแค่เรื่องของความสงสัย การขอความเห็นใจ การเรียกร้องการให้อภัยในสิ่งที่เราเองก็ไม่รู้ว่าเราผิดพลาดตรงไหนเท่านั้น
แต่ … มันอาจจะเป็นความเห็นแก่ตัวลึก ๆ ของเราก็ได้ ที่อยากจะไถ่ถอนความรู้สึกผิดให้ตัวเอง เพื่อการเดินหน้าต่อไป
ซึ่ง …. อาจไปยิ่งตอกย้ำความทรงจำแย่ ๆ ให้อีกคนต้องทรมานขึ้นมาอีก ทั้ง ๆ ที่เขาอยากจะลืมเราไปแล้ว
….
และถ้าครั้งหนึ่ง เราเคยมีแฟนเก่า ที่จากกันด้วยไม่ดี
เรายังอยากกลับไปเจอหน้าเขาไหมครับ ? … ถึงแม้จะยังคิดถึงเขาอยู่มากก็ตาม
NINE MOVIE
#Moviereview
One For The Road (2022)
บอส หนุ่มเจ้าชู้เจ้าของบาร์ร้านเหล้าในนิวยอร์กได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนชื่ออู๊ดว่าป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายและขอให้กลับเมืองไทยด่วนเพื่อมาช่วยสานฝันครั้งสุดท้ายนั้นคือการขับรถ Road Movie ไปทั้วประเทศเพื่อไปร่ำลาแฟนเก่าส์ 3 คนเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อนหนุ่มจอมสำราญเลยขับรถไปตามคำขอเพียงแต่ว่าการเดินทางในครั้งนี้มันไม่ใช่การไปบอกลาแฟนเก่าเพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นการสำรวจความเจ็บปวดจิตใจของตัวละครไปพร้อมๆกัน
หนังไทยโกอินเตอร์ที่รอคอยกันมานานเกือบ 2 ปีเต็ม กว่าที่แฟนหนังชาวไทยจะได้สัมผัส หนังไทยจากมันสมองของพี่บาส นัฐวุฒิ ผู้กำกับหนังฉลาดเกมส์โกง ที่พลิกไอเดียการเล่าเรื่องอีกครั้งหยิบชีวิตส่วนตัวมาตีแพร่เป็นหนังยาวในสไตล์ Road Movie พร้อมกับโปรดิวเซอร์หนังคุณภาพหว่องกาไว จนทำให้หนังก้าวไปใกล้จนได้รางวัลเทศกาลหนัง Sundance เมื่อปี 2021 ภาพรวมตลอด 2 ชั่วโมง ถ้าให้เปรียบเป็นหนังเรื่องนี้เป็น Cocktail มันทั้งหวานทั้งขมเจ็บปวดและยากจะลืมเลือน แต่มันเป็นธรรมชาติของคนที่ต้องพบเจอชีวิตรัก การบอกลาที่ยากจะทำใจกับแฟนเก่าส์คนรักเก่าๆ หนังตั้งคำถามให้เราได้คิดตามมากมายว่าทำไมคนเราใกล้ตายถึงชอบโหยหาอะไรเก่าๆ คนเราทำไมถึงหมกหมุ่นกับความรักชีวิตคู่กันหนักหนา เมื่อรถออกสตาร์ทเดินทางออกจากวงเวียน 22 หนังเหมือนการเล่าเรื่องผ่านตัวละครแฟนเก่าส์ 1 คนไปยังอีกคน
เนื้อหามีพื้นที่มีลูกเล่นให้คนดูได้คิดตาม ไม่ใช่ใช้สูตรสำเร็จเอาพูดกำกับหนังพานักแสดงนำมาเล่น หนังพลิกไปพลิกมาบทหนังคาดเดาเนื้อหาอะไรไม่ได้ มีความซับซ้อนมาก ตัวอย่างหนังเหมือนแค่ออเดิร์ฟของจริงหนังมีทีเด็ดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจจิตใจตัวละคร การ Flashback ย้อนกลับไปยังตัวละครว่าทำไมเขาถึงมีปัจจุบันเป็นแบบนี้ อดีตไม่ใช่ทุกคนที่จะจดจำหรือลืมมันลงไปได้ จะอู๊ดจะบอสทุกคนมีตราบาปมีความหลังฝั่งใจกับความรักพวกเขาแค่มีมุมมองทัศนคติเรื่องแบบนี้แตกต่างกัน หนังค่อยๆเฉลยที่มาที่ไปของตัวละครแบบหมดเปลือก ความรัก การแยกย้าย ทัศนคติมุมมองแต่ละคนไม่เหมือนกันเราบังคับให้ใครมารู้สึกนึกคิดแบบเราไม่ได้ ถ้าคนคนนั้นไม่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันจริงๆ
การร่ำลาครึ่งเรื่องแรกของแฟนเก่าส์ของอู๊ดที่ตระเวณไปทั่วประเทศไทย เขาแค่อยากบอกลาร่ำลาแยกย้ายเพื่อที่จะไม่มีอะไรค้างคาใจแล้วก็ปิดฉากให้มันงดงาม ครึ่งเรื่องหลังนี่แหละที่เปิดปูมหลังบอสและอู๊ดแบบถึงแก่น เหตุผลของการเป็นบาร์เทนเดอร์ การทำค็อกเทลให้แฟนเก่าส์รสชาติของแอลกอฮอลส์เปรียบได้กับความสัมพันธ์ของอดีตคนรักที่ไม่มีวันเหมือนกัน แต่ละเรื่องที่พบเจอมาชีวิตรักของคนเรามันยากเกินทำใจ ถ้าเมื่อไหร่มีความเจ็บปวดความผิดหวังซุกซ่อนอยู่ หนังมีความเศร้าตลอดทั้งเรื่อง ตัวละครที่ชีวิตต่างกันสุดขั่ว รวยมากรวยจนใช้ชีวิตไปวันๆในอเมริกา กับเพื่อนคน 1 ที่ดิ้นรนทำงานร้านไทยเก็บเงินส่งกลับบ้าน เราได้เห็นไฮไลท์สำคัญของการเล่าเรื่องพาร์ทอดีตที่ผสมผสานกับปัจจุบันได้สมดุลมาก ทั้งนิวยอร์กหรือไทย
หนังค่อยๆหลอกล่อคนดูถึงความไม่ชัดเจนเรื่องกรอบเวลา บทพูดที่จึงจนเจ็บอกคมคายและอยากที่จะลืมไปได้ ทีมตัดต่อทำให้หนังหมนหม่องเรียบเรียงอารมณ์เรื่องราวในหนังได้ดี แล้วค่อยเปิดโปรงเบื้องหลังความสัมพันธ์ที่แท้จริงของตัวละครให้คนดูได้รับรู้ได้เข้าใจ เพราะเนื้อหาเก็บงำความลับไว้ดิบดีจนมาระเบิดในตอนสุดท้าย หนังกระชากอารมณ์จากเบาไปจนขั้นรุนแรงจนเราเองก็เสียน้ำตาไปเหมือนกัน มันหวานมันขม หนังเติบเต็มความหมายคุณค่าของชีวิต เราควรทำดีกับคนอื่นไม่ใช่มาทำดีตอนที่มันสายไปแล้วตอนที่โอกาสแทบไม่หลงเหลือเพราะบางครั้งผลตอบรับที่ได้กลับมา อาจทำให้ใครอีกคนเจ็บปวดและยากจะลืมมันได้
ดารานำอย่าง ต่อ ธนภพ ลุคมาดคูล หนุ่มเจ้าสำราญที่มีปมในใจเรื่องครอบครัว ความรัก จากคนไม่เคยคิดว่าจะมาทำค็อกเทลบาร์เทนเดอร์ กลับลบแผลใจตัวเองจากความหลังครั้งเก่าเปิดบาร์ในนิวยอร์กได้ หนังค่อยๆเล่าที่มาที่ไปของบอสที่หลีกหนีปัญหาเดินหนีมันซ้ำสนุกๆไปวันๆขอแค่มีเงินใช้พอใจแค่นี้ ผิดกับเพื่อนอย่างอู๊ดที่อิจฉาเห็นแก่ตัวอยากได้อยากมีในสิ่งที่ตัวเองขาดแคลนเพื่อกลบช่องโหว่เรื่องสถานะ การพบเจอกันบทความยากลำบากในนิวยอร์ก พูดไทยเหมือนกันเลยทำให้พวกเขากลายเป็นเพื่อนกันเรียนรู้เข้าใจกัน หนังบอกให้เรารู้ว่าทำไมคนไทยในต่างแดนถึงมีชีวิตไม่สวยหรู เพราะผลตอบรับที่ได้มาเงินเยอะจริง แต่เราเป็นเพียงแค่พลเมืองชั้นรองที่โดนรังแกได้ทุกเมื่อ วี วีโอเล็ต สาวสวยผู้ที่มี Impact กับเรื่องราวในหนัง เสน่ห์ของเธอสีหน้าแววตาทำให้เราเชื่อว่านี่คือบาร์เทนเดอร์ไม่ใช่นักร้องชื่อดัง เธอกลบภาพจำเดิมๆทิ้งไปจนหมดสิ้น แคสติ้งตัวละครคนอื่นๆแสดงได้ดีมากรับส่งบทได้ดีไม่ทำให้ผิดหวัง
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
E-Sarn Tootsie Part 1 (2024) อีสานตุ๊ดซี่ ภาค 1
China town Cha Cha (2024) ไชน่าทาวน์ ชะช่า
Deep (2021) โปรเจกต์ลับ หลับ เป็น ตาย
7.1