One and only (2023) สเต็ปกล้าท้าฝัน
เรื่องย่อ
One and only Ding Lei ผู้คร่ำหวอดในวงการสตรีทแดนซ์เชิญนักร้องรุ่นเยาว์ให้เข้าร่วมคลับของเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ติงเหล่ย นักเต้นข้างถนนจอมเก๋า ได้ชักชวนให้นักเต้นรุ่นใหม่มาเข้าร่วมกลุ่มกับเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องพบเจอกับความท้าทายไม่หยุดหย่อน แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตของคนหนุ่มสาวในสังคมปัจจุบัน ที่มีความฝัน อยากประสบความสำเร็จ พยายามต่อสู้ จนกว่าจะถึงฝั่งฝัน
ผู้กำกับ
- Da Peng
บริษัท ค่ายหนัง
- Alibaba Pictures Group
นักแสดง
- Huang Bo
- Yibo Wang
- Mintao Liu
- Yunpeng Yue
- Shenyang Xiao
โปสเตอร์หนัง
รีวิว
แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ชั้นนำของโลก One and only ขอส่งมอบความสุขในช่วงปลายปีกับการเสิร์ฟภาพยนตร์จีนกระแสแรงที่ทุบสถิติทำรายได้ถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศและทำรายได้สูงสุดในประเทศไทยในรอบ 3 ปีอย่างภาพยนตร์เรื่อง สเต็ปกล้าท้าฝัน (One and Only) ที่นำแสดงโดย หวังอี้ป๋อ นักแสดงและนักร้องระกับเอลิสต์จากแดนมังกร ที่ได้ฝากผลงานสุดฮิตบน iQIYI (อ้ายฉีอี้) ไม่ว่าจะเป็น ตำนานลั่วหยาง (LUOYANG) , เพื่อนซี้พลังวิเศษ (My Strange Friend) ร่วมกับ หวงป๋อ ราชาภาพยนตร์เจ้าของรางวัลม้าทองคำ ที่ได้ฝากผลงานระดับทรงคุณค่าอย่าง การแสดงที่ดี (The Island full edition) , Legend of The Fist : The Return of Chen Zhen และ Super Sketch Show 2 ที่แฟนๆ ชาวไทยเตรียมรับชมภาพยนตร์แบบพากย์ไทยพร้อมกัน 15 พ.ย. นี้ บน iQIYI (อ้ายฉีอี้) ที่เดียวเท่านั้น ถือเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์จีนที่แฟนๆ ชาวไทยไม่ควรพลาด!
.
โดยภาพยนตร์ สเต็ปกล้าท้าฝัน (One and Only) บอกเล่าเรื่องราวของ เฉินซั่ว (รับบทโดย หวังอี้ป๋อ) ผู้ที่รักการเต้นสตรีทแดนซ์เป็นชีวิตจิตใจแต่ทำได้เพียงฝึกด้วยตัวเองในยามว่างซึ่งแทบจะไม่มีอยู่ในชีวิตที่ต้องดิ้นรนทำมาหากิน จะเอามาหากินก็ใช้ในการแสดงแลกเงินเล็กน้อยเท่านั้น แต่แล้วเขาก็ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับติงเหลย (รับบทโดย หวงป๋อ) โค้ชของทีมเอ็กซ์คลาเมชันพอยท์ (E-mark) ทีมระดับแชมป์ที่เขาใฝ่ฝัน นอกจากการฝึกเต้น เขายังได้รู้จักกับเพื่อนร่วมทีมที่มีประกายไฟฝันที่แตกต่างกัน ทว่าหนทางสู่ความฝันไม่ได้เรียบง่าย เขาถูกโจมตีอย่างหนัก และต้องเข้าไปสู่สถานการณ์ที่อาจดับฝันทั้งหมด เขาและติงเหลย จะข้ามผ่านพ้นช่วงตกต่ำและก้าวเดินไปคว้าฝันต่อไปได้หรือไม่ เตรียมรับชมภาพยนตร์
จากพล็อตแล้ว จะเห็นว่าเนื้อเรื่องหลักไม่ได้โดดเด่นฉีกหนีจากภาพยนตร์เต้นไล่ตามความฝันสักเท่าไหร่ แต่ในรายละเอียดเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่นำพาให้ตัวเอกได้พานพบก็มีความน่าสนใจและเข้าสไตล์จีนแบบไม่ขัดเขิน ทำให้โดยภาพรวมแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่า One and only สนุก ดูเพลินจนลืมเวลา และว้าวกว่าที่คาดไปพอสมควรเลยแหละ
ความว้าวที่ว่านั้น เริ่มมาตั้งแต่ฉากเปิดสุดอลังที่มาพร้อมกับลองชอตอันน่าทึ่ง เมื่อผสานกับการใส่ข้อมูลด้วยบทพูดแบบเต็มแมกซ์ชนิดเร็วรัวไม่แพ้ลีลาการเต้นที่เด็ดดวง งานภาพตื่นตาแต่เริ่ม ก็ทำให้เราต่อติดเรื่องได้เร็วสุด ๆ ชนิดไม่มีช่วงเหลือ ๆ ให้หายใจกันเลย
แต่ในความว้าวของความเร็วในการเล่านี้ ก็ทำให้มีข้อเสียเกิดขึ้นนิดหน่อย อย่างในช่วงเปิดเรื่อง จังหวะการเล่าสไตล์ไปให้เร็วแบบฉบับภาพยนตร์จีน โดยเฉพาะบทพูดในตอนแรกที่อ่านแทบไม่ทัน ก็สร้างความลำบากให้แก่คนดูต่างสัญชาติอย่างเราไปสักหน่อย การเล่าบางอย่างยังไม่ข้ามพ้นความต่างของวัฒนธรรม ทำให้เกิดภาวะความเข้าใจสะดุด ๆ กันไปบ้าง แต่ยังดีที่ไม่ส่งผลต่อการเล่าเรื่องสักเท่าไหร่ เนื่องจากการเดินเรื่อง การต่อบท รวมทั้งเชื่อมภาพ ยังทำได้ดีต่อติดชวนให้ติดตาม มีประสิทธิภาพเอาคนดูอยู่
จากนักเต้นขั้นเทพ “หวังอี้ป๋อ” สู่ นักเต้นชะตาอาภัพ “เฉินซั่ว”
เมื่อเข้าสู่กลางเรื่อง ในฐานะตัวละครหลัก เฉินซั่วอาจดูนิ่งเนิบและบางเบาไปสักหน่อย เมื่อเทียบกับตัวละครตัวอื่น ๆ แต่เมื่อผสานการวางหมากตัวละครที่อยากให้ดูไม่ค่อยมีตัวตนค่อย ๆ ฉายแสง และคาแรกเตอร์ที่ถอดออกมาจากหวังอี้ป๋อ มันกลับดูกำลังพอดี และช่วยส่งพลังในช่วงไคลแมกซ์ของเรื่อง ทำให้เรารู้สึกอินไปกับเฉินซั่วได้
ในขณะเดียวกัน หากใครเป็นแฟนคลับหวังอี้ป๋อ ก็จะยิ่งรู้สึกอินและเข้าใจในความทุ่มเทขึ้นไปอีก หากดูจากจุดเริ่มของบทที่ถอดมาจากบุคลิกของหวังอี้ป๋อและผลงานในรายการเต้น The Street Dance of China (SDC) ซึ่งหวังอี้ป๋อได้ไปวาดลวดลายฝากฝีมือไว้แล้วละก็ ก็ถือได้ว่า หนังเรื่องนี้เก็บอารมณ์ ความรู้สึก มาถ่ายทอดขมวดความเป็นนักเต้นของหวังอี้ป๋อได้ดีเลยทีเดียว แฟนคลับต้องมีช่วงน้ำตาซึมตามกันบ้างละ
เป็นหัวหน้าทีมเต้นรำแนวสตรีทของ E-Mark นักเต้นนำชื่อดังของเขา “เควิน” (แคสเปอร์ ชู) เป็นคนที่มีความเป็นดาราอยู่บ้าง ดังนั้นเมื่อเขาได้เจอกับ “เฉินซัว” (หวาง อี้ป๋อ) ซึ่งเป็นเด็กหนุ่มที่ทำงานหนักเพื่อมาช่วยซ้อม One and only จึงเกิดการแบ่งฝ่ายขึ้นในไม่ช้า และแนวรบก็ถูกดึงขึ้นมาเพื่อท้าทายการเต้นขั้นสุดยอดในการแข่งขันระดับประเทศ เรื่องราวในเรื่องนี้ไม่ได้ยอดเยี่ยมนัก ทั้งการแสดงและการเขียนบทก็เช่นกัน แต่สิ่งที่น่าดึงดูดใจคือการแสดงกายกรรมที่ท้าทายแรงโน้มถ่วงขณะที่คนเหล่านี้หมุนตัว หมุนตัว และเหินเวหาในอากาศด้วยทักษะและความคล่องแคล่วที่น่าทึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นตัวอย่างว่าศิลปะประเภทนี้ทำหน้าที่เป็นช่องทางแห่งแรงบันดาลใจสำหรับชายหนุ่มที่มีโอกาสหลีกหนีจากชีวิตประจำวันที่ซ้ำซากจำเจได้อย่างไร ในความเห็นส่วนตัว ฉันพบว่า Yibo Wang เป็นนักแสดงที่ผอมเกินไปหน่อย – จริงๆ แล้วเขาเป็นคนร่างเล็กเสมอ – แต่โดยพื้นฐานแล้ว นี่คือชัยชนะของศิลปะการออกแบบท่าเต้น และความคล่องแคล่วและความเป็นธรรมชาติของนักเต้นที่ทำให้การแสดงออกมาได้อย่างน่าตื่นเต้นตลอด 20 นาทีสุดท้าย
ดาราทุกคนเปล่งประกายเจิดจ้าในภาพยนตร์เรื่องนี้ ฉันรู้สึกได้ถึงความหลงใหลในสตรีทแดนซ์และความอดทนต่อสิ่งที่เป็นลบของพวกเขาอย่างเต็มหัวใจ ช่วง 20 นาทีสุดท้ายเป็นอะไรที่น่าหลงใหลมาก คุ้มค่าทุกเพนนีที่จ่ายไป และคุณจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจของคุณ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีเรตติ้งต่ำมากมายแต่ไม่มีรีวิวเชิงลบเลย ดูไม่ปกติเลย … ใช่แล้ว ฉันขอแนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้โดยไม่มีข้อสงวนใดๆ ไม่ว่าคุณจะชอบสตรีทแดนซ์หรือไม่ ฉันมั่นใจว่าคุณจะพบกับความรู้สึกดีๆ มากมายและสิ่งที่ควรค่าแก่การเชียร์และหัวเราะเยาะ ฉันรู้สึกมีพลังมากหลังจากดูและอยากเห็นคนอื่นๆ มีความรู้สึกดีๆ เช่นเดียวกัน 🙂
คุณรู้ว่าเฉินจะต้องชนะ คุณรู้ว่าเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานมาก ต้องเผชิญกับทั้งช่วงขาขึ้นและขาลง ภายใต้การควบคุมจังหวะและการผสมผสานสไตล์ Re Lie มอบความรู้สึกที่ราบรื่นอย่างไม่ธรรมดาตั้งแต่ต้นจนจบ Dong Chengpeng นักแสดงตลกที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับซึ่งสร้างผลงานที่ประสบความสำเร็จในบ็อกซ์ออฟฟิศหลายเรื่องซึ่งยอดเยี่ยมแต่มีธีมที่แตกต่างกัน ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้กำกับหน้าใหม่ที่น่าจับตามองที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้ชมติดตามเรื่องราวที่ดำเนินไป หัวเราะและร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในท้ายที่สุด พวกเขาพบว่าตัวเองไม่เพียงแต่ได้เห็นการเติบโตและการเกิดใหม่ของตัวละครเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้ภายในตัวพวกเขาด้วย เป็นสิ่งที่ต้องดูสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเต้นรำบนท้องถนน และยังมีอีกมากมายใน Re Lie แม้กระทั่งสำหรับผู้ที่ไม่ใช่
เป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมมาก ฉันออกจาก Cineworld ในดับลินเมื่อคืนนี้ด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าและรู้สึกมีพลังมากกว่าที่เคยเป็นมาในรอบหลายปี มีการต่อสู้เต้นรำหลัก 3 ครั้ง แต่ครั้งสุดท้ายนั้นช่างเหนือจินตนาการ เรื่องราวดำเนินไปอย่างรวดเร็วตลอดทั้งเรื่อง One and only ติดตามได้ง่ายมากโดยมีคำบรรยาย และมีเรื่องตลกมากมายตลอดเรื่อง Huang Bo เป็นคนเก่ง และ Yibo ก็เล่นเป็น Chen Shuo ที่ถ่อมตัวได้ยอดเยี่ยมมาก แต่หล่อมาก! การทำงานของกล้องควรจะนิ่งกว่านี้สำหรับการเต้นรำบางส่วน แต่ก็โอเคสำหรับส่วนที่สำคัญที่สุด และทุกอย่างก็ทำออกมาได้ดีมาก ทำให้ค่ำคืนนี้สดใสขึ้น งานดีมาก และเป็นเรื่องดีที่ได้รู้จักใบหน้าของ Street Dance China ด้วย!!
5.6