My Hero Academia Heroes Rising (2019) วีรบุรุษกู้โลก
เรื่องย่อ
เมื่อเหล่านักเรียนชั้นปี 1 ห้อง A ได้เดินทางไปเกาะทางตอนใต้ เพื่อเข้ารับการฝึกฝนในโปรเจคฮีโร่รุ่นใหม่ที่จะมาสานต่อหน้าที่ของออลไมท์ ในสถานที่แห่งนี้สงบสุขและไม่เคยเกิดคดีใหญ่ๆมานานแล้ว แต่ทว่าเหล่านักเรียนปี 1 ห้อง A ได้รับมอบหมายให้ไปเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือผู้คนบนเกาะ วันสงบสุขนั้นก็ได้จบลงพวกเหล่าวิลเลินนำโดยชายที่ชื่อ “ไนน์” ได้เข้าบุกโจมตีเกาะนี้และเริ่มทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า “เดกุ” My Hero Academia Heroes Rising และสมาชิกปี 1 ห้อง A ต้องผนึกกำลังร่วมมือต่อต้านเหล่าวิลเลินทั้งหลายอย่างสุดกำลัง เหตุใดที่ “ไนน์” ถึงเลือกบุกจู่โจมเกาะแห่งนี้? เหล่าฮีโร่ปี 1 ห้อง A จะปกป้องเกาะนี้ได้สำเร็จหรือไม่?
ผู้กำกับ
- Kenji Nagasaki
บริษัท ค่ายหนัง
- Bones
- Dentsu
นักแสดง
- Daiki Yamashita
- Nobuhiko Okamoto
- Yuka Terasaki
- Tomoyo Kurosawa
- Yûki Kaji
- Kaito Ishikawa
โปสเตอร์หนัง
รีวิว
ผลงานภาพยนตร์อนิเมะลำดับที่ 2 ของ My Hero Academia Heroes Rising ที่ถ้าอ่านแค่เรื่องย่ออย่างเดียวก็ทำให้เผลอคิดไปว่าพล็อตเรื่องมันแทบจะซ้ำกับภาพยนตร์ภาคก่อนหน้าอย่าง “My Hero Academia : Two Heroes” เลยนี่หว่า แต่ว่าเปล่าเลย “My Hero Academia The Movie HEROES : RISING” นั้นแตกต่างจากภาพยนตร์ภาคก่อนอย่างเห็นได้ชัดในด้านตัวละครและการดำเนินเรื่อง ต้องบอกเลยว่าภาพยนตร์ภาคนี้มีพัฒนาการที่ดีและมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดในด้านบทบาทของตัวละครจากที่เป็นมา
คือโดยปกติเรามักจะได้เห็นตัวละครที่มีบทบาทเด่น ๆ และมีผลต่อการดำเนินเรื่องเพียงไม่กี่ตัว ซึ่งส่วนใหญ่ก็ตัวหลักกับตัวสมทบไม่กี่ตัว แต่ในภาคนี้นักเรียนฮีโร่ปี 1 ห้อง A ทุกคนได้มารวมตัวพร้อมหน้ากันทุกคนกับภารกิจการฝึกฝนในโปรเจกต์ฮีโร่รุ่นใหม่ ในช่วงแรกของภาพยนตร์ก็จะเป็นการปูเรื่องราวและแนะนำตัวละครด้วยความสนุกสนานและมุกตลกของเหล่านักเรียนฮีโร่ปี 1 ห้อง A ด้วยการโชว์อัตลักษณ์และสไตล์ฮีโร่ของแต่ละคนในการทำงานเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ ซึ่งมันก็ทำให้เราได้รู้ถึงวิธีการปรับใช้พลังของพวกเขาว่าเป็นอย่างไรกันบ้างหลังจากที่พวกเขาได้รับใบอนุญาตการประกอบอาชีพฮีโร่ชั่วคราวแล้ว
แต่พอเนื้อเรื่องดำเนินมาถึงช่วงสำคัญที่เหล่าวิลเลินมาถึงพร้อมกับนำหายนะมาสู่เกาะแห่งนี้ แน่นอนแหละว่าตัวหลักอย่าง ‘เดกุ’ กับ ‘บาคุโก’ ก็คงจะมีบทเด่นสุด ๆ แต่ว่าในภาคนี้เหล่านักเรียนฮีโร่ปี 1 ห้อง A ทุกคนล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินเรื่อง เพราะแต่ละคนได้มีฉากเด่นเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านหรือแม้แต่ฉากต่อสู้เท่ ๆ และยิ่งในช่วงท้ายของเรื่องนับว่าเป็นอะไรที่สุดยอดสุด ๆ ที่ได้เห็นตัวละครปี 1 ห้อง A ทุกคนรวมพลังกันต่อสู้กันแบบจัดเต็มโดยที่ไม่มีอาจารย์หรือฮีโร่มือโปรคอยสนับสนุนเลย เป็นอะไรที่น่าประทับใจเอามาก ๆ ซึ่งมันได้แสดงให้เห็นถึงจุดเด่นของการเป็นฮีโร่ของทุกคนได้สมกับชื่อภาค “HEROES : RISING” จริง ๆ
นอกจากตัวละครฝั่งพระเอกแล้ว กลุ่มวิลเลินในภาคนี้เองก็มีบุคลิก มีแรงบันดาลใจ และมีภูมิหลังที่หน้าจดจำจากปมความขัดแย้งของแต่ละคนมากกว่าภาคก่อน โดยเฉพาะกับผู้นำกลุ่มวิลเลินในครั้งนี้อย่าง ‘ไนน์’ รวมไปถึงยังมีความเชื่อมโยงกับศัตรูตัวหลักของซีรีส์อย่าง ‘สมาพันธ์วิลเลิน’ ซึ่งมันทำให้กลุ่มวิลเลินในภาคนี้ดูมีมิติมากกว่าวิลเลินในภาคก่อนเอามาก ๆ (เอาเข้าจริง ๆ วิลเลินในภาคก่อนชื่ออะไร ตัวผู้เขียนรีวิวเองก็จำไม่ได้แล้ว 555) My Hero Academia Heroes Rising ซึ่งนอกจาก ‘ไนน์’ แล้ว เหล่าผู้สนับสนุนทั้ง 3 คนก็มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่นไม่แพ้กันจนทำให้ฉากต่อสู้มีความน่าตื่นเต้นจนขนลุกขนาดที่ต้องทำให้นักเรียนฮีโร่ปี 1 ห้อง A ต้องรวมตัวกันวางแผนและต่อสู้เพื่อจะต่อกรกับพวกเขาเลย
ท้ายที่สุดนี้ แม้ความสนุกของการดำเนินเรื่องจะดูธรรมดา เป็นเส้นตรง และคาดเดาได้ง่ายตามสูตรสำเร็จของการ์ตูนแนวโชเน็นแล้ว แต่นั่นก็คงเป็นข้อเสียเพียงเล็กน้อยเมื่อต้องแลกกับฉากแอคชั่นสุดเร้าใจแบบจัดหนักจัดเต็มตลอดทั้งเรื่อง แค่เพียงช่วงไคลแมกซ์แค่ช่วงเดียวก็นับว่าสนุก ตื่นเต้น และทรงพลังถึงขีดสุดแล้ว เพราะทั้งหมดนี้ภาพยนตร์ได้มอบความสนุกให้กับแฟน ๆ อนิเมะ และคอหนังฮีโร่ได้อย่างตื่นตาตื่นใจสุด ๆ แล้ว และยิ่งถ้าเป็นแฟน ๆ ซีรีส์ My Hero Academia ด้วยแล้วจะยิ่งประทับใจจนไม่อาจลืม และเป็นที่สุดของซีรีส์ My Hero Academia ในตอนนี้เลยทีเดียวก็คงจะไม่เกินไปนัก
ฉากแอ็คชั่นและอารมณ์ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันเคยเห็นและรู้สึก ฉันถึงกับน้ำตาซึมในหลายจุดของภาพยนตร์เรื่องนี้เพราะว่ามันยอดเยี่ยมมาก ตัวละครและช่วงเวลาของพวกเขาล้วนน่าตื่นตาตื่นใจ แนวคิดของการเป็นฮีโร่ช่างเชยแต่ก็ทำให้ร้องไห้ได้ คุณจะบอกได้ว่าคนที่ทำภาพยนตร์เรื่องนี้ทุ่มเทจิตวิญญาณให้กับมัน สิ่งเดียวที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้คะแนน 10/10 My Hero Academia Heroes Rising คือการขาดการเชื่อมโยงระหว่างภาพยนตร์เรื่องนี้กับซีรีส์ (เราไม่เคยเห็นพวกเขาไปถึงเกาะหรือกลับมาจากเกาะเลย) เรื่องราว/การเขียนบทไม่ได้มีอะไรพิเศษ และแรงดึงดูดเล็กน้อยแต่ก็ไม่สำคัญเลยเพราะมันนำไปสู่หนึ่งในช่วงเวลาที่สนุกที่สุดในประวัติศาสตร์ของแอนิเมชั่นและภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ แม้ว่าคุณจะไม่เคยดูซีรีส์ก็ตาม ดูหนังเรื่องนี้เถอะ! โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นแฟนอนิเมะ/มังงะ/การ์ตูน/ซูเปอร์ฮีโร่
หนังเรื่องนี้เริ่มต้นด้วยนักเรียนชั้น 1A ที่ต้องไปเกาะที่ไม่มีครู และพวกเขาต้องช่วยเหลือชาวเกาะในการดูแลชีวิตประจำวันและเรียนรู้วิธีการเป็นฮีโร่ที่ดี เรื่องราวดำเนินต่อไปแบบนั้น แต่ตัวร้ายปรากฏตัวบนเกาะด้วยความสามารถพิเศษที่หายาก ซึ่งทำให้อยู่บนเกาะได้ไม่นาน และเขาสามารถใช้ความสามารถพิเศษหลายอย่างได้ เช่น ทุกคนใช้ความสามารถพิเศษเดียวกัน เมื่อตัวร้ายปรากฏตัว ฮีโร่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ต้องต่อสู้ด้วยกลยุทธ์ โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้ยอดเยี่ยมมาก และเพลงประกอบฉากแอ็กชั่นก็ยอดเยี่ยมมาก
หนังเรื่องนี้น่าจะเข้าฉายในอเมริกาตอนนี้เลยก็ได้ เพราะฉันอยากเห็นหนังเรื่องนี้ฉายบนจอใหญ่อีกครั้ง! ทุกอย่างเกี่ยวกับหนังอนิเมะเรื่องนี้อยู่ในระดับเทพตั้งแต่ต้นจนจบ! เอฟเฟกต์พิเศษที่ยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ที่ไร้ที่ติ และการถ่ายภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ หนังอนิเมะเรื่องอื่นไม่สามารถแข่งขันกับผลงานชิ้นเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้! ส่วนที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้คือฉากต่อสู้สุดท้ายที่น่าทึ่ง ซึ่ง United States Of เอาชนะ Two Heroes ได้ในทันทีด้วยการให้พลัง One For All แก่บาคุโกะ หลังจากที่ไนน์ได้มันไป มันแสดงให้เห็นจริงๆ ว่าแม้จะมีปัญหาความโกรธและความเย่อหยิ่ง บาคุโกะก็ได้ชดใช้สิ่งที่เขาทำในอดีตและเต็มใจที่จะเผชิญกับอันตรายเหมือนรถบรรทุก! เขาควรได้รับใบอนุญาตเป็นฮีโร่เพราะฉากที่ศักดิ์สิทธิ์มากนี้
สำหรับผู้เริ่มต้น เรื่องนี้ดีกว่าภาพยนตร์นารูโตะและโปเกมอนบางเรื่องมาก My Hero Academia Heroes Rising ต้องขอบคุณด้านหนึ่ง: แอนิเมชั่นระดับเทพ ภาพยนตร์อนิเมะส่วนใหญ่ที่สร้างจากซีรีส์ที่ฉายยาวนานมักจะมีแอนิเมชั่นการต่อสู้ที่ดีเสมอ (ยกเว้นภาพยนตร์โปเกมอนบางเรื่อง) แต่ฉันไม่เคยเห็นการต่อสู้แบบนี้ในภาพยนตร์เหล่านี้มาก่อน เมื่อพิจารณาว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแอนิเมชั่นแอ็คชั่น 80% คุณภาพของแอนิเมชั่นจึงไม่ลดลงเลย โดยเฉพาะตอนจบนั้นน่าทึ่งมากที่ได้ชม ตัวร้ายก็เท่มากเช่นกัน และตัวละครทุกตัวจาก Class-A ก็มีโอกาสที่จะเปล่งประกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดมาก่อน ทุกคนต่างก็มีช่วงเวลาที่โหด และมันยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นตัวละครที่ไม่ค่อยได้รับการชื่นชม เช่น เซโระและอาโอยามะ ทำสิ่งที่เจ๋งๆ
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวค่อนข้างไม่สร้างแรงบันดาลใจ และส่วนใหญ่มีไว้เพื่อให้มีการต่อสู้ที่เจ๋งๆ เท่านั้น มันเกือบจะเหมือนกับส่วนก่อนหน้าในซีรีส์ ตัวละครเด็กทั้งสองนั้นซ้ำซากมากสำหรับภาพยนตร์ประเภทนี้ และแทบจะเป็นสำเนาคาร์บอนของตัวละครเด็กตัวอื่นๆ ในซีรีส์นี้ ตัวร้ายก็ลอกเลียนมาจาก All for One เหมือนกัน แต่ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรมาก เพราะคิดว่าเท่กว่า จอห์นนี่ ยอง บอชให้เสียงพากย์ในเวอร์ชันพากย์เสียง และฉันคิดว่านั่นทำให้ฉันชอบเขามากกว่าที่ควร เขาเป็นหนึ่งในนักแสดงพากย์เสียงอนิเมะไม่กี่คนที่ทำผลงานได้เฉียบคม และทำให้มีตัวร้ายที่เก่งกาจอย่างแท้จริง
เมื่อพิจารณาว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เรียบง่ายแค่ไหน ฉันแปลกใจจริงๆ ว่าตัวเองชอบมันมากแค่ไหน ฉากแอ็คชั่นยอดเยี่ยมมาก แต่ทุกอย่างก็ดูเป็นแนวโชเน็นทั่วๆ ไป รู้สึกเหมือนกำลังดูตอนหนึ่งของ My Hero Academia ในโรงภาพยนตร์ ฉันคิดว่าถ้ามีเรื่องราวที่กล้าหาญกว่านี้และสถานที่ที่ไม่เหมือนใครกว่านี้ เรื่องนี้จะรู้สึกเหมือนเป็นเหตุการณ์จริง โดยเฉพาะถ้าเรื่องราวเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้วย ควรมีการโต้ตอบแบบตลกขบขันเล็กๆ น้อยๆ กับตัวละครมากกว่านี้ ฉันคิดว่านั่นจะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดีขึ้นเล็กน้อยในความคิดของฉัน โดยรวมแล้วเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่ควรค่าแก่การชมหากคุณเป็นแฟนของ MHA แม้จะไม่ได้ถึงระดับที่คาดหวังไว้แต่ก็ถือว่าดีกว่าหนังแนวชูเน็นอนิเมะเรื่องอื่นๆ ที่เคยมีมา คุ้มค่าที่จะไปดูในโรงภาพยนตร์หากมีโอกาส
ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Tarzan and Jane (2002) ทาร์ซาน และ เจน
Tarzan 2 (2005) ทาร์ซาน 2 ตอน ซูกอร์จ้าวแห่งภูผามืด
Dragon Ball Z The Movie Broly Second Coming (1994) การกลับมาของโบรลี่ ภาค 10
6.4