ดูหนังออนไลน์ Marco (2024) มาร์โก หมาบ้า พันธุ์ระห่ำ
เรื่องย่อ
มาร์โก Marco ลูกบุญธรรมของตระกูลอาดัตตู ออกเดินทางเพื่อแก้แค้นอย่างไร้ความปราณีหลังจากที่พี่ชายของเขาถูกฆ่าอย่างโหดร้าย พบกับการทรยศ การสูญเสีย และความโหดร้ายที่ไม่อาจจินตนาการได้ในทุกย่างก้าว เป็นภาพยนตร์แนวแอ็กชันระทึกขวัญภาษามาลายาลัมจากประเทศอินเดีย กำกับและเขียนบทโดย ฮานีฟ อาเดนี (Haneef Adeni) และอำนวยการสร้างโดย ชารีฟ มูฮัมหมัด (Shareef Muhammed) ภายใต้สังกัด Cubes เรื่องราวมุ่งเน้นไปที่ มาร์โก (รับบทโดย อุนนี มูกุนดัน – Unni Mukundan) ลูกบุญธรรมของตระกูลอาดัตตู ผู้มีอิทธิพลในวงการค้าทองคำของรัฐเกรละ เมื่อพี่ชายของเขาถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม มาร์โกจึงออกเดินทางเพื่อล้างแค้น โดยต้องเผชิญกับการทรยศ การสูญเสีย และความโหดร้ายที่ไม่อาจจินตนาการได้
ผู้กำกับ
- Haneef Adeni
บริษัท ค่ายหนัง
- Cubes Entertainments
นักแสดง
- Unni Mukundan
- Siddique
- Jagadish
- Abhimanyu Shammy Thilakan
- Kabir Duhan Singh
- Ishan Shoukath
- Yukti Thareja
โปสเตอร์หนัง Marco
รีวิว มาร์โก หมาบ้า พันธุ์ระห่ำ
มารโค้ Marco ลูกชายนอกสมรสของตระกูลมาเฟียผู้มีอิทธิพลพบว่าน้องชาย-องเขาถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม และเมื่อเขาพบความจริงว่าผู้อยู่เบื้องหลังการตายของน้องชายเขากลับเป็นเพื่อนร่วมธุรกิจของคนในครอบครัวเขาซะเอง มาร์โค้จึงต้องปลุกปีศาจในตัวเพื่อเริ่มต้นล้างแค้นไล่ฆ่าพวกมันให้สิ้นซาก! นี่คือหนังแอคชั่นจากอินเดีย ภาษามาลายาลัม ที่สร้างปรากฎการณ์ความฮิต ณ ตอนที่ฉาย ทั้งคำวิจารณ์ที่ยอดเยี่ยม ทำเงินถล่มทลาย รวมถึงทุกๆคนที่ได้ดูต่างยกย่องสรรเสริญกันว่านี่คือหนังแอคชั่นจากอินเดียที่โหดมากที่สุดที่เคยมีการสร้างมา จนกระแสแบบปากต่อปากก็ทำให้ตอนนี้หนังมีแพลนจะสร้างภาค 2 แล้วด้วย! ซึ่งเราที่ได้ดูแล้วก็ขอยืนยันอีกเสียงเลยว่านี่น่าจะเป็นหนังอินเดียที่โหดที่สุดเท่าที่ได้ดูมาแล้วล่ะ โหดมากกว่า Kill อีก และมันโหดชนิดที่ว่าอีกนิดหนึ่งมันจะเป็น Terrifier ในฉบับหนังแอคชั่นได้เลยด้วยซ้ำ เพียงแค่เปลี่ยนจาก Art the Clown กลายเป็นพี่ตัวละคร Marco ที่ฆ่าคนด้วยวิธีการที่โหดสลัดสุดเกินคำบรรยาย!
จริงๆภาพรวมมันก็คือหนังแอคชั่นโม้เหม็นแบบคนอินเดียที่เราเคยล้อๆหรือดูกันมานี่แหละ มันครบสูตรตั้งแต่ เวลาที่พระเอกเดินเข้าเฟรมหรือเปิดตัวทำอะไรสักอย่างก็ทมาพร้อมซีนเหวี่ยงมุมกล้องเท่ๆ โหมกระหน่ำด้วยธีมเพลงปลุกอารมณ์ฮึกเหิม หนังเป็นแนวตัวเอกมาคนเดียว One Man Army เท่ๆปะทะคนร้ายมากกว่า 100 คน กับวิธีการสู้ที่ยังไงก็ไม่ได้มาเอาจริงเอาจังหรือหาความสมเหตุสมผลอยู่แล้ว พระเอกแม่งเดินเหาะเหินแตะหัวผู้ร้ายบินขึ้นที่สูง อะไรแบบนี้เราจะหาจากหนังชาติอื่นไม่ได้หรอก 55555 หนังอาศัยการเล่าเรื่องแบบอารัมภาบทปูตัวละครเยอะๆ ตัดสลับกับเรื่องราวการหักเหลี่ยมชิงไหวพริบของแก๊งค์เตอร์ ซึ่งส่วนตัวด้วยความยาวหนัง 2 ชั่วโมงกว่าๆ มันก็เล่าเรื่องน่าติดตาม แม้ว่ากว่าจะเข้าช่วงซีนมันส์ๆก็อาจจะต้องรอสักนิด เพราะครึ่งแรกมันเน้นเล่าเรื่องการสืบหาคนร้าย และพวกตัวร้ายที่พยายามกลบหลักฐานไม่ให้พระเอกจับได้ อะไรประมาณนี้
ซึ่งเราว่าหนังมีบาดแผลที่บทมันอ่อน เพราะมันก็คือเรื่องการล้างแค้นในหมู่คนทำธุรกิจผิดกฎหมาย Marco ไม่มีอะไรใหม่เลย เล่าเรื่องสะเปะสะปะเกินไป ยังไม่ค่อยกลมกล่อมนัก การปูตัวละครเยอะเกินไปจนไม่มีพื้นที่ให้กับตัวละครหรือเกลี่ยบทได้ดีพอ จนไม่ได้ทำให้เราสัมผัสหรืออินกับใครได้ เพราะมันอาศัยการเล่าเรื่องด้วยการตัดต่อ สลับ flashback น้อยๆ แต่จุดขายของหนังจริงๆก็คือฉากแอคชั่นที่ควบคู่กับความโหดเลือดสาดของมัน หนังเหมือนฟิวชั่นกันระหว่างความเป็นหนังแอคชั่นอินเดียเน้นสไตล์โม้ให้สุด บวกกับความเป็นหนังแอคชั่นเกาหลี-อินโดนิเซียที่เวลาตัวละครจะตายแต่ละทีก็ตายด้วยวิธีการที่ไม่ธรรมดา บางคนโดนกระหน้่ำแทงตายไม่ยั้ง บางคนโดนยิงปืนจนศพเละเทะกระจัดกระจาย
ยกตัวอย่างซีนที่ชอบ เช่น พระเอกโดนมัดมือ เตรียมโดนผู้ร้ายเก็บแล้ว แต่พระเอกฮึดสู้เอาปากกัดมือคนร้ายคนหนึ่งที่ถือมีดอยู่ ก่อนจะใช้ปากบังคับกัดมือจนปล่อยมีด แล้วพระเอกก็เอาปากคาบมีดแล้วฟันคอแม่ง แล้วเอาปากไปกัดหูผู้ร้ายอีกคนจนหูขาดแหว่งไปเลย ก่อนจะนำไปสู่ซีนต่อสู้ที่พระเอกถูกมัดข้อมืออยู่ แต่เอาปากคาบมีดสู้กับคนร้ายแม่ม 5555 หรือซีนแอคชั่นสู้กับกลุ่มโจร 30 กว่ารายที่มันถ่ายลองเทค (แบบปลอมๆ) มีความเป็น Oldboy, Daredevil สูงมากๆ เพราะพระเอกต้องขึ้นบันไดจากล่างไปข้างบน ระหว่างเดินขึ้นบันไดก็ต้องเจอกับคนร้ายที่วิ่งเข้ามารุมฆ่าพระเอกจนแออัดไม่เหลือพื้นที่ พี่พระเอกแกก็ต้องสู้ไปโดนวงบีบเข้าไป เอามีดเอาขวานจ้วงแทงคนร้ายแต่ละคนไม่ยั้งมือจนศพนอนเกลื่อนบันไดในแต่ละขั้น
หนังมีซีนแอคชั่นดีๆโม้ๆ และมันส์สะใจเยอะกว่านี้มาก แต่ที่ชื่นชมเลยคือหนังใช้ประโยชน์ของความโหดเลือดสาดได้คุ้มค่าจริงๆ เพราะมันไม่ได้ถูกนำมาใช้ในแง่ของซีนแอคชั่นไล่ฆ่ากันอย่างเดียว แต่ซีนประเภทการจับคนร้ายมาทรมาณ หรือซีนที่พวกผู้ร้ายผงาดไล่ทำร้ายคนที่พระเอกรักก็เข้าขั้นซาดิสม์มากกว่าที่หนังแอคชั่นสามัญทั่วไปเขาจะทำกัน (โดยเฉพาะครึ่งหลังที่เป็นซีนบุกบ้านพระเอกเนี่ย มันโหดชนิดที่ว่าจากบ้านสีขาว มันสู้กันจนเลือดสาด เปรอะเปลื้อนจนบ้านเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานเลย) สิ่งที่เป็นไฮไลท์มากอีกอย่างเลยคือการสร้างตัวละครมาร์โค้ที่น่าจดจำเนี่ยแหละ นอกจากความโม้เหม็น การโหมกระหน่ำเปิดตัวแล้วใส่เพลงเท่ๆ เราว่านักแสดงอย่าง Unni Mukundan ก็ถ่ายทอดคาริสม่าตัวละครนี้ได้ดี พี่เท่แบบเท่ระเบิดไปเลย หนังปูตัวละครนี้ว่าเป็นเหมือนหมาป่า เป็นปีศาจที่ไม่ควรแส่ไปหาเรื่อง ซึ่งการแสดงของเขาก็ทำให้เราเชื่อถึงความอำมหิตที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ชายคาความหล่อเหล่าของตัวละคร
แล้วคือเราไม่ได้อินกับความเศร้าที่ตัวละครแกเจอมาเลยนะ แต่เราอินทุกครั้งเวลาที่แกเริ่มเดือดเป็นฟื้นเป็นไฟจนลุกขึ้นมาฆ่าคนได้ แม้ว่าร่างกายจะย่ำแย่มากแค่ไหนก็ตาม หนังมันเขียนตัวละครนี้มาสนุกมากจริงๆจนเราคนดูยังสนุกตามเลยนะว่าแกจะมาไม้ไหนหรือจะสู้กับคนอื่นยังไงอีก แล้วอีความซาดิมส์ของแกก็ส่งต่อไปยังผู้ร้ายแต่ละคนที่โดนทรมาณจนไม่เหลือสภาพความเป็นมาเฟียเลย เอาตรงๆแล้ว KILL สนุกและดีกว่านั่นแหละ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า Marco มันเป็นหนังอินเดียที่โหดเลือดสาดมากที่สุดเท่าที่เคยดูมา มัน delivers ในสิ่งที่เราอยากจะดูซึ่งก็คือตัวเอกเท่ๆ ฉากแอคชั่นมันส์ๆ (+โม้ด้วย) และการตายของแต่ละตัวละครที่พิศดารปนความสยดสยองซะยิ่งกว่าหนัง horror-slasher ด้วยกันซะอีก เป็น 2 ชม. 20 นาทีกว่าที่ดูแล้วเหนื่อยแต่สาแก่ใจข้าพเจ้ามากจริงๆ โหดลาดเลือดได้ใจเราสุดๆ
คะแนน: 4/5 ดาว ปล. จริงๆแล้ว Marco มันคือหนังภาคต่อ/ภาคแยก Spin-Off จากหนังแอคชั่นอินเดียเรื่อง Mikhael (2019) ที่ตัวละครมาร์โค้ในเรื่องนั้น จริงๆแกเป็นตัวร้ายที่ออกตามล่าไล่ฆ่าพระเอกใน Mikhael นั่นแหละ เพียงแต่ว่าหนังภาคแรกไม่มีกระแสเลย เงียบเชียบ เจ๊ง ณ ตอนที่ออกฉาย คำวิจารณ์ก็ไม่ดี แต่ไม่รู้ผู้สร้างคิดอะไรอยู่จึงสร้างหนังภาคแยกจากหนังที่ไม่ค่อยมีคนดู แต่ทว่า Marco ดันประสบความสำเร็จเกินคาดมากๆ หนังทำเงิน คำวิจารณ์ดี แถมมีแพลนจะสร้างภาคต่ออีก 5555
มาร์โกเป็นหนังที่น่าดูมากเพราะมีฉากแอ็กชั่นเลือดสาด แม้ว่าจะดูสร้างแรงบันดาลใจก็ตาม ถ้าคุณรู้จักผลงานก่อนหน้านี้ของฮานีฟ อาเดนี คุณคงระวังว่าบทของเขาจะอ่อนแอแค่ไหน แต่ผู้ชายคนนี้รู้วิธีนำเสนอตัวละครเอกชายที่เปี่ยมด้วยฮอร์โมนเพศชายและอวดดี (ยกเว้นอูลักกา จักกา จักกา!) เขาทำแบบเดียวกันกับอุนนี มุกุนดัน โดยกำจัดเรื่องราวหรือความเชื่อมโยงกับมิคาเอลออกไป ยกเว้นชื่อ นามสกุล และตัวละครที่ซิดดิกเล่น ซึ่งนั่นทำให้เขามีผลงานที่ดีในเชิงภาพยนตร์ เพราะมาร์โก จูเนียร์ที่ฉันได้เห็นในมิคาเอลนั้นทนไม่ได้เลย ในภาพนี้ เขาดูเหมือนเครื่องจักรสังหารในชุดสูท มีเสน่ห์ดึงดูด และอวดดี
บทสัมภาษณ์ก่อนออกฉายระบุว่านี่จะเป็นมาตรฐานสำหรับความรุนแรงในภาพยนตร์มาลายาลัม ฉันคิดว่าพวกเขาทำได้สำหรับภาพยนตร์อินเดียโดยรวม ฉากบุกบ้านฉากหนึ่งในช่วงครึ่งหลังนั้นโหดร้ายอย่างเหลือเชื่อ และฉันอยากดูเวอร์ชัน Director’s Cut ของฉากนี้จริงๆ นอกจากนี้ เซ็นเซอร์ยังตัดฟุตเทจความยาว 8 นาทีออกไปด้วย ฉันจึงอยากรู้ว่าในฟุตเทจมีเนื้อหาอะไรบ้าง (พวกเขาทำอะไรกับริยาซ ข่านของฉัน) ฉากแอ็กชั่นถูกถ่ายทำด้วยความเข้มงวดและเต็มไปด้วยความหลงใหล ขอชื่นชม Unni Mukundan ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในส่วนนั้น ฉันชอบฉากสองฉากเป็นพิเศษ คือฉากก่อนพักครึ่งและหลังพักครึ่ง ผลงานที่ยอดเยี่ยมของผู้กำกับสตั๊นท์อย่าง Kalai Kingson การจัดระดับสี (Srik Varier) และเครื่องแต่งกาย (Dhanya Balakrishnan) ก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน DOP Chandru Selvaraj ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับฉากในระดับนานาชาติ
อย่างที่คาดไว้ บทภาพยนตร์ (โดยเฉพาะบทสนทนา) พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นจุดอ่อนของภาพยนตร์เรื่องนี้ Siddique และ Jagadeesh ก้าวข้ามบทภาพยนตร์ที่บางจนดูเวเฟอร์และนำเสนอเนื้อหาให้กับบทบาทของพวกเขา Abhimanyu Shammi Thilakan และ Kabir Duhan Singh Marco โดดเด่นในบทบาทตัวร้ายที่โหดร้ายและคุกคาม เพลงประกอบของ Ravi Basrur ทำให้พระเอกมีช่วงที่โดดเด่น แต่การไม่มีดนตรีประกอบเลยในฉากบันไดถือเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม เพลงประกอบช่วยให้หมัดและหมัดเข้าเป้ามีพลังมากขึ้น แม้ว่าส่วนที่เหลือของหนังจะขาดความต่อเนื่องที่น่าเชื่อถือ แต่ Shameer Muhammed ก็ทำฉากแอคชั่นได้ดี (แต่ไม่ใช่แฟนของเลือดสาดที่ CG เลย) ไม่จำเป็นต้องมีฉากนำไปสู่ภาคต่อ แต่พวกเขาก็ทำฉากนั้นในฉากหลังเครดิตที่แปลกประหลาดซึ่งตัดอย่างกะทันหัน
ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Sorgavaasal (2024) ประตูสวรรค์
Dhoom Dhaam (2025) บ่าวสาวชื่นชุลมุน
Anti Drug Operations (2025) ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด
Den of Thieves 2 Pantera (2025) โคตรนรกปล้นเหนือเมฆ แพนเธอรา
Attack on Titan The Last Attack (2025) ผ่าพิภพไททัน การโจมตีครั่งสุดท้าย
5