ดูหนัง Lost (2018) ปลุกวิญญาณเฮี้ยน
เรื่องย่อ
หลังจากย้ายไปยังหมู่บ้านกลางป่า หญิงสาวคนหนึ่งพยายามเชื่อมโยงกับพ่อผู้ล่วงลับของเธอผ่านบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ แต่บ่อน้ำนั้นกลับมีวิญญาณร้ายสิงอยู่ หลังจากการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของพ่อ อมรา (รับบทโดย Laura Theux) พร้อมกับแม่และ กาซิฮ์ น้องสาวของเธอ ได้ย้ายไปยังบ้านของตาในหมู่บ้านกลางป่า เพื่อหาความสงบใจ หมู่บ้านนี้เต็มไปด้วยผู้สูงอายุ และมีบรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือโทรศัพท์ อมราพบสมุดบันทึกของตาที่กล่าวถึงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถขอพรได้ Lost ด้วยความคิดถึงพ่อ เธอจึงตัดสินใจทำพิธีเพื่อสื่อสารกับพ่อเป็นครั้งสุดท้าย แต่การกระทำนี้กลับปลุกวิญญาณร้าย “เบอเรอมันยัน” ขึ้นมา ซึ่งเริ่มคุกคามครอบครัวของเธอ อมราต้องหาทางหยุดยั้งวิญญาณร้ายนี้ก่อนที่จะสายเกินไป ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการชื่นชมในด้านบรรยากาศที่น่ากลัวและการสร้างความตึงเครียดที่ดี แม้ว่าโครงเรื่องอาจจะคาดเดาได้บ้าง แต่ก็สามารถสร้างความสนใจและความหลอนให้กับผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้กำกับ
- Sammaria Simanjuntak
บริษัท ค่ายหนัง
- Rapi Films
นักแสดง
- Rebecca Klopper
- Vonny Cornellya
- Endy Arfian
- Arswendy Bening Swara
- Jajang C. Noer
- Valerie Tifanka
โปสเตอร์หนัง ปลุกวิญญาณเฮี้ยน
รีวิว ปลุกวิญญาณเฮี้ยน
นับตั้งแต่ได้เริ่มรู้จักกับหนังผีสยองขวัญสัญชาติอินโดนีเซีย ก็ขอบอกเลยว่าเรื่องความน่ากลัวสยองขวัญนั้นแทบจะไม่แพ้สัญชาติใดเลย ยิ่งเทียบกับหนังไทยในยุคหลัง ๆ แล้วก็นับว่าทิ้งหนังไทยไปไกลโข และหนังเรื่อง Lost (2018) ปลุกวิญญาณเฮี้ยน จะเป็นหนึ่งในเครื่องพิสูจน์ความดีงามของหนังผีโดยเซียหรือไม่ สามารถพิสูจน์ได้พร้อมกันเลยนะครับ ปลุกวิญญาณเฮี้ยน ว่าด้วยเรื่องราวของอามารา หญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังจะมีอนาคตสดใสเป็นตัวแทนนักวิ่งระดับชาติ แต่กลับต้องสูญเสียพ่อผู้ซึ่งเป็นโค้ชวิ่งและเป็นทุกอย่างของเธอด้วยในเหตุการณ์อุบัติเหตุ จากนั้นครอบครัวของเธอประกอบด้วยแม่และน้องสาวจึงจำเป็นจะต้องย้ายไปอยู่ในชนบทบ้านของลุงของเธอเพื่อที่จะให้ลืมเรื่องราวอันเลวร้ายเหล่านี้ให้ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนตัวเธอและน้องสาวก็ต้องย้ายโรงเรียนไปอยู่โรงเรียนชนบทแห่งนั้นด้วย
ในชุมชนชนบทแห่งนี้ จะอยู่ในป่าลึก ห่างไกลจากเมืองเป็นอย่างมาก ผู้คนแต่ละคนนั้นดูแล้วโดยไม่เป็นมิตร มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เป็นปกติก็คือ ทั้งหมู่บ้านไม่มีคนหนุ่มและคนสาวอาศัยอยู่เลย มีแต่คนแก่คนชราด้วยกันทั้งสิ้น ทุกคนไม่มีใครยิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อครอบครัวนี้เดินทางเข้ามาทุกคนก็ได้แต่จ้องมองราวกับว่าครอบครัวนี้เป็นตัวประหลาด ลุงของเธอก็ไม่สุงสิงกับผู้คนมากนักมักทำตัวปลีกวิเวกไปอยู่ในห้อง อ้างว่าต้องการเขียนหนังสือให้เสร็จ หนังสือนิยายเกี่ยวกับความลึกลับหรือรับของชุมชนแห่งนี้ที่เขาแต่งค้างไว้นานแล้ว เมื่อครอบครัวนี้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านก็รับรู้ว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่อยู่ในบ้านนั้นไม่ปกติ โดยเฉพาะรูปที่แขวนอยู่ในบ้านนั้นแสดงถึงป่าลึกและบ่อน้ำในป่า ซึ่งอามาราเองก็ให้การสงสัยรูปใบนี้มาก เธอรู้สึกว่าเหมือนมีใครจ้องมองเธอจากในรูป
Lost อามารา และน้องสาวเข้าไปเรียนในโรงเรียนใหม่แน่นอนว่าเธอก็ไม่สามารถเข้ากับเพื่อนใหม่ได้ แม้อามาราจะมีเพื่อนใหม่เพียงไม่กี่คนก็ตาม เธอก็ยังใช้ชีวิตอยู่สันโดษเช่นเดิม ถึงเวลาเธอก็ต้องรีบกลับบ้าน
คืนหนึ่งอามาราและน้องสาวแอบเขาไปในห้องทำงานของลุง แอบใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ทั้งสองได้เห็นหนังสือเก่าเล่มหนึ่ง เป็นหนังสือที่เกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์และเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในป่าลึกในชุมชนแห่งนี้ว่า บ่อน้ำแห่งนี้มีวิญญาณที่ชั่วร้ายสิงสู่อยู่ ครั้งหนึ่งผู้คนในชุมชนได้เข้าไปทำพิธีขอพรให้วิญญาณร้ายนี้ช่วยเหลือเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ จากนั้นไม่นานก็กลายเป็นว่าผู้คนในชุมชนกลับมีอาชีพที่ดีขึ้น มีฐานะร่ำรวยกันถ้วนหน้า แต่อย่างไรก็ตามวิญญาณชั่วร้ายที่ให้พรได้ก็ได้กลับมานำบางสิ่งบางอย่างของผู้คนในชุมชนไป บางสิ่งบางอย่างที่มีราคาสูงมากจนผู้คนในชุมชนนั้นต้องหนีห่างจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ไป และห้ามไม่ให้มีใครไปทำพิธีขอพรอีกเลย
อามาราจึงคิดได้ว่า เธอจะขอพรที่บ่อน้ำแห่งนี้ แบะแน่นอนว่าเธอก็ได้เจอกับเรื่องราวอาถรรพมากมาย มันไม่ได้มุ่งร้ายแต่กับชีวิตเธอเท่านั้น มันยังต้องการชีวิตของน้องสาวและแม่ของเธอรวมถึงบุคคลรอบข้างของเธออีกด้วย เธอจะมีวิธีการแก้ไขเรื่องราวเลวร้ายนี้ได้อย่างไรและเรื่องราวจะจบลงที่ตรงไหนสามารถรับชมได้ทาง Netflix หนังผีจากอินโดนีเซียเรื่องนี้ มีวิธีการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างช้ามาก หากใครเป็นคนใจร้อนและต้องการชมอะไรที่ฉับไวก็ขอบอกเลยว่าไม่เหมาะกับหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะกว่าจะเล่าเข้าเรื่องเข้าราวหรือเหตุการณ์สยองขวัญจะออกมาในแต่ละครั้งนั้นก็ใช้เวลาไปเกือบครึ่งเรื่องแล้ว ถือว่าเล่าเรื่องได้ค่อนข้างน่าเบื่อพอสมควร ในด้านบรรยากาศและมุมกล้องที่เกี่ยวกับการสร้างความสยองขวัญนั้นทำได้ค่อนข้างดี มีการดึงภาพนิ่งอยู่หลายครั้ง และทำให้คนดูรู้สึกหวาดระแวงไปกับภาพหรือบรรยากาศที่เขาต้องการให้เรารู้สึก บรรยากาศ ความเงียบถือว่าจัดการได้ดีในระดับมาตรฐานหนังผีจากอินโดนีเชีย
แม้แต่การออกแบบผีเองก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีมีความน่ากลัว แต่เสียดายที่ว่าหนังใช้สิ่งนี้น้อยมาก หากจะพูดในอีกแง่หนึ่งก็คือ ผู้กำกับเลือกที่จะหลอนคนดูโดยใช้บรรยากาศมากกว่าตัวผี ซึ่งหลายคนหากเป็นสายสยองขวัญแบบโฉ่งฉ่างคงไม่ชอบเรื่องนี้ แต่พอถึงในจุดที่เขาต้องการจะให้คนดูกลัว อย่างเช่นฉากที่ตัวละครหลาย ๆ Lost เผชิญกับผีและเรื่องราวอาถรรพ์กลับทำได้ไม่น่ากลัวนัก มันโจ่งแจ้งเกินไป มันไม่ได้น่ากลัว แถมยังออกไปทางแฟนตาซีด้วย ในแง่ของบทก็ถือว่าค่อนข้างสอบผ่านแต่ก็ไม่ถึงกับเข้าขั้นคำว่าดี มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้เราพอเดาเนื้อเรื่องได้ แม้จะมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ แต่ความลับนั้นมันก็ไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพรส์คนดู พอดูจบเรื่องแล้วก็ได้แต่ขออยู่ในใจแต่ก็ไม่ได้สร้างความประทับใจอะไรนัก การแก้ไขสถานการณ์คับขันก็ทำได้ง่ายจนเกินไป มันง่ายจนแทบไม่มีอะไรให้ลุ้นมากนัก
จุดที่น่ารำคาญมีค่อนข้างมาก โดยเฉพาะพฤติกรรมของตัวนางเอก ที่ทำอะไรค่อนข้างเอาแต่ใจใช้แต่อารมณ์ ดูแล้วก็รู้สึกหงุดหงิด การแสดงโดยภาพรวมแล้วส่วนใหญ่ทุกคนเล่นได้ดีทำให้เชื่อในตัวละครนั้น ๆ ได้ กล่าวโดยสรุป Lost (2018) ปลุกวิญญาณเฮี้ยน แม้จะเป็นหนังผีจากอินโดนีเซีย ที่ขึ้นชื่อเรื่องบทอันยอดเยี่ยมกับการสร้างบรรยากาศที่น่ากลัวไม่แพ้หนังผีจะสัญชาติใด ซึ่งหากใครหลายคนได้ติดตามชมหนังผีต่างชาตินี้ก็ค่อนข้างให้ความคาดหวังจากปลุกวิญญาณเฮี้ยนว่าจะไม่ทิ้งมาตรฐานนัก แต่ ปลุกวิญญาณเฮี้ยน กลับทำออกมาได้ค่อนข้างผิดมาตรฐาน ในส่วนตัวแล้วค่อนข้างผิดหวังกับหนังเรื่องนี้พอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เป็นปลอบประโลมใจได้ก็คือความสวยน่ารักของนางเอก ที่ทำให้เราหลงรักเธอได้ไม่ยาก 5/10
ฉันไม่รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้น่ากลัวเลย มันเหมือนหนังสยองขวัญมากกว่า เนื้อเรื่องหลักเกี่ยวกับเด็กสาววัยรุ่น (อมรา) ที่ทำพิธีกรรมที่บ่อน้ำผีสิงเพื่อขอพรเพื่อคุยกับพ่อที่เสียชีวิตของเธอ แต่ดูเหมือนว่าบ่อน้ำจะไม่ทำให้ความปรารถนาเป็นจริง Lost แต่กลับเรียกวิญญาณชั่วร้ายออกมาทำร้ายคนรอบข้างแทน ภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากรุนแรงบ้าง แต่ก็ไม่มีฉากน่ากลัวมากนัก มีฉากตกใจเพียงไม่กี่ฉาก โดยเฉพาะฉากตกใจแบบหน้าตายซึ่งน่ารำคาญมาก ฉากตกใจแบบนี้ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลในสมัยนี้ และไม่ควรนำมาใช้หากใครอยากสร้างหนังสยองขวัญดีๆ สักเรื่อง น่าเสียดายที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีอะไรให้เสนอเลยนอกจากสิ่งเหล่านี้ เรื่องราวเรียบง่ายเกินไป ผู้ชมบางคนอาจคาดเดาไว้แล้วว่าตัวเอกจะแก้ปัญหาวิญญาณชั่วร้ายอย่างไรในระหว่างภาพยนตร์ และมีบางสิ่งในเรื่องที่ดูไม่สมเหตุสมผลด้วย ฉันหวังว่าจะมีการพลิกผันที่น่าสนใจในเรื่องราว แต่โชคไม่ดีที่ไม่มีเลย ฉันคิดว่าหนังเรื่องนี้จะดีขึ้นได้ถ้าเนื้อเรื่องเป็นแนวสยองขวัญจิตวิทยาแทนที่จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับปีศาจสังหารซึ่งพบเห็นได้ทั่วไป เช่น ตัวเอกอาจจะขอพรให้พ่อของเธอฟื้นคืนชีพขึ้นมาแทน ซึ่งคำอธิษฐานนั้นก็เป็นจริง พ่อของเธอก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ ตอนแรกดูเหมือนคนปกติ แต่หลังๆ กลับมีบางอย่างที่น่าขนลุกเกี่ยวกับพ่อของเธอ และอื่นๆ อีกมากมาย อุตสาหกรรมภาพยนตร์สยองขวัญของอินโดนีเซียต้องการนักเขียนบทที่ดี หากต้องการแข่งขันกับภาพยนตร์สยองขวัญจากฮอลลีวูดและเกาหลีใต้
5