Hes All That (2021) ภารกิจปั้นหนุ่มในฝัน
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ “แพดเจตต์ ซอว์เยอร์” เธอเป็นคนดังในโลกออนไลน์ ที่พลาดหลุดเหวี่ยงใส่แฟนตอนถ่ายทอดสดหลังเจอแฟนนอกใจ ด้วยความนิยมที่ตกต่ำลง สปอนเซอร์ก็ถอนตัว เธอจึงหาทางกลับมาด้วยการรับคำท้าเพื่อนในแก๊งว่าให้ปั๊มหนุ่มหล่อขึ้นมาใหม่ให้เป็นราชางานพรอมพร้อมกับเธอให้ได้ โดยเลือกหนุ่มสุดเห่ยในโรงเรียนอย่าง “คาเมรอน เคลเลอร์” ให้มารับบทนี้โดยไม่รู้ตัวว่าเป็นของเดิมพันกัน แต่กลายเป็นว่าเขาเปล่งประกายมีเสน่ห์ขึ้นมาเกินคาด Hes All That จนทำให้เธอหวั่นไหวชอบเขาขึ้นมาจริง ๆ
ผู้กำกับ
- Mark Waters
บริษัท ค่ายหนัง
- Ethea Entertainment
นักแสดง
- Addison Rae
- Tanner Buchanan
- Madison Pettis
- Rachael Leigh Cook
- Matthew Lillard
- Peyton Meyer
- Isabella Crovetti
โปสเตอร์หนัง
รีวิว
ตอนแรกผมนึกว่าตัวเองจะเฉยๆ กับ He’s All That นะครับ เพราะตอนดูตัวอย่างก็ไม่ได้อยากดูอะไรมากมาย แต่ไปๆ มาๆ ผมกลับรู้สึกโอเคแฮะ ซึ่งก็แน่นอนว่าผมยังชอบ She’s All That มากกว่าอยู่ครับ แต่ถ้ามองในแง่หนังวัยรุ่นโรแมนติกเบาสมองสักเรื่องหนึ่งแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่เลวนะครับ ดูได้เพลินๆ ดี เนื้อเรื่องก็รีเมคมาจาก She’s All That นั่นแหละครับ โดยสลับคาแรคเตอร์กันระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย เรื่องนี้นางเอกของเราจะเป็นสาวป็อบนามว่าแพ็ดเจ็ท ซอว์เยอร์ (Addison Rae) ที่พนันกับเพื่อนสาวว่าจะแปลงโฉมชายเฉิ่ม (ในสายตาของพวกเธอ) อย่างคาเมรอน เควลเลอร์ (Tanner Buchanan) ให้กลายเป็นหนุ่มฮ็อตงานพรอมให้จงได้ ส่วนเนื้อเรื่องหลังจากนี้จะไปทางไหนเนี่ย ผมว่าท่านน่าจะเดากันได้น่ะนะครับ
จุดที่ผมชอบในหนังเรื่องนี้เริ่มจาก Buchanan พระเอกของเราที่เล่นได้ดีครับ เขาดูเป็นเด็กแนวนอกแถวแต่ขณะเดียวกันก็มีดีในตัว ดูแล้วเชื่อว่าสุดท้ายแล้วนางเอกจะต้องตกหลุมรักในตัวตนดีๆ ของเขา ฉากที่ถือว่าเข้าตามากสำหรับผมคือตอนที่เขามองนางเอกร้องเพลงแล้วเริ่มรู้สึกชอบเธอน่ะครับ ฉากนี้ Buchanan แสดงอารมณ์ทางสีหน้าได้ดีจริงๆ ในขณะที่ Rae ผมว่าตอนต้นๆ เรื่องเธอจะยังไม่ค่อยเด่นเท่าที่ควร Hes All That แต่เธอมาดูเด่นได้มากขึ้นก็เพราะการแสดงเวิร์กๆ ของ Buchanan นี่แหละครับที่ช่วยรับส่งเสริมอารมณ์ความน่ารักให้กับตัวละครคู่นี้ ยิ่งเข้าคู่กันมากเท่าไรก็ยิ่งเสริมให้พวกเขาดูเด่นมากขึ้นเท่านั้น (ฉากแววตาของเธอตอนเห็นโฉมใหม่ของคาเมรอนก็จัดว่าสื่ออารมณ์ได้ดีเหมือนกันครับ) และสิ่งที่ผมมองว่าช่วยหนังเรื่องนี้ไว้ได้เยอะมากคือการถ่ายภาพของ John Guleserian ครับ มุมกล้องของเขาดูเหมาะกับโทนหนังรักวัยรุ่นแบบนี้ และยังจับรายละเอียดสีหน้าของตัวละครได้ดีอีกด้วย ซึ่งเขาคนนี้คือเจ้าของผลงานกำกับภาพในหนังอย่าง About Time, Before We Go และ Love, Simon ครับ แต่ละเรื่องนี่ที่ได้อารมณ์พอเหมาะก็เพราะฝีมือของเขานี่แหละ
หนังเขียนบทโดย R. Lee Fleming Jr. ซึ่งเขาก็คือคนที่เขียนบทให้กับ She’s All That นั่นแหละครับ มาเรื่องนี้ก็ถือว่าเขาพยายามน่ะนะครับ พยายามเล่าเรื่องด้วยเค้าโครงของหนังต้นฉบับ แล้วก็พยายามใส่อะไรใหม่ๆ ลงมา เช่น ประเด็นเรื่องการสร้างภาพโปรไฟล์ในโซเขียลของแพ็ดเจ็ทให้ดูสวยดูดี หรือเรื่องเกี่ยวกับเพศทางเลือก ซึ่งแม้จะไม่ได้เด่นอะไรมาก แต่ก็ถือว่าเขาพยายามน่ะครับ ซึ่งอย่างน้อยรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับแพ็ดเจ็ทและคาเมรอน (เช่น ทัศนคติ, มุมคิด, วิธีมองโลก ฯลฯ) ก็ถือว่าเขียนมาได้น่าพอใจ ไม่เวิ่นเว้อน่ารำคาญเหมือนที่หนังรักหลายๆ เรื่องในยุคหลังๆ นี่ชอบเป็นกัน ส่วนคนกำกับก็คือ Mark Waters ครับ รายนี้ทำหนังมาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะ Freaky Friday, Mean Girls, Just Like Heaven, The Spiderwick Chronicles และ Vampire Academy ซึ่งกับเรื่องนี้ความลงตัวลงล็อคอาจไม่มากเท่าผลงานเรื่องเก่าๆ ก่อนหน้า แต่ก็ต้องถือว่าเขาคุมหนังได้โอเคอยู่ครับ ดูมีทิศทาง มีความพอเหมาะพอดี ดูจบแล้วให้ความรู้สึกแฮ้ปปี้ติดหัวกลับไป
ผมเชื่อว่าคงมีคนที่ไม่โอกับหนังเรื่องนี้ครับ โดยเฉพาะคนที่รักหนังต้นฉบับ ในขณะที่ผมนั้นก็รัก She’s All That เหมือนกันครับ แต่ก็รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้ย่ำแย่เลวร้ายอะไร มันก็ดูได้เพลินๆ ดูได้เรื่อยๆ เป็นหนังรักวัยรุ่นสูตรสำเร็จที่น่ารักดี อ้อ อีกอย่างคือได้เจอดาราหน้าเก่าจากหนังต้นฉบับด้วยครับ Rachael Leigh Cook มาเป็นคุณแม่ของแพ็ดเจ็ท และ Matthew Lillard มาเป็นครูใหญ่บอช ซึ่งรายหลังนี่จัดว่าเด่นเอาเรื่องเลยล่ะ ในขณะที่รายแรกก็ถือว่ากลางๆ ครับ ยังไม่เด่นมาก แต่ก็มาพร้อมบทพูดดีๆ อย่าง “คนเราผิดพลาดกันได้ ขอเพียงอย่าพลาดซ้ำสองโดยการไม่เรียนรู้จากมัน” โดยรวมแล้วผมว่าโอเคนะครับ ดูได้เพลินๆ เนื้อหาเบาๆ แล้วหนังก็ยังพอมีสาระ ไม่ได้เลอะเทอะเข้ารกเข้าพง
ถือเป็นการรีเมคจากหนังวัยรุ่นคลาสสิคปี 90’s อย่าง Hes All That ที่เป็นหนังต้นทุนต่ำแต่กระแสตอบรับกลับดีเกินคาด สร้างดาราหน้าใหม่หลายคนไม่ว่าจะเป็น เฟรดดี พรินซ์ จูเนียร์, เรเชล ลี คุ๊ก , พอล วอล์คเกอร์ แถมยังสร้างภาพจำไว้มากมายพร้อมเพลง Kiss Me ของวง Sixpence None The Richer ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ก็มาพร้อมผู้เขียนบทคนเดิม R. Lee Fleming Jr. แต่เปลี่ยนผู้กำกับเป็น Mark Waters จาก Mean Girls (ปี 2004)
พล็อตหลักของหนังก็ต้องยอมรับว่ายังเชยอยู่เช่นเดิม แต่ในฉบับใหม่มีการนำความคลาสสิคมาจากหนังต้นฉบับมาดัดแปลงให้ดูสดใหม่ทันสมัยขึ้น ซึ่งไอเดียการกลับด้านตัวเอกทั้งคู่ก็ถือว่าค่อนข้างใช้ได้ ทำให้เห็นว่าพอมีอะไรที่จะสดใหม่ได้ ซึ่งตัวหนังในช่วงแรกจนถึงกลางเรื่องไปถือว่าเพลิน ชวนอมยิ้มไปกับการกลับคาแรกเตอร์ตัวละคร เคมีที่ตรงกันถือว่าเข้ากันได้ดีเพราะคู่เดิมอย่าง เฟรดดี พรินซ์ จูเนียร์ กับ เรเชล ลีห์ คุ๊ก ก็มีเคมีเข้ากันมากจริง ๆ ซึ่งตัวเรเชลเองก็กลับมารับบทแม่ของนางเอกในเรื่องนี้ด้วย
แต่ในส่วนตัวเรื่องก็ดำเนินตามสูตรเดิม มีแอบหยอดเพิ่มประเด็นเข้ามานิดหน่อย ที่ในเวอร์ชั่นเก่าไม่ได้มี ทำให้ดูทันสมัยขึ้น แต่ตัวเรื่องกลับไม่ได้นำเอาประเด็นเหล่านี้ไปใช้จริงจัง แถมยังรวบรัดทุกอย่างให้ผ่านไปอย่างง่ายดาย จนทำให้คนดูรู้สึกได้เลยว่าหลังจากการแปลงโฉมพระเอก ตัวบทก็พยายามรวบรัดเรื่องอย่างเห็นได้ชัด ต่างกับเวอร์ชั่นก่อนที่ค่อนข้างทำได้ดีกว่าในจุดนี้ อีกจุดที่ยังทำได้ไม่ดีคือตัวละครร้ายในเรื่อง ที่แบนราบไร้มิติตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีความรู้สึกในตัวละครแถมยังทำออกมาให้โง่อีก นอกจากนี้เสน่ห์เพลงจากหนังต้นฉบับอย่าง KIss Me ที่น่าจะใส่มาส่งเสริมเรื่องได้แบบเวอร์ชั่นก่อน กลับถูกนำมาใช้ไม่ถูกจังหวะของเรื่องเอาซะเลย
งานสร้าง
งานโปรดักชั่น การถ่ายภาพโดยรวมทำได้ดีตามมาตรฐาน ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากมายนัก ส่วนเพลงประกอบก็มีการนำเพลงเพลง Kiss Me มากร้องใหม่ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างเพราะเลย แต่อย่างที่บอกไปข้างต้นว่านำมาใส่ได้ผิดจังหวะเอามาก ๆ ทำให้เสียเสนห์ไปเลย
ตัวละคร
– แพดเจตต์ ซอว์ (รับบทโดย แอดดิสัน เร) Hes All That
สาวคนดังในโลกออนไลน์ ที่พลาดหลุดเหวี่ยงใส่แฟนตอนถ่ายทอดสดหลังเจอแฟนนอกใจ ด้วยความนิยมที่ตกต่ำลง สปอนเซอร์ก็ถอนตัว เธอจึงหาทางกลับมาด้วยการรับคำท้าเพื่อนในแก๊งว่าให้ปั้นหนุ่มหล่อขึ้นมาใหม่ให้เป็นราชางานพรอมพร้อมกับเธอให้ได้ ซึ่งแอดดิสัน ดาราศิลปินนักร้อง ก็ได้มาแสดงหนังเป็นครั้งแรกในเรื่องนี้ก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างพอได้ตามบท แต่หลายจุดยังรู้สึกแปลก ๆ อยู่บ้าง
– คาเมรอน เคลเลอร์ (รับบทโดย แทนเนอร์ บูแคนัน)
หนุ่มสุดเห่ยในโรงเรียนผู้ที่เป็นสิ่งเดมพันของแพดเจตต์ ในการที่จะปั้นให้เขากลายมาเป็นหนุ่มหล่อจากหนุ่มเห่ยธรรมดาในโรงเรียน แต่กลายเป็นว่าเมื่อเขาได้แปลงโฉม กลับเปล่งประกายและมีเสน่ห์ขึ้นมาเกินคาด จนทำให้แพดเจตต์ รู้สึกหวั่นไหวและชอบเขาขึ้นมาจริง ๆ ซึ่งแทนเนอร์ นายแบบนักแสดงก็ถือว่ารับบทได้ค่อนข้างดี ตอนที่เป็นหนุ่มธรรมดา ๆ ก็แสดงถึงความเก็บตัวได้ดีเลย และพอมาเป็นหนุ่มฮอต รูปร่างของเขาเองก็ดูดีไม่น้อย เพียงแต่ว่าการแสดงบางจุดยังแทำได้ไม่มีเท่าที่ควร
สรุปแล้ว
Hes All That หนังรักวัยรุ่นที่หยิบเอาหนังคลาสสิคยุค 90’s อย่าง She’s All That มารีเมคใหม่ ซึ่งถือว่าทำได้ดีแค่ช่วงแรกด้วยเคมีพระเอกนางเอกดูมีเสน่ห์เข้ากันได้ มีความพยายามใส่ประเด็นใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มหลายอย่าง แต่กลายเป็นไม่จริงจังเลยสักอย่าง ในส่วนบทเรียกได้ว่าอ่อนมาก ๆ รวบรัดจบทุกอย่างจนดูปลอมไปหมด ตัวละครร้ายไร้มิติจนดูโง่ไปหน่อย แถมยังพยายามนำเอาเพลง Kiss Me ที่โด่งดังในฉบับก่อนมาใช้ใหม่ กลับใส่ไม่ถูกจังหวะจนกลายเป็นไร้มนต์เสน่ห์ไป หากคุณเป็นแฟนของฉบับก่อนก็อาจจะชอบ หรือไม่ก็เกลียดไปเลย คะแนน 3 / 10
ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
thunderbirds (2004) วิหคสายฟ้า
Metamorphosis (2022) อสูรยักษ์กลายพันธุ์
Bade Miyan Chote Miyan (2024) สองกล้าบ้าระห่ำ
