Hellraiser Deader (2005) เจาะประตูเปิดผี
เรื่องย่อ
ความตายที่สร้างความสยองขวัญขึ้นเรื่อยๆ จากมุมมองของ Clive Barker เกี่ยวกับพลเมืองในนรกขึ้นมาเดินเผ่นพ่านบนโลกมนุษย์ โดยเริ่มแรกถูกคิดขึ้นมาในฐานะภาพยนตร์สยองขวัญอิสระ ภายหลัง Neal Stevens ผู้เขียนบทซึ่งประยุกต์ Hellraiser Deader เป็นหนังเทพนิยาย เนื้อเรื่องดำเนินจากที่ Amy Klein นักข่าวผู้ดื้อรั้นได้เริ่มทำการสืบสวนเรื่องราวของลัทธิประหลาด ซึ่งกลุ่มนี้จะทำให้ผู้เข้าร่วมเชื่อในการฟื้นคืนชีพ โดยการฆ่าตัวตาย Amy ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการเข้าร่วมในลัทธินี้ เธอจะเจอกับสิ่งใดที่ทำให้เธอช็อค ซึ่งเป็นแก่นของเรื่อง
ผู้กำกับ
- Rick Bota
บริษัท ค่ายหนัง
- Dimension Films
นักแสดง
- Kari Wuhrer
- Ionut Chermenski
- Hugh Jorgin
- Linda Marlowe
- Simon Kunz
- Madalina Constantin
โปสเตอร์หนัง
รีวิว
ผมนั้นเป็นคนชอบดูหนังสยองนะ Hellraiser Deader ยิ่งพวกหนังสยองที่สร้างตอนต่อออกมามากๆ ผมจะชอบและจะตามดูต่อให้ใครบ่นก่นด่ามากแค่ไหน ผมก็ไม่ละความพยายามในการดูครับ เพราะอยากรู้ว่าจะมีอะไรมาเสนอเราอีก หรือจะเละขึ้นอีกแค่ไหน ผมก็ดูด้วยความสนุกตลอดครับทั้ง Friday the 13th, หรือพี่เฟรดดี้ หรือฮัลโลวีน ตามดูหมดครับด้วยความ Happy แต่เห็นจะมีแต่หนังชุด Hellraiser นี่แหละที่ผมตามดูด้วยความ Sadly สาเหตุสำคัญก็เพราะหนังเรื่องอื่นๆ แม้จะสร้างออกมามากภาค ออกมาเลอะแค่ไหน แต่อย่างน้อยที่สุดมันยังคงเป็นหนังชุดนั้นครับ โครงเรื่อง ลีลา ธีมหลักมันยังเป็นเรื่องนั้นๆ ไม่เปลี่ยน
แต่เรื่อง Hell นี่มัน What’s A Hell อ้ะครับ มันไม่ใช่ Hell อย่างต้นแรกต้นเริ่มอีกต่อไปแล้ว ตั้งแต่ภาค 3 ลงมานี่หลุดไปแล้วครับ โดยส่วนตัวผมยกให้หนัง Hell จบบริบูรณ์ไปแล้วในภาค 3 นะ ภาค 4 ถือว่าตอนพิเศษ แต่ไม่ใช่ Hell เท่าไหร่ จนมาภาค 5 ลงมาหนังก็กลายเป็นอะไรที่ไม่ใช่ Hell แล้วครับ สาเหตุสำคัญน่าจะมาจากความดันทุรังของผู้สร้างน่ะแหละ จริงๆ โครงเรื่องของหนังจบชุดไปแล้วตั้งแต่ภาค 4 แต่ภาค 5 นี่เป็นการเปิดแนวใหม่ ธีมใหม่ ซึ่งแม้มันจะเกี่ยวกับ “นรก” อยู่ แต่มันไม่ใช่ Hell นี่หว่า – แม้ภาค 5 ผมจะโอเคในระดับหนึ่งก็ตาม แต่ก็ต้องว่าตามจริงว่ามันไม่ใช่ Hell แบบดั้งเดิม และพี่พินเฮดก็เปลี่ยนไปกลายเป็นปีศาจชี้ทางธรรม
จริงครับ ยอมรับว่าเปิดกล่องแล้ว พี่พินเฮดจะออกมาพร้อมนรก แต่ของจริงของแท้น่ะ Hellraiser Deader มันต้องออกมาพร้อมนรก และโซ่ และตะขอเกี่ยวเนื้อ นั่นแหละของจริง แต่มาภาคหลังๆ คำว่า “นรก” ถูกตีความไปว่าเป็น “นรกทางจิตใจ” คือเปิดมาแทนที่จะเจอพี่พินเฮดแกฉีกเนื้อฉีกตัว ดันกลายเป็นว่าต้องโดนหลอกหลอนอยู่ในโลกแห่งความฝัน เจอเรื่องแปลกๆ ทำลายสภาพจิตอะไรแบบนั้นมากกว่า
ไม่เถียงว่ามันคือ “นรก” อีกแบบ แต่มันไม่ใช่นรกแบบ Hell นี่หน่าครับ ดังนั้นพี่แกควรจะแยกไปทำเป็นเรื่องแยกสร้างอสูรตัวใหม่ขึ้นมาเลยจะดีกว่า แต่มาคิดอีกที ค่าย Dimension คงเห็นว่าถ้าเอาพี่พินเฮดและชื่อ Hell มาเป็นตัวนำ ก็คงดึงลูกค้าได้ดีกว่า ก็เลยเอาซะอย่างงั้นง่ายๆ – หรือไม่ก็สร้างเพื่อไม่ให้ลิขสิทธิ์หลุดอะไรทำนองนั้น แล้วก็ตามเคยครับ Hell ภาคนี้ถูกสร้างขึ้นจากบทหนังของ Neal Marshall Stevens ที่ไม่ได้ถูกเขียนขึ้นมาให้เป็นหนัง Hellraiser แต่เป็นหนังสยองเรื่องอื่น ทว่าผู้สร้างเห็นว่าการเอาบทหนังสยองเรื่องอื่นมาเขียนพินเฮดแทรกลงไป มันเซฟต้นทุนกว่าจะให้เขียนบทหนังใหม่ทั้งเรื่อง ก็เลยใช้วิธีตัดยอดต่อกิ่งแบบง่ายๆ เอาบทหนังสยองสักเรื่องมา แล้วก็ให้ Tim Day ที่เคยทำหน้านี้มาแล้วในหนังภาคก่อน ให้มาตัดต่อบท รีไรท์ใหม่ให้กลายเป็นหนัง Hell
ว่ากันว่า Day ต้องเขียนบทในองก์สุดท้ายขึ้นมาใหม่เพื่อปรับมันให้กลายเป็น Hellraiser (ใจเริ่มอยากรู้เหมือนกันนะครับ ว่าบทดั้งเดิมของหนังเรื่องนี้เนี่ย ถ้าทำเป็นหนังแล้วมันจะเป็นอย่างไร) เอาเถอะครับ เราก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะทางผู้สร้างมันตัดสินใจไปแล้วนี่หน่า ก็ได้แต่ตามดูต่อไป เพราะแม้ในใจจะไม่ชอบนักที่เขาเล่นแบบนี้ แต่ในฐานะคนบ้าหนังก็ต้องขอดูล่ะครับ ถ้าดีก็ว่าไปตามดี ถ้าไม่ก็ว่ากันไป
ฉันเป็นแฟนตัวยงของหนังเรื่อง Hellraiser และจักรวาลของ Hellraiser แต่หนังเรื่องอื่นๆ กลับแย่ลงเรื่อยๆ สำหรับฉันแล้ว มีหนังเรื่อง Hellraiser “จริงๆ” เพียง 3 เรื่องเท่านั้น และนั่นคือ 3 เรื่องแรก เรื่องที่ 4 มีทั้งขึ้นและลง แต่โดยรวมแล้ว ฉันคิดว่าบทสนทนาที่ยอดเยี่ยมของ Pinhead ชดเชยส่วนที่แย่ลงได้ เรื่องที่ 5 พาทุกอย่างไปในทิศทางที่แตกต่างออกไป ซึ่งเป็นทิศทางที่ฉันไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ถึงกระนั้น ก็เป็นหนังที่น่าสนใจ มีการแสดงที่ค่อนข้างดีและภาพก็ทำได้ยอดเยี่ยมมาก จากนั้นก็มี Rick Bota เข้ามา… และในขณะที่ฉันคิดว่ามันแย่ไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เขาก็ทำลายแฟรนไชส์ Hellraiser ลงได้ ภาพยนตร์ของเขาพังทลาย ตัวละครหลักทั้งใน Hellseeker และ Deader
ต้องเผชิญกับเรื่องเลวร้ายมากมาย Hellraiser Deader และในขณะที่มันกำลังจะสนุกขึ้น พวกเขาก็ “ตื่น” ขึ้นมาและพบว่าพวกเขาแค่ฝันหรือเห็นภาพหลอน ฉันเกลียดมัน มันยุ่งวุ่นวายและสับสน! นอกจากนี้ บทบาทของ Pinhead ในภาพยนตร์เหล่านี้ยังไม่ชัดเจนนัก ซึ่งน่าเศร้าที่ขาดหายไป เขาปรากฏตัวเพียงไม่กี่นาทีในภาพยนตร์ที่น่าเบื่อทั้งสองเรื่องของ Bota และยังมีมุกตลกดีๆ อีกด้วย ผู้ชายคนนี้ของ Bota กำลังทำลายสิ่งที่แฟนๆ ตัวจริงชื่นชอบเกี่ยวกับภาพยนตร์เหล่านี้ ฉันหวังว่านี่จะเป็นตอนจบ ไม่จำเป็นต้องทำให้มันยาวนานด้วยการตายอย่างเจ็บปวด Hellraiser สมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้…
ภาคล่าสุดของซีรีส์ Hellraiser ถือเป็นภาคที่แย่ที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย แฟนๆ ดูเหมือนจะรู้สึกขัดแย้งกันเกี่ยวกับแนวทางที่ภาคต่อแบบวิดีโอดำเนินไป บางคนไม่พอใจที่ Pinhead ไม่ใช่ตัวละครหลักอีกต่อไป บางคนก็ไม่สนใจ ฉันชอบ Hellraiser II ที่มี Pinhead เป็นตัวเอก และฉันยังชอบ Inferno ที่เขาแทบไม่มีบทบาทใดๆ เลย ดังนั้น ฉันจึงไม่ลำเอียง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ฉันจะไม่วิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องนี้เพียงเพราะ Doug Bradley มีบทบาทน้อยมาก ฉันจะวิจารณ์เพราะมันเป็นงานห่วยๆ ที่ไม่สอดคล้องกัน บทภาพยนตร์เรื่องนี้มีอยู่แล้ว (ใช้ชื่อว่า Deader) และทีมงานที่ดีที่ Dimension ตัดสินใจว่าพวกเขาสามารถเปลี่ยนมันให้เป็นภาพยนตร์ Hellraiser ที่ยอดเยี่ยมได้ แต่มันไม่เวิร์ก Cenobites ของ Clive Barker ไม่เหมาะกับเรื่องนี้เลย มันง่ายๆ แค่นั้นเอง และชื่อเรื่องก็คือ Deader พูดได้เลยว่าภาษาอังกฤษห่วยมาก คาดว่าภาคต่อของ Hellraiser อีกเรื่อง (กำกับโดย Rick Bota อีกครั้ง) จะออกฉายในเดือนกันยายน
ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Subservience (2024) เอไอร้อนรัก
Boy Kills World (2024) แค้นนี้ที่รอคิวล์
6.9