Gunpowder Milkshake (2021) นรกเรียกแม่
เรื่องย่อ
ในชีวิตที่วุ่นวายของเธอในฐานะนักฆ่ามืออาชีพ สการ์เล็ตถูกบังคับให้ทิ้งแซมลูกสาวของเธอและหนีไป หลายปีต่อมา แม้จะเหินห่าง แซมก็เติบโตขึ้นมาเป็นนักฆ่าเลือดเย็น หลังจากภารกิจเดิมพันสูงพลิกผันจนควบคุมไม่ได้ ให้เด็กสาววัย 8 ขวบ Gunpowder Milkshake ไร้เดียงสาอยู่ท่ามกลางสงครามแก๊งที่เธอได้ปลดปล่อย แซมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกนอกลู่นอกทาง ในที่สุดสิ่งนี้นำเธอกลับไปหาแม่ของเธอและอดีตคู่หูนักฆ่า ที่เข้าร่วมกองกำลังในสงครามล้างแค้นกับผู้ที่แย่งชิงทุกสิ่งไปจากพวกเขา
ผู้กำกับ
- Navot Papushado
บริษัท ค่ายหนัง
- StudioCanal
- The Picture Company
นักแสดง
- Karen Gillan
- Freya Allan
- Lena Headey
- Chloe Coleman
- Paul Giamatti
- Ralph Ineson
- Adam Nagaitis
โปสเตอร์หนัง
รีวิว
ตอนดู Gunpowder Milkshake ผมว่าน่าดูทีเดียวครับ ครั้นพอได้ดูจริงๆ ก็รู้สึกกลางๆ ค่อนไปทางนิ่งแบบพลิกความคาดหมายอยู่เหมือนกัน ส่วนที่ผมว่าเด่นมากคือฉากครับ อันนี้ยกนิ้วให้เลย ออกแบบมาแต่ละฉากดีมากๆ มีทั้งความสวย มีจุดเด่นสะดุดตา ให้อารมณ์คอมมิค บางฉากเล่นกับสีสัน บางฉากเล่นกับรูปทรง บางฉากก็เล่นมันทุกอย่าง ยอมรับเลยว่าผมสนุกกับการดูฉากต่างๆ มากครับ จนไปๆ มาๆ ผมก็ตื่นเต้น – ไม่ได้ตื่นเต้นกับเนื้อเรื่องนะครับ แต่ตื่นเต้นแอบลุ้นว่าฉากต่อไปจะมาทรงไหน จะเตะตามาน้อยแค่ไหน
จุดนี้ขอชมไล่มาตั้งแต่ผู้กำกับภาพ Michael Seresin (Harry Potter and the Prisoner of Azkaban, Dawn of the Planet of the Apes และ War for the Planet of the Apes) ตามด้วยโปรดักชั่นดีไซเนอร์ David Scheunemann (Atomic Blonde และ Deadpool 2) รวมถึงทีมกำกับศิลป์ครับ ขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้ผมเพลินกับฉากเจ๋งๆ ในขณะที่เนื้อเรื่องนี่ไม่มีอะไรมากครับ มือสังหารระดับพระกาฬนามว่าแซม (Karen Gillan) ที่รับงานสังหารคนๆ หนึ่ง แต่กลายเป็นว่าเธอต้องมาคอยพิทักษ์ชีวิตลูกสาวของเป้าหมายในเวลาต่อมา เนื้อเรื่องก็ประมาณนี้น่ะครับ
สารภาพว่ารู้สึกนิ่งมากกับตัวหนังครับ พล็อตไม่ซับซ้อนอันนี้ไม่ว่า แต่ความมันส์ก็ไม่มากด้วยเช่นกัน ฉากแอ็กชันกว่าจะมาแต่ละทีนี่ทิ้งช่วงค่อนข้างนาน และฉากแอ็กชันก็ค่อนข้างเรื่อยๆ ครับ สะใจบ้าง เฉยๆ บ้าง แต่อย่างที่บอกว่าบู๊กันไม่เยอะเท่าไร และเนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไร แต่หนังใช้เวลาในการเล่าเกือบ 2 ชั่วโมง เลยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกนิ่งเนิ่บ แอบเงกไปหลายช่วงเหมือนกันครับ อันนี้ยอมรับเลย แม้จะมีฉากหลังน่าสนใจมาให้ดูก็ตาม แต่หนังไม่เร้าใจ ความน่าติดตามไม่เยอะ กราฟอารมณ์นิ่งมาก กลายเป็นรู้สึกเฉยแบบเกินคาดจริงๆ
ด้านดารานั้นเลือกระดับมืออาชีพมาแสดงทั้งนั้นครับ ไม่ว่าจะ Gillan, Lena Headey, Carla Gugino, Michelle Yeoh, Angela Bassett และ Paul Giamatti ฝีมือน่ะไว้ใจได้ แต่บทมันไม่ค่อยมีอะไรให้พวกเขาสำแดงครับ อันนี้ก็เสียดายอยู่เหมือนกัน ก็คงไม่ว่าอะไรมากครับ อย่างที่บอกว่านิ่งจริงๆ ที่ชอบก็คือเรื่องฉากนี่แหละครับ สองดาวเรียบๆ ครับ
Gunpowder Milkshake ประกอบไปด้วยสองส่วนผสม: แอ็คชั่นสุดมันส์และความเท่ที่คำนวณมาอย่างดี ปัญหาคือ Navot Papushado ผู้เขียนบทและผู้กำกับให้เราแค่สกู๊ปเดียวเท่านั้น และไม่ได้ผสมผสานเข้ากันดีนัก แอ็คชั่นสุดบ้าระห่ำสองสกู๊ป (จริงๆ แล้วเป็นสามสกู๊ปพูนๆ) ตีให้เข้ากันดีกับสกู๊ปที่สร้างสรรค์หลายสกู๊ป ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าอร่อยกว่านี้มาก Papushado หยิบยืมสไตล์หนังแอ็คชั่นเก่าๆ และใหม่มาใช้: เซนส์แฟชั่นของนักฆ่า Sam คือ Meiko Kaji ในสมัย Female Prisoner Scorpion (สวมหมวกปีกกว้างเอียงและสวมเสื้อคลุมสีดำยาว) ฉากแอ็คชั่นได้รับแรงบันดาลใจจากดาราอย่าง Tarantino และ Woo เพลงประกอบเป็นสปาเกตตี้เวสเทิร์นล้วนๆ
และแสงนีออนก็เหมือนกับ John Wick (เช่นเดียวกับเรื่องราว) น่าเสียดายที่ Papushado ไม่สามารถสร้างรอยประทับของตัวเองในภาพยนตร์ได้ โดยชอบที่จะเลียนแบบคนอื่น นำเสนอภาพเลียนแบบที่ไม่น่าพอใจแทนที่จะเป็นสิ่งใหม่และกล้าหาญเพื่อกระตุ้นต่อมรับรสของภาพยนตร์อย่างแท้จริง เพื่อให้ยุติธรรม ฉากสองสามฉากเต็มไปด้วยศักยภาพ แต่การออกแบบท่าเต้นและการดำเนินการทำให้พวกเขาผิดหวัง: Sam (Karen Gillan) ต้องจัดการกับคนร้ายหลายคนแม้ว่าแขนของเธอจะเป็นอัมพาตเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม
แต่ศัตรูของเธอเป็นการ์ตูนเกินไปและทำให้เสียอรรถรส Emily วัยแปดขวบ (Chloe Coleman) บังคับรถ Porsche ของ Sam ในฉากไล่ล่าขาดความตื่นเต้นจนนั่งไม่ติดที่ ห้องสมุดเป็นฉากที่ยอดเยี่ยมสำหรับการยิงปืน แต่การยิงปืนจริงนั้นน่าผิดหวัง (Carla Gugino ยิงปืนกลสั้นเกินไปและสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย) และฉากต่อสู้แบบนัดเดียว การติดตามเชิงเส้น สโลว์โมชั่นในร้านอาหารนั้นน่าประทับใจในด้านเทคนิคแต่ค่อนข้างน่าเบื่อที่จะดู (มีเลือด CGI มากเกินไป)
อย่าเข้าใจฉันผิด – ในฐานะหนังแอ็กชั่นที่ไม่ต้องใช้สมองมากนัก เรื่องนี้ก็ถือว่าสนุกพอที่จะดูได้แค่ครั้งเดียว – และฉันก็มีเวลาให้กับ Gillan เสมอ (แม้ว่าเธอจะไม่เหมาะกับบทบาทของนักฆ่าที่โหดเหี้ยมเท่าไรก็ตาม) แต่ฉันรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ยังไม่สามารถเป็นหนังที่อร่อย เข้มข้น ครีมมี่ และเต็มอิ่มอย่างที่ควรจะเป็น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากนักแสดงที่ยอดเยี่ยม ซึ่งยังรวมถึง Angela Bassett, Lena Headey, Paul Giamatti และตำนานกังฟู Michelle Yeoh อีกด้วย)
Gunpowder Milkshake ไม่ใช่หนังสำหรับคนชอบคิด ไม่ใช่หนังที่จะทำให้คุณออกจากโรงหนังแล้วนึกถึงสิ่งที่คุณเพิ่งเห็น เรื่องราวไม่ได้สร้างสรรค์หรือมีผลกระทบ ตัวละครไม่ได้น่าสนใจเป็นพิเศษ และบทสนทนาก็ธรรมดา หรือพูดอีกอย่างก็คือ บทไม่ได้โดดเด่นเลย… อย่างไรก็ตาม หากคุณรู้วิธีจัดการความคาดหวังของคุณ คุณจะสนุกสุดๆ เพราะหนังเรื่องนี้มอบทุกสิ่งที่เราต้องการจากหนังแอ็กชั่นระทึกขวัญ หนังเรื่องนี้มีสไตล์ สวยงาม เต็มไปด้วยแอ็กชั่น รุนแรง และสนุกสุดๆ ผู้กำกับ Navot Papushado และผู้กำกับภาพ Michael Seresin แปลงบทหนังธรรมดาๆ ให้กลายเป็นหนังที่เต็มไปด้วยแสงนีออน Gunpowder Milkshake โดยใช้แสง ดนตรี การออกแบบฉาก การแต่งหน้า
และการปรับสีอย่างชาญฉลาด สร้างบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบสำหรับหนังแนววีดิโอเกมเช่นนี้ ฉากต่างๆ เช่น โบว์ลิ่งและห้องสมุดก็ชวนติดตามเช่นกัน ทำให้เกิดฉากแอ็กชั่นที่สนุกสนาน ออกแบบมาอย่างเชี่ยวชาญ รุนแรงเกินเหตุ และสร้างสรรค์… ซึ่งน่าเสียดายที่ฉากเหล่านี้แย่ลงเรื่อยๆ เมื่อหนังดำเนินไป แต่ถึงกระนั้นก็ยังสนุกอยู่ดี สรุปแล้ว Gunpowder Milkshake ไม่ใช่เรื่องที่ควรดูจริงจัง เพราะเป็นหนังที่สนุก เรียบง่าย รุนแรง ชวนติดตาม และคุณจะต้องอยากดูอีกแน่นอน การกระทำที่เกินจริงของหนังจะส่งผลต่อผู้ชมที่จริงจังกว่าอย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณดูภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างจริงจังเท่ากับที่ภาพยนตร์ทำ คุณจะมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในโรงภาพยนตร์
ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Bougainvillea (2024) เฟื่องฟ้า
House of the Dead (2003) ศพสู้คน
6.4