ดูหนังออนไลน์ใหม่ 2024 หนังเต็มเรื่อง ดูหนังใหม่ ดูหนังฟรี HD Netflix
VegusCasino
บาคาร่า ออนไลน์
สล็อตเว็บตรง

ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio (2022) พิน็อกคิโอ หุ่นน้อยผจญภัย โดยกีเยร์โม เดล โตโร

ให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้

Trailer

ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio  (2022) พิน็อกคิโอ หุ่นน้อยผจญภัย โดยกีเยร์โม เดล โตโร

ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio   (2022) พิน็อกคิโอ หุ่นน้อยผจญภัย โดยกีเยร์โม เดล โตโร

ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio กีเยร์โม เดล โตโร ผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์ และมาร์ก กุสตาฟสัน ตำนานแห่งวงการสต็อปโมชันที่มีรางวัลการันตี จะนำนิทานหุ่นเชิดไม้สุดคลาสสิกของคาร์โล คอลโลดีมาสร้างใหม่ พร้อมเนรมิตความมหัศจรรย์สู่การผจญภัยอันน่าทึ่งของพิน็อกคิโอที่เหนือจินตนาการและเผยให้เห็นพลังแห่งความรักที่หล่อเลี้ยงชีวิต

เกิดขึ้นครั้งแรกจากวรรณกรรมเรื่อง Adventures of Pinocchio (1883) ของผู้แต่งชาวอิตาลี Carlo Collodi เนื้อหาเล่าถึง “เจปเปตโต (David Bradley)” ช่างไม้ที่สูญเสียลูกชาย เขาตัดสินใจสร้างหุ่นไม้ขึ้นมา และเรื่องมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เมื่อหุ่นไม้ตัวนั้นมีชีวิตขึ้นมา เขาตั้งชื่อหุ่นไม้ตัวนั้นว่า

“พิน็อกคิโอ (Gregory Mann)”ความรู้สึกแรกหลังดูจบ คือ สัมผัสได้ว่ามีโอกาสเข้าชิงออสการ์สาขาแอนิเมชั่นพอสมควร เชื่อว่าตัวพล็อตหลัก เป็นอะไรที่ทุกคนพอจะรู้อยู่แล้ว ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio แต่ในส่วนบทภาพยนตร์และการตีความ แอนิเมชั่นในเวอร์ชั่นนี้ ทำได้น่าประทับใจทีเดียว

ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio

– จุดที่ดีที่สุด ขอยกให้เป็นเรื่อง “แก่นภาพยนตร์อันแข็งแรง” สเกลเนื้อหา ความหนักในพาร์ทดราม่า สารที่หนังสื่อออกมา อยู่ในระดับเดียวกับภาพยนตร์ดราม่าคนแสดง ถือว่า บทหนังมีโครงสร้างที่แข็งแรง ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้เยี่ยม

โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง ความเจ็บปวดและแรงผลักดันในการสร้างหุ่นไม้ของเจปเปตโต ความเดียวดายและการผจญภัยของพิน็อกคิโอเพื่อหาหนทางสู่การเป็นเด็กชายที่เป็นที่ยอมรับของทุกคน จิตวิญญาณบริสุทธิ์ที่ต้องได้รับการทดสอบ การตามหาความหมายและคุณค่าของชีวิตผ่านการเวียนเกิด และสายใยความผูกพันระหว่างพ่อกับลูก…

ประเด็นเหล่านี้ หนังทำได้ลึกซึ้งและสะเทือนใจในหลาย ๆ ฉาก อย่างซีนที่มีเพลง Ciao Papa กับซีนท้ายเรื่อง ทำเอาน้ำตาซึมได้เลย (เป็นหนังวันพ่อได้สบายและจะว่าไปการเล่าถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างพ่อกับลูก ยังสอดคล้องกับวัฒนธรรมอิตาเลียน (ตามท้องเรื่องหนัง) อีกด้วยที่เน้นการให้ความสำคัญกับครอบครัว ในหนังมีการตีความ โดยเพิ่มแบ็คกราวน์เรื่องให้อยู่ในอิตาลียุคฟาสต์ซิส ตรงนี้หนังอุปมา – อุปมัยได้น่าสนใจ

ตัวเรื่องเปรียบเปรยการเชิดหุ่นในหลายแง่มุม เช่น Count Volpe เจ้าของงาน Carnival หาทางเชิดหุ่นไม้อย่างพิน็อกคิโอ เพื่อกอบโกยเงิน ขณะที่ผู้นำฟาสซิสต์อย่าง ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio มุสโสลินี ก็เชิดมนุษย์ เพื่อคุมคนให้ไปทำสงคราม ผ่านตัวละคร Podestà ที่คอยคุมความประพฤติของทุกคนในเมืองเรียกว่า ฉลาดในการพ่วงประเด็นต่อต้านสงคราม… ไม่รู้ว่า ตัวผู้กำกับพยายามส่งนัยยะถึงประเด็นสงครามรัสเซีย – ยูเครนด้วยอยู่หรือเปล่า

นอกเหนือจากนั้น ที่สังเกตเห็น ก็เป็นการใช้ Symbol ต่าง ๆ เพื่อให้ภาษาภาพยนตร์สวยขึ้น เช่น ลูกสน ไม้กางเขน ซึ่งนัยยะที่ใส่เข้ามาก็ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สวยงามขึ้นจริง ๆ
การสร้างคาแรคเตอร์ของตัวละคร แต่ละตัวดูสมจริงและน่าจดจำ เช่น พิน็อกคิโอ ที่น่ารักไร้เดียงสา แต่ก็ดื้อรั้นในเวลาเดียวกัน, เจปเปตโต พ่อที่ปล่อยวางความสูญเสียไม่ได้ และคาดหวังให้พิน็อกคิโอ เป็นเด็กที่น่ารักอย่างที่ตัวเองวาดฝันไว้

ตัวละครอื่น ๆ เช่น จิ้งหรีด ที่มีบทบาทสอนพิน็อกคิโอให้เป็นเด็กดี, Count Volpe เจ้าของคณะและ Spazzatura ลิงประจำคณะ, Podesta และลูกชาย… ตัวละครแต่ละตัวมีบทบาทกับเรื่อง ต้องชมว่า เกลี่ยบทตัวละครได้ดี

– งาน Stop Motion จัดว่า สวยงามประณีต ดูเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยส่งหนังให้ไปถึงออสการ์ อย่างน้อยงานแอนิเมชั่นที่ออกมาก็ทำให้ทุกคนสัมผัสได้ถึงความคราฟต์ มีกรรมวิธีการสร้างที่แปลก ละเมียดละไม ให้ความรู้สึกเป็นงานศิลปะกว่าแอนิเมชั่นเรื่องอื่น ๆ อีกส่วนที่น่าชม ก็เรื่องการจัดแสงในเรื่อง ทำได้ละมุน พิถีพิถัน น่าประทับใจ

– ลายเซ็นภาพยนตร์ ยังคงมีกลิ่นอายแบบ “กีเยร์โม เดล โทโร” เช่น โทนเรื่องแฟนตาซีที่มีความดาร์คผสม รูปแบบตัวละครหลอน ๆ (นางฟ้ายังดูหลอนสไตล์ทูตสวรรค์  ความดราม่า สงคราม และความสูญเสียในเรื่องที่ใหญ่เกินกว่าจะเป็นภาพยนตร์แฟนตาซีสำหรับเด็ก ดนตรีประกอบฟุ้ง ๆ ชวนฝันเหมือนเพลงกล่อมเด็ก ผสมกับฉากหวาดเสียวเล็กน้อย

หลาย ๆ ซีน พาให้นึกถึงความรู้สึกตอนดู Pan’s Labyrinth (2006) ที่เป็นงานเก่าของกีเยร์โม อย่างคอนเซปต์เกี่ยวกับการพิสูจน์ตัวเองของตัวละครและความเป็นเทพนิยาย สิ่งเหล่านี้แฝงกลิ่นอายของกีเยร์โมไว้ชัดเจนงานดนตรีประกอบภาพยนตร์ ก็ถือว่าน่าประทับใจ หลายเพลงมีทำนองที่เพราะสวยงามด้วยเสียงเครื่องลมไม้ (Woodwind Instruments)… ฟังไปฟังมาก็คุ้น ๆ

รู้สึกมันดูชวนฝันเหมือน Shape of Water (2020) สรุปว่า คนประพันธ์เป็นคนเดียวกัน Alexandre Desplatแม้ว่า Pinocchio ในเวอร์ชั่นของ ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio กีเยร์โม เดล โตโร จะไม่ได้แปลกแหวกแนวจนฉีกจากภาพเดิม และอาจไม่ได้เป็นแอนิเมชั่นที่ดูง่ายจนเหมาะกับทุกคน แต่น่าชื่นชมที่เขาสามารถถ่ายทอดเรื่องราว Pinocchio

ได้ค่อนข้างสมบูรณ์ ดูสมจริง มีความเป็นธรรมชาติ และมีความเป็นภาพยนตร์

(Cinematic) ทั้งยังวางโครงเรื่องได้อย่างแข็งแรง นอกจากนี้ งาน Stop Motion ที่ออกมาก็ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับ Pinocchio ในเวอร์ชั่นนี้ได้ดี ดูประณีตและงดงาม

ดังนั้นก็ขอแนะนำนะครับ ส่วนตัวผมมองว่า ตัวแอนิเมชั่นน่าจะไปไกลถึงชิงออสการ์สาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยม จึงไม่อยากให้พลาดแอนิเมชั่นดี ๆ กัน… ใครที่สนใจรับชมได้บน Netflix !ไม่รู้เหมือนกันว่าเราต้องดูหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวของหุ่นไม้ที่อยากเป็นคนนี้ไปอีกกี่เวอร์ชัน ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio แต่ถ้ายังไม่เบื่อจะรับชมมันไปเสียก่อน ก็คงจะได้ดูกันอีกหลายหนเป็นแน่

ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio

แต่ละคนต่างก็สร้าง พิน็อกคิโอ หุ่นไม้จมูกยาวกันออกไปในแนวทางของตน เช่นเดียวกับเวอร์ชันนี้ ‘Guillermo del Toro’s Pinocchio’ ชื่อก็บอกชัดแล้วล่ะครับว่าเป็นผลงานที่กลั่นมาจากความคิดของ กีเยร์โม เดล โตโรชายร่างท้วมหนวดเครายาวรุงรังคนนี้ สร้างสรรค์ผลงานที่น่าจดจำมาอย่างมากมาย ทั้งผลงานที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่สนใจและงานฟอร์มยักษ์ที่เอ่ยชื่อทุกคนต้องร้องอ๋อ ขอยกตัวอย่างกันสักนิด อย่าง ‘Pan’s Labyrinth’, ‘Pacific Rim’, ‘Crimson Peak’,

‘The Shape of Water’ และ ‘Nightmare Alley’ รวมถึงตู้หลอนผลงานก่อนหน้าล่าสุด ‘Cabinet of Curiosities’ ด้วยยกเอาคำโปรยที่อยู่ในแอปของเน็ตฟลิกซ์มาวางไว้ตรงนี้ “นิทานสต็อปโมชั่นแนวมิวสิคัลที่มีฉากหลังเป็นประเทศอิตาลีในยุคสงคราม ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio มีเพลงบัลลาดนุ่มนวลอย่าง ‘Ciao Papa’ ซึ่งนับเป็นผลงานแรกในฐานะนักแต่งเพลงของผู้สร้าง กีเยร์โม เดล โตโร” นัยว่าแทบไม่ต้องเล่าขยายอะไรเพิ่มเติมแล้วล่ะมั้ง เพราะเรื่องราวมันเป็นยังไงก็คงจะรู้กันหมดแล้ว แต่ถ้าใครยังไม่รู้ ผมจะลองเล่าให้อ่านกันตรงนี้

แรกเริ่มเลย มีช่างไม้นักประดิษฐ์อยู่คนหนึ่ง เขาคือ เจ็พเพตโต (David Bradley จากหนัง ‘The World’s End’ และซีรีส์ ‘Game of Thrones’) ที่มีลูกชายอย่าง คาร์โล ที่เขารักมากแต่ต้องสูญเสียไปทั้งที่เขาเพิ่งรู้จักกับโลกนี้ได้เพียง 10 ปี ในระหว่างความเศร้าโศกนั้น

เขาก็สร้างหุ่นไม้ตัวหนึ่งขึ้นมา หวังให้มันเป็นตัวแทนของลูกชายที่เสียไป ปาฏิหาริย์ของนางฟ้าพาให้หุ่นมีชีวิตพร้อมด้วยชื่อ พิน็อกคิโอ (Gregory Mann จากซีรีส์ ‘Victoria’) เด็กชายที่ร่างกายยังเป็นไม้สน ผู้ที่เพิ่งเริ่มชีวิตเสมือนมนุษย์และมีจิ้งหรีดสีน้ำเงิน

คริกเก็ต (Ewan McGregor จากหนัง ‘Doctor Sleep’ และซีรีส์ ‘Obi-Wan Kenobi’) คอยชี้แนะแนวทางและเพราะความอ่อนต่อโลกนี่แหละที่ชักพาเขาไปพบกับ เคาน์โวลเป (Christoph Waltz) เจ้าของคณะละครเร่ ทั้งช่วงเวลานั้น เขาอยู่ในอิตาลีที่กำลังอยู่ในช่วงสงคราม ทำให้หุ่นไม้ที่อยากกลายเป็นคนต้องเรียนรู้ชีวิตที่คาบเกี่ยวกับการทหารด้วย และนี่คือ การผจญภัยอีกครั้งของหุ่นไม้ที่ทุกคนรู้จักดี… พิน็อกคิโอ

รีวิวหนัง ‘พิน็อกคิโอ หุ่นน้อยผจญภัย โดยกีเยร์โม เดล​ โตโร’เป็นหนึ่งความรู้สึกระหว่างที่ได้ดูก็คือ นี่แหละ ไอเดียของการสร้างพิน็อกคิโอที่ควรเป็น มันควรสร้างออกมาในลักษณะแอนิเมชัน เพราะมันทั้งมีความเป็นนิทาน ทั้งเป็นเรื่องราวที่มีความเป็นเด็ก ทั้งยังใส่เรื่องราวเชิงแฟนตาซีเข้าไปได้โดยไม่รู้สึกโดดหรือแปลกแยกอะไร แถมเวอร์ชันนี้ก็ค่อนข้างจะหนักกว่าการเป็นหนังสำหรับเด็กอยู่นิดนึง

เวอร์ชันนี้จะให้พื้นที่กับลูกชายตัวจริงของช่างไม้อย่างคาร์โลมากหน่อย เพื่อให้ได้เห็นถึงความผูกพันที่มีระหว่างพ่อกับลูก ก่อนจะพาผู้ชมมาพบกับหุ่นไม้พิน็อกคิโอตัวเอกของเรื่อง หนังค่อนข้างเดินเรื่องเร็วและไม่ค่อยจะหยุดพักสักเท่าไหร่ พร้อมกับการใส่คาแรกเตอร์ที่ออกแบบมาให้แปลกแตกต่างสิ่งที่ยังคงอยู่

ไม่เปลี่ยนแปลงคือกิมมิกของการพูดโกหกของหุ่นไม้ที่จมูกของเขาจะยืดยาวขึ้น และเขาต้องใช้มันให้เป็นประโยชน์ สิ่งที่ชื่นชอบ อย่างแรกก็คงเป็นงานภาพที่ทำมาได้อย่างละเอียดละออ ออกแบบหุ่นไม้พิน็อกคิโอออกมาได้ดูเป็นเดลโตโร เช่นเดียวกับเหล่านางฟ้าทั้งหลาย ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio อีกส่วนก็คือ อ้างอิงนิยายที่ Carlo Collodi เขียนเอาไว้ ใส่ความดาร์กลงไปพอประมาณ วางพื้นหลังเป็นอิตาลีสมัยสงคราม พาดพึงไปถึง เบนิโต มุสโสลินี

ผู้นำฟาสซิสต์ของอิตาลี ภาพของเผด็จการที่ถูกฉายชัดอยู่ในเรื่องราว รวมทั้งการเอาพิน็อกคิโอไปร่วมอยู่ในภารกิจทหาร นอกเหนือจากการถูกควบคุมแม้ไม่มีเชือกผูกโยงในคาร์นิวัลพิน็อกคิโอในเวอร์ชันนี้ดูจะมีอิสระทางความคิดมากกว่าเวอร์ชันก่อน จนถูกทหารมองว่า

‘ไร้วินัย’ เสียด้วยซ้ำ หุ่นไม้ที่อยากเป็นมนุษย์ยังคงต้องผจญภัย เรียนรู้การใช้ชีวิตและเลือกด้วยตนเองเช่นเดิม แต่หนังก็ทำให้เราต้องน้ำตาซึมไปกับความสูญเสีย จนพอจะเรียกได้ว่าหนังทำได้ดีกว่าที่คาดไว้พอสมควรทีมงานนักพากย์ในเวอร์ชันนี้ก็ไม่ธรรมดา มีแต่คนดังๆ ทั้งนั้นที่มาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น Tilda Swinton,

Cate Blanchett, Christopher Waltz , Ewan McGregor และอีกหลายต่อหลายคน และแม้เขาจะบอกว่ามันเป็นหนังหมวดมิวสิคัล แต่เอาเข้าจริง ก็ไม่ได้มาแบบมิวสิคัลจ๋า มีประกอบอยู่ในบางส่วนของเรื่อง และอาจจะหายไปเลยก็มี มันจึงมีความดูง่ายสำหรับคนทุกคนถ้าหากว่าคุณยังไม่รู้สึกสะอิดสะเอียนและเลี่ยนไปกับเรื่องราวเทพนิยายของเจ้าหุ่นกระบอกในตำนาน ก็ลองมาเปิดใจและล้างตาดูอีกหนึ่งเวอร์ชั่นที่ส่งออกมาในช่วงปลายปีนี้ กับ “Guillermo del Toro’s Pinocchio” หนังแอนิเมชั่นสตอปโมชั่น ฝีมือการรังสรรค์ของสุดยอดผู้กำกับ “กีเยร์โม เดล โตโร”

ที่แม้จะเอาท่วงทำนองเดิม ๆ Guillermo del Toro s Pinocchio (2022) มาปรุงแต่งใหม่ แต่จินตนาการและไอเดียของเขา

ก็ยังบรรเจิดเลิศล้ำในโลกภาพยนตร์มากเลยจริง ๆเชื่อว่าทุกคนก็น่าจะคุ้นเคยกับเรื่องราวเทพนิยายบทนี้ดีอยู่แล้ว ร้อยเรียงจากนิทานสุดคลาสสิกของ การ์โล กอลโลดี กับ หุ่นกระบอกไม้ที่มีชีวิตขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ เพื่อมาซ่อมแซมและเติมเติมหัวใจของช่างแกะสลักวัยชรา ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio ที่ได้นำพาทุกคนไปผจญภัยในโลกที่แสนซุกซนและท้าทายของพิน็อคคิโอ ที่ต้องการแสวงหาโลกใบใหม่กับสถานที่ที่เขายังไม่เคยได้รู้จักมาก่อน

คงต้องสารภาพตรง ๆ ว่าหนังเวอร์ชั่นก่อนทำเอาไว้ค่อนข้างเข็ดหลาบพอสมควร จึงเป็นเหตุทำให้ Guillermo del Toro’s Pinocchio ฉบับนี้เปิดดูด้วยการก่อกำแพงเป็นเกราะกำบังเอาไว้หนาระดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่กระนั้นก็ลองเปิดใจดูอย่างถึงที่สุด ก็พบว่าเวอร์ชั่นนี้ช่างงดงามยิ่งกว่าฉบับไลฟ์แอคชั่นของดิสนีย์

ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio

ที่เคยทำเอาไว้อยู่หลายขุม แค่นอนดูเทคนิคงานสร้างแบบสตอปโมชั่นก็เพลินดีแล้วอาจจะต้องคาระวิสัยทัศน์และลีลาขั้นเทพของ กีเยร์โม เดล โตโร โดยแท้ แม้ว่าจะเป็นงานคลาสสิกที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้ว แต่เมื่อมันมาอยู่ในมือของนักสร้างที่ถูกคน สรรค์สร้างออกมาได้ลงล็อกและถูกจังหวะ มันก็ย่อมทำให้ทิศทางออกมาได้อย่างแช่มชื่นดีนัก แน่นอนว่าหนังยังร้อยเรียงเรื่องราวบนพื้นฐานโครงการดั้งเดิม แต่ก็มีการขยายและตีความให้ออกมาแปลกใหม่จากเดิม เป็นกิมมิกที่ทำให้หนังมีความสดใหม่ขึ้นมาได้เล็กน้อย

บทหนังของ Guillermo del Toro’s Pinocchio อาจจะไม่ได้มีอะไรที่ใหม่นัก แต่ต้องยอมรับว่าครึ่งชั่วโมงแรกของหนังเต็มไปด้วยการโหมโรงที่น่าสนใจ แม้ว่ามันจะเป็นฉากเกริ่นที่เป็นขยายความออกมาแบบเยิ่นเย้อไปบ้าง แต่มันกลายเป็นองค์ประกอบเสริมเพิ่มเติมเข้ามาที่ช่วยเหลือยกระดับให้หนังดูดียิ่งขึ้นอีกขั้น และทำให้หนังน่าสนใจขึ้นมาเป็นกอง อีกทั้งฉีกแนวการผจญภัยแบบเดิม

ใส่ประเด็นการเมืองสงครามเข้าไปเสริมเข้ากับการค้นหาตัวตน ที่ออกมาในทิศทางที่น่าสนใจได้ดีและแน่นอนว่าไฮไลต์ของหนังเรื่องนี้ก็ถือองค์ประกอบงานสร้าง ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio ที่ต้องยกนิ้วให้ทั้งหมด 10 นิ้วไปเลย กีเยร์โม เดล โตโร ก็ยังคงไม่ทิ้งลีลาจัดจ้านในความเป็นมืออาชีพในการสร้างงานสตอปโมชั่นที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและเสน่ห์ในรูปแบบตัวเอง และเรามักจะเพลิดเพลินเสมอ ๆ ที่มักจะได้เห็นเบื้องหลังงานสร้างในฉบับของเขา และยิ่งทำให้รู้สึกทึ่งตลอด กับการเห็นว่าแต่ละฉากที่ออกมานั้นต้องผ่านกระบวนการซ้ำ ๆ กี่ครั้ง

งานสตอปโมชั่นในหนัง Guillermo del Toro’s Pinocchio ยังเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ และลายเล้นในแบบของผู้กำกับท่านนี้โดยแท้ งานสร้างแต่ละช็อตค่อนข้างละเอียด หนังประเภท Biography ชีวิตจริง  เมื่อมาผนวกเข้ากับการจัดลำดับภาพและใช้แสงสีมาเสริมเข้าด้วยกัน ยิ่งช่วยยกระดับให้กับหนังได้เป็นอย่างดี กลายออกมาเป็นงานภาพสวย ๆ ที่น่าประทับใจ และเป็นหนังที่ดูได้เพลินดีไปตลอดทั้งเรื่องแต่ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ Pinocchio

ในเวอร์ชั่นนี้ยังไม่ค่อยรู้สึกคล้อยตามและตรึงใจได้สักเท่าไหร่นัก นั่นก็คือความเป็นมิวสิคัลในหนังเรื่องนี้ ที่บทเพลงแต่ละเพลงที่ต้องยอมรับว่าไม่กลมกล่อมสักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นดิสนีย์ทำ ที่มีบทเพลงที่ได้อรรถรสได้ยิ่งกว่า แต่ก็ยังดีที่เวอร์ชั่นนี้มิวสิคัลเป็นเพียงองค์ประกอบเสริมที่ใส่เข้ามาในหนังเรื่องนี้ และยังไม่ใช่จุดที่ทำลายมนต์ขลังของหนังเรื่องนี้แต่อย่างใด

หนังเวอร์ชั่นยังมาพร้อมทีมนักแสดงชุดใหญ่มากที่มาให้เสียงพากย์ “ยวน แม็คเกรเกอร์”, “เดวิด แบรดลีย์”, “เกร็กกอรี่ แมนน์” ต่อรับบทบาทหนังที่ของเขาได้ดีตามมาตรฐาน หนังยังได้ “เบิร์น กอร์แมน”, “รอน เพิร์ลแมน”, “เคต แบลยเชตต์”, “ฟินน์ วูลฟ์ฮาร์ด” และ “คริสตอฟ วอล์ตซ์”

เป็นวอยซ์ทาเลนท์ที่มาร่วมสร้างสีสันให้กับหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกันเอาเป็นว่าโดยสรุปแล้วนั้น Guillermo del Toro’s Pinocchio เป็นหนังพิน็อคคิโอเวอร์ชั่นใหม่ ที่เต็มไปด้วยไอเดียที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างดีแท้ การตีความใหม่อาจจะเป็นความเสี่ยง ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio แต่ในความกล้าเสี่ยงของหนังเรื่องนี้ ถือว่านำไปสุ่ทิศทางที่น่าพอใจ งานสร้างในรูปแบบสตอปโมชั่นของหนังเรื่องนี้เป็นเสน่ห์โดยแท้ของหนังเรื่องนี้ ความพิถีพิถันในงานสร้างเต็มไปด้วยเส่นห์

ตำนานของพิน็อคคิโอก็ยังคงเป็นนิทานเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน เป็นวัตถุดิบที่สามารถนำมาปรุงแต่งในรูปแบบใหม่ ๆ ได้อย่างไม่มีขอบเขต และหนังเวอร์ชั่่นนี้ก็คือตัวอย่างของความกล้าบียอนด์ออกไปสู่นอกกรอบเดิม ๆ เป็นการปรุงแต่งรสชาติใหม่ที่มีรสชาติอร่อยอีกแบบ อาจจะต้องบอกว่า Guillermo del Toro’s Pinocchio เป็นอีกเวอร์ชั่นที่น่าจดจำและครบทุกอรรถรสในแบบที่หนังพึ่งจะมีเอาว่าใครที่ไม่เคยดูพิน็อกคิโอหรือรู้จักมาก่อนเลยก็คงเพลิดเพลินกับการเล่าเรื่องราวนิทานแฟนตาซีสอนเด็กที่สนุกพอตัวอยู่

หรือเด็กเองก็คงสนุกกับเรื่องนี้แน่ๆ แม้จะมีหลายฉากที่ออกแนวทำร้ายทารุณเด็กพอสมควร แต่สำหรับผู้ชมที่รู้จักหรือเคยดูเรื่องนี้มาก่อนแล้วหลายรอบ หลายเวอร์ชั่น ย่อมคาดหวังการตีความใหม่ความแตกต่าง ซึ่งจริงๆ ตัวผู้กำกับเองก็บอกว่าตีความเล่าเรื่องให้เหมือนเป็นการกำเนิดของตัวละครนี้ใหม่ แต่ผู้เขียนเองแทบมองไม่เห็นเลยว่ามันมีการเล่าเรื่องหรือตีความใหม่อะไรขนาดนั้นจริงๆ ครับ เพราะเส้นเรื่องก็ยังเป็นแบบเดิมคือ คนสร้างพิน็อกคิโอมีลูกชายตายไป เสียใจมากเลยสร้างพิน็อกคิโอขึ้นมา นางฟ้าก็มาใส่ชีวิตให้ พิน็อกคิโอมีชีวิตมาก็เป็นเด็กดื้อ

ไม่ฟังพ่อ เวลาโกหกจมูกก็ยาวขึ้น จากนั้นก็ทะเลาะกับพ่อออกไปผจญภัย ถูกคนหลอกไปหาประโยชน์ แล้วสุดท้ายแล้วก็กลับมาเจอกับพ่อ มีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ได้ ซึ่งความแตกต่างในเส้นเรื่องนั้นแทบเบาบางมาก มีแค่ตัวละครประกอบใหม่เป็นลิงคณะละครสัตว์ หรือเรื่องเกี่ยวกับสงครามที่ใส่มาสั้นๆ

ยกเว้นคุณอาจจะไปฟังพวกนิทานบทย่อเบาๆ อะไรแบบนั้น ตัวเรื่องนี้ก็จะมีรายละเอียดมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้ถึงกับฉีกตีความใหม่อะไรอย่างผู้กำกับบอกไว้เลย (ซึ่งจริงๆ พิน็อกคิโอต้นฉบับดาร์คและโหดร้ายมาก ตอนจบก็ไม่ได้ก็สมหวังเป็นคนด้วย)สิ่งที่เหลือคืองานสต็อปโมชั่นของเรื่องที่ดูดีสวยงาม ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio ลื่นไหลมากจนเหมือนแอนิเมชั่นเลยก็ว่าได้ พ่วงกับการออกแบบตัวละครแฟนตาซีต่างๆ สไตล์ กีเยร์โม เดล โตโร ที่ดูชวนฝันร้ายหน่อย อย่างนางฟ้าในเรื่องก็เหมือนปีศาจมากกว่า

ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังการ์ตูน เรื่อง Guillermo del Toro s Pinocchio (2022) พิน็อกคิโอ หุ่นน้อยผจญภัย โดยกีเยร์โม เดล โตโร เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย ดูหนัง ออนไลน์ หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS

แสดงความคิดเห็น

Share

หนังอื่นๆ ที่น่าสนใจ

GTMax (2024)
หนังฝรั่ง Thaisound
movie

5.5

Magpie (2024)
หนังฝรั่ง Subthai
movie

6.5

ดูหนังออนไลน์ 2024

เว็บดูหนังมาแรงในตอนนี้ สามารถดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ที่มีคุณภาพที่สุดในตอนนี้ ไม่มีโฆษณามารบกวนใจ อีกทั้งมีหนังมากมายมาให้เลือกชม มากมายกว่า 10,000 เรื่อง ที่นี่มีหนังใหม่2023 จากค่ายดังทุกค่ายมาให้ทุกคนได้รับชมกันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่า Netflix, Disney+, Viu , DC , Marvel ทำให้ท่านได้รับความสนุกเพลิดเพลินเหมือนได้รับชมอย่างสมจริงทั้งภาพที่คมชัดระดับ Full HD และเสียงภาพยนตร์ที่คมชัดมากที่สุด

ดูหนัง Netflix หนังใหม่

อ่านต่อที่นี่