Green Snake (2021) นาคามรกต
เรื่องย่อ
Green Snake (2021) นาคามรกต ในตอนท้ายของราชวงศ์ซ่งใต้ Xiaobai ถูก Fahai บังคับภายใต้เจดีย์ Leifeng หลังจากช่วย Xu Xian Xiaoqing ถูก Fahai ขับเข้าไปในจินตนาการอันแปลกประหลาดของเมืองชูราโดยไม่ได้ตั้งใจ ในวิกฤตหลายครั้ง Xiaoqing ได้รับการช่วยเหลือจากเยาวชนสวมหน้ากากลึกลับ ด้วยความหมกมุ่นในการออกไปช่วยเหลือ Xiaobai Xiaoqing ได้ผ่านภัยพิบัติและการเติบโตและร่วมกับเยาวชนที่สวมหน้ากากเพื่อหาทางจากไป
ที่เมืองเจิ้นเจียง ประเทศจีน พี่น้องปีศาจงู บลังกา งูสีขาว และงูเขียว แวร์ตา ท้าทายพระภิกษุผู้สังหารปีศาจ ฟาไห่ เพื่อช่วยสามีของบลังกา ซู่ เสียน พวกเขาพ่ายแพ้ ไม้กายสิทธิ์ของบลังกาถูกทำลาย และเธอถูกคุมขังอยู่ใต้เจดีย์เหลยเฟิง Verta โทษ Xian ที่อ่อนแอและไร้ประโยชน์ เช่นเดียวกับ Blanca ที่ตกหลุมรักเขา Verta ถูกเอาชนะอีกครั้งและถูกดูดเข้าไปในพอร์ทัล ดูหนังออนไลน์
Verta ตื่นขึ้นมาโดยปราศจากพลังปีศาจของเธอ ในเมืองดิสโทเปียสมัยใหม่ที่ชื่อว่า Asuraville สถานที่ที่กักขังสิ่งมีชีวิตจากหลากหลายยุคสมัย เธอได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อซัน ซึ่งช่วยให้เธอปรับตัวเข้ากับโลกสมัยใหม่ และชายลึกลับสวมหน้ากากที่ความจำเสื่อมซึ่งช่วยชีวิตพวกเขาไว้ ศัตรูหลักใน Asuraville คือกองทัพของ Ox-Heads & Horse-Faces ซึ่งนำโดย Ox Leader ที่พยายามยึดครองเมือง ซันถูกกองทัพของอ็อกซ์สังหาร แต่แวร์ตาได้รับการช่วยเหลือจากกองทัพรัคชา ซึ่งนำโดยชายชื่อไซมอน ซึ่งแวร์ทาถูกโจมตีด้วย
ผู้กำกับ
Amp Wong
บริษัท ค่ายหนัง
Light Chaser Animation Studios
Alibaba Pictures
Tianjin Maoyan Weiying Culture Media
Bilibili
นักแสดง
Tang Xiaoxi
Wai Wai
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
นาคามรกต เปิดเรื่องด้วยเสี่ยวไป่นางพญางูขาวและ เสี่ยงชิงนางพญางูเขียว สองพี่น้องกำลังต่อสู้กับหลวงจีนฝาไห่อย่างเอาเป็นเอาตาย และในขณะที่หลวงจีนฝาไห่กำลังจะจับเสี่ยวไป่ขังไว้ในเจดีย์เหลยเฟิง เสี่ยวไป่ก็คว้าปิ่นปักผมมาต่อสู้ แต่ก็ไม่สามารถรั้งอำนาจของพุทธคุณได้ นางจึงถูกดูดเข้าไปในเจดีย์และถูกขังเอาไว้ในนั้น ส่วนเสี่ยงชิ่งในขณะที่กำลังเข้าไปช่วย ก็ถูกหลวงจีนฝาไห่ใช้ฤิทธิ์ทำให้เธอถูกดูดไปอยู่ในนครอสูร นางจึงพลัดพรากจากศิษย์พี่นับตั้งแต่บัดนั้น
นครอสูร ไม่ต่างกับนรกอเวจี เต็มไปด้วยภูต ผี ปีศาจ ยักษ์รากษส และมนุษย์ที่หลงยึดติดกับบางสิ่งบางอย่าง เป็นเมืองที่ไม่สามารถหาทางออกได้ เมื่อเสี่ยวชิงเข้ามาก็พบเจอกับเพื่อนใหม่ ได้เรียนรู้ว่าหากตายในดินแดนนี้ดวงวิญญาณจะแตกสลาย เสี่ยวชิ่งได้พบกับศตรูตัวฉกาจคือปีศาจกระทิงและพรรคพวกที่ต้องการจะทำลาย ฆ่าเผ่าพันธุ์อื่นที่อยู่ในเมืองแห่งนี้ให้สูญสิ้น นางได้ประทะกับปีศาจกระทิงแต่ก็สู้ไม่ได้ เนื่องจากอำนาจของนางที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นถึงนางพญางูเขียวนั้นได้สูญสิ้นไป แต่แล้วนางก็ได้รับการช่วยเหลือจากหญิงสาวคนหนึ่งและชายปริศนาผู้ปิดบังใบหน้าอีกคนหนึ่ง
เสี่ยวชิ่งถูกพาตัวมาอยู่ในก๊กหนึ่ง ที่รวมเหล่ามนุษย์ อสูร และปีศาจเอาไว้จำนวนมาก นางได้เรียนรู้วิธีการเอาตัวรอด เรียนรู้วิธีการต่อสู้ จากที่แห่งนี้
นอกจากนี้ในนครอสูร ยังมีสิ่งที่อันตรายมากกว่าปีศาจกระทิงก็คือ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ดินน้ำลมไฟ ที่มาพร้อมกับวิญาณของปีศาจ ที่ไม่ว่ามันกัดกินใครแล้วคนคนนั้นก็จะกลายเป็นวิญญาณปีศาจไม่ได้ผุดได้เกิดไปด้วย
แต่ที่เลวร้ายยิ่งกว่าก็คือ นานได้เจอกับมนุษย์ พี่หลอกลวงนางด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ เสี่ยวชิ่งจึงต้องการออกจากนครอสูรแห่งนี้ไปให้ได้ แต่วิธีการนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด นางต้องปล่อยวางจากกิเลสและความอาฆาตรทั้งปวง ซึ่งยังไม่สามารถทำได้ เพราะจิตของนางนั้น ได้ตังค์ไว้ว่าต้องการจะจัดการกับหลวงจีนฝาไห่เพื่อปลดปล่อยเสี่ยวไป่จากเจดีย์เหลยเฟิงนั้นเอง
เรื่องราวของ นาคามรกต : White Snake 2: The Tribulation of the Green Snake จะดำเนินต่อไป ต้องไปติดตามชมเอาเองทาง Netflix ครับ
นาคามรกต : White Snake 2: The Tribulation of the Green Snake เป็นอนิเมชั่นแฟนตาซีจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่นำเรื่องราวนิทานพื้นบ้านสุดคลาสสิกเรื่องนางพญางูขาวมาตีความใหม่ได้อย่างน่าสนใจและมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ทิ้งปรัชญาและหัวใจสำคัญของเรื่องก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับปีศาจและการละวางกิเลส เขาได้ขยายเรื่องราวหลังจากที่นางพญางูขาวได้ถูกจับขังไว้ในเจดีย์เหลยเฟิง เป็นการทำให้เห็นว่าเสี่ยวชิ่ง นางพญางูเขียวศิษย์น้องใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป นางพยายามช่วยพี่สาวของนางอย่างไร นางต้องเจออะไรบ้าง ซึ่งในส่วนหน้าหานี้เป็นอะไรที่มีความแปลกใหม่ไม่เคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน
นอกจากนี้ยังได้นำตัวละครสำคัญ ซึ่งเป็นตัวละครที่รผุ้จักกันดีในนิทานพื้นบ้านของประเทศจีน และญี่ปุ่นก็คือ จิ้งจอกเก้าหาง เขาแนะนำเอกลักษณ์ของจิ้งจอกเก้าหางออกมานำเสนอเช่น ความมีรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม จำแลงแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ มีความเฉลียวฉลาด ซึ่งเป็นตัวละครสำคัญมาก ๆ ในเรื่องนี้
นาคามรกต เป็นอนิเมชั่นที่มีเรื่องราวและเรื่องย้อยแทรกอยู่ในเนื้อหาค่อนข้างมาก ตัวละครก็มีมาก อาจมีปัญหาด้านความสับสนของเนื้อหา ดูแล้วเนื่อเรื่องย่อยรบกวนเนื้อเรื่องหลักอยู่ในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังของตัวละคร หลายตัว
เรื่องของภัยธรรมชาติ ภัยของวิญญาณที่มาจากภัยธรรมชาติ การหนีตายหนีจากการไล่ล่า ดูแล้วก็วนไปวนมา แต่ในช่วงท้ายเขาก็มีดีมากพอที่จะดึงเรื่องราวกับสู้เนื้อหาหลักได้ดีหนังเขาเซทอัพนครอสูรได้ดี มันเป็นภาพของเมืองอายุปัจจุบันที่ถูกทิ้งร้าง บ้านเมืองสลักหักพัง ผู้คน ปีศาจและอสูรอยู่กันเป็นก๊กเป็นเหล่า บางก๊กก็พยายามตั้งตนเป็นใหญ่ไล่ล่าก๊กเล็กก๊กน้อย ดูแล้วก็เหมือนกับ Mad Max ไม่น้อย ในเรื่องการสร้างบรรยากาศของเมืองถือว่าใช้ได้ดีมีความทันสมัย นำนิทานพื้นบ้านมาผูกกับยุคสมัยใหม่ได้ดี
หนังมีความเป็นแอคชั่นอยู่มาก มากเลยขนาดที่ว่านิด ๆ หน่อย ๆ ก็แอคชั่น มีทั้งการต่อสู้แบบเดี่ยว การต่อสู้แบบกลุ่ม การขับรถไล่ล่า มีการต่อสู้แย่งชิง เรียกว่าใครมาสายแอคชั่นดูแล้วคงชอบเลยทีเดียวในเรื่องภาพถือว่ามีความดีงามมาก การออกแบบตัวละครทำได้ดี คือตัวละครผู้หญิงทำได้สวยมากทุกตัวละคร ภาพเมือง ภาพบรรยากาศก็ดูสมจริง บรรยากาศที่เขาจะทำให้เห็นว่าเป็นแบบจีนเขาก็ทำได้ชัดเจน บรรยากาศที่เขาทำให้เห็นเป็นสากลเขาก็ทำได้ดี มีการนำ ความ
ทันสมัยเข้ามาใส่ในภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ รถยนต์ เครื่องมือสื่อสาร หรือแม้แต่วัฒนธรรมการถ่ายภาพในการเซลฟี่นก็นำมาใส่เอาไว้ด้วย เป็นการบ่งบอกว่าถึงแม้ว่าประเทศจีนจะมีความเป็นอนุรักษ์นิยม แต่ก็เปิดกว้างให้กับโลกดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้นนาคามรกต จึงเปรียบเสมือนตัวเชื่อมระหว่างวัฒนธรรมและนิทานปรัมปราของกับโลกดิจิทัลและความทันสมัยอย่างกลมกลืน
ความดีงานด้านภาพและการตีความเนื้อหาเกี่ยสกับนิทานพื้นบ้านและเทพปกรณัมจีนนั้น นาคามรกต ดีไม่แพ้อนิเมชั่นกำลังภายในแฟนตาซีของจีนเรื่อง นาจา เกิดกี่ครั้งก็ยังเทพ New Gods Nezha Reborn (2021) ฉายทาง netflix ก่อนหน้านี้เลยทีเดียว
จุดหนึ่งที่ผมชอบก็คือหนังเขาแอบใส่ประเด็น LGBTQ เอาไว้ในเรื่องอย่างแนนเนียน ซึ่งก่อนหน้านี้หากเราดูภาพยนตร์จีนแฟนตาซีกำลังภายในเรื่อง หยินหยาง
ศึกมหาเวทย์สะท้านพิภพ : สู่ฝันอมตะ The Yin-Yang Master: Dream of Eternity (2020) จะเห็นได้ว่าเขาใส่ประเด็น LGBTQ เอาไว้อย่างชัดเจน เพิ่งมาเทียบกันแล้ว ราคามรกตมีความแนบเนียนมากยิ่งกว่า ส่วนนี้อาจเป็นการบ่งบอกว่าสังคมของชาวจีนยอมรับความหลากหลายทางเพศ LGBTQ พอสมควร
นอกจากนี้เขายังแสดงให้เห็นถึงความเป็น “เพื่อนหญิงพลังหญิง” พอสมควร ผู้หญิงดูแลซึ่งกันและกัน มีความแข็งแรง สามารถต่อสู้กับผู้ชาย และเอาชนะกับ
อุปสรรคต่าง ๆ ได้ไม่แพ้ผู้ชาย แถมหลายครั้งแล้วยังเห็นตัวละครหญิงเป็นฝ่ายช่วยเหลือผู้ชายซะด้วย
ส่วนตัวแล้วมีจุดที่น่ารำคาญอยู่หลายจุด โดยเฉพาะฉากที่เกี่ยวกับการพลัดพราก แยกทาง การสูญเสีย เสียเวลากับการเรียกชื่อกันและกัน ดึงช้า ดูแล้วอึดอัดพอสมควร และเนื่องจากนาคามรกตเล่าเรื่องราวต่อจากตำนานนางพญางูขาวทันทีโดยที่ไม่ได้ปูเนื้องเรื่อง จึงทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องตำนานหรือนิทานเรื่องนี้ อาจสับสนที่มาที่ไปของตัวละครก็เป็นได้
แม้จะเป็นอนิเมชั่นที่เน้นความเป็นแอคชั่นสูง แต่ความดราม่า การใส่ปรัชญาหรือสาส์นสำคัญของเรื่องอย่าง การละวางกิเลศ การเสียสละ การให้อภัย ก็ไม่ได้ด้อยลงไปแม้แต่น้อย มันเป็นส่วนผสมที่ค่อนข้างลงตัว ดูเอาความสนุกก็ได้ดูเอาข้อคิดก็ดี จัดเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ให้ความบันเทิงกับเราแบบสุด ๆ เรื่องหนึ่งเลยทีเดียวครับ จึงขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดชม นาคามรกต : White Snake 2: The Tribulation of the Green Snake ด้วยประการทั้งปวง
7.5/10
Green Snake เป็นภาคต่อจากอนิเมชั่น “ตำนานนางพญางูขาว” White Snake ที่ฉายในปี 2019 ซึ่งจะได้มีการนำไปเชื่อมโยงกับ “จักรวาลเทพเซียนจีน” เช่นเดียวกับเรื่องนาจาฉบับอนิเมชั่นล่าสุดคือ Nezha Reborn ที่ก่อนหน้านี้เข้าฉายทาง Netflix เมื่อต้นปี 2021 และกำลังจะมีอนิเมชั่นเทพจีนเรื่องถัดไปที่จะเข้าฉายในปี 2022 คือ “เทพสงครามหยางเจี้ยน” หรือ “เทพเอ้อหลาง” จากตำนานห้องสิน อีกด้วย
ด้านพล็อตเรื่องถือว่าเป็นการเอาพล็อตยอดนิยมในยุคสมัยนี้มาใช้ นั่นคือพล็อต “หลุดไปต่างโลก” ซึ่งก็ทำยังออกมาได้ดี มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อตัวละครเอกไม่ใช่ “ไป๋ซู่เจิน” แต่เป็น “เสี่ยวชิง” แทน แน่นอนว่าตำนานจะออกมาในรูปแบบที่แตกต่างจากต้นฉบับ ซึ่งเรื่องนี้ก็ตอกย้ำการตีความแปลกใหมาด้วยการเพิ่มความแฟนตาซีเข้ามา การเดินเรื่องมาความกระชับ ไม่เสียเวลาไปกับการแนะนำโลกของนครอสูรและสถานการณ์ในเรื่องนานเกินไป ถ้าเป็นคนที่ชอบดูหนัง/ซีรีส์จีน แนวดราม่าแฟนตาซี ตำนานนางพญางูขาวกถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเยี่ยมที่คนชอบแนวนี้ควรลองหาชมสักครั้ง
ในภาพรวม Green Snake จึงถือว่าเป็นอนิเมชั่นสัญชาติจีนที่สร้างออกมาได้ดีทีเดียว และเป็นหนึ่งในภาคต่อของตำนานนางพญางูขาวที่ดัดแปลงและตีความใหม่ออกมาจนได้บทสรุปที่น่าประทับใจเกินคาด เรื่องยังสามารถต่อยอดตำนานต้นฉบับได้อย่างน่าสนใจ อีกทั้งยังมีการใส่ประเด็น LGBTQ ซึ่งมีมาตั้งแต่ต้นฉบับเข้าไปในเรื่องได้อย่างแนบเนียน ไม่รู้สึกว่าดูยัดเยียด แถมยังมีจุดเชื่อมโยงกับตำนานเทพอื่น ๆ ที่จะนำมาดัดแปลงในอนาคตด้วย
งานสร้าง
ด้านโปรดักชั่นของงานนิเมชั่น ต้องยอมรับว่าในภาพรวมมีจุดที่ยังไม่เนียนตามากนัก หากเทียบกับมาตรฐานอนิเมชั่นของฝั่งอเมริกา งานเคลื่อนไหวที่ยังไม่ลื่นไหลมากนัก โดยเฉพาะ Face Expression หรือ การแสดงออกทางสีหน้าของตัวละคร ที่ยังดูทื่อ ดูแข็ง ๆ ไปสักหน่อย ทำให้ส่งอารมณ์ได้ไม่สุด การขยับคิ้ว นัยน์ตา และรอยย่นบนใบหน้ายังเก็บไม่เนี้ยบ แต่ด้านอื่นทั้งภาพทิวทัศน์และองค์ประกอบต่าง ๆ ในแต่ละซีนทำออกมาได้ค่อนข้างดี CG โมเดลตัวละครออกแบบมาพิถีพิถัน ฉากหลังต่าง ๆ รวมถึงแสงสีมิติภาพทั้งเงาและแสงตกกระทบของคอสตูม ถือว่าอยู่ในระดับสูงเกินคาด
ส่วนการออกแบบลักษณะของ “นครอสูร” ในเรื่องนี้ก็มีความคล้ายกับโลกยุคปัจจุบันที่มีอุปกรณ์เทคโนโลยีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซด์ รถยนต์ ปืน แล็ปท็อป และอื่น ๆ เหมือนโลก Post Apocalypse หลังล่มสลายที่ตระการตามาก อีกทั้งในเรื่องยังมีการใส่ Easter Egg ที่โยงไปถึงตำนานเทพอื่น ๆ ที่สร้างมาก่อนและกำลังจะสร้างตามมา โดยเฉพาะบทของปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง “ต๋าจี่” ที่มีบทมาตั้งแต่อนิเมชั่นภาคแรก และจะโยงไปหนังภาคอื่นต่อด้วย ในขณะที่ปีศาจกระทิงซึ่งเป็นหนึ่งในตัวร้ายของเรื่องนี้ก็มาจากเรื่องไซอิ๋วเช่นกัน
