From Up On Poppy Hill (2011) ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหาริย์
เรื่องย่อ
From Up On Poppy Hill (2011) ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหาริย์ นักเรียน ม.ปลายสองคนค้นพบความหวังขณะที่พวกเขาพยายามปกป้องไม่ให้คลับเฮาส์เก่าแก่จากยุคสงครามถูกทำลายในระหว่างที่กรุงโตเกียวกำลังเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกปี 1964 ดูหนังออนไลน์
นห้วงเวลาที่ญี่ปุ่นเร่งพัฒนาโตเกียวเพื่อรับมหกรรมโอลิมปิกฤดูร้อน 1964 “มะสึซากิ อูมิ” เด็กสาววัย 16 ปี ผู้สูญเสียบิดาไปในสงครามเกาหลี อาศัยอยู่ในบ้านโคะกุริโกะ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองท่าโยะโกะฮะมะ เพื่อระลึกถึงบิดา ทุกเช้าเธอจะชักธงสัญญาณแบบเดียวกันขึ้นที่บ้านของเธอ
From Up On Poppy Hill (2011) ที่โรงเรียนมัธยมปลาย ในขณะที่อูมิกำลังรับประทานอาหารเที่ยงกับเพื่อน เหล่านักเรียนชายส่วนหนึ่ง ได้ทำการรณรงค์ต่อต้านการรื้อถอนอาคารชมรม “ละติน ควอเตอร์” ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่สถาปัตยกรรมแบบตะวันตก โดยมีนักเรียนชายคนหนึ่ง แสดงออกด้วยการกระโดดจากหลังคาของอาคารเรียนลงไปในบ่อน้ำในบริเวณที่อูมิและเพื่อนๆนั่งอยู่ เมื่อเห็นดังนั้นอูมิจึงเข้าไปช่วยให้เขาขึ้นมาจากบ่อน้ำ แต่ด้วยสายตาของบรรดานักเรียนต่างจับจ้อง เธอจึงละทิ้งการช่วยเหลือ
ผู้กำกับ
โกโร มิยะซะกิ
บริษัท ค่ายหนัง
สตูดิโอจิบลิ
นักแสดง
มะซะมิ นะงะซะวะ
จุนิชิ โอะกะดะ
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
โดยส่วนตัวค่อนข้างชื่นชมทิศทางการทำหนังของสตูดิโอ Ghibli มากทีเดียวแฮะ เพราะขนาดหนังเรื่องนี้ถูกชูว่าเป็นหนังโรแมนติกความรักของวัยรุ่น มันยังก็ไม่วายที่จะสอดแทรกประเด็นการรักษารากเหง้าของคนญี่ปุ่นผ่านการบูรณะซ่อมแซมอาคารชมหลังเก่า ซึ่งบทหนังสามารถลำดับการเล่าเรื่องทั้งสองส่วนพร้อม ๆ กันได้อย่างแนบเนียน
กลุ่มนักเรียนโรงเรียนโคนันนำโดย ‘ชุน’ ได้พยายามเรียกร้องไม่ให้มีการทุบทิ้งอาคารชมรมหลังเก่าเพื่อสร้างอาคารใหม่เตรียมต้อนรับโอลิมปิคที่กรุงโตเกียวปี 1964 เขาได้รับคำแนะนำจาก ‘อูมิ’ เด็กสาวคนหนึ่งว่าให้ซ่อมแซมทำความสะอาดอาคารเพื่อให้ผู้มีอำนาจได้มาเห็นความสำคัญของอาคารชมรมหลังนี้
เส้นเรื่องหลัก ๆ แล้วคือการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง ‘ชุน’ กับ ‘อูมิ’ ที่กำลังไปได้สวย แต่แล้วความรักของทั้งคู่ก็พังทลายลงเมื่อชุนบังเอิญรับรู้ว่าเขามีพ่อคนเดียวกันกับอูมิ ซึ่งในช่วงสงครามเกาหลีได้มีเหตุการณ์บางอย่างพรากสองพี่น้องออกจากกัน มันอาจจะฟังดูน้ำเน่าชวนโศกเศร้า แต่หนังยังคงรักษาระดับความรู้สึกของทั้งคู่แม้จะต้องพยายามหักห้ามใจไม่ให้รักกันก็ตาม ทำให้ฉากสารภาพความในใจที่ป้ายรอรถรางจึงเป็นฉากที่สร้างความประทับใจในความอบอุ่นของหนังเป็นอย่างมาก
อีกเส้นเรื่องหนึ่งที่ไม่อาจละเลยได้ก็คือพื้นหลังของหนังที่เป็นญี่ปุ่นยุค 60’s ในช่วงที่เขาเรียกกันว่า ‘การฟื้นฟูประเทศหลังสงคราม’ บทบาทอุตสาหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจพัฒนาประเทศและแนวคิดคนรุ่นใหม่เริ่มทำให้กลุ่มอนุรักษ์นิยมถูกลดบทบาทลงไป แม้หนังจะไม่ได้ลงลึกถ่ายทอดองค์รวมทั้งประเทศ แต่แนวคิดการรื้อถอนอาคารเก่าที่เป็นแหล่มรวมจิตใจศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบันมันก็สามารถสะท้อนออกมาได้อย่างดี การเริ่มต้นบูรณะซ่อมแซมอาคารหลังเก่าจึงเป็นการปรับตัวเล็ก ๆ ของกลุ่มอนุรักษ์นิยมเพื่อจูงใจหัวก้าวหน้าให้ฉุกคิดรักษารากเหง้าวัฒนธรรมท่ามกลางการพัฒนาขยายตัวอย่างรวดเร็วของประเทศ
From Up On Poppy Hill (2011) From Up on Poppy Hill คือ เรื่องราวของ อูมิ เด็กสาวที่สูญเสียพ่อไปในสงคราม แต่เธอก็ยังคงชักธงขึ้นสู่ยอดเสาให้พ่อทุกวัน เพื่อเป็นคำอธิษฐานถึงพ่อ
ชีวิตของอูมิมาถึงจุดเปลี่ยนในวันที่เธอได้พบกับ ชุน เด็กหนุ่มชมรมหนังสือพิมพ์ และทั้งคู่ก็ได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อเรียกร้องไม่ให้ทางโรงเรียนรื้อ ลาติน ควอเตอร์ อาคารเก่าแก่ซึ่งเป็นที่ตั้งของชมรมต่างๆ ทิ้งไป คือ หนังที่ว่าด้วยการให้คุณค่ากับอดีต ทั้งการอนุรักษ์อาคารเก่า รวมทั้งการสืบหาความจริงเกี่ยวกับพ่อของอูมิและชุนที่ส่งผลมาถึงรุ่นลูก เมื่อทั้งสองคนตกหลุมรักกัน
อดีตนั้นคือรากฐานที่นำมาสู่ปัจจุบัน และมันก็คือสิ่งที่จะพาเราต่อไปยังอนาคต ดังนั้น การพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราก้าวไปข้างหน้า โดยไม่หลงลืมอดีตและรากเหง้าของตัวเองไป
หนังโปรดของข้าพเจ้า
From Up on Poppy Hill (2011) | หนังรักน้ำเน่าสอดแทรกการรักษารากเหง้าคนญี่ปุ่น
โดยส่วนตัวค่อนข้างชื่นชมทิศทางการทำหนังของสตูดิโอ Ghibli มากทีเดียวแฮะ เพราะขนาดหนังเรื่องนี้ถูกชูว่าเป็นหนังโรแมนติกความรักของวัยรุ่น มันยังก็ไม่วายที่จะสอดแทรกประเด็นการรักษารากเหง้าของคนญี่ปุ่นผ่านการบูรณะซ่อมแซมอาคารชมหลังเก่า ซึ่งบทหนังสามารถลำดับการเล่าเรื่องทั้งสองส่วนพร้อม ๆ กันได้อย่างแนบเนียน
กลุ่มนักเรียนโรงเรียนโคนันนำโดย ‘ชุน’ ได้พยายามเรียกร้องไม่ให้มีการทุบทิ้งอาคารชมรมหลังเก่าเพื่อสร้างอาคารใหม่เตรียมต้อนรับโอลิมปิคที่กรุงโตเกียวปี 1964 เขาได้รับคำแนะนำจาก ‘อูมิ’ เด็กสาวคนหนึ่งว่าให้ซ่อมแซมทำความสะอาดอาคารเพื่อให้ผู้มีอำนาจได้มาเห็นความสำคัญของอาคารชมรมหลังนี้
เส้นเรื่องหลัก ๆ แล้วคือการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง ‘ชุน’ กับ ‘อูมิ’ ที่กำลังไปได้สวย แต่แล้วความรักของทั้งคู่ก็พังทลายลงเมื่อชุนบังเอิญรับรู้ว่าเขามีพ่อคนเดียวกันกับอูมิ ซึ่งในช่วงสงครามเกาหลีได้มีเหตุการณ์บางอย่างพรากสองพี่น้องออกจากกัน มันอาจจะฟังดูน้ำเน่าชวนโศกเศร้า แต่หนังยังคงรักษาระดับความรู้สึกของทั้งคู่แม้จะต้องพยายามหักห้ามใจไม่ให้รักกันก็ตาม ทำให้ฉากสารภาพความในใจที่ป้ายรอรถรางจึงเป็นฉากที่สร้างความประทับใจในความอบอุ่นของหนังเป็นอย่างมาก
อีกเส้นเรื่องหนึ่งที่ไม่อาจละเลยได้ก็คือพื้นหลังของหนังที่เป็นญี่ปุ่นยุค 60’s ในช่วงที่เขาเรียกกันว่า ‘การฟื้นฟูประเทศหลังสงคราม’ บทบาทอุตสาหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจพัฒนาประเทศและแนวคิดคนรุ่นใหม่เริ่มทำให้กลุ่มอนุรักษ์นิยมถูกลดบทบาทลงไป แม้หนังจะไม่ได้ลงลึกถ่ายทอดองค์รวมทั้งประเทศ แต่แนวคิดการรื้อถอนอาคารเก่าที่เป็นแหล่มรวมจิตใจศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบันมันก็สามารถสะท้อนออกมาได้อย่างดี การเริ่มต้นบูรณะซ่อมแซมอาคารหลังเก่าจึงเป็นการปรับตัวเล็ก ๆ ของกลุ่มอนุรักษ์นิยมเพื่อจูงใจหัวก้าวหน้าให้ฉุกคิดรักษารากเหง้าวัฒนธรรมท่ามกลางการพัฒนาขยายตัวอย่างรวดเร็วของประเทศ
Director: Goro Miyazaki
story: Tetsuro Sayama
comic: Chizuru Takahashi, Tetsuro Sayama
screenplay: Hayao Miyazaki, Keiko Niwa
Genre: animation, drama, romance
7/10
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
The Cat Returns (2002) เจ้าแมวยอดนักสืบ
Ocean Waves (1993) โอเชียน เวฟส์ สองหัวใจ หนึ่งรักเดียว
Only Yesterday (1991) ในความทรงจำที่ไม่มีวันจาง
My Neighbor Totoro (1988) โทโทโร่เพื่อนรัก
The Secret World of Arrietty (2010) อาริเอตี้ มหัศจรรย์ความลับคนตัวจิ๋ว