ดูหนัง Free Solo (2018) ปีนท้าตาย ระทึกกว่านี้ไม่มีอีกแล้วกับเรื่องราวการปีนผาสูงกว่ า 900 เมตร (เทียบเท่าตึกไอคอนสยามต่อกันสามตึก!) ของนักปีนเขามืออาชีพอย่าง “อเล็กซ์ ฮอนโนลด์” จากลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย ที่สำคัญการพิชิตยอดเขาสูงครั้งนี้ไม่มีเชือกหรืออุป กรณ์ช่วยใดๆ นอกจากสองมือ สองขา มันสมอง และหัวใจที่ปราศจากความกลัวของเขาเท่านั้น อลิซาเบธ ไช วาซาร์เฮลี และ จิมมี่ ชิน คือคู่รักและคู่หูผู้กำกับของหนังเรื่องนี้ ได้ติดตามเรื่องราวของอเล็กซ์ ฮอนโนลด์
ตั้งแต่การฝึกซ้อมเพื่อการปีนเขา แต่แล้วก็ได้เห็นว่าเกราะป้องกันที่เขาใช้เวลานับทศว รรษสร้างขึ้นมาเริ่มแตกออกเมื่อเขาตกหลุมรัก ทำให้เขาเริ่มวอกแวกจนเปิดช่องทางสู่การบาดเจ็บและถด ถอย ดังนั้น คุณจะได้เห็นด้านของความเป็นมนุษย์ของอเล็กซ์ ฮอนโนลด์ ไปพร้อมๆ กับการท้ามฤตยูของเขาครับ นำไปสู่เรื่องราวของการเอาชนะจิตใจของตัวเอง ไม่เพียงแค่การเอาชนะภารกิจเสี่ยงตายเท่านั้น
ดูหนัง Free Solo (2018) ปีนท้าตาย
เป็นภาพยนตร์สารคดีอเมริกันปี 2018 ดูแลโดย Elizabeth Chai Vasarhelyi แล้วก็ Jimmy Chin ซึ่งเล่าราวเกี่ยวกับนักป่ายปีนหน้าผาหิน Alex Honnold ในภารกิจของเขาที่จะแสดงการปีนโดดเดี่ยวฟรีหนแรกบนทาง El Capitan ในอุทยานแห่งชาติ Yosemite ในมิถานายน 2017 ภาพยนตร์ประเด็นนี้เปิดตัวหนแรกในเทศกาลภาพยนตร์เทลลูไรด์ช่วงวันที่ 31 เดือนสิงหาคม 2018 แล้วก็ยังเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาประเทศโตรอนโตปี 2018 ด้วย ซึ่งได้รับรางวัล People’s Choice Award ในหมวดสารคดี6
เข้าฉายในประเทศสหรัฐอเมริกาช่วงวันที่ 28 ก.ย. พุทธศักราช 2561 และก็ทำรายได้มากยิ่งกว่า 28 ล้านดอลลาร์ ภาพยนตร์หัวข้อนี้ได้รับการสรรเสริญจากนักวิพากษ์วิจารณ์แล้วก็รางวัลมากไม่น้อยเลยทีเดียว รวมทั้งการได้รับรางวัลสารคดีดีเลิศจากงานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 91 นักกีฬาปีนเขา Alex Honnold ใฝ่ฝันที่กำลังจะได้เล่นโดดเดี่ยวอย่างอิสระบนกำแพงหินสูง 900 มัธยม ของ El Capitan ในอุทยานแห่งชาติ Yosemite ซึ่งเป็นความเสร็จที่ไม่มีผู้ใดเคยทำมาก่อน
ทางปีนป่ายกำแพงขนาดใหญ่ที่เขาเลือกบน El Capitan เรียกว่า Freerider ซึ่งเป็นทางที่ Alexander Huber ผลิตขึ้นในปี 1998 แล้วก็ให้แต้มความยากอยู่ที่ 5.13a (7c+) ไม่มีนักกีฬาปีนเขาใครกันแน่เคยปราบโซโลฟรีบนกำแพงใหญ่ด้วยระดับความยากขนาดนี้ในประวัติศาสตร์การปีนผา ฮอนโนลด์ซึ่งทำ Freerider บ่อยครั้งด้วยเครื่องใช้ไม้สอยปกป้อง เป็นคนประหม่าที่อาศัยอยู่ในรถตู้กับแฟนสาวในขณะนั้น (ในตอนนี้เป็นเมีย) ซานนี แมคแคนด์เลสส์
อเล็กซ์ไปไต่เขากับซานนี แต่ว่าในขณะซานนีป้อนเชือกผ่านกริ๊กรี คุณก็ทำผิดพลาดแล้วก็อเล็กซ์ก็ล้มลง เขาไปพบหมอ ซึ่งพบว่าเขามีลักษณะอาการเจ็บจากการกดทับ อเล็กซ์สารภาพว่าต้องการเลิกกับซานนี ในช่วงฤดูร้อนปี 2016 Alex รวมทั้ง Tommy Caldwell กำลังไต่เขาในโมร็อกโกเพื่อเตรียมตัวสำหรับในการแสดงโซโล่ผู้เดียวของเขา คณะทำงานยังเตรียมพร้อมโดยปรึกษาขอคำแนะนำกันว่าจะวางกล้องถ่ายภาพไว้ที่ไหน
เพื่อถ่ายภาพการปีนของอเล็กซ์ได้ดิบได้ดีที่สุด ในเวลาเดียวกันก็ลดการรบกวนรวมทั้งการรบกวนให้เหลือต่ำที่สุด ผู้อำนวยการผลิตจิมมี่ คุ้นชินกล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นทางจรรยาบรรณสำหรับเพื่อการสร้างสารคดีประเด็นนี้โดยทราบดีว่าอเล็กซ์บางทีอาจเสียชีวิตหน้ากล้องถ่ายรูป อเล็กซ์ยังได้รับการตรวจ MRI เพื่อทำความเข้าใจการโต้ตอบของสมองต่อความหวาดกลัว ในช่วงฤดูใบไม้ตกปี 2016 Alex ข้อเท้าพลิกบน El Capitan ขณะไต่เขาแบบเริ่มแรก (เป็นต้นว่า ใช้เครื่องไม้เครื่องมือคุ้มครองการปีนเขา) ในส่วนแรกของ Freerider
ซึ่งเป็นแผ่นพื้นหลายระดับขนาดยักษ์ที่รู้จักกันในชื่อ Freeblast รวมทั้งให้แต้มที่ 5.11b (6c) ถึงแม้ว่าเท้าของเขาจะบวม แม้กระนั้นอเล็กซ์ก็ยังคงป่ายปีนถัดไปด้วยเหตุว่ากลัวตารางงานของเขาจะช้า ในตอนวันฮาโลวีน อเล็กซ์และก็ซานนีไปเยี่ยมทอมมี่และก็เมียและก็ลูกๆเพื่อสลักฟักทอง สิ่งนี้กระตุ้นให้อเล็กซ์ชี้แจงการอุปถัมภ์ค้ำชูของเขา: คำว่า “ความรัก” มิได้ใช้ในบ้านของเขา เพราะว่าบิดาของเขาขาดความรู้ความเข้าใจสำหรับการสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ Alex รวมทั้ง Tommy โรยตัว Freerider บน El Capitan แล้วก็ Alex
สรุปทางของเขา โดยเสวนาถึงหลักสำคัญที่เขากังวล ส่วนใดส่วนหนึ่งเสนอช่องทางสองทางให้เขาบน Freerider ที่เขาเรียกว่า “มุมเทฟลอน” (ส่วนที่เป็นมุมฉากแล้วก็มีทางเรียบ ผิวลื่น) หรือ “ปัญหาโบลเดอร์” อันดัง (องค์ประกอบกำแพงหินที่สลับซับซ้อนเป็นพิเศษซึ่งเขาจำต้องจบด้วยผู้กระทำระกระโดดหรือท่าที “เตะคาราเต้” ที่กว้าง) ทั้งทีมงานรวมทั้งซานนีเสนอให้ทอดทิ้งแผนนี้ แล้วก็อเล็กซ์เห็นด้วยว่าเขาไม่อยากให้เพื่อนพ้องมองเห็นเขาตายหากเขาล้มขณะกำลังโซโลอย่างอิสระ เขาเข้าใจการเสียชีวิตของอูเอลี สเตค
รวมทั้งพินิจถึงผู้กระทำล้าเสี่ยงของตน สำหรับการทดสอบวิ่ง อเล็กซ์ป่ายปีนขึ้นเขาเอลแคปิตันพร้อมเครื่องไม้เครื่องมือ แต่ว่าหยุดภายหลังจากส่วนพื้นของฟรีบลาสต์ สำเร็จให้ผู้ผลิตภาพยนตร์จิมมี่เริ่มวิตกกังวลสำหรับในการถ่ายทำอเล็กซ์ โดยกลัวว่ามันจะสร้างแรงกดดันให้เขาโดยไม่จำเป็น ช่วงวันที่ 3 เดือนมิถุนายน 2017 อเล็กซ์เริ่มปีนป่าย Freerider ผู้เดียวฟรีบน El Capitan; ซานนีจากไปแล้วก็แสดงความรู้สึกกังวลใจของคุณ ระหว่างที่อเล็กซ์กำลังไต่เขา ลูกเรือเล่าความก้าวหน้าของเขา
และก็สอดส่องอย่างหนักใจเมื่ออเล็กซ์ทำ “ปัญหาโบลเดอร์” เสร็จ ช่างกล้องคนหนึ่งหันหลังหนีเพราะเหตุว่าเขาทนดูไม่ได้ อเล็กซ์ยังคงป่ายปีนถัดไปและก็เสร็จสมบูรณ์โซโลฟรี รวมทั้งฉลองที่จุดสุดยอดร่วมกับจิมมี่รวมทั้งซานนีทางโทรคำศัพท์สารคดีสิ้นสุดลงด้วยเนื้อหาสาระเกี่ยวกับการปีนเขา อเล็กซ์ปราบได้เสร็จใน 3 ชั่วโมง 56 นาที แล้วก็อเล็กซ์กำลังพินิจถึงก้าวถัดไปของเขา
ก่อนที่จะมีการถ่ายทำ ผู้กำกับเอลิซาเบธ ไช วาซาเฮลีรวมทั้งจิมมี่ คุ้นชินจำเป็นต้องดิ้นรนกับการแบ่งแยกทางศีลธรรมแล้วก็การตัดสินใจเบื้องหน้าเบื้องหลังการผลิต Free Solo โดยทราบดีว่าฮอนโนลด์บางทีอาจตายหน้ากล้องถ่ายรูปได้ ท้ายที่สุดพวกเขาก็ตกลงใจเดินเรื่องต่อกับภาพยนตร์ประเด็นนี้รวมทั้งทุ่มเทเวลาบันทึกแนวทางการผลิตของเรื่องเอง โดยเคยชินรวมทั้งคณะทำงานกล้องถ่ายรูปของเขา (นักกีฬาปีนเขาที่มีประสบการณ์ทุกคนเอง) คุยถึงความท้าของการไม่รังแกต่อนักกีฬาปีนเขาอเล็กซ์ ฮอนโนลด์
ด้วยแนวทางการทำให้เขาเสียสมาธิหรือบีบคั้นเขาเลยให้ทำแบบงั้น เพียรพยายามไต่ขึ้นไป ตามคำบอกเล่าของ Vasarhelyiการถ่ายทำโดยปลอดภัยต่อ Honnold เกิดขึ้นได้ด้วยการวางเป้าหมายแล้วก็การฝึกซ้อมให้รอบคอบ เนื่องด้วยช่างกล้องทุกคนเป็นนักกีฬาปีนเขา พวกเขาก็เลยสามารถถ่ายภาพการปีนของฮอนโนลด์จากจุดสำหรับเพื่อชมวิวต่างๆได้อย่างมีคุณภาพ กลุ่มผู้สร้างบันทึกฟุตเทจความยาว 700 ชั่วโมง
โดยใช้กล้องถ่ายภาพ 12 ตัว13 ซึ่งรวมทั้งช่างถ่ายภาพบนพื้น คนถ่ายภาพบนผา กล้องถ่ายภาพสั่งงานระยะไกล และก็เฮลิคอปเตอร์ที่มีเลนส์ 1,000 มิลลิเมตร เพื่อถ่ายวิดีโอ 4K แม้กระนั้น ไมค์ไร้สายไม่สามารถที่จะใช้บันทึกเสียงจากฮอนโนลด์ได้เพราะเขาอยู่ห่างจากกล้องถ่ายรูปมากมาย ผลก็คือ กลุ่มผู้ผลิตได้สร้างวัสดุอุปกรณ์บันทึกเสียงแบบพิเศษและก็ให้ฮอนโนลด์พกมันไว้ภายในถุงชอล์กของเขา
รีวิว ดูหนัง Free Solo (2018)
ถ้าหากคุณกลัวความสูง “Free Solo” ไม่ใช่ภาพยนตร์สำหรับคุณ มันเป็นภาพเสมือนของชายคนหนึ่งที่ไต่ผาโดยไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือนิรภัยตามเดิม — ไม่มีเชือก ไม่มีสายสำหรับรัด มีเพียงแต่ถุงชอล์กและก็มือเปล่า — แล้วก็มันยิ่งน่าสะพรึงกลัวเพิ่มขึ้นเมื่อใช้งาน ของเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพที่ออกจะใหม่ ซึ่งรวมทั้งโดรน แท่นควบคุมระยะไกล รวมทั้งเลนส์ซูมที่ยาวเป็นพิเศษ ซึ่งล่อใจผู้ชมไว้ตรงนั้นพร้อมด้วยอเล็กซ์ ฮอนโนลด์ในเวลาที่เขาไต่ขึ้นเขากำแพงสูง 3,000 ฟุตโดยไม่มีอะไรจะคุ้มครองป้องกันการล้มของเขา
ปัจจุบันนี้ สำหรับคนที่รักความระทึกใจของเอกสารการเสี่ยงอันตรายที่ให้อะดรีนาลีนหลั่งสูง “Free Solo” ของ National Geographic จะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะขึ้นไปด้านบน แต่กระนั้น เพื่อเป็นการติดตามผลจาก “Meru” ซึ่งได้ผลหน้าที่การงานไต่เขาที่น่าทึ่งจริงๆผู้กำกับร่วม Elizabeth Chai Vasarhelyi และก็ Jimmy Chin เอาชนะตนเองด้วยโปรเจ็กต์บ้าบิ่นนี้ ซึ่งปรารถนาคณะทำงานที่ เต็มอกเต็มใจที่จะแขวนอยู่ด้านข้างตัวแบบของพวกเขากับความท้าสำหรับการโซโล่คนเดียวที่น่าตื่นเต้นที่สุดของเขา (อย่างต่ำกลุ่มกล้องถ่ายภาพก็ระแวดระวังไว้ก่อน)
ความคลั่งไคล้ปัจจุบันของ Honnold นั้นบ้าที่สุด: เขาอยากที่จะเป็นคนแรกที่ไต่ระดับ El Capitan ที่สูงเกือบจะกิโลในอุทยานแห่งชาติ Yosemite โดยมิได้รับการปกป้องคุ้มครอง (การก่อตัวของหินที่ชอบมีอันตรายถึงชีวิต El Cap อ้างถึงว่ามีชีวิตอีกสองคนเมื่อมิถานายนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมานี้) ในด้านความรื่นเริงใจอย่างแท้จริง โน่นจะก่อให้สารคดีที่นั่งแถวหน้าประเด็นนี้อยู่ในกรุ๊ปที่มีการแสดงโลดโผนหน้ากล้องถ่ายรูป ยกตัวอย่างเช่น แฮร์รี องค์การอนามัยโลกดินี่ดิ้นหลุดจากเสื้อเกราะในอากาศ
หรือการจับคู่ความตายอย่างคลั่งระหว่างมนุษย์กับปลาฉลามขาวผู้มีอิทธิพลผู้ผลิตสตันท์ ใบเสร็จรับเงิน ซาร์เจนท์ ลงสู่สนามในวันนั้น ได้โอกาสจริงมากมายที่คุ้นชินซึ่งนับว่าฮอนโนลด์เป็นเพื่อน จะเป็นคนบันทึกการตายของเขา“ทดลองจินตนาการถึงการบรรลุเป้าหมายระดับเหรียญทองโอลิมปิกที่ถ้าหากคุณมิได้รับรางวัลเหรียญทอง คุณจำเป็นต้องตาย” ทอมมี่ ติดอยู่ลด์เวลล์ นักกีฬาปีนเขามากมายประสบการณ์ที่เคยทำ El Cap หลายที … แต่ว่าไม่เคยขาดเชือกเลย ติดอยู่ลด์เวลล์ยังเตือนอีกว่า “ฉันมีความรู้สึกว่าทุกคนที่ทำอาชีพโซโลอย่างอิสระได้ตายไปแล้วในขณะนี้” – ข้อคิดเห็นที่เริ่มการตัดต่อตำนานที่แวดวงกีฬาที่ตายไปแล้ว
แน่ๆว่า ถ้าเกิดฮอนโนลด์เสื่อมถอยระหว่างที่เขาป่ายปีน พวกเราก็น่าจะเข้าใจนี้แล้ว ซึ่งทำให้สารคดีสไตล์เรียลลิตีโทรทัศน์น่าเร้าใจน้อยกว่าที่คิดไว้น้อย (เป็นการตัดบทสัมภาษณ์เบื้องหน้าเบื้องหลังการผลิตนักแสดงกับแม่และก็แฟนสาวของฮอนโนลด์ ไม่ค่อยสบายใจว่าการตะกายนั้นอันตรายมากขนาดไหน) แต่กระนั้น ก็มีการกล่าวบางสิ่งที่แม้กระทั้งช่างถ่ายรูปเลนส์ยาว Mikey Schaefer พบว่าตนเองหันหลังกลับตลอดระยะเวลาในเวลาที่อันตรายที่สุดของการบรรลุเป้าหมายนี้ เป็นต้นว่า “The Boulder Problem”
ซึ่งเป็นจุดที่นักกีฬาปีนเขาจำต้องเตะคาราเต้ผ่านพื้นที่เปิดโล่งเตียนที่สูงกว่า 2,000 ฟุต เพื่อรักษาฐานปฏิบัติการถัดไปของเขา แน่ๆว่าเกิดเรื่องที่น่าดึงดูดอย่างมากที่ได้ทราบจะกับ Honnold วัย 30 ปี ซึ่งเกี่ยวพันกับการพยายามพินิจพิจารณาทางใจของใครซักคน ซึ่งจากที่หมอกระทำการตรวจ MRI ก่อนไต่เขา พบว่าไม่มีรูปแบบการทำงานของต่อมทอนซิลในสมองเมื่อจำเป็นต้องพบเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความหวาดกลัวในคนอื่น กลุ่มผู้ผลิตเจาะลึกเรื่องราวเบื้องหน้าเบื้องหลังของเขา
โดยวาดรูปวัยเด็กที่มิได้ไม่ดีเหมือนปกติเป็นพิเศษ และก็ปฏิบัติต่อความเกี่ยวเนื่องที่กำลังเริ่มของเขากับซานนี แม็กแคนเลส แฟนสาวที่ให้การช่วยเหลือ/รู้เรื่องได้อย่างไม่น่าเชื่อของเขา ในฐานะที่มาที่ไปของดราม่า โดยธรรมชาติแล้ว คุณไม่ต้องการที่จะอยากมองเห็นฮอนโนลด์ล้ม (ใครกันแน่ทำ?) แม้กระนั้นคุณก็มีส่วนรับผิดชอบต่ออาการบาดเจ็บสองครั้งที่แล้วปีนป่ายที่นำไปสู่ความแพ้พ่ายรุนแรง
แม้ว่าจะมีสำนวนโวหารที่น่าคับอกคับใจในสังคม (เป็นสุดที่รักมากยิ่งกว่าการวางเฉย) แต่ว่าฮอนโนลด์ก็เป็นตัวเอกที่น่าดึงดูด เคลื่อนแล้วก็ดูอย่างกับว่าหุ่นยนต์สำหรับเพื่อการพินิจพิจารณาเหตุการณ์ (“ถ้าเกิดฉันตาย คุณจะเจอบุคคลอื่น ไม่ใช่เรื่องสำคัญ”) เขาเป็นเพศชายสวยที่มีดวงตาสีน้ำตาลขนาดใหญ่ทำให้เขาดูอย่างกับว่าเด็กโต — เย้ายวนใจคนแก่ที่มีความรับผิดชอบในตัวเราทุกคนเป้าหมายว่าจะมีคนพูดเขาออกมาจากการปีนป่ายปีนที่ประมาทนี้
แต่ว่าแน่ๆว่า เขาจะผิดกีดกั้น รวมทั้งภาพยนตร์หัวข้อนี้คงจะดีมากกว่านี้ถ้าหากผู้กำกับตัดเวลา 20 ถึง 30 นาทีของการหยุดที่เน้นย้ำความระทึกใจออกไป แล้วก็ใช้กลยุทธ์ย่อยที่สะดุดตาเยอะขึ้น ยกตัวอย่างเช่น แนวทางที่พวกเราเตรียมพร้อมสำหรับเพื่อการป่ายปีน (เป็น อนุญาตให้โบลต์ได้ รวมทั้งเขาทำอะไรเพื่อหาอาหารรวมทั้งน้ำ) หรือความนึกคิดที่ครุ่นคิดตรึกตรองของคนอาทิเช่นเวอร์เนอร์ เฮอร์ซ็อก (ซึ่งเอกสารเกี่ยวกับภูเขาไฟ “Into the Inferno” คาดการณ์เกี่ยวกับสิ่งที่ยั่วยวนใจมนุษย์ให้พบเจอกับความท้าที่รุนแรงแบบนี้)
นอกเหนือจากการขยายเวลาอย่างช้าๆในรอบชั่วโมงแล้ว กลุ่มผู้ผลิตยังรักษาสิ่งต่างๆให้สดชื่น (ด้วยการช่วยเหลืออย่างยิ่งจากเพลงที่ทำให้ชีพจรเต้นเร็วขึ้นของมาร์โก เบลยี่ห้อมี ซึ่งตรงกันข้ามกับซิงเกิลตอนสุดท้ายเครดิตที่พุ่งทะยานของทิม แมคกรอ “Gravity”) ที่มีการวิ่งทดลอง ที่ป้อมแสงเดือนของอุทยานแห่งชาติ Zion แล้วก็ผาหินปูนชันในเมือง Taghia ประเทศโมร็อกโก แม้กระนั้น เหตุทั้งหมดทั้งปวงนี้กลับมีสิ่งหนึ่งที่มิได้กล่าวไว้มากสักเท่าไรนัก: “อย่าทดลองทำที่บ้าน”
คำเสนอแนะเบื้องต้นสำหรับคนที่บางทีอาจพึงพอใจเล่นกีฬา เนื่องมาจากภาพยนตร์ที่น่าระทึกใจนี้จำเป็นต้องสร้างแรงดลใจให้กับผู้เอาอย่าง (ดูเหมือนจะทุกคนจะ จบท้ายแพนขนมเค้กบนหินแกรนิตเพื่อพากเพียรเอาชนะการบรรลุผลนี้)“ฉันเคยบอกคุณหรือยังว่าฉันเป็นโรคกลัวความสูง” ฉันเขียนบรรณาธิการของฉันที่ไซต์นี้เมื่อเขามอบหมายให้ฉันวิเคราะห์ภาพยนตร์ประเด็นนี้ ความเงียบของเขาสำหรับการสนองตอบเป็นคารมคมคายถึงแม้ยังคงเปิดกว้างสำหรับในการตีความหมายฉันมิได้มีลักษณะเวียนหัวมากเกินความจำเป็นขณะมอง “Free Solo”
สารคดีที่น่าสนใจจิตใจเกี่ยวกับอเล็กซ์ ฮอนโนลด์ นักกีฬาปีนเขาผู้มีชื่อเสียงซึ่งชอบขึ้นเขาผาโดยจำเป็นต้องพบเจอความสูงหลายพันฟุตโดยไม่มีวัสดุอุปกรณ์ไต่เขา มีเพียงแค่เขา มือรวมทั้งเท้า แล้วก็กระเป๋าเล็กๆที่แขวนลงมาจากสายรัดเอว ซึ่งมีผงที่ทำให้มือแห้งเพื่อเขาจับหน้าหินได้ดิบได้ดีขึ้น ถึงแม้ว่าวิวมุมสูงที่ถ่ายโดยผู้ผลิตภาพยนตร์ Jimmy Chin และก็ Elizabeth Chai Vasarhelyi อาจส่งผลให้วิงเวียนได้จริงๆแต่ว่าฉันใช้เวลาสำหรับในการมองสิ่งพวกนั้นน้อยกว่าที่ฉันเคยมองที่ Honnold โดยห้อยอยู่บนผิวแนวดิ่งทั้งปวง และก็กล่าวว่าอาจดังเหลือเกินนิดหน่อยสำหรับการฉายภาพยนตร์ ห้อง “คุณจะออกไปจากที่โน่น…”
Watch the movie Free Solo (2018), climb to the death.
is a 2018 American documentary film directed by Elizabeth Chai Vasarhelyi and Jimmy Chin that follows rock climber Alex Honnold on his mission to perform the first free solitary climb on El Capitan in Yosemite National Park. In June 2017, the film premiered at the Telluride Film Festival on August 31, 2018. It also screened at the 2018 Toronto International Film Festival, where it won the People’s Choice award. Award in the documentary category6
It was released in the United States on September 28, 2018 and has grossed more than $28 million. The film has received praise from critics and many awards. Winner of the Best Documentary Award at the 91st Academy Awards, mountaineer Alex Honnold dreams of freelancing on the 900-foot-tall rock walls of El Capitan in Yosemite National Park. A completion that no one had ever done before.
The big wall climb he chose on El Capitan is called Freerider. It was created by Alexander Huber in 1998 and has a difficulty rating of 5.13a (7c+). No other athlete has ever climbed it. Take on a free solo on the biggest wall in the history of rock climbing. Honnold, who often makes Freerider appearances with protective gear, Was a nervous guy who lived in a van with his girlfriend at the time. (now wife) Sanni McCandless
Alex goes hiking with Zanni. But at that moment Zanni fed the rope through Grigri. Then you made a mistake and Alex collapsed. He went to see a doctor, who found he was suffering from compression pain. Alex confesses that he wants to break up with Zanni. In the summer of 2016, Alex and Tommy Caldwell were hiking in Morocco in preparation for his solo show. The working group is also preparing by consulting and asking for advice on where to place the camera.
to capture the best possible rawness of Alex’s climb. At the same time, interference and interference are reduced to a minimum. Executive Producer Jimmy The actor has previously discussed the ethical issues of making the documentary, knowing that Alex might die on camera. Alex also had an MRI scan to understand his brain’s response to fear. In the fall of 2016, Alex sprained his ankle on El Capitan while climbing a traditional climb (i.e., using climbing protection equipment) on the first section of Freerider.
, a giant multi-level slab known as Freeblast, also scored a 5.11b (6c) despite his swollen feet. But Alex continued to climb, fearing his schedule would be slow. In the Halloween episode Alex and Zanni visit Tommy and his wife and children to carve pumpkins. This prompts Alex to clarify his patronage: the word “love” is not used in his house. Because his father lacks the ability to form an emotional connection, Alex and Tommy rappel the Freerider on El Capitan and Alex
Summary of his way By discussing the important principles that concern him. One section offered him two lanes on the Freerider that he called “Teflon Corners” (the right-angled section has a smooth, slippery surface) or the famous “Boulder Problem” (the wall elements (The team, including Zanni, offered to abandon the plan. Alex also agreed that he didn’t want his teammates to see him die if he fell while soloing freely. He understands Ueli Stake’s death.
Including considering those who take risks. for testing runs Alex climbs El Capitan with all the tools. But it stopped after the ground part of Free Blast. This made film producer Jimmy begin to worry about filming Alex. Fearing that it would put unnecessary pressure on him, on June 3, 2017, Alex began his solo Freerider climb on El Capitan; Zanni leaves and expresses your nervous feelings. While Alex was hiking The sailor recounted his progress.
and looked hard when Alex did After the “Boulder Problem” was finished, one cameraman turned away because he couldn’t stand it. Alex continued to climb the next climb and completed a free solo. and celebrating the summit with Jimmy and Zanni over the phone, the documentary concludes with a bit about climbing. Alex finished in 3 hours and 56 minutes and Alex is now considering his next move.
Before filming Director Elisabeth Tsai Vasaheli and Jimmy Frequently struggling with the moral dichotomy and decision-making behind the production of Free Solo, knowing Honnold could die in front of the camera. Ultimately, they decided to move forward with the film and devoted time to documenting the film’s production. He used to include his camera crew. (all experienced climbers) discuss the challenges of not bullying fellow climber Alex Honnold.
By means of distracting him or forcing him to do something like that. Try hard to climb up. According to the story of Vasarhelyi Safety shooting against Honnold is possible with careful planning and practice. Because all the cameramen are mountain climbers. Free Solo They were able to take quality photos of Honnold’s climb from various vantage points. The group recorded 700 hours of footage.
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังฝรั่ง เรื่อง Free Solo (2018) ปีนท้าตาย หนังประเภท Adventure ผจญภัย เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนัง ออนไลน์ หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
5.6