For Your Eyes Only 007 (1981) เจมส์ บอนด์ 007 ภาค 12: เจาะดวงตาเพชฌฆาต
เรื่องย่อ
เจมส์ บอนด์ (Roger Moore) ต้องตามหาอุปกรณ์ที่ชื่อว่า ATAC ซึ่งมันเป็นเครื่องควบคุมการยิงขีปนาวุธ ถ้าบอนด์หาไม่เจอแล้วของตกไปอยู่ในมือคนผิดขึ้นมา เรื่องเลวร้ายต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งการผจญภัยครั้งนี้ก็นำบอนด์ไปพบกับ เมลีน่า เฮฟล็อก (Carole Bouquet ) สาวชาวกรีกที่สวยและเข้มแข็ง ที่กำลังหาร่องรอยคนฆ่าพ่อแม่ของเธอ บอนด์ก็ต้องปกป้องเธอพร้อมทั้งร่วมมือกับเธอในการตามหาคนร้ายตัวจริง เพราะเป็นไปได้ว่า คนที่ฆ่าพ่อแม่เธอและคนที่หาทางชิงเครื่อง ATAC ไปนั้นจะเป็นคนเดียวกัน For Your Eyes Only 007
ผู้กำกับ
- John Glen
บริษัท ค่ายหนัง
- Eon Productions
นักแสดง
- Roger Moore
- Carole Bouquet
- Topol
- Lynn-Holly Johnson
- Julian Glover
- Cassandra Harris
- Jill Bennett
โปสเตอร์หนัง
รีวิว เจมส์ บอนด์ 007 ภาค 12
หลังจากเจมส์ บอนด์ตอน Moonraker ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทำให้ผู้อำนวยการสร้าง Albert R. Broccoli รู้สึกเบาใจ คลายความกดดันที่มีในการสร้างหนังบอนด์ลงไปมาก เพราะก่อนหน้านี้เขาต้องพยายามทำบอนด์ออกมาตามกระแสเพื่อดึงความนิยม แต่พอตอนนี้ผู้ชมให้การตอบรับดีขนาดนี้ เขาเลยตัดสินใจที่จะหยุดการตามกระแส แล้วหันมาสร้างหนังบอนด์ตามฉบับดั้งเดิมในนิยาย For Your Eyes Only 007 ที่มีความเข้มข้น มีบทที่แน่น (แน่นอนว่าจะออกแนวเครียดขึ้น อารมณ์ขันน้อยลง) ซึ่ง Broccoli ก็ประกาศเลยครับว่าบอนด์ภาคต่อไปจะมีคุณภาพมากขึ้น และบทก็จะเฉียบคมขึ้น จะเน้นที่ไหวพริบของบอนด์มากกว่าอุปกรณ์แบบตอนที่ผ่านๆ มา
ในระหว่างการเตรียมงานสร้าง ก็มีข่าวที่ฮือฮาขึ้นมา นั่นคือ Steven Spielberg ยังคงอยากกำกับหนังบอนด์สักครั้งอยู่ เลยหาทางติดต่อกับ Broccoli และตอนกำลังเจรจานั้นเอง Spielberg ก็ได้ไปสนทนากับ George Lucas และ Lucas ก็เสนอโครงการทำหนังอินเดียน่า โจนส์ขึ้นมา แล้ว Spielberg ก็ไม่ได้กำกับหนังบอนด์อีกจนได้ พอ Spielberg ไม่ได้มากำกับบอนด์เป็นที่แน่นอนแล้ว Broccoli ก็ต้องควานหาคนกำกับอีกครั้ง ซึ่งเขาเห็นว่า Lewis Gilbert ผู้กำกับจากสองตอนก่อนอาจไม่เหมาะกับงานเครียดๆ แบบที่เขาต้องการ Gilbert จึงถูกเปลี่ยนออก ส่วนผู้กำกับรายที่ทีมงานหมายตา คือ Peter Hunt ที่เคยทำหนังบอนด์ตอน On Her Majesty’s Secret Service (1969) พอติดต่อไป Hunt เกิดไม่ว่างครับ ติดทำหนังเรื่อง Death Hunt (1981) อยู่
ในที่สุด Broccoli ก็มอบตำแหน่งผู้กำกับให้ John Glen มือตัดต่อและผู้กำกับกองสองของหนังบอนด์ For Your Eyes Only 007 ซึ่งเขาคนนี้ทำงานในกองมาหลายตอนแล้ว และผลที่ออกมาก็นับว่าน่าพอใจ ซึ่งการเลือกครั้งนี้ถือเป็นการเลือกโดยอิงวิธีการเดียวกับสมัยที่ Peter Hunt ได้เลื่อนขั้นจากผู้กำกับกองสองมาเป็นตัวจริง คนเขียนบทก็ได้ Richard Maibaum เจ้าเก่า มาแท็กทีมกับ Michael G. Wilson ลูกเลี้ยงของ Broccoli ช่วยกันสร้างเรื่องให้เข้มข้นปนอารมณ์สายลับแบบดั้งเดิม โดยเอาโครงเรื่องมาจาก For Your Eyes Only อันเป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นของบอนด์ แล้วก็ผสมโครงจากนิยายตอน Live and Let Die และ Golfinger ลงไปด้วย
พล็อตเริ่มด้วย เครื่อง ATAC ที่มีไว้สั่งยิงจรวดขีปนาวุธของเรือดำนำอังกฤษถูกขโมยไป บอนด์ (Roger Moore) จึงต้องตามมันกลับคืนก่อนที่ผู้ขโมยมันไปจะนำไปใช้ก่อเหตุร้าย โดยที่ผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นวายร้ายมีสองคน รายแรกคือ อริสโตเติ้ล คริสตาทอส (Julian Glover) นักธุรกิจชาวกรีกที่คุมระบบสายลับในกรีกเกือบทั้งหมด กับ มิลอส โคลัมโบ (Chaim Topol) ผู้มักจะอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ไม่สงบในกรีก แล้วใครกันคือผู้บงการใหญ่ตัวจริง
แล้วบอนด์ก็เดินทางถึงพื้นโลกโดยสวัสดิภาพครับ For Your Eyes Only เป็นการผสมระหว่างบอนด์สไตล์ Moore ที่แฝงอารมณ์ขัน ดูเพลินสร้างความบันเทิงได้ ขณะเดียวกันก็ได้รสชาติหนังสายลับขนานแท้แบบ From Russia With Love บอนด์ภาคนี้จึงเรียกผู้ชมได้ครบเช่นเคยทั้งคอบอนด์เก่าและใหม่ รายได้เลยสวยงามครับ $195.3 ล้านจากทั่วโลก คือเครื่องการันตีว่าบอนด์นั้น ไม่ต้องตามกระแสก็ฮิตได้ด้วยตัวมันเอง และในภาคนี้ผู้สร้างยังแอบแฝงความสะใจเล็กๆ ไว้ด้วย ดังที่ทราบกันดีนะครับว่า Broccoli อยากเอาองค์กร SPECTRE และโบลเฟลด์กลับมาตีกับบอนด์ต่อ แต่ก็เจอตอดุ้นเบ้อเริ่มอย่าง Kevin McClory ที่ขู่แล้วขู่เล่าว่าห้ามเอาโบลเฟลด์ไปขึ้นจอเชียวล่ะ ไม่งั้นฟ้องแน่ พอขู่มากๆ Broccoli ก็รำคาญครับ ทำการตอก McClory กลับไปในฉากแรกของหนังตอนนี้
โดยหนังจะเริ่มเรื่องตอนที่บอนด์กำลังไปเคารพศพภรรยาที่เสียชีวิต (และคนสังหารภรรยาเขาก็คือโบลเฟลด์นั่นแหละ) แต่เพียงไม่นานก็มีคนเอาเฮลิคอปเตอร์มารับเขาไป โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งจากทางการ พอบอนด์ขึ้นไปเท่านั้นล่ะ ความจริงก็ปรากฏ แท้จริงแล้วมันเป็นแผนของชายลึกลับ หัวล้าน สวมชุดสีเบจที่นั่งอยู่บนรถเข็น มันตั้งใจจะเก็บบอนด์ แต่บอนด์ใช้ความสามารถประจำตัวในการแก้ปัญหา ขับฮอไล่ชนเจ้านั่นแทน ผลสุดท้ายชายลึกลับก็โดนบอนด์เอาไปโยนทิ้งลงปล่องไฟ ชนิดที่ไม่น่ารอดได้แน่ๆ (รอดได้ก็สไปเดอร์แมนแล้วครับ)
แม้จะไม่มีการเอ่ยชื่อและไม่มีในเครดิต แต่ใครๆ ก็รู้ว่าหมอนั่นต้องเป็นโบลเฟลด์อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเป็นการประกาศว่า หนังเจมส์ บอนด์ 007 ไม่ต้องมีโบลเฟลด์ก็ดังได้อยู่ดี… และมันก็จริง เพราะภาคนี้สนุก เข้มข้น For Your Eyes Only 007 สาวบอนด์ประจำตอนอย่าง Carole Bouquet ในบทเมลิน่า เฮฟเวล็อค ก็สวยคม แกร่งไม่แพ้ชาย เซ็กซี่ได้โดยที่ไม่ต้องนุ่งน้อยชิ้น ด้านดาราสมทบอย่าง Glover ก็นับว่าแสดงได้อย่างดีครับ เช่นเดียวกับ Topol ที่ขโมยซีนในหลายวาระทีเดียว, Cassandra Harris มารับบทเป็นเมียเก็บของคริสตาทอส ซึ่งเธอคนนี้คือภรรยาตัวจริงของ Pierce Brosnan ครับ
ส่วนตัวละครสมทบขาประจำอย่าง Desmond Llewelyn ในบท Q และ Lois Maxwell ในบทมิสมันนี่เพนนี ก็ยังคงกลับมาเช่นเดิมครับ ยกเว้น Bernard Lee เจ้าของบท M ที่เสียชีวิตไปก่อนหนังเรื่องนี้จะเปิดกล้อง ทำให้บทหนังภาคนี้กำหนดให้ M ไม่อยู่ (เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ) และให้ตัวละครที่ชื่อ จอฟฟรี่ย์ เกรย์ (Geoffrey Keen) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมมาทำหน้าที่การมอบภารกิจให้บอนด์แทน
และอยากจะบอกว่าเพลงนำในตอน For Your Eyes Only นั้นน่ะ ก็ไพเราะเช่นกันครับ ได้เข้าชิงออสการ์เหมือนกัน เพราะมากอีกเพลงครับ (ที่ผมชอบสุดๆ ก็มีสองเพลงนี่แหละ เพลงนึงก็ Nobody Does It Better จาก The Spy Who Loved me อีกเพลงก็เนี่ยแหละครับ) สำหรับบอนด์ภาคนี้จัดว่าสนุกครับ เข้มข้น มีพล็อตชวนติดตาม มีการทิ้งปมการไขปมที่น่าสนใจ อีกทั้งโลเกชั่นก็นับว่าสวยครับ ยิ่งตรงฉากไคลแม็กซ์ช่วงท้ายนั่น ถือว่าสวยและให้อารมณ์คลาสสิกดีเหมือนกัน จัดว่าบอนด์ภาคนี้เข้มข้นเข้าขั้น แม้จะไม่ถึงระดับ From Russia With Love แต่ก็ยังพูดได้เต็มปากว่าได้ระดับอยู่ดี
For Your Eyes Only กำกับโดย John Glen และดัดแปลงจากบทภาพยนตร์ของ Richard Maibaum และ Michael G. Wilson จากเรื่องราวต้นฉบับของ Ian Fleming นำแสดงโดย Roger Moore, Carole Bouquet, Julian Glover, Topol, Michael Gothard และ Jill Bennett ดนตรีประกอบโดย Bill Conti และถ่ายภาพโดย Alan Hume Bond 12 และ 007 ได้รับมอบหมายให้ค้นหาที่อยู่ของ ATAC ซึ่งเป็นอุปกรณ์ลับที่ส่งคำสั่งไปยัง Polaris ที่บรรทุกเรือดำน้ำ เขาต้องทำอย่างรวดเร็วเพราะโซเวียตก็กำลังไล่ตามเช่นกัน และพวกเขาดูเหมือนจะได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าพ่อการเดินเรือที่ร่ำรวย
แม้ว่า Moonraker จะทำรายได้มหาศาล แต่ Albert Broccoli ก็รู้สึกแย่กับคำวิจารณ์ที่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เบี่ยงเบนไปจากสูตรพื้นฐานของ 007 มากเกินไป เขาทำตามสัญญาที่จะพาบอนด์กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง และส่วนใหญ่แล้วเขาก็ประสบความสำเร็จในการสร้าง For Your Eyes Only 007 ให้เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญที่ลดทอนรายละเอียดลง การพึ่งพาเวทมนตร์ไฮเทคมากเกินไปนั้นหายไปแล้ว มัวร์ (ซึ่งแสดงได้ดีที่สุดในฐานะบอนด์) กลับมาเป็นคนติดดินอีกครั้ง โดยเป็นบอนด์ที่ใช้ไหวพริบและความแข็งแกร่งเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ยุ่งยาก และภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ฉากต่อสู้ที่สะเทือนขวัญสั้นๆ แทนที่จะเป็นฉากต่อสู้ขนาดใหญ่ที่ฉากใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังมีความตึงเครียดมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนจบ ซึ่งพลุไฟบิ๊กแบงถูกแทนที่ด้วยสำเนียงการจู่โจมบนยอดเขา ซึ่งบอนด์ใช้เชือกผูกรองเท้าบู๊ตเพื่อช่วยชีวิตตัวเอง!
นี่คือบอนด์ที่เราชื่นชอบและชื่นชม เราได้เห็นการกลับมาของการเกี้ยวพาราสีเล็กน้อยระหว่างมันนี่เพนนี (ลอยส์ แม็กซ์เวลล์) และบอนด์ ในขณะที่คิว (เดสมอนด์ ลูเวลลิน) อยู่ในฟอร์มที่เฉียบแหลม ตัวละครมีความแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ โทโพล (มีเสน่ห์และขโมยซีนได้ดี) และโกลเวอร์เป็นตัวละครที่น่าสนใจ โดยโกลเวอร์เล่นเป็นคริสตาทอสได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้แฟรนไชส์นี้มีตัวร้ายที่มีวัฒนธรรมและน่าเชื่อถือ เมลิน่า ฮาเวล็อค (รับบทโดยบูเก้) เป็นคนแข็งแกร่งและมุ่งมั่นในการล้างแค้นพ่อแม่ที่ถูกฆ่า เธอใช้หน้าไม้เป็นมือปืนที่ทำให้เธอกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดที่แข็งแกร่งให้กับบอนด์
และโชคดีที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้ติดขัดระหว่างภารกิจเพราะมุมมอง “ระหว่างเตียง” ในส่วนอื่นๆ จอห์น เกล็นน์ บรรณาธิการของ 007 กำกับภาพยนตร์บอนด์เรื่องแรกจากทั้งหมด 5 เรื่อง ซึ่งถือเป็นการออกฉายครั้งแรกที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะฉากใต้น้ำที่สะดุดตาเป็นพิเศษ ฮูมทำให้เกาะคอร์ฟูมีชีวิตชีวาขึ้นด้วยเลนส์สีของเขา และคอนติก็ดูแลเพลงประกอบภาพยนตร์ชุดที่ดีที่สุดเพลงหนึ่งของซีรีส์ ซึ่งเป็นเพลงที่มีความงามทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งโดยชีน่า อีสตัน คะแนนโดยรวมของเขาอยู่ในระดับที่เหมาะสม มีอารมณ์ชาตินิยมที่เหมาะสม แต่เพลงประกอบก็ทรงพลังมากจนยังคงอยู่ในความทรงจำของแฟนๆ บอนด์ทุกคนจนถึงทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม ในโลกบอนด์ที่เรียบง่ายนี้ก็ไม่ได้ดีไปเสียหมด ฉากก่อนเครดิตทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงด้วยการปฏิเสธการไปเยี่ยมหลุมศพของเทรซีย์ ภรรยาผู้ล่วงลับของบอนด์ โดยให้เขาผลักและล้อเลียนคนร้ายหัวโล้นที่นั่งอยู่บนรถเข็น (ตั้งใจให้เป็นโบลเฟลด์หรือเปล่านะ) โดยมีบทพูดและการนำเสนอที่ไม่น่าเชื่อผสมผสานอยู่ด้วย ตัวละครบีบี ดาห์ลของลินน์-ฮอลลี จอห์นสันนั้นไร้จุดหมายอย่างยิ่ง ไม่เข้าพวก และไม่จำเป็นต่อเนื้อเรื่อง ในขณะที่ฉากไล่ล่าบางฉากซึ่งสนุกและกระตุ้นความตื่นเต้นกลับยืดเวลาออกไปมากเกินไปและทำให้เวลาฉายยาวนานเกินความจำเป็น อย่างไรก็ตาม For Your Eyes Only 007 บอนด์กลับมาเป็นผู้ชายอีกครั้งแทนที่จะเป็นคนกดปุ่ม และฉากที่ยอดเยี่ยมอย่างอันตรายที่ต้องลากกระดูกงูเรือ For Your Eyes Only ประสบความสำเร็จอย่างมากโดยกวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 195 ล้านเหรียญสหรัฐ เสน่ห์ของเจมส์ บอนด์และผู้ชายที่รับบทเป็นเขานั้นเป็นที่นิยมอย่างมาก 8/10
ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Hidden Face (2025) เล่ห์ร้อนซ่อนชู้
Acceleration (2019) เร่งแรง…ทะลุพิกัด
6.9