Final Score (2018) ยุทธการดับแผน ผ่าแมตช์เส้นตาย
เรื่องย่อ
90 นาที 35,000 ชีวิต Final Score (2018) ยุทธการดับแผน ผ่าแมตช์เส้นตาย นี่คือแมตช์ฟุตบอลที่ทั้งโลกจะต้องจดจำ เมื่อสนามฟุตบอลเวสต์แฮมถูกยึดในนัดปิดบ้าน แฟนบอลทั้งหมดถูกจับเป็นตัวประกันในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง มีเพียงชายคนเดียวที่จะหยุดยั้งมันได้ พบกับภารกิจสุดระห่ำของหนึ่งอดีตทหารฝีมือฉกาจ ไมเคิล น็อกซ์ กับการหยุดวินาศกรรมกลางสนามบอลที่มีเวลาเพียง 90 นาที เพื่อช่วยเหลือลูกสาวของเพื่อนผู้ล่วงลับ ในสนามฟุตบอลที่ถูกบุกยึดโดยกลุ่มอาชญากรติดอาวุธครบมือ
ผู้กำกับ
Scott Mann
บริษัท ค่ายหนัง
Signature Films
นักแสดง
- Martyn Ford
- Gordon Alexander
- Alexandra Dinu
- Peter Pedrero
- Nick Rowntree
- Ray Stevenson
โปสเตอร์หนัง
รีวิว
รีวิว Final Score (2018) ยุทธการดับแผน ผ่าแมตช์เส้นตาย
ดูเอามันส์ล้วนๆ หนังบู๊ระห่ำ แอคชั่นกระจาย !!
[**No Spoil เนื้อหาสำคัญ]
..
หนังสูตรสำเร็จรูป มาพร้อมกับบทเชยๆ เดาทางง่าย คิวบู๊สมัยพระเจ้าเหา แต่.. หนังสนุกมาก !! หนังบู๊ระห่ำ มันส์แบบไม่ต้องมีความสมเหตุสมผลใดๆ มารองรับ พระเอกมีความอึดเหนือมนุษย์มนา ตอนจบนี่ลุ้นให้มี นิค ฟิวรี่ โผล่มาชวนเข้าร่วมทีม Avengers ซะจริงๆ
..
เรื่องนี้ไม่ใช่หนังภาคต่อหนังไทยที่ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์แต่อย่างใด แต่เป็นหนังเกี่ยวกับผู้ชายหุ่นหมีตัวใหญ่อย่าง “เดฟ บาทิสต้า” ที่ตกที่นั่งลำบาก โดนผู้ก่อการร้ายบังคับให้ตามหาตัวผู้ชายคนหนึ่ง ระหว่างเกมการแข่งขันฟุตบอล โดยมีผู้ชมจำนวน 3 หมื่นกว่าชีวิตเป็นตัวประกัน..
..
#ความรู้สึกหลังสดับรับชม
สิ่งที่คาดหวังไว้ก่อนตัดสินใจมาชมภาพยนตร์เรื่องนี้มีเพียงอย่างเดียวครับ Final Score (2018) ยุทธการดับแผน ผ่าแมตช์เส้นตาย คือต้องการความมันส์สะใจของฉากแอคชั่นเพียงเท่านั้น และเรื่องนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ในแง่ความมันส์เทคะแนนให้ไปเลยแบบเต็มสิบคะแนน..
..
“เดฟ บาทิสต้า” กับบทบาทนี้ถือว่าแสดงดีทีเดียว ขนาดเราเองไม่ค่อยจะชอบภาพลักษณ์แกเวลาเล่นหนังเท่าไหร่ ยังอยู่สึกว่าเรื่องนี้โอเค มาคราวนี้ไม่เป็นมนุษย์ล่องหนเหมือนใน Infinity War แล้ว แต่มาบู๊แหลกลานปานร่างกายมึงเป็นกัปตันอเมริกา บางฉากแทบอยากจะตะโกนกลางโรงหนังว่า ไอ้บ้าาาาาา เป็นคนปกติตายไปนานแล้วเว้ยยยย
..
หนังดำเนินเรื่องดีน่าติดตาม ไม่มีอืดอาด ถ้าใครตามรีวิวเราบ่อยๆ จะเห็นว่าเราให้ความสำคัญกับจุดนี้มากกว่าความสมเหตุสมผลของบทหนังอีก ซึ่งเรื่องนี้หลายๆ ฉากก็โคตรจะไม่สมเหตุสมผล ถ้าตัดเรื่องความโอเวอร์ ความอึดเกินมนุษย์ของพี่ล่ำไป มันก็ยังมีหลายฉากที่โจรสามารถฆ่าพระเอกได้ทันที แต่ก็ดันไม่ทำอยู่เยอะพอสมควร
..
อีกจุดที่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบ คือการออกแบบคิวบู๊ค่อนข้างโบราณ และไร้คลาสไปหน่อย รวมถึงมุมกล้องที่ทั้งสั่นและส่ายมากเกินไป #ทีคลิปสาวๆส่ายไปส่ายมาเอ็งดูวนได้เป็นสิบรอบ!! รู้แหละว่าอยากให้มันดูลุ้น ดูสนุก แต่มันมากจนดูไม่รู้เรื่องเลยพี่จ๋า T____T
..
#สรุป.. เป็นหนังสำหรับดูเอามันส์ล้วนๆ เลย สนุก ไม่น่าเบื่อ ดูแล้วอิ่มแน่นอนแม้ไม่ได้ซื้อป๊อปคอร์นเข้าไปกิน
..
ส่วนคนที่อย่าแม้แต่จะคิดตีตั๋วเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ ก็คือกลุ่มคนที่ชอบดูหนังแบบมีความสมเหตุสมผลของบทเยอะๆ เพราะมันจะมีฉากให้คุณหงุดหงิดในหลายๆ ฉากแน่นอน
..
” รสนิยมการดูหนังแต่ละคน ไม่เหมือนกัน
ถ้าคุณคิดว่าใช่ พิสูจน์ด้วยตาของคุณเองดีที่สุด
แล้วอย่าลืมกลับมาคุยกันนะครับ ^^ ”
เห็น Final Score ก็คิดถึงตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ขึ้นมาทันที แต่คราวนี้มาในชื่อไทย ยุทธการดับแผน ผ่าแมตช์เส้นตาย และไม่ได้มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับการสอบ Gat Pat เลย แต่มีเรื่องราวอยู่ในการแข่งขันยูฟ่ารอบรองชนะเลิศที่สนามโบลินกราวนด์ ระหว่างเวสแฮม Final Score (2018) ยุทธการดับแผน ผ่าแมตช์เส้นตาย ยูไนเต็ดและอีกทีมเป็นทีมสมมติขึ้นมานะฮะ เหล่าผู้ก่อการร้ายได้ทำการยึดสนามไว้ โดยที่ผู้ชมในสนามถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่ได้รับรู้เรื่องราว และเกมส์การแข่งขันก็ดำเนินต่อไป ผู้ก่อการร้ายมีข้อเรียกร้องร้องให้ส่งตัวอดีตนักเคลื่อนไหวทางการเมือง(ป๋าเพียซ บอสแนน) ที่ได้เข้ามาดูการแข่งขันในครั้งนี้ แล้วบังเอิ๊ญญญ เฮียเดฟ บาติสต้า ที่เป็นอดีตทหารในกองทัพสหรัฐพาหลานสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มมาดูพอดี๊พอดี จนแกก็เข้าไปพัวพันจนเกิดเป็นเหตุการณ์ในหนัง เรื่องราวคร่าวๆก็ประมาณนี้
ต้องบอกเลยว่าผิดคาด ตอนแรกไม่ได้คิดว่ามันจะดูสนุก แต่กลับตรงกันข้ามแฮะ เป็นหนังแอคชั่นที่ค่อนข้างจะดูสนุกเลยทีเดียว คือดูแล้วบันเทิง แอคชั่นก็จุใจ เรื่องราวก็ไม่ง่อย แล้วก็ไม่ยาก ย่อยง่าย ทำให้มันดูแล้วสนุก ดูไปได้อย่างเพลิดเพลิน แต่มันก็ยังไม่ได้มีอะไรโดดเด่นกว่าหนังแอคชั่นเรื่องอื่นๆ หนังใช้เวลาช่วงไตเติ้ลเปิดของเรื่องปูเรื่องทางการเมืองให้เราพอเข้าใจ และช่วงต้นเรื่องก็ใช้เวลาไม่นานในการปั้นตัวละครลุงไมค์ของบาติสต้าขึ้นมา ซึ่งส่วนตัวก็คิดว่าแค่นั้นมันก็เพียงพอแล้ว หลังจากนั้นเราก็ไปสนุกการฉากแอคชั่นกันเถอะ!!!
ส่วนตัวคิดว่าเดฟ บาติสต้ายังดูไม่เหมาะกับการเป็นนักแสดงนำเท่าไหร่ ถามว่าเข้ากับบทไหม มันก็เข้านะ แต่มันดูไม่มีสเน่ห์ยังไงไม่รู้ ถ้าเทียบกับดเวนย์ จอนสัน(เดอะ ร๊อค) นักมวยปล้ำรุ่นพี่ที่ผันตัวมาเป็นแอคชั่นสตาร์นี่ดูต่างกันเยอะเลย อาจจะอยู่ที่เวลาก็ได้ ในส่วนตัวร้ายมีหลักมีรอง ปั้นให้ดูน่ากลัวได้อยู่ สมน้ำสมเนื้อเลยล่ะ เหตุการณ์ในหนังที่เป็นการแข่งขันฟุตบอลก็ทำได้ดี มีส่วนกับเนื้อเรื่องแบบพอประมาณ
–สปอยล์– บทของเพียซ บอสแนนมาน้อยมากแบบไม่ต้องอยู่หน้าปกก็ได้อ่ะ แต่คิดว่าเป็นแกก็สมควรแล้วเพราะบทค่อนข้างสำคัญต่อเนื้อเรื่องอยู่ แต่ก็นะะ มาน้อยเกิ๊นนน คิดว่าจะมีบู๊ด้วยกันสักหน่อยยย
#สรุป ดูสนุกเกินคาด ย่อยง่าย ดูได้เพลินๆ แอคชั่นดี มันส์ ไปดูเหอะ
เนื้อเรื่องดี กำกับเยี่ยม ฉากแอ็กชั่นดี ความยาวและจังหวะสมบูรณ์แบบ อารมณ์ขันพอใช้ได้ ส่วนใหญ่แล้วการแสดงก็เยี่ยมยอด แม้ว่าบาวซิต้าควรจะแสดงฉากต่อสู้ได้ดีกว่านี้แทนที่จะถอนหายใจเศร้าเมื่อโดนตี Final Score (2018) ยุทธการดับแผน ผ่าแมตช์เส้นตาย และบทสนทนาระหว่างไก่กับเรื่องราวชีวิตกับบรอสแนนขณะที่ลูกสาวของเขาถูกจับก็ดูน่าเบื่อไปนิด แต่ก็เป็นหนังสนุกๆ ที่ดูได้สบายๆ สำหรับฉันแล้ว ให้คะแนน 7/10
ภาพยนตร์แอ็คชั่นระทึกขวัญสัญชาติอังกฤษ-อเมริกัน เรื่องราวของผู้ก่อการร้ายสองคนที่ลักพาตัวหลานสาวของอดีตทหาร และเขาก็ใช้ทักษะทั้งหมดที่มีเพื่อช่วยเหลือเธอและช่วยขัดขวางแผนทำลายล้างล้างครั้งใหญ่ของพวกเขา ภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดมันส์ เสียงดัง กล้าบ้าบิ่น และทรงพลัง คล้ายกับภาพยนตร์เรื่อง Die Hard บาติสตาเล่นเป็นลุงใหญ่ได้อย่างสบายๆ และเขาดูมีความสามารถที่จะรับมือกับผู้ก่อการร้ายได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ความตึงเครียดจึงไม่สูงมากนัก โดยเฉพาะในฉากต่อสู้ที่ดูเหมือนจะออกแบบมาอย่างเกินจริง แต่ฉากที่ซาบซึ้งกินใจนั้นก็เข้ากันได้ดี ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความคาดเดาได้พร้อมกับบทสนทนาที่ค่อนข้างซ้ำซาก แต่เป็นการผลิตที่ยอดเยี่ยม พล็อตเรื่องที่กล้าหาญของผู้ร้ายและการคุกคามที่ไม่ลดละของพวกเขาทำให้เวลาผ่านไปอย่างน่าพอใจ
“Final Score” เป็นอย่างที่คุณคาดหวังไว้และมากกว่านั้นอีกเล็กน้อย Final Score (2018) ยุทธการดับแผน ผ่าแมตช์เส้นตาย เรื่องราวนั้นกระชับและเรียบง่าย และจังหวะของการกระทำก็รวดเร็ว แนวคิดในการจับแฟนฟุตบอลทั้งสนามเป็นตัวประกันนั้นทั้งทันสมัยและเป็นจริง ในความเป็นจริง การสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับเรื่องนี้อาจดูเหมือนเป็นวาล์วระบายความปลอดภัย เพราะหวังว่ามันจะช่วยทำให้ผู้ที่ต้องการนำแผนดังกล่าวมาใช้ท้อถอยได้
คุณสมบัติเพิ่มเติมของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ Amit Shah ในบท Faisal ที่ดูเก้กังเล็กน้อยแต่เป็นคนดีมาก เขาเล่นเป็น Laurel ได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับ Hardy ของ Dave Bautista ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณมองภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างมีอารมณ์ขันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม Bautista ได้รับการคัดเลือกมาอย่างดี เขาเป็นผู้ชายร่างใหญ่ที่มีเสน่ห์และมีอำนาจมากพอที่จะโน้มน้าวใจผู้ชม (และตัวละครตัวร้ายของ Ray Stevenson!) ว่าคุณไม่ควรไปยุ่งกับอดีตทหารสหรัฐฯ Pierce Brosnan ผู้มีเครายาวเต็มตัวจาก “The Son” มีบทบาทรับเชิญ เป็นเรื่องดีเสมอที่ได้เห็นคนดังมาสนับสนุนภาพยนตร์เล็กๆ เช่นนี้ สนุกไปกับมันได้เลย
ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
The Thin Red Line (1998) ฝ่านรกยึดเส้นตาย
Arena Wars (2024) อารีน่าวอร์ส
Mary Queen of Scots (2018) แมรี่ ราชินีแห่งสกอตส์