ดูหนังออนไลน์ใหม่ 2024 หนังเต็มเรื่อง ดูหนังใหม่ ดูหนังฟรี HD Netflix
VegusCasino
บาคาร่า ออนไลน์
สล็อตเว็บตรง

ดูหนังออนไลน์ Eurovision Song Contest The Story of Fire Saga เต็มเรื่อง (2020) ไฟร์ซาก้า ไฟ ฝัน ประชัน เพลง

ให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้

Trailer

ดูหนังออนไลน์ Eurovision Song Contest The Story of Fire Saga เต็มเรื่อง  (2020) ไฟร์ซาก้า ไฟ ฝัน ประชัน เพลง

ดูหนังออนไลน์ Eurovision Song Contest The Story of Fire Saga เต็มเรื่อง (2020) ไฟร์ซาก้า ไฟ ฝัน ประชัน เพลง เมื่อนักดนตรีที่ต้องการ

ดูหนังออนไลน์ Eurovision Song Contest The Story of Fire Saga เต็มเรื่อง Lars และ Sigrit ได้รับโอกาสให้เป็นตัวแทนประเทศของพวกเขาในการแข่งขันเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสพิสูจน์ว่าความฝันที่มีค่าควรเป็นความฝันที่ควรค่าแก่การต่อสู้

ภาพยนตร์แนวดนตรีตลกดราม่า พ่วงแฟนตาซีนิดๆ เรื่องราวอิงกับการประกวดร้องเพลง Eurovision Song Contest ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีตัวแทนแต่ละประเทศเข้ารวมและโหวตให้คะแนนกัน (มีกฏห้ามโหวตประเทศตัวเอง) เมื่อลาร์ส (วิล เฟอร์เรลล์) และซิกริด (เรเชล แม็คอาดัมส์) เพื่อนสนิทวัยเด็กที่เติบโตมาในเมืองเล็กๆ ของไอซ์แลนด์ และร่วมทำวงดนตรีในชื่อ “ไฟร์ซาก้า” ได้รับโอกาสครั้งสำคัญในฐานะตัวแทนประเทศเข้าร่วมการแข่งขันร้องเพลง Eurovision Song Contest ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

นี่เป็นโอกาสที่จะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าพวกเขาไม่ใช่ตัวตลกในสายตาของคนในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ตัวเรื่องเป็นแนวดนตรีกึ่งๆ มิวสิควิดีโอไปพร้อมกัน จึงมีฉากแฟนตาซีเพ้อฝันผสมเข้ามาอยู่ตลอดเรื่อง ซึ่งส่วนนี้แหละเป็นจุดเด่นของเรื่องนี้ที่ทำออกมาได้สนุกทุกครั้งกับการตัดฉากร้องเพลงประกอบมิวสิควิดีโอผสานไปกับการดำเนินเรื่องจริง โดยตัวเอกทั้งคู่ลาร์สกับซิกริดจะมีไอเดียบ้าๆ หลุดโลกหลายอย่าง อย่างฉากแรกของเรื่องจะก็เป็นมิวสิควิดีโอ Volcano Man ซึ่งก็หลุดโลกไปเลย แต่ในเรื่องจะเป็นแค่จินตนาการตอนอัดเสียงร้องในเมืองชนบทเล็กๆ แห่งนี้เท่านั้นแต่ฉากหลุดโลกประกอบเพลงไม่ได้มีเพียงแค่ในจินตนาการเท่านั้น

ในเรื่องยังมีช่วงการประกวดของจริง มีเครื่องอุปกรณ์ประกอบฉากและเครื่องแต่งกายเพี้ยนๆ ของพวกเขาอยู่ด้วย โดยเนื้อเรื่องวางไว้ให้เกิดเรื่องบังเอิญทำให้เขาได้เป็นตัวแทนไอซ์แลนด์ ทำให้รัฐบาลต้องหาทีมผู้ช่วยสนับสนุนไอเดียเพี้ยนๆ ของลาร์สให้ออกมาดีไม่ขายหน้าในฐานะตัวแทนประเทศ ซึ่งไอเดียเพี้ยนๆ ที่ออกมาประกอบเพลงในเรื่องอาจจะดูตลกๆ แต่ว่าจริงๆ แล้วเข้ากันกับเพลงที่ร้องได้เป็นอย่างดีเลย ทำให้เห็นว่าไอเดียเพี้ยนๆ ของพระเอกก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ใครๆ คิด รวมถึงเสียงร้องของ ซิกริด (เรเชล แม็คอาดัมส์)

ดูหนังออนไลน์ Eurovision Song Contest The Story of Fire Saga เต็มเรื่อง

ในฐานะนางเอกของเรื่องก็ทรงพลังเอามากๆ ไม่แน่ใจว่าร้องสดหรือลิปซิ้ง แต่เสียงที่เปล่งออกมาทุกครั้งโดดเด่นสะกดคนดูได้ชะงัดทันที ในขณะที่ตัวพระเอกลาร์สจะเป็นแค่ลูกคู่กับรับบทคิวหลุดตลกๆ (ในเรื่องลาร์สจะถูกวางไว้ว่าเป็นตัวซวยคอยถ่วงนางเอก) มากกว่ามีบทนำในเรื่องเพลงจริงๆ แต่ทั้งคู่ก็เป็นส่วนผสมที่ประหลาดและลงตัวไปกับเรื่องราวเพี้ยนๆ แต่จริงจังกับความฝันไปพร้อมกันตัวเรื่องไม่ได้มีแค่เพลงของสองคนนี้ แต่มีเพลงจากผู้ร่วมแข่งขันประเทศอื่นในแถบยุโรปด้วย ซึ่งก็เพราะทุกเพลง และมีฉากแสงสีเสียงเร้าใจสุดๆ หลายฉากทำออกมาเหมือนกำลังดูมายากลประกอบเพลงได้อย่างน่าทึ่ง

สมกับเป็นการประกวดเพลงระดับโลกที่หลายคนน่าจะไม่เคยได้เห็นมาก่อน เพราะบ้านเราก็ดูกันแต่เดอะว้อยซ์เพียงเท่านั้น ซึ่งในเรื่องก็แอบมีฉากจิกกัดเดอะว้อยซ์ด้วย ผ่านตัวละครนักท่องเที่ยวอเมริกันที่ไปเที่ยวยุโรป ซึ่งตัวเรื่องก็ขยันจิกกัดคนอเมริกันกับวัฒนธรรมต่างๆ ที่แตกต่างจากยุโรปผ่านตัวพระเอกที่ปากหมาสุดๆ เนื่องจากตัวเรื่องให้เขาเกิดและเติบโตภูมิใจกับความสวยงามของดินแดนแถบนี้ ที่ผิดกับอเมริกาที่ดูหยาบกร้านไม่ค่อยมีวัฒนธรรมสวยงามอะไรแบบยุโรปนัก (แต่ผู้สร้างเรื่องนี้เป็นอเมริกันนะ)หนัง

มีพล็อตเสริมเป็นเรื่องดราม่าจากที่ใครๆ ก็มองว่า “ลาร์ส” (พระเอกของเรื่องที่เห็นหน้าก็ฮาแล้ว) เป็นตัวตลกสุดเห่ยประจำเมืองมาตั้งแต่เด็กจนโตเข้าวัยกลางคนก็ยังไม่เลิกฝันถึงการประกวด Eurovision แถมคนในเมืองเองก็ยังไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ร้องเพลงพิสูจน์ความสามารถเลยสักครั้ง นอกจากร้องเพลง ยายา ดิ๊งด่อง (Ja Ja Ding Dong) วนไปมาไม่รู้จบเท่านั้น ใครอยากฟังว่าเพลงอะไรกดฟังที่นี่เลยครับ ซึ่งมุก ยายา ดิ๊งด่อง นี่ก็เรียกเสียงฮาได้จริงๆ แถมยังมีความสำคัญไปถึงตอนจบเรื่องสุดท้ายอีกด้วย

หนังทำให้เห็นว่าคนในเมืองเล็กๆ ที่รู้จักหน้าค่าตากันหมด ดูหนังออนไลน์ Eurovision Song Contest The Story of Fire Saga เต็มเรื่อง มักจะมีนิสัยพอเพียง พอใจกับสิ่งเป็นอยู่ และไม่ได้ฝันไกลนัก แต่เมื่อมีคนที่มีความฝันไกลกว่ามาบอกเล่าความฝันให้คนในเมืองฟัง ก็เลยกลายเป็นเหมือนแกะดำไปในตัว และใช้เรื่องตรงนี้มาเป็นดราม่าสำคัญในชีวิตของพระเอกที่ลึกๆ กลัวการเป็นตัวตลกต่อหน้าผู้คน แต่ก็ยังไม่ยอมทิ้งฝันนั้นไปสักที ซึ่งก็เป็นจุดเด่นของเขาที่นางเอกหลงรัก แม้ใครจะมองว่าเขาเพี้ยนไม่ควรคบด้วย ในขณะที่นางเอกเหมือนดาวจรัสแสงที่ถูกพระเอกบดบัง แม้แต่พ่อแม่ของทั้งคู่เองก็ยังไม่ยอมรับในตัวทั้งสองคน เนื่องด้วยไม่เชื่อว่าลาร์สจะทำสำเร็จได้จากนิสัยไม่ยอมโตเอาแต่ฟุ้งฝันถึงการประกวดมาตลอดชีวิต

และก็มองไม่ออกว่าไอเดียทำวงเพี้ยนๆ ของลาร์สมีดีตรงไหน นอกจากจะกลายเป็นตัวตลกขายขี้หน้าของเมืองและประเทศไอซ์แลนด์ในการประกวดระดับโลกขนาดนี้ตัวหนังดูสนุกขยันยิงมุกตลกตั้งแต่แรกก่อนเข้าประกวดใหญ่ยูโรคอนเทสต์ แต่พอถึงช่วงหลักนี้เรื่องราวค่อนข้างเป็นดราม่าความสัมพันธ์ของตัวเอกทั้งคู่เยอะ โดยมีตัวละครนักร้องจากรัสเซียมาแทรกความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แม้จะดูเหมือนเป็นตัวร้าย แต่เรื่องก็ไม่ได้ทำให้ใครเป็นตัวร้ายจริงจังนัก เป็นแค่อุปสรรคคั่นเรื่องพอหอมปากหอมคอเท่านั้น แต่หนังก็ใช้เวลาส่วนนี้นานมากไปเพราะเรื่องยาวถึง 2 ชั่วโมง และความน่าสนใจอยู่ที่ช่วงร้องเพลงมากกว่าดราม่าของตัวพระเอกที่ออกจะน่ารำคาญจากนิสัยเด็กๆ

ของเขา ยังดีที่ตอนจบของเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีน่าประทับใจจนแอบมีน้ำตาซึมได้

จากเพลงสุดท้ายที่ลาร์สเลือกเล่นเปียโนให้นางเอกร้อง และสะกดคนดูด้วยเนื้อเพลงในแบบท้องถิ่นชนบทไอซ์แลนด์ กับเสียงร้องที่เพราะจับใจมากจริงๆ ครับ (ในเรื่องอ้างอิงไปถึงโน้ตสปียอร์กที่เป็นตำนานของไอซ์แลนด์เลยทีเดียว)ตัวเรื่องมีความแปลก สนุก ตลก แอบมีแฟนตาซีแบบทั้งในจินตนาการและของจริงประกอบเพลงที่อลังการเหมือนได้ดูการแสดงระดับโลกมารวมไว้ในเรื่อง รวมถึงยังมีเรื่องเพี้ยนๆ นอกเหนือจากเพลงมาทำให้ขำกันอีกด้วย

แต่ก็มีเนื้อหาดราม่าลึกๆ กินใจอยู่หลายอย่าง ทั้งในเรื่องการเดินตามรอยฝันไม่ย่อท้อแม้ใครจะมองว่าเป็นไปไม่ได้ ซึ่งแอบทำให้น้ำตาซึมเล็กได้เหมือนกัน แต่ข้อเสียก็คงเป็นความยาวสองชั่วโมงของหนังที่มีช่วงดราม่าตัวพระเอกที่มีนิสัยเด็กๆ น่ารำคาญ แต่เรื่องก็พาเขากลับมาจบในแบบที่น่ารักและน่าประทับใจได้ในภายหลังครับเรื่องของเรื่องมันเกิดที่ประเทศไอซ์แลนด์แสนหนาวเย็น ว่าด้วยกระทาชายวัยกลางคนอย่าง ลาร์ส (Will Ferrell)​ ผู้ซึ่งบ้าคลั่งรายการประกวดร้องเพลงยูโรวิชันมากมายมาตั้งแต่วัยเด็ก ผ่านวันเวลาอันอยาวนานจนเขาเริ่มมีอายุแล้วแต่ก็ยังคงไม่หยุดฝัน

ซิกริต (Rachel McAdams) คือหญิงสาวอีกคนที่เติบโตมาด้วยความฝันเดียวกัน ลาร์สคือคนที่ทำให้เธอหัดพูดได้ เธอมีพรสวรรค์ด้านการร้องสูงมาก ทั้งสองดูจะอะไรมากกว่าความเป็นพี่น้องทว่าก็ไม่เคยไปไกลกว่านั้นจนวันหนึ่ง เขาและเธอก็เข้ารอบในการประกวดร้องเพลงของประเทศไอซ์แลนด์จนได้

ดูหนังออนไลน์ Eurovision Song Contest The Story of Fire Saga เต็มเรื่อง

รีวิวหนัง ‘ไฟร์ซาก้า: ไฟ ฝัน ประชัน เพลง’เป็นหนังที่ไม่ได้ตั้งความคาดหวังอะไรไว้ตอนเริ่มดู เรื่องราวของทีแรก ชวนให้กังขาในการเลือกพระเอกเป็น Will Ferrell ลูกชายที่ดูหน้าตาไม่ได้ต่างจาก Pierce Brosnan ผู้เป็นพ่อสักเท่าใดนัก ทั้งก็ยังดูเหมือนเป็นพ่อลูกกับนางเอกอย่าง Rachel McAdams เสียมากกว่าแต่เมื่อดูๆ ไป กลับพบว่ามันดูดีมีมาตรฐานยิ่งกว่าหนังเน็ตฟลิกซ์หลายๆ เรื่องเสียอีกไม่ว่าจะเป็นในด้านของเพลงที่ถูกเรียบเรียงมาอย่างไพเราะ การออกแบบคอสตูมและเพอร์ฟอร์แมนซ์บนเวทีที่ตระการตา เพลงสุดท้ายก็ส่งเสริมอารมณ์ได้ดี ขณะที่มุมกล้องและการถ่ายทำก็ออกมาเป็นไอซ์แลนด์ที่สดสวยและน่าประทับใจ

หนังที่เริ่มแรกก็เป็นเพียงความฝันที่ผู้คนในเมืองไม่เชื่อ มองเป็นเพียงความเพ้อฝัน แม้แต่พ่อของเขาเองก็เหนื่อยหน่าย แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเข้าร่วมแข่งขันพบพานทั้งความบังเอิญและอุปสรรคความพังต่างๆ ก็กลับเริ่มกลับกลายเป็นความภาคภูมิใจของคนเมืองเรื่องราวที่พาเราไปเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด อาจมีบางจุดที่ดูอืดอาดไปบ้าง แต่เมื่อหนังผ่านมาถึงช่วงท้ายไคล์แมกซ์ ก็ชักชวนให้ซาบซึ้งน้ำตาซึมตามได้ ร่วมกับเพลงประกอบที่เรียกได้ว่า เข้าทีและเพราะดีทุกเพลง ผ่านเสียงร้องที่เทพจัดเต็ม การถ่ายทำบนเวที แสงสี ยิ่งใหญ่ตระการตา

จากที่คิดว่าเป็นหนังฆ่าเวลากลับสร้างความประทับใจได้มากกว่านั้นมองว่าการใช้พระเอก (ผู้ที่เขียนบทและเป็นโปรดิวเซอร์เอง) เป็น Will Farrell ก็อาจจะเหมาะตรงที่เขาเข้ากับบทคอมิดี้เพียงแต่หน้าอาจจะดูแก่ไปนิดนึงเท่านั้นเอง Fire Saga/ไฟร์ซาก้า เป็นชื่อวงของลาร์สและซิกริต ที่เติบโตมาด้วยกัน ดูเหมือนทั้งสองจะมีความรู้สึกที่มากเกินกว่าพี่น้องกัน มองเห็นความรู้สึกที่ทั้งสองมีแต่ต่อกันแต่เหมือนลาร์สพยายามที่จะหยุดและยั้งเอาไว้ ให้เหตุผลเพียงว่าต้องการโฟกัสที่ชัยชนะ

แต่เหมือนในช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ในการแข่งขัน การมีตัวละครอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องพาให้ความคิดและความรู้สึกของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่พวกเขาได้พบได้เจอก่อเกิดเป็นประสบการณ์ให้เขาและเธอได้ค้นเจอตัวเองสิ่งที่พวกเขารู้สึกในใจ ชัยชนะที่หวังและฝันใฝ่ ความรักที่เดินไปในแบบที่ควรจะเป็นนับว่าเป็นจังหวะที่ดี เพราะว่ามหกรรมการแข่งขันเพลงแห่งภูมิภาคยุโรปในปีนี้ถูกยกเลิกการประกวดลงไป เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้แชมป์เก่าอย่าง เนเธอร์แลนด์ ครองตำแหน่งต่อไปอีกปี แต่ในเมื่อไม่มีการประกวดก็ยังมีเวอร์ชั่นหนังออกมาให้ดู ในหนังตลกเสียดสีการแข่งขันร้องเพลงดังที่สุดในยุโรป

“Eurovision Song Contest: The Story of Fire Saga” ที่จัดเต็มและเล่นใหญ่ยิ่งกว่าเมืองไทยรัชดาลัย…เรื่องราวของ 2 หนุ่มสาวผู้มีดนตรีอยู่ในหัวใจ “ลาร์ส” กับ “ซิกริต” หรือ “ไฟร์ซากา” พวกเขาเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งบนเกาะไอซแลนด์ที่หนาวเหน็บ ความฝันของพวกเขาดูเหมือนจะเกินไขว่คว้า กลายเป็นเรื่องเพ้อๆ ที่ชาวเมืองเองก็ดูจะไม่สนับสนันสักเท่าไหร่ แต่โชคชะตาได้ขีดเส้นเอาไว้ให้พวกเขามีโอกาสผ่านเข้ารอบไปชิงชัยบนเวทีร้องเพลงระดับทวีป จึงได้ไปทำตามความฝัน ท่ามกลางคำสบประมาทต่างๆ ที่เก็บเอาไว้ในใจตลอดหลายปี

การกลับมาอีกครั้งของเจ้าพ่อหนังตลกที่เคยเฟื่องฟูมาเมื่อราวๆ 10 ปีก่อน อย่าง “เดวิด ด็อบกิน” (จาก Wedding Crashers และ The Change-Up) เมื่อได้มาร่วมงานกับ “วิล เฟอร์เรล” หนึ่งในตำนานตลกขาประจำของฮอลลิวูด จึงบังเกิดเป็นหนังที่เต็มไปด้วยมุกตลก…ที่ไม่ค่อยมีความสดใหม่สักเท่าไหร่ ภายใต้โครงเรื่องเดิมๆ ที่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกน่าสนใจมากนัก วิล เฟอร์เรล รับหน้าที่เขียนบทหนังและนำแสดงเองในเรื่องนี้

ภาพรวมของ Eurovision Song Contest แน่นอนว่าเป็นหนังที่มาพร้อมกับมุกเสียดสีสังคมและวัฒนธรรม โดยเฉพาะการหยอกล้อจิกกัดการจับประกวดร้องเพลงเวทีชื่อดังแห่งนี้ ที่เอาเข้าจริงๆ ก็เป็นมหกรรมการแข่งขันที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะจัดต่อเนื่องกันมากว่า 60 ปีแล้ว แต่ความโดดเด่นของเวทีร้องเพลงแห่งนี้ไม่ใช่แค่เพียงเสียงร้องที่ล้ำเลิศของตัวแทนแต่ละประเทศ ความเล่นใหญ่ของแต่ละชาติต่างหากที่เป็นไฮไลท์ที่น่าสนใจ

หนังฉลาดมากที่เลือกตัวละครหลักมาจากไอซ์แลนด์ ประเทศเล็กๆ ที่โดดเด่นอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือ เป็นชาติที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ และมีนักร้องที่โดดเด่นเข้าแข่งขันสักเท่าไหร่ในแต่ละปี แต่หนังก็เลือกชาตินี้มาสร้างสีสัน ด้วยการผลักดันตั้งสมมติฐานที่ว่า หากถ้าไอซ์แลนด์โดดเด่นบนเวทียูโรวิชั่นจะเป็นอย่างไร (ตามสถิตินับตั้งแต่จัดการประกวดเวทีนี้ขึ้นมา ไอซ์แลนด์ยังไม่เคยชนะเลยสักครั้งเดียว)การมาของ

“ราเชล แม็กอดัมส์” ค่อนข้างเหนือความคาดหมาย เพราะต้องมาประกบคู่กับ วิล เฟอร์เรล บอกตามตรงว่าทั้งคู่ไม่มีเคมีที่เข้ากันเลยสักนิด เหมือนจะเป็นแคสติ้งที่ดูขัดแย้งกันเบาๆ แต่ปรากฏว่าเหมือนอยู่ในหนัง ทั้งคู่ก็ดูไหลลื่นและเข้าขากันได้เป็นอย่างดี ท่ามกลางเส้นเรื่องเลิฟไลน์เบาบางที่ยัดใส่เข้ามาแบบงงๆ แต่ก็มีบางมุมที่เรารู้สึกว่าเป็นคู่พระนางที่ไม่มีเสน่ห์ด้วยกันเลยจริงๆ

แต่ ราเชล ก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองได้ค่อนน่าพอใจ นี่อาจจะไม่ใช่การแสดงแนวถนัดของเธอสักเท่าไหร่ เพราะเรามักจะเห็นเธอเล่นบนดราม่าจริงจังอยู่บ่อยครั้ง หนังใหม่ ดูหนังฟรี เต็มเรื่อง Full HD มาสเตอร์ ดูหนังบนทีวี หนังใหม่ชนโรง หนังมาสเตอร์ หนัง 4K เมื่อมาเล่นคอมมาดีกับตลกมืออาชีพแน่นอนว่าพลังของเธอเข้าไปถึงพวกเขาอยู่แล้ว ขณะที่นักแสดงสมทบอื่นๆ ก็แอบดูไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่ “แดน สตีเวนส์” ที่มาเป็นคู่แข่งบนเวทีประกวด เหมือนบทจะมีมิติซับซ้อนให้เล่น แต่ท้ายที่สุดก็เป็นเพียงตัวเสริมกลวงๆ

แม้กระทั่ง “เพียร์ซ บอสแนน” หรือ “เดมี โลวาโต” ก็แค่เข้ามาเป็นตัวประดับให้หนังดูสมบูรณ์ขึ้นเท่านั้นแน่นอนว่า Eurovision Song Contest จะต้องโดดเด่นเรื่องเพลง และเอาเข้าจริงๆ หนังก็ทำได้ดีในส่วนของเพลงประกอบหลายๆ เพลงทีเดียว หนังได้เพลงประกอบที่ชวนฟังและทรงพลังเพราะความพยายามเล่นใหญ่ของหนังเอง แม้เนื้อเพลงบางเพลงจะออกมาแปลกๆ เล็กน้อย แต่พอได้ซาวน์อิเล็กทรอนิกส์ ผสมผสานสไตล์ไวกิ้งที่ฟังดูเอพิกเข้ามาช่วยเสริม ก็ไพเราะดีไปอีกแบบ

แต่น่าเสียดายที่หลายๆ เพลงที่ออกมานั้น นักแสดงไม่ได้เป็นคนร้องเพลงเอง มีเพียง วิล เฟอร์เรล เท่านั้นที่ขับขานออกมาในเพลงต่างๆ เสียงร้องของราเชลได้ใช้นักร้องสาว “มียา มาเรนน์” (มอลลี ซานเดง) มาร้องให้แทน ที่จะเห็นได้ชัดเจนตอนที่อยู่ในหนังว่า เป็นการลิปซิงค์ออกมาจากปากของราเชล

ที่เป็นข้อเสียจุดหนึ่งที่ทำให้การแสดงของเธอดูด้อยลงไปอย่างน่าเสียดายโดยสรุปแล้ว Eurovision Song Contest ก็เป็นหนังเพลงที่สร้างความบันเทิงให้กับคนดูได้ค่อนข้างน่าพอใจ ถึงแม้ว่าบทจะค่อนข้างอ่อน มุกตลกที่ไม่ค่อยตลก แต่ก็ยังมีหลายมุมที่ทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตามหาความฝัน มองหาแรงบันดาลใจ และต่อสู้เพียงความหวัง ประเด็นต่างๆ นี้มาได้ถูกจังหวะในช่วงที่โลกเพิ่งผ่านการเผชิญหน้ากับความหดหู่มา

Eurovision Song Contest อาจจะยังไม่ใช่หนังตลกที่ดีที่สุด แต่ก็สร้างสรรค์และเสียดสีเวทีการประกวดร้องเพลงที่ยิ่งใหญ่ของภูมิภาคยุโรปได้อย่างน่าประทับใจ และในท้ายที่สุดคนดูก็น่าจะเกิดอาการคล้ายๆ กัน กับการไม่สามารถนำเอาเสน่ห์หลอนๆ ของเพลง “ยายา ดิ๊งด่อง” ออกไปจากหัวได้สักพัก ใครอยากรู้ว่า ยายา ดิ๊งด่อง ก็ตามไปฟังกันในหนังเรื่องนี้…ลาร์สและซิกกริตเดินทางถึงเอดินบะระและต่อสู้กับเพลงรีมิกซ์เพลงใหม่และการออกแบบเวทีที่ประณีต พวกเขาได้พบกับ Alexander Letmov (Dan Stevens)

นักร้องชาวรัสเซียผู้เรียบเนียนซึ่งเป็นคนโปรดในการชนะการแข่งขัน เขาเชิญพวกเขาไปงานปาร์ตี้ที่บ้านของเขาโดยมีอดีตผู้เข้าแข่งขันชาวยูโรวิชันจำนวนหนึ่งซึ่งเขาแนะนำ Lars และ Sigrit ให้กับนักร้องกรีก Mita (Melissanthi Mahut) Alexander และ Sigrit ใช้เวลายามค่ำคืนร่วมกันเช่นเดียวกับ Lars และ Mita สิ่งนี้ทำให้เกิดความตึงเครียดใน Fire Saga ซึ่งเกือบจะทำลายแผนการของพวกเขาในรอบรองชนะเลิศ ลาร์สได้ยินซิทฤทธิ์ทำงานเพลงใหม่ในห้องพักของพวกเขา แต่ก็ถือว่าเป็นเพลงรักของอเล็กซานเดอร์ พวกเขาตกลงกันได้

แต่การแสดงรอบสุดท้ายของพวกเขาจบลงด้วยอุบัติเหตุขนาดใหญ่บนเวที พวกเขาจบเพลง แต่ก็พบกับความเงียบอึกทึก ลาร์สสตอร์มออกไปทิ้งซิกฤทธิ์ไว้เบื้องหลัง ดูหนังออนไลน์ Eurovision Song Contest The Story of Fire Saga เต็มเรื่อง ไอซ์แลนด์เดินหน้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้ายEurovision Song Contest: The Story of Fire Saga เป็นภาพยนตร์ตลกเพลงอเมริกันปี 2020 กำกับโดย David Dobkin เขียนบทโดย Will Ferrell และ Andrew Steele

และนำแสดงโดย Will Ferrell, Rachel McAdams, Dan Stevens, Melissanthi Mahut, Mikael Persbrandt, Ólafur Darri Ólafsson, เกรแฮม นอร์ตัน, เดมี โลวาโต และเพียร์ซ บรอสแนน ภาพยนตร์เรื่องนี้ติดตามนักร้องชาวไอซ์แลนด์ที่สนิทกันเป็นการส่วนตัว Lars Ericksong และ Sigrit Ericksdóttir ขณะที่พวกเขาได้รับโอกาสให้เป็นตัวแทนของประเทศในการประกวดเพลง Eurovision

เดิมที The Story of Fire Saga มีกำหนดฉายในเดือนพฤษภาคม 2020 บน Netflix เพื่อให้ตรงกับการประกวดเพลงยูโรวิชันปี 2020 เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 การประกวดในปี 2020 จึงถูกยกเลิก และภาพยนตร์ก็ออกฉายในเดือนต่อมาในเดือนมิถุนายน 26.ได้รับการวิจารณ์ที่หลากหลายจากนักวิจารณ์ ซึ่งชื่นชมเพลงต้นฉบับแต่วิจารณ์บทภาพยนตร์และรันไทม์ แต่ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟน ๆ ยูโรวิชั่นหลายคนภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากงานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 93

(สำหรับ “Husavik”)ในเมืองเล็กๆ ของฮูสาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ ลาร์ส เอริกซองและซิกริต

เอริกส์ดอตตีร์ เพื่อนซี้ตั้งแต่สมัยเด็ก ร่วมกันทำดนตรีในชื่อวง Fire Saga สร้างความผิดหวังให้กับเอริค (“Volcano Man”) พ่อหม้ายของลาร์สเป็นอย่างมาก ลาร์สมีความฝันอย่างหนึ่งคือการชนะการประกวดเพลงยูโรวิชัน แต่ที่บาร์ท้องถิ่นที่พวกเขาแสดงนั้น เพลงเดียวที่ผู้ชมอยากฟังคือเพลง “จาจาดิงดอง” (Ja Ja Ding Dong) Helga แม่ของ Sigrit ไม่เห็นด้วยกับการเป็นหุ้นส่วนของพวกเขาเช่นกัน

โดยกล่าวว่า Lars กำลังรั้ง Sigrit ไว้ และเธอจะไม่ตี “โน้ต Speorg” ซึ่งเป็นโน้ตที่จะร้องได้ก็ต่อเมื่อเป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณเท่านั้น เมื่อร้องเพลงร่วมกับเขา หนังใหม่ ดูหนังฟรี เต็มเรื่อง Full HD มาสเตอร์ ดูหนังบนทีวี หนังใหม่ชนโรง หนังมาสเตอร์ หนัง 4K ทั้งคู่สมัครและได้รับเลือกให้เข้าร่วมใน Söngvakeppnin ซึ่งเป็นการคัดเลือกล่วงหน้าของไอซ์แลนด์สำหรับยูโรวิชั่น โดยที่คณะกรรมการไม่ได้ดูเทปออดิชั่นของพวกเขา ลาร์สปลาบปลื้มกับการมีส่วนร่วมของพวกเขามากจนเขากดกริ่งหอระฆังของโบสถ์ ส่งผลให้เขาถูกตำรวจจับเพราะส่งสัญญาณฉุกเฉินผิดๆ ลาร์สบอกว่าเมืองนี้ใกล้จะตายแล้ว

ดูหนังออนไลน์ Eurovision Song Contest The Story of Fire Saga เต็มเรื่อง

และการที่ Fire Saga เข้าร่วมการแข่งขันเป็นโอกาสเดียวที่ชาวเมืองของพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ได้ Sigrit เกลี้ยกล่อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวเขา Sigrit ผู้เชื่อในประเพณีเอลฟ์เก่าแก่ของไอซ์แลนด์ ขอความช่วยเหลือจากเอลฟ์เพื่อให้พวกเขาเข้าร่วมการแข่งขันด้วยความหวังว่าหาก Fire Saga ชนะ Lars จะกลับมามีความรู้สึกโรแมนติกของ Sigrit แก่เขาการแสดงของ Fire Saga ที่ Söngvakeppnin ผิดพลาดเนื่องจากปัญหาทางเทคนิค (“Double Trouble”) ลาร์สผู้เศร้าโศกปฏิเสธที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงบนเรือ

ที่จัดขึ้นสำหรับผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้งหมดและนั่งอยู่บนท่าเรือขณะที่ซิกริตพยายามปลอบใจเขา ทันใดนั้น เรือก็ระเบิด คร่าชีวิตทุกคนบนเรือ และปล่อยให้ Fire Saga เป็นเพียงผู้เข้าแข่งขันที่รอดชีวิต และด้วยเหตุนี้จึงเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายไปโดยปริยาย สร้างความผิดหวังให้กับคณะกรรมการการมีส่วนร่วมเป็นอย่างมาก

ลาร์สและซิกริตมาถึงเอดินเบอระ สกอตแลนด์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดยูโรวิชัน (“Amar pelos dois”) ลาร์สปฏิเสธความพยายามของซิกริตที่จะจูบเขา โดยย้ำว่าพวกเขาต้องโฟกัสไปที่การแข่งขัน ไม่ใช่ความสัมพันธ์ของพวกเขา พวกเขาต่อสู้กับเพลงรีมิกซ์ใหม่และแผนการแสดงที่ซับซ้อนของลาร์ส และพบกับอเล็กซานเดอร์ เลมตอฟ ตัวแทนชาวรัสเซียที่เป็นตัวเก็งที่จะชนะการประกวด (“Lion of Love”)

อเล็กซานเดอร์เชิญลาร์สและซิกริตไปงานปาร์ตี้ที่บ้านของเขา โดยมีอดีตผู้เข้าแข่งขันยูโรวิชันในชีวิตจริงหลายคนเข้าร่วม ซึ่งเขาแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ หลายคน รวมถึงมิตา เซนากิส ผู้เข้าแข่งขันชาวกรีก พวกเขาร่วมกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นใน “Song-a-Long” (การผสมผสานของ “Believe”, “Ray of Light”, “Ne partez pas sans moi”, “Waterloo” และ “I Gotta Feeling”) Alexander

และ Sigrit ค้างคืนด้วยกัน เช่นเดียวกับ Lars และ Mita แม้ว่าทั้งคู่จะไม่สนิทสนมกันก็ตาม ในการซ้อม Sigrit แสดงออกถึงความเกลียดชังที่มีต่อเสื้อผ้าและการรีมิกซ์ใหม่ และขอให้ลาร์สกลับไปเป็นอย่างเดิมซึ่งลาร์สทำ ต่อมา กลับมาที่โรงแรม ลาร์สแอบได้ยินซิกริตกำลังทำเพลงใหม่และคิดว่าเป็นเพลงรักที่ทำขึ้นเพื่ออเล็กซานเดอร์และพวกเขากำลังคบหาดูใจกัน

การแสดงรอบรองชนะเลิศของพวกเขาในเพลง “Double Trouble” ในตอนแรกดำเนินไปได้ด้วยดี แต่ก็ล้มเหลวเนื่องจากอุบัติเหตุเกี่ยวกับผ้าพันคอของ Sigrit ไปติดในเสาล้อหนูแฮมสเตอร์ ซึ่งกลิ้งออกจากเวทีและเข้าสู่ผู้ชม ทั้งสองฟื้นตัวและจบเพลง แต่ก็พบกับความเงียบงันและเสียงหัวเราะที่กระจัดกระจาย

เชื่อว่า Fire Saga กลายเป็นเรื่องตลก พวกเขาออกจากเวทีโดยไม่รู้ตัวว่าฝูงชนได้ส่งเสียงปรบมือให้กับความพากเพียรในการจบการแสดง ลาร์สที่กำลังโกรธจัดเตรียมเดินทางกลับไอซ์แลนด์ Sigrit ขอร้องให้ Lars อยู่ต่อ แต่ Lars ปฏิเสธด้วยความโกรธ โดยบอกให้ Sigrit ไปร้องเพลงรักของเธอให้ Alexander ซึ่งเธอเปิดเผยว่าเธอเขียนเพลงนี้ให้ Lars ลาร์สกลับมาที่ไอซ์แลนด์เพื่อเป็นชาวประมงกับพ่อของเขา โดยไม่รู้ว่า Fire Saga ผ่านเข้ารอบสุดท้าย

ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังฝรั่ง เรื่อง Eurovision Song Contest The Story of Fire Saga (2020) ไฟร์ซาก้า ไฟ ฝัน ประชัน เพลง หนังประเภท Comedy ตลก เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน Moviehd3 หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS

แสดงความคิดเห็น

Share

หนังอื่นๆ ที่น่าสนใจ

GTMax (2024)
หนังฝรั่ง Thaisound
movie

5.5

Magpie (2024)
หนังฝรั่ง Subthai
movie

6.5

ดูหนังออนไลน์ 2024

เว็บดูหนังมาแรงในตอนนี้ สามารถดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ที่มีคุณภาพที่สุดในตอนนี้ ไม่มีโฆษณามารบกวนใจ อีกทั้งมีหนังมากมายมาให้เลือกชม มากมายกว่า 10,000 เรื่อง ที่นี่มีหนังใหม่2023 จากค่ายดังทุกค่ายมาให้ทุกคนได้รับชมกันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่า Netflix, Disney+, Viu , DC , Marvel ทำให้ท่านได้รับความสนุกเพลิดเพลินเหมือนได้รับชมอย่างสมจริงทั้งภาพที่คมชัดระดับ Full HD และเสียงภาพยนตร์ที่คมชัดมากที่สุด

ดูหนัง Netflix หนังใหม่

อ่านต่อที่นี่