ดูหนังออนไลน์ใหม่ 2024 หนังเต็มเรื่อง ดูหนังใหม่ ดูหนังฟรี HD Netflix

Crimson Tide (1995) คริมสัน ไทด์ ลึกทมิฬ

1 คะแนน

ตัวอย่าง

Crimson Tide (1995) คริมสัน ไทด์ ลึกทมิฬ

Crimson Tide (1995) คริมสัน ไทด์ ลึกทมิฬ

เรื่องย่อ

เมื่อกลุ่มกบฏรัสเซียเข้าควบคุม ICBM บางส่วนชาวอเมริกันก็ระดมพล ในบรรดาเรือที่ส่งไปคือหน่วยย่อยนิวเคลียร์ USS Alabama แต่ก่อนที่พวกเขาจะจากไปพวกเขาต้องการ X.O. และในบรรดาตัวเลือกคือ Commander Hunter ซึ่งไม่ได้เห็นการกระทำมากนัก แต่กัปตันเรืออย่างแรมซีย์ตกลงเขา ระหว่างทางเกิดเหตุการณ์ขึ้นและฮันเตอร์ไม่เห็นด้วยกับวิธีจัดการกับแรมซีย์ เห็นได้ชัดว่าแรมซีย์ไม่ได้คิดถึงฮันเตอร์มากนักเพราะฮันเตอร์ได้รับการศึกษาระดับวิทยาลัยในขณะที่แรมซีย์ทำงานหนัก Crimson Tide  พวกเขาได้รับคำสั่งให้โจมตี แต่เมื่ออยู่ในระหว่างการรับคำสั่งอื่นการสื่อสารของเรือได้รับความเสียหายจึงไม่ได้รับข้อความทั้งหมด แรมซีย์ตัดสินใจที่จะดำเนินการตามคำสั่งก่อนหน้านี้ในขณะที่ฮันเตอร์ต้องการสร้างการติดต่อใหม่ก่อน นั่นคือตอนที่ชายสองคนชนหัวที่จบลงด้วยฮันเตอร์ปล่อยแรมซีย์ ต่อมาเมื่อมีชายบางคนเสียชีวิตเจ้าหน้าที่บางคนรู้สึกว่าฮันเตอร์ไม่พร้อมที่จะปฏิบัติงานดังนั้นพวกเขาจึงร่วมมือกันเพื่อควบคุมอีกครั้ง แต่ฮันเตอร์ได้ดำเนินการ

ผู้กำกับ

  • Tony Scott

บริษัท ค่ายหนัง

  • Hollywood Pictures

นักแสดง

  • Denzel Washington
  • Gene Hackman
  • Matt Craven
  • George Dzundza
  • Viggo Mortensen
  • James Gandolfini

โปสเตอร์หนัง

Crimson Tide (1995) คริมสัน ไทด์ ลึกทมิฬ

Crimson Tide (1995) คริมสัน ไทด์ ลึกทมิฬ

Crimson Tide (1995) คริมสัน ไทด์ ลึกทมิฬ

รีวิว

หมื่นทิพ

ปี 1995 ถือเป็นปีที่คู่หูผู้อำนวยการสร้าง Don Simpson และ Jerry Bruckheimer กลับมาผงาดอย่างเต็มภาคภูมิ –  Crimson Tide หลังจากสะดุดไปกับ Days of Thunder – โดยปีนั้นพวกเขามีหนังฮิตถึง 3 เรื่อง ได้แก่ Bad Boys, Dangerous Minds และ Crimson Tide ที่ผมกำลังจะพูดถึง Crimson Tide ถือเป็นหนังเรือดำน้ำสายเข้มที่ทำออกมาได้อย่างน่าติดตามครับ มีครบทั้งความตื่นเต้น ระทึกขวัญ และความลุ้น โดยเปิดเรื่องมาหนังก็เกริ่นให้เราได้ทราบสถานการณ์คร่าวๆ ในหนังว่าตอนนี้ วลาดิเมียร์ เเรดเชงโก้ (Daniel von Bargen) ผู้นำฝ่ายกบฏของรัสเซียที่ขู่จะถล่มอเมริกาด้วยนิวเคลียร์ ทำให้อเมริกาต้องเตรียมพร้อมรับมือในทุกภาคส่วน

แล้วหนังก็โฟกัสมาที่เรือดำน้ำยูเอสเอสแอละแบมาที่มีผู้บัญชาการคือ นาวาเอกแฟรงค์ แรมซี่ย์ (Gene Hackman) และมีนาวาตรีรอน ฮันเตอร์ (Denzel Washington) เป็นรองผู้บัญชาการ ซึ่งความตึงเครียดมันมาเริ่มต้นขึ้นเมื่อระบบสื่อสารในเรือดำน้ำเกิดเสีย ทำให้รับคำสั่งจากเบื้องบนได้ไม่ครบ และจากข้อมูลที่ได้มา (แบบไม่ครบ) นั้นทำให้ผู้การแรมซี่ย์เชื่อว่าเขาควรจะต้องปล่อยขีปนาวุธจู่โจมพวกรัสเซีย ในขณะที่ฮันเตอร์มองว่าเนื่องจากข้อมูลที่ได้ยังไม่ครบ ดังนั้นการยิงขิปนาวุธออกไปอาจเป็นการจุดชนวนสงครามโลกก็เป็นได้

จริงๆ ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็นการปะทะกันทางความคิดระหว่างแรมซี่ย์และฮันเตอร์อยู่เรื่อยๆ ครับ ช่วงต้นๆ ก็ถือว่าปะทะแบบเบาๆ แต่ก็สื่อให้เราเห็นเลยว่ามุมมองของพวกเขามีความแตกต่างกันอยู่พอตัว ครั้นพอเกิดเรื่องขึ้นทีนี้หนังก็ตึงเครียดล่ะครับ เรียกว่าระอุมาคุไปทั้งลำเรือเลย ซึ่งอันนี้ต้องยอมรับเลยว่าการแสดงของ Hackman และ Washington นั้นถือว่าเด็ดทั้งคู่ ตอนทุ่มเถียงทุ่มอารมณ์ใส่กันนี่ดูสมจริงมากๆ ซึ่งผมถือว่าการเจอกันของ 2 นักแสดงยอดฝีมือนี่คือไฮไลท์สำคัญของหนังเลยล่ะครับ

นอกจากการแสดงเยี่ยมๆ แล้ว ตัวบทก็เขียนได้ดี ตั้งแต่การแจกแจงตัวละครหลักๆ ให้เราได้เห็นคร่าวๆ ว่าใครเป็นใคร และใครอยู่ฝั่งไหนยามเกิดเรื่องขึ้น รวมถึงสถานการณ์ในเรื่องก็มีความกดดันพุ่งใส่คนดูอย่างต่อเนื่อง เพราะมันไม่ได้มีแค่การขัดแย้งกันระหว่างแรมซี่ย์และฮันเตอร์เท่านั้น มันยังมีเหตุแทรกซ้อนเกิดขึ้นในเรือ ไหนจะเรือดำน้ำฝ่ายข้าศึกอีก อะไรเหล่านี้ทำให้หนังน่าติดตามและอุดมความระทึกไปตลอดตั้งแต่ต้นจนจบครับ นอกจากดารานำแสดงได้แข็งแรงแล้ว ดาราสมทบแต่ละคนก็เสริมอารมณ์ให้หนังได้อย่างพอเหมาะ ไม่ว่าจะ Matt Craven, George Dzundza, Viggo Mortensen, James Gandolfini, Rocky Carroll, Danny Nucci และเรายังจะได้เจอกับ Steve Zahn และ Ryan Phillippe ในวัยละอ่อนด้วย

ด้านงานฉากก็ถือว่าอย่างเจ๋งครับ มันให้อารมณ์เหมือนพาเราไปอยู่ในเรือดำน้ำได้จริงๆ บวกด้วยงานภาพของ Dariusz Wolski ที่จับภาพบรรยากาศในเรือดำน้ำมาถ่ายทอดแบบได้อารมณ์ ฉากไหนผ่อนคลายหน่อยมุมกล้องก็จะทำให้เรารู้สึกว่ามันโปร่งๆ  Crimson Tide ไม่อึดอัดอะไรมาก แม้พื้นที่มันจะคับแคบก็เถอะ แต่พอฉากไหนตั้งใจจะทำให้เรากดดันล่ะก็ ต่อให้เป็นห้องโถงใหญ่ที่กว้างกว่าส่วนอื่นๆ เราก็จะรู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวขึ้นมาในบัดดล

อีกหนึ่งแรงที่ขับดันอารมณ์หนังได้อย่างทรงพลังก็ต้องยกให้งานดนตรีของ Hans Zimmer ครับ อันนี้จำได้เลยว่าสมัยนั้นเนี่ยบ้านเราก็เอาดนตรีจากหนังเรื่องนี้มาใช้กันแบบอุตลุด ไม่ว่าจะในละครหรือรายการข่าวและสารคดีต่างๆ ไหนจะตัวอย่างหนังอีกสารพัดเรื่องก็เอาดนตรีชุดนี้ไปใช้ เรียกว่าได้ยินกันจนแทบจะจำตัวโน้ตได้เลยล่ะ และแน่นอนว่าคนที่ไม่ชมไม่ได้เลยคือผู้กำกับ Tony Scott ครับ ลุงเขาคุมหนังเรื่องนี้ได้แบบอยู่หมัดจริงๆ อีกทั้งยังสามารถเอาสารพัดของดีที่หนังมีมาช่วยกันขับเน้นเพื่อสร้างพลังให้กับการเล่าเรื่องอย่างได้ผล – ต้องบอกเลยครับว่าหนังเรื่องไหนต่อให้มีของดีและองค์ประกอบที่ดีอยู่เต็มเรื่องก็ตาม แต่หากคนคุมคนปรุงมือไม่ถึงล่ะก็ หนังเรื่องนั้นย่อมไม่สามารถฉายแสงเปล่งประกายได้แบบเต็มฟอร์ม – แต่กับเรื่องนี้ ถือว่าถึงฟอร์มอย่างสวยเลยล่ะครับ

สาระสำคัญของหนังที่ดูทีไรก็จะเอามาเตือนตัวเองเสมอก็คือ เวลาเราจะทำอะไรนั้นควรต้องมีสติเสมอ และสิ่งที่ต้องพึงระวังอย่างที่สุดคือการโดนอารมณ์ครอบงำ ยิ่งเวลาเราจะตัดสินใจอะไรสักอย่างเนี่ย เราควรต้องใจเย็น และควรต้องรวบรวมข้อมูลให้รอบด้านมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ – เราไม่ควรด่วนตัดสินใจอะไรลงไปทั้งๆ ที่ข้อมูลก็ยังไม่ครบ ยิ่งตัดสินใจด้วยอารมณ์นี่ยิ่งต้องระวังเลยล่ะครับ เพราะการทำแบบนั้นมันพาคนมากมายเข้ารกเข้าพงกันมานักต่อนักแล้ว

และบางครั้งการฟังความคิดเห็นหรือมุมมองของคนอื่นบ้างก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ จริงๆ มันเป็นเรื่องดีซะอีกนะ เพราะการฟังมุมมองมุมคิดที่ต่างออกไปก็เท่ากับเราได้เปิดโลกทัศน์ ได้เปิดมุมมองของเราให้กว้างไกลยิ่งขึ้น  Crimson Tide อันจะทำให้เรามองสิ่งต่างๆ ได้รอบด้านมากขึ้น มองได้หลากหลายมากขึ้น และบางทีมันอาจทำให้เรามองสิ่งที่เราคิดว่าเราเข้าใจมันอยู่แล้ว ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยส่วนตัวผมชอบมองว่าการที่เราได้รับรู้มุมคิดที่แตกต่างนั้น มันก็เหมือนการได้ทะลวงจุดสำคัญต่างๆ ในร่างกายแบบหนังกำลังภายในน่ะครับ บางครั้งในบางปัญหาที่เรายังหาทางออกไม่เจอ หรือกับบางเรื่องบางประเด็นที่เรายังขบไม่แตกคิดไม่ตก นั่นอาจเพราะเรายังไม่ได้รับการทะลวงจุดที่เหมาะสม ดังนั้นการตะลุยยุทธจักรไปพบพานกับสารพัดมุมคิด สารพันมุมมองนั้นมันอาจช่วยทะลวงจุดให้เรามองบางสิ่งได้ทะลุ อันอาจจะช่วยให้เราวิ่งผ่านปัญหาได้ และเข้าใจสิ่งที่เคยไม่เข้าใจได้

และคำพูดที่ผมชอบที่สุดในเรื่องก็คือ “พวกคุณทำถูกทั้งคู่… แล้วก็ทำผิดทั้งคู่” เป็นการสรุปเรื่องราวได้ชวนคิดอย่างยิ่งครับ ตัวหนังนั้นประสบความสำเร็จอย่างดีครับ ทำเงินทั่วโลกไป $157 ล้าน จากทุนสร้างราว $53 ล้าน ก็กำไรสวยๆ เลยล่ะครับ สรุปว่านี่เป็นหนังเรือดำน้ำที่เข้มข้นเข้าขั้น ระทึกกันได้เรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ และที่สำคัญคือหนังมาพร้อมสาระที่ชี้ชวนให้เรามีสติอยู่เสมอ รวมถึงเห็นโทษของการที่คนใช้อารมณ์เป็นเครื่องนำทาง

Schaden

Tony Soprano ทำให้เจ้าอ้วนคนนั้นล้มลงและวิดพื้นบนรถบัส พูดได้เลยว่าไม่เป็นมืออาชีพเลย ผู้คนมีมุมมองที่ไม่สมจริงเกี่ยวกับระเบียบวินัยทางทหาร ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในค่ายฝึกทหาร แต่จะไม่เกิดขึ้นในกองเรือจริง นอกจากนี้ COB คนนั้นอ้วนอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ เขาไม่สามารถขึ้นเรือดำน้ำได้ และกองทัพก็ไม่ยอมให้คนตัวใหญ่ขนาดนั้นในกองทัพด้วยซ้ำ นอกจากนี้ เรือดำน้ำเหล่านี้ยังอยู่ในวัฏจักรการลาดตระเวนที่มีระเบียบวินัยอย่างเข้มงวด โดยมีลูกเรือ 2 คน มักจะมีลูกเรือลาดตระเวนในสถานะแจ้งเตือนอยู่เสมอ XO และ weps จะไม่ถูกส่งตัวเพื่อออกเดินทาง หากพวกเขาอยู่นอกช่วงลูกเรือ ลูกเรืออีกคนซึ่งเป็นสีน้ำเงินหรือสีทองจะมีเรือและเรือจะอยู่ที่ทะเลแล้ว หากมีอะไรเกิดขึ้น คุณต้องมีเรือดำน้ำที่พร้อมจะออกเดินทางแล้ว คุณอาจไม่มีโอกาสแม้แต่จะใช้เวลาที่เรือ Alabama ใช้ในการออกเดินทาง

ลูกเรือทั้งหมดสวมชุดลูกสุนัขขณะกำลังเดินทาง รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้วย นอกจากนี้  Crimson Tide คุณไม่เคารพขณะกำลังเดินทาง หากกัปตันเดินผ่านไป คุณก็ควรยอมรับเขาแต่ไม่ต้องทำความเคารพ หนังเรื่องนี้ทำให้ทหารดูโง่จริงๆ ในความคิดของฉัน พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในระบบของเรือ และเจ้าหน้าที่มักจะเป็นผู้ถามคำถามโง่ๆ การต่อสู้ในความยุ่งเหยิงของลูกเรือเกี่ยวกับซิลเวอร์เซิร์ฟเฟอร์นั้นเกินเลยไปมาก พวกเขาให้การทดสอบจิตวิทยาและอื่นๆ แก่ลูกเรือดำน้ำ ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายหลักคือการกำจัดคนที่ไม่สามารถรับมือกับความเครียดและเป็นคนหัวร้อน ไม่ได้หมายความว่าผู้คนจะไม่เถียง แต่ถ้าพวกเขาต่อยกัน พวกเขาคงถูกเขียนรายงานและอยู่ในนรกไปแล้ว

และสิ่งสุดท้ายคือตอนจบ หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในชีวิตจริง คุณสามารถเดิมพันได้เลยว่าผู้บังคับบัญชาที่จ่อปืนที่บรรจุกระสุนที่ศีรษะของผู้บริสุทธิ์จะต้องถูกดำเนินคดีในศาลและส่งเข้าคุก ไม่ใช่แค่ได้รับอนุญาตให้เกษียณอย่างเงียบๆ เท่านั้น นอกจากนี้ ผู้บังคับบัญชาไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้ XO ของพวกเขาออกคำสั่ง XO น้อยกว่าครึ่งที่ทำสำเร็จและได้คำสั่ง คุณต้องเป็นครีมเดอลาครีมถึงจะควบคุมเรือดำน้ำนิวเคลียร์และทำตามโครงร่างอาชีพอย่างเคร่งครัดได้

เป็นภาพยนตร์ที่น่าสนุก แต่ฉันได้อ่านกระทู้บางส่วนเกี่ยวกับว่าคุณจะอยู่ข้างใคร ระหว่างแฮ็กแมนหรือวอชิงตัน และจริงๆ แล้วฉากทั้งหมดนั้นเกินกว่าจะสมเหตุสมผลได้! ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น “Deep Impact” ของภาพยนตร์ซับไตเติ้ล อาจจะพูดได้ว่าอลาบามากำลังจะเจาะทะลุก้นมหาสมุทรและรบกวนแกนกลางของโลกเพื่อก่อให้เกิดฟลักซ์แม่เหล็กที่จะหยุดขีปนาวุธของรัสเซียไม่ให้ยิงออกไป ฮ่าๆ สรุปแล้ว  Crimson Tide เป็นภาพยนตร์ที่ดี แต่ไม่คิดว่าจะแม่นยำหรือสมจริงเลย

ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The Fix (2024)

Number 24 (2024)

Kang Mak (2024) คังมาก

Long Gone Heroes (2024)

Conquer Lahad Datu (2024) ปฏิบัติการ ลาฮัดดาตู

แสดงความคิดเห็น

แชร์

หนังอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Better Man (2024)
หนังฝรั่ง ซับไทย
หนัง

7.6

ดูหนังออนไลน์ 2024

เว็บดูหนังมาแรงในตอนนี้ สามารถดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ที่มีคุณภาพที่สุดในตอนนี้ ไม่มีโฆษณามารบกวนใจ อีกทั้งมีหนังมากมายมาให้เลือกชม มากมายกว่า 10,000 เรื่อง ที่นี่มีหนังใหม่2023 จากค่ายดังทุกค่ายมาให้ทุกคนได้รับชมกันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่า Netflix, Disney+, Viu , DC , Marvel ทำให้ท่านได้รับความสนุกเพลิดเพลินเหมือนได้รับชมอย่างสมจริงทั้งภาพที่คมชัดระดับ Full HD และเสียงภาพยนตร์ที่คมชัดมากที่สุด

ดูหนัง Netflix หนังใหม่

อ่านต่อที่นี่