ชินจังเดอะมูฟวี่ ตอน เจ้าหนูกังฟูดุ๊กดิ๊กพิชิตสงครามราเม็ง
เรื่องย่อ
เรื่องราวเริ่มต้นด้วยครอบครัว เจ้าหนูกังฟูดุ๊กดิ๊กพิชิตสงครามราเม็ง Nohara รวมถึง Shinnosuke (Shin-Chan) ผู้ไม่อาจระงับอารมณ์ได้และพ่อแม่ของเขา Hiroshi และ Misae ไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวที่รีสอร์ทน้ำพุร้อน อย่างไรก็ตาม การเดินทางของพวกเขากลับพลิกผันอย่างไม่คาดคิด ชินจังเดอะมูฟวี่ ตอน เจ้าหนูกังฟูดุ๊กดิ๊กพิชิตสงครามราเม็ง เมื่อพวกเขาบังเอิญไปพบกับหมู่บ้านที่ซ่อนอยู่ซึ่งเป็นที่รู้จักจากราเมนในตำนาน ซึ่งชินจังชื่นชอบอย่างมาก ขณะที่ครอบครัวโนฮาระลิ้มรสราเม็งรสเลิศ พวกเขาก็พัวพันกับความบาดหมางอันยาวนานของหมู่บ้านกับราเม็งที่เป็นคู่แข่งกันโดยไม่ได้ตั้งใจ สิ่งต่อไปนี้คือการผจญภัยสุดแปลกที่เต็มไปด้วยการหลบหนีอันดุเดือด ตัวละครสุดแหวกแนว และช่วงเวลาที่น่าหัวเราะ ในขณะที่ชินจังและครอบครัวของเขาพยายามประนีประนอมระหว่างฝ่ายที่สู้รบกันและรักษาความอร่อยของราเมงเอาไว้
ผู้กำกับ
- Wataru Takahashi
บริษัท ค่ายหนัง
- Eiga Crayon Shin-chan Committee
นักแสดง
- Arapon
- Ryôta Asari
- Mahito Funaki
- Yutaka Furukawa
- Fumihiko Gotô
โปสเตอร์หนัง
รีวิว
ชินจังเเละเพื่อนๆเเก๊ง “หน่วยพิทักษ์คาซึคาเบะ” เจ้าหนูกังฟูดุ๊กดิ๊กพิชิตสงครามราเม็ง พากันไปผจญภัยในเมืองใหม่ที่อยู่ดีๆก็ผุดขึ้นมาในคาซึคาเบะชื่อ “ไอ้หยาทาวน์” โดยเริ่มมาจากการที่มาซาโอะคุง อยู่ดีๆก็เปลี่ยนไป เเก๊งชินจังเลยพากันตามไปสืบจนเจอมาซาโอะคุงฝึกสุดยอดวิชากังฟูชื่อ “หมัดเทพดุ๊กดิ๊ก” เเละได้พบกับอาจารย์ปู่เเละรันจัง (พากย์โดย น้องพิม Sweat16) จากคำพูดที่ว่า “คนในยุทธจักรไม่เป็นตัวของตัวเอง” หน่วยพิทักษ์คาซึคาเบะจึงถูกม้วนเข้าสู่วังวนเเห่งการต่อสู้กับ ดอนปันปันเเห่งเเบล็กเเพนด้าราเม็ง ผู้ครอบครองยอดวิชาจี้จุด “ดัชนีดำ” ที่หวังทำเงินจากการขายราเม็งที่ทำให้ผู้คนเสพติดการกินราเม็ง ภารกิจสุดวุ่นปนฮาของชินจังเเละเเก๊งจะเป็นอย่างไร ต้องไปดูใน “ชินจัง เดอะมูฟวี่ ตอนเจ้าหนูกังฟูดุ๊กดิ๊ก พิชิตสงครามราเม็ง”
ชินจังภาคนี้ถือเป็นการ์ตูนชินจังที่ถือว่าค่อนข้างยาวเลยทีเดียว (1 ชั่วโมง 44 นาที) ซึ่งก็เป็นเพราะมีการปรับเนื้อเรื่องให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น การ์ตูนชินจังภาคนี้จึงไม่ใช่เเค่สำหรับเด็กเท่านั้น เเต่ทำมาเพื่อให้วัยรุ่นหรือคนวัยทำงานที่อยากรำลึกถึงชินจังที่อ่านๆกันมาดู โดยไม่รู้สึกน่าเบื่อ เเละที่เเทบไม่น่าเชื่อคือ มีการสอดเเทรกข้อคิดในการดำเนินชีวิตเข้าไปในการ์ตูนเรื่องนี้ด้วย เเต่ว่าถ้าเรามาดูชินจัง
เราก็คงไม่ได้หวังจะมาเจอข้อคิดต่างๆใช่มั้ยครับ เรามาเพื่อดูมุกฮาๆจากตัวละครต่างหาก ซึ่งเดอะมูฟวี่ภาคนี้ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง การ์ตูนใส่มุกมาเเบบจัดเต็มตลอดเรื่อง ให้เราหัวเราะทั้งเเบบหึหึ เเละหลุดขำก๊ากกันเลยทีเดียว ที่สำคัญมีการนำมุกคลาสสิกของเรื่องชินจังมาสอดเเทรกเป็นระยะ ทำให้คนที่เคยอ่านชินจังมาตั้งเเต่เล่ม 1 ได้รู้สึกรำลึกความหลังครั้งก่อนกันบ้าง มุกก็เเปลมาดีมาก เรียกได้ว่าไอ้ฟีลอ่านเเบบรวมเล่มสมัย NED ยังไงยังงั้น เดอะมูฟวี่ภาคนี้ยังได้นำตัวละครต่างๆ ทั้งคุณครูโรงเรียนอนุบาลบูม, ชาวเเฟลตรูหนู, สามสาวเเก๊งเเมงป่องเเดงเเห่งไซตามะ เเละอื่นๆอีกมากมายกลับมาโชว์ตัวให้เราหายคิดถึงกันอีกด้วย เรียกได้ว่าทำให้เเฟนๆชินจังได้อิ่มเอมใจไปกับการเจอตัวละครเก่าๆกันเเน่นอน
ถึงเเม้ตัวการ์ตูนเองจะทำให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น เเต่การที่ยังมีป้ายชินจังติดอยู่ ก็อาจจะทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ดูเด็กไปสำหรับบางคน รวมถึงการดำเนินเรื่องเเบบฉบับชินจัง ก็อาจทำให้เนื้อเรื่องไม่สมเหตุสมผลในบางส่วน (ก็การ์ตูนนี่เนอะ) เเต่เเอดมินก็อยากให้คนดูมองข้ามจุดเหล่านี้ไปบ้าง เเละเปิดใจรับความฮาเเบบไร้สาระ เบาสมองเเละหัวเราะไปกับสารพัดมุกที่การ์ตูนประเคนมาให้ตลอดเรื่อง วันๆเครียดมาเยอะเเล้ว เจ้าหนูกังฟูดุ๊กดิ๊กพิชิตสงครามราเม็ง ไร้สาระบ้างก็ได้ครับ สรุปข้อดีและข้อเสีย ข้อดี มุกตลก (ทั้งเก่าเเละใหม่) ปล่อยมาทั้งเรื่อง นำตัวละครเก่าๆ กลับมา ให้หายคิดถึง เนื้อเรื่องมีการปรับปรุงให้เหมาะกับยุคสมัยมากขึ้น มีการสอดเเทรกข้อคิดเข้าไปในการ์ตูน ข้อเสีย เสียงพากย์ของน้องพิม Sweat16 ตอนจบเเบบชินจัง P.S. การ์ตูนเรื่องนี้เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยครับ พาลูกหลานไปดูวันเด็กนี้ เเล้วคุณอาจจะขำพวกเค้ามากกว่าการ์ตูนก็ได้ ยังไงก็วินวินครับ
**บอกก่อนว่าเอนทรี่เป็นรีวิวจากการไปชมรอบเปิดตัวเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ผ่านมานะคะ (ขอบคุณทีมงาน Japan Anime Movie Thailand อีกครั้งมา ณ ที่นี้)** มาค่ะ วันนี้จะมารีวิวอนิเมชั่นหนังโรงอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกมองข้ามไปไกลลิบลับสำหรับนักดูหนังในบ้านเราอย่างชินจังจอมแก่นกัน อย่างที่หลายคนอาจจะทราบกันว่าเมื่อช่วงวันเด็กที่ผ่านมา มีอนิเมชั่นที่ได้เข้าฉายโรงไปเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องราวที่คงคุ้นเคยกันดีสำหรับเด็กโข่งยุค 90ต้นๆปลายๆ อย่างชินจังจอมแก่น เจ้าเด็กหัวมันที่มีนิสัยแสนทะเล้นทะลึ่งจนโดนผู้ใหญ่ในบ้านเราเขม่นมาอยู่เป็นพักๆ กลับมาคราวนี้กับฉบับมูฟวี่ประจำปีที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง (เพียงแต่ในบ้านเราอาจจะได้ดูยากสักหน่อยถ้าเทียบกับแฟรนไชส์การ์ตูนเด็กอื่นๆอย่าง โคนัน โดเรม่อน หรือโปเกม่อน ฯลฯ)
หนังเล่าถึง ชินจัง คาซาม่า เนเน่ โบจัง ที่สังเกตว่าพักหลังๆ มาซาโอะ ที่มักจะขี้กลัวและอ่อนแอกลับมีท่าทีแปลกๆจนอดเป็นห่วงไม่ได้ ทุกคนตัดสินใจสะกดรอยตามมาซาโอะไปจนถึงย่านไชน่าทาวน์ในเมืองคาซึคาเบะ เจ้าหนูกังฟูดุ๊กดิ๊กพิชิตสงครามราเม็ง ก่อนพบว่าที่แท้ มาซาโอะกำลังฝากตัวเป็นศิษย์ในสำนักมวยจีนเผื่อฝึกวิชากังฟูกับลุงแก่ๆใจดี และรันจัง หลานสาวคนสวยที่ทำให้ชินจังขอเข้าร่วมสำนักด้วย การฝึกวิชาเพลงหมัดกังฟูดุ๊กดิ๊กที่มีกระบวนท่าทั้งเก้า โดยผู้ที่สามารถฝึกไปถึงขั้นที่เก้าได้จะได้รับพลังพิเศษที่สามารถปกป้องโลกนี้ให้สงบสุขไปได้ตลอดกาลเป็นไปด้วยดี แต่แล้วปัญหาก็เกิดขึ้น เมื่อที่ทางในไชน่าทาวน์นี้ค่อยๆถูกยึดครองจากแก๊งมาเฟียแบลคแพนด้าที่ผลิตราเม็งสูตรประหลาดที่ทำให้คนที่กินเข้าไปค่อยๆกลายเป็นทาส และมีเป้าหมายที่จะทำลายสำนักฝึกกังฟูเพื่อเอาที่มาสร้างหอคอยราเม็งเพื่อทำให้โลกตกอยู่ใต้อำนาจจากการกินราเม็ง
คือโดยพล็อตรวมๆก็ค่อนข้างจะบั่นทอนปัญญาตามสไตล์ชินจังที่ทุกคนรู้จักกันดี แต่ถ้าเป็นคนที่เป็นแฟนของชินจังเดอะมูฟวี่หรือตามดูมาบ่อยๆจะรู้ดีว่าภายใต้พล็อตที่ดูเล่นง่ายสไตล์เด็กน้อยสดใสบ้าๆบอๆแบบนี้ มักจะซ่อนกิมมิคความดาร์ค ความดราม่าของประเด็นที่ต้องการสื่อสารเอาไว้เสมอ (อาจจะเป็นเพราะถ้าเทียบกับในการ์ตูนสายเด็กด้วยกัน ธีมของชินจังจะฉีกแนวตัวเองไปได้กว้างในหลายทางมากกว่า โดเรม่อนหรือโคนันที่มีธีมของเดอะมูฟวี่ที่ค่อนข้างตายตัว) ซึ่งในภาคนี้ก็ยังมีประเด็นหลายๆอย่างที่เอาเนื้อหาหลักมาตีความเพิ่มหรือสอดแทรกแนวคิดอะไรที่น่าสนใจซ่อนไว้อยู่เยอะเหมือนกัน เช่น ความอ่อนแอของมาซาโอะที่ฝึกวิชายังไงก็ไปไม่รอด เป็นแค่ตัวประกอบในแกงค์หน่วยพิทักษ์คาซึคาเบะเฉยๆ ถ้านับเป็นกาชาละก็ได้มาคงมีแต่คนเอาไปบดทิ้ง แต่ในขณะเดียวกัน กับตัวละครอย่างชินจังพอจะทำอะไรก็มีพรสวรรค์ เป็นจุดเด่น เป็นที่รักของเรื่องไปหมด จนกลายเป็นคำถามว่าถึงไม่มีมาซาโอะ แต่เรื่องก็ยังดำเนินต่อไปจนจบได้จริงหรือไม่
นอกจากนั้นก็ยังมีประเด็นหนักๆแบบ การตั้งใจทำความดีแบบเอาตัวเองเป็นที่ตั้งจะส่งผลอะไรตามมา ความสงบสุขหรือการแก้ปัญหาจากการปิดปากคนอื่นจะถือว่าเป็นการแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ แม้กระทั่งประเด็นอย่างการช่วยเหลือคนที่ติดยาเสพติดหรือคนที่หลงผิดอะไรแบบนี้ก็ยังมี ถ้าพอวกกลับไปดูที่ธีมของภาคนี้ดีๆก็จะทำให้เข้าใจได้ว่า อ้อ…ทำไมถึงทำธีมออกมาเป็นแบบนี้ ซึ่งส่วนตัวแล้วจุดนี้ถือเป็นสเน่ห์ของชินจังเดอะมูฟวี่ของทุกภาคมากๆ คือถึงจะเป็นประเด็นที่ย่อยลงมาในรูปแบบฉากหน้าที่เคลือบความสดใสบ้าๆบอๆ แต่ในบางครั้งการเล่าเรื่อง การสอดแทรกแนวคิดหรือการหาทางแก้ปัญหาด้วยอะไรแบบนี้มันก็ทำให้รู้สึกกินใจไปได้อีกแบบอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ
ในส่วนของงานภาพ มุกตลก เพลงประกอบและอื่นๆก็ทำออกมาได้ครบถ้วนตามสไตล์ชินจังดี เรียกว่าถ้าเป็นแฟนชินจังที่เคยเห็นหรือดูมากันบ่อยๆอยู่แล้วก็น่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว รับรองว่าได้ฮากับความเพี้ยนและทะลึ่งของชินจังในหลายๆฉากแน่นอน เจ้าหนูกังฟูดุ๊กดิ๊กพิชิตสงครามราเม็ง รวมถึงตัวละครอีกหลายๆตัวในฉบับหนังสือที่มาโผล่เป็นแขกรับเชิญให้ได้เห็นกันเป็นช่วงๆ(สำหรับใครไม่ได้ตามอนิเมะทีวีภาคหลังๆ) ส่วนตัวแอบคิดว่าภาคนี้ยังใส่ลูกเล่นความบ้าในงานภาพน้อยไปหน่อยถ้าเทียบกับเดอะมูฟวี่ภาคก่อนๆที่บางครั้งก็มีอะไรหวือหวาหรืออาร์ตเกินคาดออกมา แต่ก็ไม่ใช่งานภาพระดับเล่นง่ายหรือไม่คู่ควรกับการฉายโรงแน่นอน เอาเป็นว่าโดยรวมๆ ถ้าดูเอาผ่านๆก็ถือว่าดูได้ง่ายๆเพลินๆ เรียกเสียงฮาบั่นทอนปัญญาได้ดีตามสไตล์ชินจัง แต่ถ้าจะดูให้ลึกซึ้งก็มีแนวคิดหรือปรัชญาอะไรที่น่าสนใจซ่อนอยู่มากเหมือนกัน(ตามสไตล์ชินจังมูฟวี่อย่างที่บอกไป)
ใครที่คิดถึงตัวละครเหล่านี้ก็แนะนำให้ไปดูกันนะ รับรองว่าเป็นตัวเลือกของหนังอนิเมชั่นอีกเรื่องที่ไม่ผิดหวังแน่นอน(ถึงตอนนี้น่าจะไม่เหลือโรงฉายแล้วก็เถอะ 55) (เกรด A-) ปล. เรือชินจังคาซาม่าแล่นฉิวมากค่ะ เกลียดความที่เราไม่ต้องพายอะไร เพราะ อฟช จัดมาให้ในโรงแบบนี้จริงๆ ปล2. สำหรับคนที่สงสัยว่าเสียงพากย์ไทยของน้องพิมพ์ Sweat 16 ออกมาเวิร์คมั้ย ส่วนตัวคือโอเคกว่าที่คิดพอควรนะ ตอนแรกๆอาจจะมีบางจุดที่ดูโดดไปบ้าง แต่พอฟังไปเรื่อยๆคือกลมกลืนกับทีมพากย์คนอื่นๆดี และในตัวบทเองก็มีอะไรให้เล่นเยอะมาก(กว่าที่คิดไว้สำหรับตัวละครนี้) ดังนั้นใครเป็นแฟนน้องเค้ายิ่งไม่ควรพลาดอ่ะค่ะ
ดูการ์ตูนออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
SHIN CHAN THE MOVIE (2014) ชินจัง เดอะ มูฟวี่ ศึกยอดคุณพ่อโรบอท
SHIN CHAN THE MOVIE (2017) ชินจัง เดอะมูฟวี่ สงครามเอเลี่ยนพันธุ์เพี้ยนถล่มโลก