KUBHD ดูหนังออนไลน์ Black Widow (2021) เต็มเรื่อง
black widow เรื่องย่อ
Black Widow (2021) แบล็ค วิโดว์ นาตาชา โรมานอฟ (โจแฮนสัน) ต้องหลบหนีการไล่ล่าของรัสเซียและถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับอดีตของเธอเอง เธอต้องร่วมมือกับเยเลนา เบโลวา (พิว) น้องสาวฝาแฝดของเธอ และครอบครัวของเธอเพื่อหยุดยั้งแผนการชั่วร้ายของทาสยา โรมานอฟ (เฮิร์ต) แม่ของเธอ Black Widow เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อเมริกันปี 2021 ที่สร้างจาก Marvel Comics ซึ่งมีตัวละครชื่อเดียวกัน ผลิตโดยมาร์เวล สตูดิโอส์ และจัดจำหน่ายโดยวอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอ โมชั่น พิคเจอร์ส ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 24 ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU)
ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย Cate Shortland จากบทภาพยนตร์โดย Eric Pearson และนำแสดงโดย Scarlett Johansson ในบท Natasha Romanoff / Black Widow ร่วมกับ Florence Pugh, David Harbour, O-T Fagbenle, Olga Kurylenko, William Hurt, Ray Winstone และ Rachel Weisz เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ใน Captain America: Civil War (2016) ภาพยนตร์เรื่องนี้เห็นโรมานอฟต้องหลบหนีและถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับอดีตของเธอในฐานะสายลับรัสเซียก่อนที่เธอจะกลายเป็นผู้ล้างแค้น
ในปี 1995 สุดยอดทหาร Alexei Shostakov และ Melina Vostokoff มือสังหาร Black Widow ทำงานเป็นสายลับชาวรัสเซีย โดยสวมรอยเป็นครอบครัวเดียวกันในรัฐโอไฮโอ โดยมี Natasha Romanoff และ Yelena Belova เป็นลูกสาวของพวกเขา พวกเขาขโมย S.H.I.E.L.D. ข้อมูลและหลบหนีไปยังคิวบา โดยที่นายพลเดรย์คอฟ เจ้านายของพวกเขา ได้พาโรมานอฟและเบโลวาไปที่ห้องแดงเพื่อรับการฝึกเป็นแม่ม่าย ในทศวรรษต่อๆ มา โชสตาคอฟถูกจำคุกในรัสเซีย ขณะที่โรมานอฟและเบโลวากลายเป็นนักฆ่าที่ประสบความสำเร็จและอันตราย ในที่สุด Romanoff ก็แปรพักตร์ต่อ S.H.I.E.L.D. หลังจากช่วยคลินท์ บาร์ตันวางระเบิดสำนักงานในบูดาเปสต์ของเดรย์คอฟ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าสังหารเดรย์คอฟและอันโทเนีย ลูกสาวคนเล็กของเขา
ในปี 2016 โรมานอฟเป็นผู้ลี้ภัยในข้อหาละเมิดสนธิสัญญาโซโคเวีย [b] เธอหลบหนีจากรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ แธดเดียส รอสส์ และหนีไปที่เซฟเฮาส์ในนอร์เวย์ที่ริก เมสันจัดหาให้ ในขณะเดียวกัน เบโลวาก็สังหารอดีตแม่ม่ายจอมโกงแต่กลับต้องสัมผัสกับก๊าซสังเคราะห์ที่ทำให้สารเคมีควบคุมจิตใจของห้องแดงเป็นกลาง เบโลวาส่งขวดยาแก้พิษไปให้โรมานอฟ
โดยหวังว่าเธอและดิอเวนเจอร์สจะปลดปล่อยแม่ม่ายคนอื่นๆ ได้ และเข้าไปซ่อนตัว เมื่อโรมานอฟขับรถโดยมีขวดยาอยู่ในรถโดยไม่รู้ตัว เจ้าหน้าที่ห้องแดงทาสก์มาสเตอร์ก็โจมตีเธอ Romanoff หนีจาก Taskmaster และตระหนักว่าขวดนั้นมาจากบูดาเปสต์ ที่นั่นเธอได้พบกับเบโลวา ซึ่งเผยให้เห็นว่าเดรย์คอฟยังมีชีวิตอยู่และห้องสีแดงยังคงทำงานอยู่ แม่ม่ายและทาสก์มาสเตอร์โจมตีพวกเขา แต่โรมานอฟและเบโลวาหลบเลี่ยงพวกเขาและพบกับเมสันที่ส่งเฮลิคอปเตอร์ให้พวกเขา
โรมานอฟและเบโลวาแหกคุกโชสตาคอฟเพื่อทราบตำแหน่งของเดรย์คอฟ และเขาพาพวกเขาไปหาวอสตอคอฟฟ์ ซึ่งอาศัยอยู่ในฟาร์มนอกเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ที่นั่นเธอกำลังปรับปรุงกระบวนการควบคุมจิตใจด้วยสารเคมีที่ใช้กับหญิงม่าย วอสตอคอฟฟ์แจ้งเตือนเดรย์คอฟและเจ้าหน้าที่ของเขาให้มารับพวกเขา แต่โรมานอฟโน้มน้าวให้วอสตอคอฟฟ์ช่วยพวกเขา และทั้งคู่ใช้เทคโนโลยีหน้ากากอนามัยเพื่อเปลี่ยนสถานที่ ที่ห้องสีแดง ซึ่งเป็นสถานที่ลับทางอากาศ วอสตอคอฟปลดปล่อยโชสตาคอฟและเบโลวาจากพันธนาการของพวกเขา
เดรย์คอฟมองเห็นการปลอมตัวของโรมานอฟ เขาเปิดเผยว่าทาสก์มาสเตอร์คือแอนโทเนีย ซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิดในบูดาเปสต์ ซึ่งร้ายแรงมากจนเดรย์คอฟต้องใส่เทคโนโลยีในหัวของเธอเพื่อช่วยเธอ สิ่งนี้ทำให้อันโทเนียกลายเป็นทหารที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งสามารถเลียนแบบการกระทำของใครก็ตามที่เธอเห็นได้ โรมานอฟไม่สามารถโจมตีเดรย์คอฟได้เนื่องจากมีการติดตั้งฟีโรโมนล็อคไว้ในแม่ม่ายทุกคน แต่ปฏิเสธด้วยการหักจมูกของเธอเองและตัดประสาทรับกลิ่นของเธอ โชสตาคอฟต่อสู้กับทาสก์มาสเตอร์ในขณะที่วอสตอคอฟฟ์นำหนึ่งในเครื่องยนต์ของโรงงานออกมา จากนั้นพวกเขาก็ขังทาสก์มาสเตอร์ไว้ในห้องขัง
ผู้กำกับ
เคต ชอร์ตแลนด์
บริษัท ค่ายหนัง
มาร์เวลสตูดิโอส์
black widow นักแสดง
- สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน
- ฟลอเรนซ์ พิว
- เดวิด ฮาร์เบอร์
- โอที แฟกเบนล์
- โอล์กา เคอรีเลนโก
- วิลเลียม เฮิร์ต
- เรย์ วินสตัน
- เรเชล ไวสซ์
โปสเตอร์หนัง
black widow รีวิว
The Spinoff – เดอะ สปินออฟ
🍿รีวิวหนังลำดับที่ 122 | Black Widow (2021) #DisneyPlusHotstar
เรื่องราวที่มาที่ไปของสายลับมือหนึ่งระดับ อเวนเจอร์ส อย่าง นาตาชา โรมานอฟ ( สการ์เล็ต โจแฮนสัน ) ที่จะต้องร่วมมือกับน้องสาวต่างสายเลือดอย่าง เยเลน่า เบโลวาร์ ( ฟลอเรนซ์ พิว ) ยับยั้งแผนการ “วิโดว์” ที่กำลังจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดและเป็นภัยที่ร้ายแรงต่อโลก
🎬 การเดินเรื่องโดยรวมแล้วค่อยข้างเป็นสูตรสำเร็จของมาร์เวลเลย ไม่ว่าจะเป็นพล็อตเรื่อง สไตล์ตัวดีตัวร้าย ภารกิจต่างๆ มุขตลกหรือแม้แต่ความดราม่า นี่ไม่ใช่การเดินเรื่องเพื่อส่งไม้ต่อแต่อย่างใด แต่เป็นเหมือนการแวะไปเล่าเรื่องของนาตาชาเท่านั้นเอง ไม่ได้มีผลกับไทม์ไลน์หลัก ถึงจะมีการพูดถึงทีมอเวนเจอร์อยู่บ่อยครั้งมากในหนัง แต่ไม่เกี่ยวกัน
ต้นเรื่องหนังจะเล่าที่มาของนาตาชาและเยเลน่าตั้งแต่อดีตเลย เรื่องราวที่มาความสามารถของพวกเธอ พอช่วงกลางเรื่องจะเล่นดราม่าหนักมาก ทำให้จังหวะหนังช้า ยืดเยื้อจนหน่วงไปเลย แต่พอไปท้ายเรื่องก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนจบก็รู้สึกเฉยๆ ประมาณว่าดูก็ดี ได้รู้เรื่องตัวละครเยอะขึ้น ไม่ดูก็ได้ไม่มีผลกับไทม์ไลน์
🎥 การนำเสนอจะใส่ฉากแอคชั่นเยอะขึ้น แต่สั้นเพียงซีนละไม่กี่นาที ฉากไล่ล่ามันส์ทุกฉาก สนุกเป็นช่วงๆ (เฉพาะช่วงต่อสู้) การเชื่อมโยงประเด็นต่างๆ เข้าใจได้ สมเหตุสมผล ส่วนเนื้อหาเรื่องราวที่เสนอมานั้นเป็นเหมือนการยัดเนื้อหาเข้ามาใหม่ทั้งหมด จนเป็นเส้นเรื่องใหม่เลย , มุขตลกสไตล์มาร์เวลก็เริ่มฝืดๆ บ้างเพราะเล่นบ่อยจนมันเอียนไม่ตลก ,อย่างที่บอกว่าไม่เกี่ยวกับจักรวาลหลัก แต่พอในเอ็นเครดิตก็โยงถึงเอ็นเกมส์ และพร้อมเดินเรื่องต่อได้น่าสนใจเลย
⭐ สรุปก็คือ ดูไว้ก็ดี ทำให้เรารู้ที่มาคาแรคเตอร์และรายละเอียดของนาตาชา โรมานอฟไว้ประดับบารมี แต่อย่าลืมว่าในไทม์ไลน์หลักไม่มีนาตาชาแล้ว การดูเพื่อเก็บเนื้อหารอเฟส 4 คงไม่ใช่เรื่อง ความสนุกกลางๆ เนื้อเรื่องถูกยัดๆเข้ามาแบบทำให้เต็ม ฉากต่อสู้สนุกเร้าใจ ดราม่าจัดๆเกี่ยวกับผู้หญิง ตามนี้ครับ
ความสุขเล็กๆน้อยๆของชายวัยกลางคน
รีวิว Black Widow (2021) หนังที่หลายคนรอคอย และบางคนอาจผิดหวัง (คะแนน 6/10)
หลังจากเลื่อนฉายในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกไปหนึ่งปีเต็มเพราะสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด ในที่สุดหนัง Black Widow ก็ได้เปิดฉายตามประเทศต่าง ๆ และในประเทศไทยก็ฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่คดีความระหว่างสการ์เล็ต โจแฮนส์สันและดิสนี่ย์ (ว่าด้วยการละเมิดสัญญาจากการฉายลงสตรีมมิ่งดิสนี่ย์พลัสแบบ Premier Access ส่งผลกระทบต่อโบนัสที่โจแฮนส์สันจะได้รับจากจากการฉายในโรงภาพยนตร์) ลงเอยด้วยการตกลงนอกศาล และน่าจะลงเอยด้วยโจแฮนส์สันได้ส่วนแบ่งโบนัสที่เธอควรจะได้ (หากหนังทำเงินน่าพอใจ) นอกเหนือจากค่าตัวปกติของเธอ
แต่ไม่ว่าโจแฮนส์สันจะได้ส่วนแบ่งเพิ่มหรือไม่ ความจริงที่ปฎิเสธไม่ได้ก็คือ Black Widow ไม่ใช่หนังมาร์เวลที่ปรุงออกมาได้กลมกล่อมเท่ากับงานระดับท็อป ๆ ของค่าย แต่มันก็ไม่ได้แย่อะไร เพราะหนังที่แย่ที่สุดของมาร์เวลอย่าง Thor : The Dark World หรือ The Incredible Hulk (ร่วมสร้างกับยูนิเวอร์แซล) ก็ไม่ได้เลวร้าย ท่ามกลางข้อเสียประมาณหนึ่ง (โดยเฉพาะตัวร้าย) หนังเหล่านี้ล้วนดูได้เพลิน ๆ เพียงแต่มีบาดแผลรูรั่วต่าง ๆ ในระหว่างทางและการกระทำของตัวละครบางตัวก็ไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ ในระดับที่พอจะทำเป็นลืม ๆ หรือมองข้ามไปได้
Black Widow เป็นหนังเดี่ยวเรื่องแรกของตัวละครนี้นับตั้งแต่ปรากฎตัวในหนัง Iron Man และสมทบในหนังมาร์เวลอีก 6 เรื่อง และตัวหนังเองเผชิญกับปัญหาในฐานะของหนัง Prequel หรือภาคก่อน (เหตุการณ์ในหนังเกิดขึ้นก่อน Avengers : Infinity War) ที่คนดูส่วนใหญ่รู้แล้วว่าสุดท้ายแล้วเกิดอะไรขึ้นกับแบล็ควิโดว์ ชะตากรรมของตัวละครในหนังเดี่ยวของเธอเลยไม่ชวนให้ลุ้นเท่าไหร่เพราะยังไงเธอก็ไม่ตายแน่ ๆ และด้วยสูตรสำเร็จของหนังซุปเปอร์ฮีโร่มาร์เวลที่แทบจะถอดแบบกันมาทุกเรื่อง ก็ทำให้คาดเดาได้ประมาณหนึ่งว่าจะจบลงแบบไหน ข้อดีของ Black Widow คือมีบทสมทบฝั่งฝ่ายดี ที่เป็นตัวละครใหม่เอี่ยมอย่างเยเลน่าของฟอเรนซ์ พิว (ซึ่งขโมยซีนมาก ๆ สมกับที่เธอเป็นนักแสดงดาวรุ่งในช่วง 2-3 ปีหลัง) และเดวิด ฮาร์เบอร์ในบทเรด การ์เดี้ยนมาช่วยทำให้หนังมีชีวิตชีวาและเป็นตัวละครที่คนดูเอาใจช่วยได้ประมาณหนึ่ง
หนังจับเอาช่วยหลังที่อเวนเจอร์เกิดแตกแยกเพราะสนธิสัญญาโซโคเวีย ระหว่างที่หนีไปกบดาน นาตาชา โรมานอฟได้พบกับเยเลน่า น้องสาวไม่แท้ของเธอ ที่ถูกล้างสมองเป็นนักฆ่ามาช้านาน และเมื่อเธอ “คืนสติ” ก็ชวนนาตาชาไปทำภารกิจที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และต้องพากันไปขอความช่วยเหลือจากอดีต “สมาชิกครอบครัว” ที่ทั้งนาตาชาและเยเลน่าไม่อยากจะพบเจอและรื้อฟื้นความสัมพันธ์นักเพราะมีอดีตอันไม่น่าพิสมัยและความเจ็บปวดซ่อนอยู่ แต่ก็เลือกไม่ได้เพราะพวกเขาเป็นกุญแจสำคัญในการโค่นล้มตัวร้าย (เรย์ วินสตัน)
ส่วนที่ดีที่สุดของหนังก็น่าจะเป็นความสัมพันธ์ของครอบครัวที่ทั้งรักทั้งชัง มีด้านที่ไม่สมประกอบแต่ก็ยังผูกพันกัน ซึ่งนักแสดงทั้งสี่ต่างก็ถ่ายทอดแง่มุมนี้ออกมาได้ประมาณหนึ่ง และช่วยให้หนังที่เล่าเรื่องตามแบบแผนของมาร์เวล ไม่ได้ลงเอยด้วยความซ้ำซากจำเจซะทีเดียว
ส่วนฝั่งตัวร้ายทั้งที่เป็นตัวละครลับและเป็นตัวร้ายโต้ง ๆ ก็ล้วนเป็นความน่าผิดหวังเมื่อเทียบกับตัวร้ายในหนังมาร์เวลเรื่องอื่น เพราะในเรื่องนี้เราไม่สามารถเข้าใจและเข้าถึงแรงจูงใจของเขาได้ แถมยังเป็นตัวละครแบน ๆ มีมิติเดียวซึ่งไม่มีเสน่ห์ใด ๆ ไม่ได้มีความเก่งกาจหรือร้ายกาจในระดับที่สมน้ำสมเนื้อกับฝั่งตัวเอก จนพลอยทำให้ไม่รู้สึกลุ้นหรือเอาใจช่วยแบล็ควิโดว์และทีมไปด้วย
ผู้กำกับเคต ชอร์ทแลนด์ ที่ทำหนังดราม่าหรือหนังระทึกขวัญในออสเตรเลียบ้านเกิดมาตลอด ซึ่งถูกสการ์เล็ต โจแฮนส์สัน (ที่เรื่องนี้เป็น executive producer ด้วย) เลือกให้มากำกับ ก็ไม่ได้สร้างความพิเศษให้แก่งานของมาร์เวลเท่ากับไรอัน คูกเลอร์ (Black Panther) หรือไทก้า ไวทิที (Thor : Raknarok) และลงเอยด้วยการเป็นเหมือนมือปืนรับจ้างที่ไม่ได้แสดงความสามารถของเธอเองเทียบเท่ากับงานหนังเล็ก ๆ เรื่องอื่นที่เธอเคยทำ
งานด้านเทคนิคก็เป็นไปตามมาตรฐานของหนังมาร์เวล ฉากแอ็คชั่นทั้งการสู้แบบประชิดตัวหรือยิงกันก็ธรรมดามากไม่ได้มีอะไรพิเศษ ส่วน CG มีช่วงท้ายเรื่องดูหลุด ๆ และไม่ค่อยน่าพอใจนัก แต่ก็ไม่เลวร้าย
และพอหนังโดยรวมไม่ได้ออกมาระดับดีเลิศ บวกกับหนังฟอร์มยักษ์เรื่องอื่น ๆ ที่เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า และการรักษาตัวเองให้ปลอดภัย แถมโรงภาพยนตร์ในไทยบางเครือยังขึ้นราคาค่าตั๋ว 20 บาทอ้างว่าหนังฟอร์มยักษ์ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ร่วมสร้างอะไรกับเขาด้วย (ทำอย่างนี้ แล้วคิดเหรอว่าคนจะอยากกลับไปช่วยอุดหนุนโรงภาพยนตร์) บางคนที่ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ในไทยอาจรอให้หนังเรื่องนี้เข้า Disney + Hotstar และเก็บเงินไว้ดูหนังเรื่องอื่น ดูจะเป็นตัวเลือกที่เข้าท่าที่สุดในสถานการณ์แบบนี้
P’Jar Review
Black Widow : แบล็ค วิโดว์ (2021)
คะแนน 8/10
ภาพยนตร์ Superhero เรื่องที่ 24 ในจักรวาล Marvel Cinematic Universe ผลงานการกำกับโดย Cate Shortland จาก Berlin Syndrome เขียนบทโดย Eric Pearson จาก Thor: Ragnarok และ Godzilla vs. Kong พร้อมได้ผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ Scarlett Johansson กลับมารับบทเดิมอย่าง Natasha Romanoff หรือ Black Widow สมทบด้วย Florence Pugh , David Harbour , O-T Fagbenle , Olga Kurylenko , William Hurt , Ray Winstone และ Rachel Weisz ผู้ชนะรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์ The Constant Gardener
โดยภาพยนตร์จะเล่าเรื่องราวหลักในระหว่างช่วงคาบเกี่ยวของ Captain America: Civil War และ Avengers: Infinity War ที่ Natasha Romanoff ได้ทำผิดต่อสัญญา Sokovia ทำให้ต้องหนีกดดานจนอดีตได้ตามกลับมาหลอกหลอนอีกครั้งอย่างโครงการ Red Room ของ Russian ทำให้ Natasha ต้องหันไปพึ่งครอบครัวของเธออีกครั้งในการล้มล้างและเปิดโปงโครงการอันแสนชั่วร้ายนี้ รวมถึงภาพยนตร์ก็ได้เล่าในช่วงวัยเด็กของ Natasha Romanoff ก่อนจะมาเป็น Black Widow อีกด้วย ในช่วงเปิดเรื่องของภาพยนตร์ และภาพยนตร์ก็ยังมี post-credits scene 1 ตัว ที่พร้อมส่งไม้ต่อไปยังภาพยนตร์และซีรีส์ถัดๆไปของมาร์เวล
สำหรับภาพยนตร์ Black Widow ในภาพรวมก็ยังดูได้แบบสนุกๆ แอคชั่นจัดเต็ม ดราม่ามีให้อิน สไตล์ Marvel Cinematic Universe ที่ยังคงโดดเด่นในการทำหนัง Superhero ให้ดูสดใหม่และไม่น่าเบื่อ แต่สเกลของ Black Widow อาจเล็กลงไปบ้าง ทำให้ไม่ค่อยทรงพลังเท่าไหร่นัก และเป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวในอดีตหลังจบ Avengers: Endgame ไปแล้ว จึงทำให้ความตื่นเต้นน้อยลงตามไปอีก บวกกับสถานการ์ณโควิด-19 ที่ทำให้หนังเลื่อนฉายมาอย่างยาวนาน จึงหมดความอยากในการดูไปนานแล้วจริงๆ แต่โดยสรุป Black Widow มันก็ยังคงมีเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้เราได้รู้ตัวตนของ Natasha Romanoff หรือ Black Widow มากยิ่งขึ้นและเรื่องราวที่เป็นรอยต่อ เรื่องราวที่ซุกซ่อนมายาวนาน ที่ในที่สุดเราก็ได้รับรู้เสียที และฉากเครดิตที่ก็ว้าวในระดับนึง จนอยากจะดูหนังหรือซีรีส์ต่อๆไปของมาร์เวลแล้ว เพราะอยากให้เรื่องราวเดินไปข้างหน้าเยอะๆหลัง Avengers: Endgame เสียที เพราะความตื่นเต้นกำลังจะกลับมาแล้วแหละ
Black Widow (2021)
IMDb 7.2/10
Rotten Tomatoes 80% (Avg rating 7.00/10)
Rotten Tomatoes 92% (Audience Score)
Shershadow
หลังจากที่เลื่อนไปเลื่อนมา ในที่สุดก็ได้ดูสักทีสำหรับภาพยนตร์ฉายเดี่ยวเรื่องแรกและเรื่องสุดท้ายของ Black Widow
รีวิว Black Widow แบล็ค วิโดว์
“เศษหัวใจแม่ม้ายดำ”
ผู้กำกับ Cate Shortland
ปีที่ฉาย 2021
เรื่องย่อ (ไม่สปอย)
จากความล้มเหลวของภารกิจ ทำให้เกิดสนธิสัญญาโซโคเวียร์เพื่อควบคุมบรรดาอเวนเจอร์ แบล็ค วิโดว์ หรือ นาตาชา โรมานอฟ เป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่ยอมรับข้อตกลงในสนธิสัญญาโซโคเวียร์ ทางการจึงสั่งจับกุมเธอ ระหว่างการหลบหนีเธอได้พบกับเรื่องราวบางอย่าง ซึ่งเกี่ยวข้องกับอดีตของเธอและมันตามหลอกหลอนเธอมาทั้งชีวิต นั้นคือ Red Room
บทวิจารณ์
“ปิดฉากแบล็ค วิโดว์ด้วยการระเบิดภูเขาเผากระท่อม” ห่างหายจากภาพยนตร์มาเวลกันมานานมากๆ ในที่สุดก็ได้ดูสักที สำหรับ Black Widow จะดำเนินเรื่องหลังจาก Civil War และก่อน Infinity War เรื่องจะเล่าตั้งแต่อดีตของนาตาชาตอนเป็นเด็ก ให้เรารู้ถึงเบื้องหลังของนาตาชาที่เราไม่ได้รู้มาก่อน ว่ากันตามตรงก็คือเล่าเรื่องของนาตาชาทั้งหมดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเสริมความสมเหตุสมผลกับการตัดสินใจของ Black Widow ใน Infinity War และ End Game นั้นเอง ซึ่งก็ทำได้แต่ไม่ได้ดีขนาดนั้น เนื้อเรื่องเล่าหลายประเด็นทั้งประเด็นอดีตอันดำมืด ประเด็นครอบครัว ประเด็นพี่น้อง แต่ไปไม่สุดสักทาง โดยเฉพาะประเด็นครอบครัวซึ่งว่าด้วยเรื่องของตัวละครอเล็กซี่ เมริน่า นาตาชา และเยเลน่า ที่เล่าแบบผิวเผินเกินไป เราเลยไม่อิน
ประเด็นอดีตของนาตาชาก็เล่าได้ไม่สุดเท่าไรทำได้ไม่ดีพอ โอเคแหละได้รู้เรื่องบูดาเพส ได้รู้เรื่องเรดรูมด้วย พอได้อยู่ๆ แต่ประเด็นพี่น้องระหว่างนาตาชากับเยเลน่าตรงนี้ค่อนข้างโอเคเลย แต่ทุกส่วนล้วนปรุงแต่งให้ดีได้กว่านี้อะ ทว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อยากจะเป็นหลายอย่างเกินไป ก็เลยทำได้ไม่สุกสักอย่างแต่ก็ใช่ว่าจะแย่ ภาพยนตร์เรื่องนี้อยากจะเป็นภาพยนตร์สายลับ พยายามซ่อนปมไว้ให้ผู้ชมสนใจ แต่ขณะเดียวกันก็อยากเป็นภาพยนตร์แอ๊คชั่นระเบิดภูเขา เผากระท่อม และอยากเป็นภาพยนตร์ดราม่าครอบครัวอีก สุดท้ายก็เอามาปั่นรวมกัน ไม่ถึงกับเละ แต่อารมณ์ตอนดูมันขัดๆยังไงไม่รู้ แล้วก็ขาดเอกลักษณ์ของตัวเองไปหมดเลย ข้อผิดพลาดหลักๆของภาพยนตร์ Black Widow คือการตลาด มาเวลกะจะขายเรื่องนี้
เพราะเรื่องราวของตัวนาตาชาในเอนเกม แต่เขาน่าจะลืมไปว่าสิ่งที่เกิดขึ้นใน แบล็ค แพนเตอร์ อินฟินิตี้วอร์ เอนเกม มันยิ่งใหญ่ขนาดไหน แล้วความยิ่งใหญ่นั้นกลบภาพยนตร์ Black Widow มิดเลย ไม่ได้หมายความว่า Black Widow ไม่ดีนะแต่เหมือนเราไปกินอาหารในร้านอาหารระดับโลกที่ทำอย่างยิ่งใหญ่หรูอลังการ แล้วก็กลับมากินร้านอาหารตามสั่งเปิดใหม่ ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ มันดีในตัวมันเอง แต่ความยิ่งใหญ่มันต่างกันอะ ถ้าจะให้ดีควรฉายแบล็ควิโดว์ หลังจบ Civil War มันจะดีมากๆเลยหละ อีกอย่างจะมีความต่อเนื่องทางเนื้อเรื่องด้วย Black Widow เปิดเรื่องมาอย่างน่าสนใจมากๆเลยหละ ผมชอบฉากอินโทรของ Black Widow มากๆเลย มันต่างจากภาพยนตร์มาเวลเรื่งอื่นๆ ดูดาร์กกว่ามากๆ ทำให้เกิดความน่าสนใจ
แต่สุดท้าย Black Widow ก็ไม่กล้าดาร์ก ไม่สิ ต้องเรียกว่าไม่กล้าออกจากเซฟโวนของมาเวลดีกว่า เพราะภาพยนตร์ทำได้ในระดับมาตรฐานมาเวลพอดีเลย มีความสนุก ตื่นเต้น ความันส์ ความฮา ดราม่านิดๆหน่อยๆ พอประมาณ สำหรับผม Black Widow สนุกว่า Captain marvel เยอะเลยหละ ส่วนตัวละครก็ค่อนข้างน่าเสียดายเลยนะ มิติตัวละครปูมาได้ดีเลยหละ แต่ใช้ไม่คุ้ม ทั้ง เรดการ์เดียนที่แสดงโดยเดวิด ฮาเบอร์ เมริน่าแสดงโดยราเชล ไวซ์ สองตัวละครนี้น่าสนใจแต่ออกมาไม่เยอะ และใช้ได้ไม่คุ้ม ถ้าใช้ดีๆจะทำให้ทิศทางของ Black Widow ดูดีขึ้นมาเลย ตัวละครมีความน่าสนใจอยู่แล้ว น่าสนใจระดับ Ancient one หรือ เจเน็ต แวน ดาย เลย แต่ใช้ได้ไม่ดีเท่าสองตัวละครนั้นอะ น่าเสียดายมากๆ ส่วนตัวร้ายอย่าง Taskmaster พอๆกับตัวร้าย Iron Man 2 เลยหละ อาจจะดีกว่าหน่อยหนึ่ง แต่ไม่น่าจดจำเท่าไร ออกแบบดีนะ ดีไซน์ดี ความสามารถยกมาจากคอมมิคเลย ทว่าใช้น้อยเกินไป น้อยมากๆ น้อยจนน่าเสียดายเลยหละ
ตัวร้ายถือเป็นตัวแปรหนึ่งที่ทำให้ภาพยนตร์สนุกอะนะ ถ้าขาดตัวร้ายดีๆภาพยนตร์ก็เสียความสนุกพอสมควรเลย ส่วนที่ดีคือตัวละครแบล็กวิโดว์และเยเลน่า สองตัวละครนี้โอเค บทเยเลน่าก็เด่นสุดๆเลย แล้วสำหรับผมเธอสามารถเป็นแบล็ค วิโดว์แทนนาตาช่าได้เลยหละ อยากรู้ว่ามาเวลจะใช้ตัวละครนี้แบบไหนต่อ ส่วนงานภาพฉากแอ๊คชั่นดีมากๆเลยหละ ส่วนงานเสื้อผ้าคอสตูม ชุดแบล็ควิโดว์ภาคนี้สวยดีทั้งชุดดำและขาวเลย แล้วก็ทรงผมนาตาชาเรื่องนี้สำหรับคนเขียนรีวิวแล้วก็ค่อนข้างชอบอะ ออกแบบฉากแอ๊คชั่นดีมากๆ ช่วงหลังภาพยนตร์มาเวลจะแอ๊คชั่นแบบเหนือมนุษย์ยิงลำแสง แต่พอมาเป็น Black Widow ก็ใช้แอ๊คชั่นแบบสู้ระยะประชิด จุดนี้ชอบมากๆเลย ส่วนที่เหลือก็ระเบิดภูเขาเผากระท่อมตูมตามมากๆเลย
เหมือน Hobb and Shaw เออใช่ ความสนุกของ Black Widow ก็ประมาณ Hobb and Shaw อะ ลักษณะเนื้อเรื่องก็ทำนองนี้แหละ ส่วนความมันส์คือมันส์แบบโคตรๆเลย ส่วนงาน CG ของ Black Widow บางฉากลอยอย่างไม่น่าให้อภัยเลยอะ หลายฉากตัวแหละ ส่วนการถ่ายทำก็ดี ใช้สีอะไรต่างก็ดี มุมกล้องตามาตรฐาน ดนตรีประกอบก็ตามมาตรฐานมาเวล ก็เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ทำได้ตามาตรฐานมาเวล และสนุกกว่าภาพยตร์มาเวลหลายๆเรื่องนะ เป็นภาพยนตร์ที่ถ้าว่างก็ดูสักครั้งเพราะเรื่องนี้เชื่อมกับ Hawkeye ที่จะเข้าปลายปีนั้นเอง ดูหนัง ออนไลน์
มีเอนเครดิต
พากย์ไทย โอเคตามาตรฐานดิสนี่ย์
เนื้อเรื่อง 7/10
การดำเนินเรื่องการนำเสนอ 7/10
งานภาพ 7/10
นักแสดงและตัวละคร 7/10
เสียงและดนตรี 8/10
สรุป 7.3/10
“มันส์โคตร”
เป็นเพียงความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
Love This Scene ฉากนี้ที่รักหกำป /ๅ
#ฉากนี้มีหนังใหม่ #blackwidow 7.5/10
หลังจากที่อ่านรีวิวและกระแสเสียงแตกของคนดูมาในหลายๆโพสต์ ส่วนตัวคิดว่า หนังมันเน้นหนักไปที่ดราม่าตัวละครหลัก ทั้งปมการเลี้ยงดูและการเติบโต หลักๆว่าง่ายๆคือ ประเด็นครอบครัวแบบแน่นๆ และการเล่าเรื่องเน้นหนักไปที่การสะท้อนภาพแบล็ควิโดว์ในมุมมองของผู้หญิงธรรมดา ที่มีบาดแผลความเจ็บปวดทั้งทางกายและใจ มันเลยอาจทำให้แฟน มาร์เวลที่รอหนังมาระยะหนึ่งรู้สึกผิดหวังไปบ้าง แต่ตัวแอดเองกลับชอบนะ ที่ได้เห็นมุมมองใหม่ๆในตัวละครมาร์เวลแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก รวมไปถึงฉากแอคชั่นต่างๆ ที่เน้นหนักไปทางคิวบู้ที่มีกลิ่นของยุคอะนาล็อกปนๆอยู่บ้างไม่ CG จ๋า แบบฉากใช้พลัง ชนิดที่เห็นได้บ่อยๆในหนัง อเวนเจอร์ส แฟรนไชน์อื่นๆ ก็เลยทำให้หนังมีเสน่ห์ไปอีกแบบนึง
และตัวละครอื่นๆก็ถือว่าไม่มีที่ติอะไรมากนัก โดยเฉพาะซีนดราม่า ก็ผ่านฉลุย ตัว ราเชล กับ ฟลอเลนซ์ พิว ในบท เมลิน่า และเยเลน่า ถือว่าเป็นน้ำจิ้มเด็ดของหนังในช่วงซีนอารมณ์ ภาพรวมอื่นๆก็ถือว่าอยู่ในมาตรฐานมาร์เวล ส่วนตัวชอบค่ะ แนะนำเลย ไปดูมุมมองใหม่ๆในตัวละครนาตาชา 👍
ปล. มีเอนเครดิตมีผลกับแฟรนไชน์อื่นอย่าลืมดูนะ
ปล. 2 เยเลน่า กวนประสาทดีนะ 555 เลิฟ ❤
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
The Sandman (2022) เดอะแซนด์แมน
Dune Part Two (2024) ดูน ภาค 2
7.1