ดูหนังออนไลน์ใหม่ 2024 หนังเต็มเรื่อง ดูหนังใหม่ ดูหนังฟรี HD Netflix
VegusCasino
บาคาร่า ออนไลน์
สล็อตเว็บตรง

Battlefield Earth (2000) สงครามผลาญพันธุ์มนุษย์

ให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้

Trailer

Battlefield Earth (2000) สงครามผลาญพันธุ์มนุษย์

Battlefield Earth (2000) สงครามผลาญพันธุ์มนุษย์ ในปี 3000 มนุษยชาติไม่สามารถเทียบได้

Battlefield Earth (2000) สงครามผลาญพันธุ์มนุษย์ กับ Psychlos ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่ละโมบและยักย้ายเพื่อแสวงหาผลกำไรสูงสุด Psychlos นำโดย Terl ที่เย้ายวนและทรงพลัง Psychlos กำลังทำลายโลกของทรัพยากรโดยใช้เศษซากของมนุษยชาติที่เหลืออยู่เป็นทาส

สิ่งที่เหลืออยู่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้กลับคืนสู่สภาพดั้งเดิมโดยเชื่อว่าผู้รุกรานเป็นปีศาจและเทคโนโลยีเป็นสิ่งชั่วร้าย หลังจากมนุษยชาติหมดความหวังที่จะปลดปล่อยตัวเองจากการกดขี่ของมนุษย์ต่างดาวชายหนุ่มชื่อไทเลอร์ตัดสินใจออกจากบ้านที่รกร้างว่างเปล่าของเขาในเทือกเขาร็อกกีเพื่อค้นหาความจริงจากนั้นเขาก็ถูกจับและเป็นทาส เมื่อถึงเวลานั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะต่อสู้กลับนำเพื่อนมนุษย์ต่อสู้เพื่ออิสรภาพครั้งสุดท้าย

ผลงานการแสดงของ John Travolta ซึ่งเปลี่ยนลุคมาในฉบับไซไฟ เรื่องราวเล่าเรื่องในปี ค.ศ. 3000 ที่มนุษย์ไม่มีอำนาจในการปกครองโลกอีกต่อไป เนื่องมาจากก่อนหน้านี้หลายปี โลกได้ถูกพิชิตโดยมนุษย์ต่างดาวที่โหดร้าย มนุษย์ในช่วงหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ถูกจำแนกออกเป็นสองพวก อันได้แก่พวกที่สวามิภักดิ์ต่อผู้ปกครองใหม่ และพวกที่อยู่ตามป่าตามเขาความทรงจำเกี่ยวกับการถูกรุกรานของมนุษย์ ถูกลบล้างออกไปหมด โดยพวกเขาได้หันไปนับถือตัวสัตว์ประหลาด ที่มีความน่ากลัวแทนดูหนังออนไลน์ Battlefield Earth สงครามผลาญพันธุ์มนุษย์ เต็มเรื่อง มาสเตอร์ ใน อนาคต โลกเป็นดินแดนรกร้าง Psychlos

Battlefield Earth (2000) สงครามผลาญพันธุ์มนุษย์

ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ยักษ์มนุษย์ต่างดาวที่โหดร้ายได้ครอบครองโลกมาเป็นเวลา 1,000 ปีและใช้แรงงานทาสมนุษย์ในการขุดแร่ธาตุและทรัพยากรอื่น ๆ ชนเผ่ามนุษย์พรานล่าสัตว์โบราณบางตัวอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่ซ่อนเร้น แต่หลังจากการกดขี่ของ Psychlo สิบศตวรรษพวกเขาได้ละทิ้งความหวังใด ๆ ที่จะฟื้นการควบคุมโลกของพวกเขา Jonnie Goodboy Tyler ( Barry Pepper ) ปฏิเสธความสิ้นหวังสากลและออกจากเผ่าของเขาในเทือกเขาร็อคกี้ในการเดินทางสำรวจพร้อมนักล่าเร่ร่อนชื่อ Carlo ( Kim Coates ) ทั้งสองถูกจับโดยกลุ่มจู่โจม Psychlo

และถูกส่งไปยังค่ายทาสในซากปรักหักพังของเดนเวอร์รัฐโคโลราโดฐานปฏิบัติการหลักของ Psychlos โดมขนาดใหญ่เหนือฐานปกป้อง Psychlos จากชั้นบรรยากาศของโลกซึ่งเป็นพิษต่อพวกมันขอประเดิมก่อนว่าหนังเรื่องนี้โดนวิจารณ์เชิงติดลบด้วยความที่ว่าเป็นหนังไซไฟยอดแย่แห่งปี ซึ่งเป็นยังไงนั้นลองติดตามกันดูล่ะกัน

เริ่มเรื่องราวสุดไกลโพ้นในปี 3000 ชาวมนุษย์โลกต้องกลับสภาพไปอาศัยอย่างยุคหินโบราณ ไม่มีความรู้ความสามารถใดเรื่องเทคโนโลยี ไม่มีแม้กระทั่งบ้านที่เป็นคอนกรีตปูนนอกจากอยู่ในถ้ำ การที่มนุษย์โลกกลายสภาพเป็นยุคหินนั้นมาจากการล้างเผ่าพันธุ์ของชาวไซโคล(Psychlo)ที่มาเยือนทำลายสิ่งมีชีวิตและยึดดาว ด้วยวิทยาการที่ล้ำหน้ากว่ามนุษย์ที่เหลือรอดจะถูกจับไปเป็นทาสรับใช้ในการขุดแร่ทองคำ ส่วนที่ยังไม่โดนจับก็ใช้ชีวิตไปวันๆเช่นมนุษย์โบราณ

หนังเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการนำนวนิยายขายดีของ L.Ron Hubbard มาสร้างเป็นหนังใช่ว่ามันจะดี ตอนเปิดตัวยอดเงินทำรายได้สุดเลวร้ายขั้นตกต่ำ ไปๆมาๆ ไม่ได้หยุดอยู่แค่เป็นหนังไซไฟยอดแย่เท่านั้น ซ้ำร้ายได้รางวัลราสซี่มา 7 รางวัล ไม่หมดแค่นั้น ยังถูกโหวตกลายเป็นหนังไซไฟยอดแย่อีกหนที่ยอดแย่ในรอบ 10 ปี
ถามว่าแย่มากเลยเหรอ สำหรับบางคนมีสนุกกันบ้างถ้าละเว้นเรื่องความน่าเชื่อถือ เพราะสิ่งที่ได้สัมผัสหลังดูจบคือการสอบตกเกือบทุกแขนง เรื่องราวมันเริ่มต้นจากชายหนุ่มเลือดร้อนจอห์นนี่

(Barry Pepper)ผู้อยากไปข้างนอกเพื่อพบพระเจ้าตามคำร่ำลือ แต่แล้วเขาต้องถูกจับเพราะพระเจ้าเสียเอง สำหรับพระเจ้าแล้วคือเหล่าเอเลี่ยนไซโคลที่ยึดอำนาจโลกนี่เอง หลังโดนจับได้ถูกขังไว้ใช้เป็นทาส จอห์นนี่พยายามทุกครั้งให้ตัวเองหนีออกไปได้แต่ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้งจนผิดสังเกตเธิร์ล(John Travolta)หัวหน้ารักษาความปลอดภัยของเหล่าไซโคล ด้วยพฤติกรรมของมนุษย์ที่น่าจะเขลาปัญญาไม่รู้จักเครื่องไม้เครื่องมือเทคโนโลยี จอห์นนี่กลับใช้ปืนประจำตัวไซโคลได้อย่างไม่ได้ตั้งใจ ทีแรกเธิร์ลไม่เชื่อจนลองของให้ถือปืนต่อไปสักระยะก่อนจะยิงซ้ำอีกที ทำให้เธิร์ลมองเห็นบางอย่างในตัวจอห์นนี่และเกิดความคิดบางอย่างออกในการกอบโกยทองคำเอาไว้คนเดียว

เธิร์ลเห็นคุณสมบัติจากจอห์นนี่หลายอย่างด้วยการลองทดลองให้ออกไปข้างนอก คอยศึกษาพฤติกรรมหลายด้านเพื่อดูว่าเขามีจุดน่าพิเศษอะไรอีกบ้าง ก่อนจะจับตัวกลับมาอีกครั้งเพื่อทำให้จอห์นนี่ยอมเชื่อฟังและอยู่ภายใต้การควบคุม ทว่าแผนการของเธิร์ลนั้นจะต้องเป็นความลับไม่ให้ใครรู้ได้จึงตัดสินใช้เครื่องมือสอนจอห์นนี่ ทำให้เขามีความรู้ที่เร็วมากกว่าคนอื่นหลายเท่าจนสามารถเรียนรู้ภาษาของไซโคลได้ ด้วยเหตุนี้มันสมองของจอห์นนี่ที่ฉลาดกว่าคนอื่นจึงถูกใช้งานในการหาทองคำ เมื่อจอห์นนี่มีภูมิปัญญามากขึ้นทำให้รู้อะไรหลายๆอย่างมากมายจนได้กลายเป็นผู้นำขบวนการต่อต้านไซโคลอย่างลับๆเพื่อยึดเอกราชกลับมา

และต้องจัดการเหล่าเอเลี่ยนนอกโลกที่เหยียบย้ำออกไปจากโลกให้จงได้

ว่ากันว่า Battlefield Earth เป็นโครงการหนังที่มีการฟ้องร้องมากที่สุดของวงการ ซึ่งความจริงแล้วหนังสร้างโดยบริษัทของนักแสดงนำในเรื่องคือ John Travolta และเขาเองวางแผงสร้างภาคต่อ แต่ด้วยเหตุผลด้านรายได้ และการขึ้นศาลทำให้เลิกคิดที่จะสร้าง จึงเป็นหนังร้างที่จบแล้วจบกัน เนื้อเรื่องได้รับการกลั่นกรองเป็นนวนิยายขายดี ตรงนี้ยอมรับในความบรรเจิดเข้าท่าเข้าทาง เพราะมนุษย์หมดอารยธรรมไปกับสิ่งใหม่เหลือการดำเนินชีวิตแบบเก่าๆ ถูกปิดกั้นความรู้เหลือความเชื่อเรื่องเทพมากกว่าเหตุผลดังกบในกะลา

จะแล้วการทำสิ่งที่เป็นตัวอัษรมาสร้างเป็นตัวเป็นคนจากจินตนาการของใครบางคนคงยากเกินไปจะยอมรับตรงๆว่าหนังเรื่องนี้มีส่วนดีเช่นนวนิยาย เพราะการอ่านทำให้สัมผัสอะไรหลายอย่างที่สัมผัสได้ยาวนานกว่าการดู ผิดกับการทำเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาที่จบได้ไม่เกินสองชั่วโมง(ความจริงตัวหนังเกือบจะถึงสองชั่วโมงเลยนะ) ฉะนั้นพล็อตเรื่องลงเอยแบบง่ายเกินไป ความรู้สึกที่ได้หลังดูเรื่องนี้จบคือความคุ้มค่าที่คืนไม่ได้เพราะมันช้าและเสียเวลาไปในสิ่งที่น่าจะจบๆไป

ตัวหนังมีมุมกล้องวางท่าแอบเท่ไม่ใช่น้อยโดยเฉพาะเรื่องมุมภาพเอียงๆที่พบได้บ๊อยบ่อย การดำเนินเรื่องไปแบบเรื่อยๆไม่ค่อยอืดแต่ไร้สาระ ความจริงถ้าอืดยังพอเข้าใจเพราะมันต้องนอกเรื่องบางซะหน่อยเป็นเรื่องธรรมดา แต่นี่ไร้สาระหลายช่วงจนคิดอยู่ในใจแล้วว่ามนุษย์ไปพินาศให้กับต่างดาวบุกโลกพวกนี้ได้ยังไงไม่ใช่ว่าโง่หรอกแค่คิดว่ามันน่าเชื่อได้ขนาดนั้นจริงๆรือ เมืองร้างกลายเป็นซากปรักหักพังๆที่ผ่านเวลามายาวนานที่เกิดเป็นว่าข้างในดูใหม่โดยเฉพาะทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นอาวุธ เช่น

Battlefield Earth (2000) สงครามผลาญพันธุ์มนุษย์

เครื่องบินรบที่เหินอากาศได้อย่างไม่มีปัญหาจนเริ่มตะหงิดแล้วว่าพวกนี้ฝึกซ้อมเครื่องบินเป็นกันเร็วดีนะ ทั้งๆที่ยังใช้ปืนกันไม่ได้เรื่องเลย หรือจะความแปลกประหลาดของพวกเอเลี่ยนพวกนี้ที่ร่างกายดูใหญ่และเก้งก้างเกินกว่าจะไล่วิ่งจับได้ทัน ทั้งนี้บวกกับการแสดงแต่ละรายคนแล้วโดยเฉพาะตัวประกอบก็อดนึกขำไม่ได้ว่าพวกนี้โดนสาปหรือกินหินเข้าไปหรอกหรือไง ถึงแสดงได้แข็งและเฉยกันเหลือเกิน ไม่มีอารมณ์ให้เข้าใจสักนิดว่าพวกนี้ชนะได้ด้วยการเดินและถือปืนยิงไปเรื่อยๆ ผิดกับฝ่ายคนที่ช่วงท้ายเรื่องมีศักยภาพสูงกว่า ความคล่องแคล่วที่เร็วกว่า ผิดกับพวกเอเลี่ยนเหล่าที่รู้ว่าเกิดสงครามขึ้นยังเดินยิง พวกนี้วิ่งไม่เป็น?

จากเท่าที่สังเกตดูพวกเอเลี่ยนเหล่านี้ต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจที่ปิดจมูกทั้งสองข้างยังกับผู้ป่วย ผิดกับมนุษย์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ให้ยุ่งยาก เว้นแต่บางสถานที่เป็นพิษหายใจไม่ได้ เอ้าก็ยังดีที่ตรงนี้เองเป็นจุดเชื่อมโยงว่าตัวเอกของเรามีแผนอะไรในการจัดการพวกนี้แบบทีเดียวทั้งหมดไม่ให้ยุ่งยากเกินไปเริ่มจากการพังเพดานกระจกเพื่อเอาบรรยากาศเข้าไปข้างในให้พวกเอเลี่ยนรับไม่ไว้ ซึ่งจากเศษกระจกที่ตกลงมาเหมือนก้อนน้ำแข็งชิ้นใหญ่ที่ร่วงลงมากระแทกพื้นผิดกับรูปตอนระเบิดแตกที่บอบบาง จุดเล็กๆตรงนี้กะว่าจะมองข้ามไปซะหน่อย แต่อีกแล้วกับพระเอกของเราที่เท่

เพราะวิ่งฝ่ากระสุนปืนของเอเลี่ยนที่เท่เพราะจัดฉาก ลองนึกสภาพดูว่าพระเอกของเราวิ่งตรงกลางและข้างๆก็ระเบิดมาเรื่อยๆ เอ่ะมันยิงกันยังไงหว่า ลองมาพูดเรื่องการแสดงกันบ้างที่ปัญหาพวกเอเลี่ยนคือความแข็ง ยังดีได้นักแสดง John Travolta ชูหน้าตาพวกเอเลี่ยนเอาไว้ได้เยอะ ทั้งสีหน้าและท่าทางเหมาะกับคาแรกเตอร์เจ้าอารมณ์หวังประโยชน์ส่วนตัวได้ดี ด้านฝ่ายมนุษย์ไม่กล่าวมากเพราะได้ Barry Pepper แสดงตั้งแต่ต้นจบด้วยด้วยสีหน้ารอยยิ้มน้อย แต่สีหน้าเอาจริงเอาจังสูง ส่วนคนอื่นๆไม่เจาะจงรายละเอียดใดมากเพราะเนื้อเรื่องมันยังไงดูเอา นี่มันสงครามมนุษย์ยุคถ้ำกับเอเลี่ยนเทอะทะนะ

ดูผิวเผิน  มีความน่าดูตลอดเวลาแต่พอดูจบเท่านั้นเอง นั่งคิดไปสักระยะหนึ่งก็คล้ายจับสาระไม่ค่อยเจอ เอเลี่ยนโลภมากอยากได้ทองเป็นมุมมองอีกมิติหนึ่งว่าพวกนี้ชอบอะไร อย่างเธิร์ลที่พึมพำว่าพยายามอย่างหนักกับการเรียนเพื่อได้ตำแหน่งดีๆ สุดท้ายได้ยศระดับหน้าแต่ต้องอยู่เฝ้าโลก

กลายเป็นความเคืองในใจแล้วว่าทำไมต้องมาอยู่บนดาวดวงนี้ ทั่งอันที่จริงอยากอยู่บ้านเกิดของตัวเองมากกว่า และการนี้เองจึงวางแผนออกจากโลกด้วยการโกยทองก่อนแล้วหนีกลับไปอยู่บ้านเกิดดาวตัวเองอย่างสบายใจเฉิบ แต่ทำคนเดียวไม่ได้เลยใช้จอห์นนี่จนเป็นพยัคฆ์ติดปีกที่ได้ความรู้ไม่แพ้พวกเอเลี่ยน ในขณะที่พวกมนุษย์ทำอะไรไม่ได้เลยเป็นทาสอย่างเดียว ผิดกับจอห์นนี่โชคดีหลุดแล้วหลุดอีก ไฟแรงไม่เหนื่อยไม่ย่อท้อสักนิด ความแตกต่างนี้ทำให้หนังจบง่ายมากทั้งที่ไม่น่าง่าย

ในแง่เอฟเฟคไม่เลวร้ายพอดูได้ตามยุคสมัย หนังมีส่วนของแอ็คชั่นที่ได้ใจจริงๆคือตอนใกล้จบที่เป็นสงครามระหว่างมนุษย์กับเอเลี่ยน ทว่าความมันส์ในส่วนนี่ปราศจากมุมมองที่สนุกมีความนิ่งไม่ได้เร้าใจตามต้องการ ก็ดีอยู่หรอกด้านเนื้อเรื่องแต่ขอให้อย่าให้กระชับเกินไปจะได้ไหมเพราะมันสั้นจนอะไรๆก็เร็วไปหมดขอประเดิมก่อนว่าหนังเรื่องนี้โดนวิจารณ์เชิงติดลบด้วยความที่ว่าเป็นหนังไซไฟยอดแย่แห่งปี

ซึ่งเป็นยังไงนั้นลองติดตามกันดูล่ะกัน เริ่มเรื่องราวสุดไกลโพ้นในปี 3000 ชาวมนุษย์โลกต้องกลับสภาพไปอาศัยอย่างยุคหินโบราณ ไม่มีความรู้ความสามารถใดเรื่องเทคโนโลยี ไม่มีแม้กระทั่งบ้านที่เป็นคอนกรีตปูนนอกจากอยู่ในถ้ำ การที่มนุษย์โลกกลายสภาพเป็นยุคหินนั้นมาจากการล้างเผ่าพันธุ์ของชาวไซโคล(Psychlo)ที่มาเยือนทำลายสิ่งมีชีวิตและยึดดาว ด้วยวิทยาการที่ล้ำหน้ากว่ามนุษย์ที่เหลือรอดจะถูกจับไปเป็นทาสรับใช้ในการขุดแร่ทองคำ ส่วนที่ยังไม่โดนจับก็ใช้ชีวิตไปวันๆเช่นมนุษย์โบราณ

หนังเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการนำนวนิยายขายดีของ L.Ron Hubbard มาสร้างเป็นหนังใช่ว่ามันจะดี ตอนเปิดตัวยอดเงินทำรายได้สุดเลวร้ายขั้นตกต่ำ ไปๆมาๆ Battlefield Earth ไม่ได้หยุดอยู่แค่เป็นหนังไซไฟยอดแย่เท่านั้น ซ้ำร้ายได้รางวัลราสซี่มา 7 รางวัล ไม่หมดแค่นั้น ยังถูกโหวตกลายเป็นหนังไซไฟยอดแย่อีกหนที่ยอดแย่ในรอบ 10 ปีใน อนาคต โลกเป็นดินแดนรกร้าง Psychlos ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ยักษ์มนุษย์ต่างดาวที่โหดร้ายได้ครอบครองโลกมาเป็นเวลา 1,000 ปีและใช้แรงงานทาสมนุษย์ในการขุดแร่ธาตุและทรัพยากรอื่น ๆ ชนเผ่ามนุษย์พรานล่าสัตว์โบราณบางตัวอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่ซ่อนเร้น แต่หลังจากการกดขี่ของ Psychlo

สิบศตวรรษพวกเขาได้ละทิ้งความหวังใด ๆ ที่จะฟื้นการควบคุมโลกของพวกเขา Jonnie Goodboy Tyler ( Barry Pepper ) ปฏิเสธความสิ้นหวังสากลและออกจากเผ่าของเขาในเทือกเขาร็อคกี้ในการเดินทางสำรวจพร้อมนักล่าเร่ร่อนชื่อ Carlo ( Kim Coates ) ทั้งสองถูกจับโดยกลุ่มจู่โจม Psychlo และถูกส่งไปยังค่ายทาสในซากปรักหักพังของเดนเวอร์รัฐโคโลราโดฐานปฏิบัติการหลักของ

Psychlos โดมขนาดใหญ่เหนือฐานปกป้อง Psychlos จากชั้นบรรยากาศของโลกซึ่งเป็นพิษต่อพวกมันในปี ค.ศ. 3000 โลกถูกปกครองโดยเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาว ไซคลอส เป็นเวลากว่าสหัสวรรษ ไซคลอสได้ค้นพบยานสำรวจอวกาศห้วงลึก (แนะนำว่าเป็นยานโวเอเจอร์ 1) โดยมีทิศทางและรูปภาพติดตั้งอยู่บนยาน และวัสดุมีค่าอย่างทองคำที่นำพวกเขาตรงมายังโลก

หลังจากผ่านไปหนึ่งพันปี มนุษยชาติเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่มีจำนวนน้อยกว่า 35,000 และลดเหลือเพียงไม่กี่เผ่าในพื้นที่ห่างไกลของโลก ในขณะที่พวกไซคลอสดึงความมั่งคั่งทางแร่ธาตุออกจากโลกไซคลอสยืนได้สูง 9 ฟุต (2.7 ม.) และหนักถึง 1,000 ปอนด์ (450 กก.) พวกมันมีต้นกำเนิดมาจากไซโคล ดาวเคราะห์ที่มีชั้นบรรยากาศแตกต่างจากโลกอย่างสิ้นเชิง ซึ่งอยู่ในเอกภพอื่นซึ่งมีองค์ประกอบที่แตกต่างกัน “ก๊าซหายใจ” ของพวกมันจะระเบิดเมื่อสัมผัสกับสารกัมมันตภาพรังสี เช่น ยูเรเนียม Psychlos เป็นสายพันธุ์ที่โดดเด่นในหลายจักรวาลเป็นเวลาอย่างน้อย 100,000 ปีนวนิยายเรื่องนี้ติดตามจอนนี่

กู๊ดบอย ไทเลอร์ ชายหนุ่มในชนเผ่าหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับซากปรักหักพังของเดนเวอร์ภายใต้เงาของเทือกเขาร็อคกี้ ด้วยความหดหู่ใจจากการเสียชีวิตของพ่อของเขาเมื่อเร็วๆ นี้ รวมถึงความเฉื่อยชาและความเจ็บป่วยของผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ที่รอดชีวิตในเผ่าของเขา เขาจึงออกจากหมู่บ้านไปสำรวจที่ราบลุ่มและเพื่อหักล้างความเชื่อโชคลางที่ผู้คนของเขานับถือเรื่องสัตว์ประหลาดในพื้นที่เหล่านั้น

Terl เป็นหัวหน้าไซโคลฝ่ายรักษาความปลอดภัยไซต์เหมืองบนโลก หลังจากเรียนรู้สัญญาของเขาบนโลกได้ขยายออกไป Terl วางแผนที่จะเอาทองคำในเทือกเขาร็อกกี้มาเป็นของตัวเองและหลบหนี โขดหินล้อมรอบด้วยแร่ยูเรเนียมที่ทำให้ไม่สามารถขุดไซโคลได้ ทำให้ Terl ต้องลักพาตัวมนุษย์ไปเป็นแรงงานบังคับ ระหว่างการเที่ยวชมซากปรักหักพังของเดนเวอร์ เทอร์ลจับตัวจอนนี่ได้

จอนนี่ตีสนิทกับโรคจิตชื่อเคอร์ ซึ่งสูงเพียง 2.1 ม. และโรคจิตน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด

Ker ฝึก Jonnie ให้ใช้งานเครื่องขุด Psychlo เพื่อให้สามารถขุดแร่ได้ Terl และ Jonnie เดินทางไปสกอตแลนด์ที่ซึ่ง Jonnie คัดเลือกชาวสก็อตแปดสิบสามคนที่นำโดย Robert the Fox เพื่อช่วยในการขุด จอนนี่วางแผนร่วมกับชาวสกอตเพื่อยึดโลกคืนโดยใช้ความสามารถในการเข้าใจภาษาอังกฤษของ Terl ซึ่งไม่สามารถเข้าใจภาษาอังกฤษได้

หลายเดือนต่อมา Jonnie และชาวสก็อตขัดขวางการเคลื่อนย้ายบุคลากรและสินค้าอื่น ๆ ในรอบครึ่งปีไปยัง Psychlo โดยใช้เทคโนโลยี Psychlo เพื่อต่อต้าน Psychlos และเข้าควบคุมโลก หนึ่งปีหลังจากที่มนุษย์ควบคุมโลกได้ มนุษย์ต่างดาวเผ่าพันธุ์อื่นๆ ก็มาถึงและโคจรรอบโลก

จอนนี่ถูกคุกคามจากเผ่าพันธุ์เหล่านี้ในขณะเดียวกันก็ต่อต้านเผ่าพันธุ์ของนายธนาคารอวกาศที่พยายามยึดโลกคืนจากหนี้ที่ค้างชำระ ความปลอดภัยและความเป็นอิสระของมนุษยชาติถูกคุกคามอีกครั้ง ในที่สุดจอนนี่ก็ค้นพบว่าไซโคลถูกจอนนี่และชาวสก็อตทำลาย และสิ่งอำนวยความสะดวกไซโคลอื่น ๆ ทั่วทั้งจักรวาลก็ถูกทำลายเช่นกัน ทำให้ไซโคลสูญพันธุ์อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นเขาก็หาทางป้องกันการยึดครองโลก

ด้วยความช่วยเหลือจากวิศวกรไซโคลวัยชรา จอนนี่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ไซโคลและวิธีที่ไซโคลปกป้องเทคโนโลยีของพวกเขา มนุษย์เริ่มค้นพบประวัติศาสตร์ของพวกเขาอีกครั้ง และด้วยโลกที่ปลอดภัยและจำนวนประชากรมนุษย์ที่เพิ่มมากขึ้น จอนนี่วัยกลางคนจึงนำเสบียงบางอย่างและแอบหนีไปอย่างเงียบๆ ที่เทือกเขาร็อคกี้ โดยไม่มีใครพบเห็นอีกเลย เขากลายเป็นบุคคลในตำนานหลังจากหนังสือไดอะเนติกส์ของฮับบาร์ดส์: วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ของสุขภาพจิตได้รับการตีพิมพ์ในปี 2493 สมาคมจิตวิทยาอเมริกันได้ลงมติว่าคำกล่าวอ้างของหนังสือไม่ได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ต่อจากนั้น

ฮับบาร์ดยังคงต่อต้านจิตเวชศาสตร์ มุมมองที่นวนิยายเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นโดยพรรณนาถึงไซคลอสที่ถูกปกครองโดยพวกแคทริสต์ พวกโรคจิตที่ไม่เห็นด้วยกับหรือต่อต้าน Catrists จะถูกประหัตประหารในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Catrists ใช้การควบคุมจิตใจด้วยการผ่าตัดหรือการช็อตด้วยไฟฟ้าเพื่อรักษาฐานอำนาจของพวกเขา ฮับบาร์ดอ้างบ่อยครั้งในไซเอนโทโลจีว่าจิตแพทย์ใช้กลยุทธ์ดังกล่าวเพื่อรักษาอิทธิพลและเงินทุน คำว่า “ไซโคล” ถูกเปิดเผยว่าแต่เดิมหมายถึง “สมอง” ในภาษาไซโคล ซึ่งบ่งบอกว่ากลุ่ม Catrists รู้สึก (หรือในกรณีใดก็ตาม) ว่าประชากรทั้งหมดต้องการการรักษาในฐานะผู้ป่วยทางจิต

ตัวละครที่สนับสนุนคนหนึ่งซึ่งเป็นนักคณิตศาสตร์ไซโคลชื่อ Soth ได้รับการอธิบายว่าถูกหล่อหลอมโดยมุมมองของแม่ของเขา เธอเป็นสมาชิกของกลุ่มต่อต้านที่เรียกว่า “โบสถ์” ซึ่งจัดการประชุมทางศาสนาอย่างลับๆ “โบสถ์” แห่งนี้เหมือนกับโบสถ์ไซเอนโทโลจี ต่อต้านจิตเวชศาสตร์ในตอนหนึ่งของหนังสือ แพทย์ที่เป็นมนุษย์นึกถึง “ลัทธิ” ที่เรียกว่าจิตวิทยาซึ่งมีมาก่อนการรุกรานของไซโคล แต่ปัจจุบัน “ถูกลืม”

ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2523 สองเดือนหลังจากที่เขาเขียนหนังสือเสร็จ ฮับบาร์ดบอกกับเพื่อนไซเอนโทโลจิสต์ว่า “ฉันรู้สึกเบื่อหน่ายกับวิธีที่นักจิตวิทยาและศัลยแพทย์สมองทำให้ผู้คนยุ่งเหยิง ดังนั้นฉันจึงเขียนเรื่องแต่งโดยอิงจากผลที่ตามมาที่อาจจะเกิดขึ้น เกิดขึ้นหากมีการหดตัวอย่างต่อเนื่อง

ชื่อเดิมว่า “มนุษย์ สัตว์ใกล้สูญพันธุ์”  Battlefield Earth ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1982 โดยสำนักพิมพ์เซนต์มาร์ติน แม้ว่าการพิมพ์ซ้ำทั้งหมดจะเป็นของสำนักพิมพ์ Church of Scientology Bridge Publications และ Galaxy Press เขียนในรูปแบบของยุคนิยายเยื่อกระดาษ (ในช่วงที่ฮับบาร์ดเริ่มอาชีพการเขียนของเขา) นวนิยายเรื่องนี้เป็นงานขนาดใหญ่ (มากกว่า 750 หน้าในปกแข็ง, 1,000+ ในปกอ่อน)

มันเป็นนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องแรกของฮับบาร์ดตั้งแต่นิตยสารเยื่อกระดาษของเขาในช่วงทศวรรษที่ 1940 และได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นการกลับมาของนิยายวิทยาศาสตร์ของฮับบาร์ดหลังจากหายไปนานภาพปกของฉบับปกแข็งต้นฉบับมีภาพของฮีโร่ Jonnie Goodboy Tyler ซึ่งไม่ตรงกับคำอธิบายทางกายภาพที่ให้ไว้ในนวนิยาย การเปิดตัวหนังสือปกอ่อนที่ตามมาได้แก้ไขหน้าปก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยการให้เคราของไทเลอร์

หนังสือเล่มนี้ออกใหม่ในปี 2543 พร้อมหน้าปกใหม่ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปิดตัวภาพยนตร์ดัดแปลง หนังสือเล่มนี้ได้รับการเผยแพร่ในรูปแบบหนังสือเสียงและ ฮับบาร์ดยังได้รับเครดิตในการเขียนดนตรีประกอบซึ่งเปิดตัวในชื่อ Space Jazz; Chick Corea และ Stanley Clarke คือหนึ่งในผู้มีชื่อเสียงของไซเอนโทโลจีที่เล่นในอัลบั้มนี้ ซึ่ง Ediriwira ผู้วิจารณ์ The Vinyl Factory Amar กล่าวว่า “ถ้านี่ไม่ใช่หนึ่งในเพลงแจ๊สที่แย่ที่สุด มันก็บ้าที่สุด ได้รับคำวิจารณ์แบบแบ่งขั้ว

โดยมีนักวิจารณ์และผู้อ่านบางคนพิจารณาว่าหนังสือนี้เป็นผลงานไซไฟที่สนุกที่สุดของ Hubbard และเป็นหนังสือประเภทคลาสสิก ในขณะที่คนอื่นๆ มองว่าหนังสือนี้แย่มากจริงๆ หนังสือเล่มนี้ได้รับการตอบรับเชิงลบจากนักวิจารณ์วรรณกรรมบางคน เช่น The Economist เรียก  ว่า “นิยายเกี่ยวกับวีรชนที่ไม่ชัดเจน เขียนอย่างโหดเหี้ยม

ลมแรง และควบคุมไม่ได้” ขณะที่ในนิตยสารนิยายวิทยาศาสตร์ อะนาล็อก โทมัส อีสตันวิจารณ์หนังสือเล่มนี้ว่าเป็น “ความปรารถนา -เติมเต็มจินตนาการที่เต็มไปด้วยตัวละครกระดาษแข็งหนึ่งมิติ” นักวิจารณ์คนอื่น ๆ ชี้ไปที่งานเขียนที่ลื่นไหลของหนังสือเล่มนี้ เช่น “การทำลายล้างโลกของไซคลอสผู้ชั่วร้ายอย่างไร้ความปราณี

ด้วยระเบิดปรมาณู ซึ่งทำให้มันกลายเป็น ‘ดวงอาทิตย์ที่มีกัมมันตภาพรังสี'” พั้นช์ชมฮับบาร์ดอย่างประชดประชันว่า David Langford หลังจากวิพากษ์วิจารณ์โครงเรื่อง รูปแบบ และความไม่น่าเชื่อทางวิทยาศาสตร์ สรุปได้ว่า: “จากนี้ Battlefield อาจฟังดูเกือบจะคุ้มค่าที่จะดูสำหรับความเลวร้ายที่น่าหัวเราะอย่างแท้จริง ไม่เลย มันน่ากลัวและน่าเบื่อเกินจะทนไหว”

นักวิจารณ์คนอื่นยกย่องนวนิยายเรื่องนี้อย่างไรก็ตาม นิตยสาร Fantasy & Science Fiction อธิบายว่าหนังสือเล่มนี้เป็น ในการให้สัมภาษณ์ของ Fox News ในปี 2550 อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐและอดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ มิตต์ รอมนีย์ ชี้ว่าหนังสือเล่มนี้เป็น

“หนังสือนิยายวิทยาศาสตร์ที่สนุกมาก” Neil Gaiman ตรวจสอบ สำหรับนิตยสาร Imagine และระบุว่า “กว่า 1,000 หน้าของความตื่นเต้น การรั่วไหล เอเลี่ยนที่ดุร้าย มนุษย์ผู้สูงศักดิ์ มนุษยชาติเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์หรือไม่? Psychlos เป็นเครื่องบรรณาการให้กับยุคของ Pulp ฉันพบว่ามันวางไม่ลงหลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน

ก็ขึ้นอันดับหนึ่งในรายชื่อหนังสือขายดีของ The New York Times รวมถึงของ Los Angeles Times, Time, United Press International, Associated Press, B. Dalton และ Waldenbooks ตามที่ตัวแทนวรรณกรรมของ Hubbard, Author Services Inc. ภายในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2526 หนังสือเล่มนี้ขายได้ 150,000

เล่มและทำรายได้ 1.5 ล้านดอลลาร์หลังจากนั้นไม่นาน เรื่องราวก็เกิดขึ้นจากรายงานการรณรงค์ซื้อหนังสือของ Church of Scientology เพื่อให้แน่ใจว่าหนังสือเล่มนี้จะปรากฏอยู่ในรายชื่อหนังสือขายดี ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ ตัวแทนของศาสนจักรสัญญากับผู้จัดพิมพ์ว่าบริษัทสาขาของศาสนจักรจะซื้อสำเนาตามจำนวนที่กำหนด (ผู้เขียนและนักข่าวรัสเซลล์ มิลเลอร์อ้างถึงหนังสือปกแข็งจำนวน 50,000 เล่ม)

มีรายงานว่าคริสตจักรท้องถิ่นของไซเอนโทโลจีและไซเอนโทโลจิสต์แต่ละแห่งได้รับการกระตุ้นให้ซื้อสำเนาของหนังสือเล่มนี้ด้วย เครือข่ายร้านหนังสือรวมถึง Waldenbooks อ้างถึงตัวอย่างของไซเอนโทโลจิสต์ที่เข้ามาในร้านซ้ำแล้วซ้ำอีกและซื้อหนังสือจำนวนมากในแต่ละครั้ง ร้านหนังสือหลายแห่งรายงานว่าหนังสือที่จัดส่งมาพร้อมกับป้ายราคาของร้านค้าเองที่ติดอยู่แล้ว

แม้ว่าจะยังไม่ได้แกะออกจากกล่องก็ตาม ซึ่งบ่งชี้ว่าสำเนากำลังถูกรีไซเคิล ตามข้อมูลของมิลเลอร์ ไซแอนโทโลจิสต์ทั่วสหรัฐอเมริกาได้รับคำสั่งให้ไป ออกและซื้ออย่างน้อยอย่างละสองหรือสามฉบับ เจอร์รี อาร์มสตรอง ซึ่งทำงานในหอจดหมายเหตุของศาสนจักรในเวลานั้นกล่าวว่า “ไซเอนโทโลจิสต์ผู้มั่งคั่งคนหนึ่งชื่อเอลลี โบลเกอร์ เห็นได้ชัดว่าจ่ายเงินจำนวนมากให้กับองค์กร จากนั้นพวกเขาก็จ่ายให้เจ้าหน้าที่เพื่อลงไป ถึง B. Dalton หรืออะไรก็ตามและซื้อหนังสือ” The New York Times

รายงานว่า “องค์กรไซเอนโทโลจีสองแห่งซื้อจำนวน 30,000 เล่มในราคาส่วนลดโดยตรงจากผู้จัดพิมพ์ ดูเหมือนจะขายหรือมอบให้กับสมาชิกไซเอนโทโลจีในปัจจุบันหรือในอนาคต” ผู้จำหน่ายหนังสือบอกกับหนังสือพิมพ์ว่าพวกเขาพบเห็นรูปแบบการจัดซื้อที่ผิดปกติ ซึ่งรวมถึงบุคคลทั่วไปที่ซื้อหนังสือมากถึง 800 เล่มต่อครั้ง มีข้อเสนอแนะว่า ”

สมาชิกคริสตจักรอาจพยายามซื้อหนังสือขายดีเพื่อขายหนังสือปกอ่อนหรือภาพยนตร์จำนวนมาก ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มักขึ้นอยู่กับหนังสือที่กลายเป็นหนังสือขายดีเล่มแรกในปกแข็ง” สองเดือนหลังจากรายงานดังกล่าวปรากฏขึ้น Author Services Inc. ประกาศว่าได้ขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เรื่อง ให้กับบริษัทโปรดักชันในลอสแองเจลิส แม้ว่าจะใช้เวลาอีก 16 ปีในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้

อดีตไซเอนโทโลจี Bent Corydon ได้อธิบายถึงความกดดันที่เกิดขึ้นกับผู้จัดการของ “ภารกิจ” ของไซเอนโทโลจี – แฟรนไชส์ที่มีประสิทธิภาพ – เพื่อส่งเสริมและซื้อ  ในการประชุมที่จัดขึ้นในซานฟรานซิสโกเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2525 “ผู้ถือภารกิจ” ของไซแอนโทโลจีได้รับการบอกกล่าวจากเวนดัลล์ เรย์โนลด์ส ผู้นำเผด็จการด้านการเงินระหว่างประเทศของศาสนจักร ให้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้หนังสือเล่มนี้ประสบความสำเร็จ:

และถ้าคุณลองดู ดอะเนติกส์: วิทยาศาสตร์สมัยใหม่แห่งสุขภาพจิต] ได้รับการปล่อยตัวออกมา และนั่นทำให้ติดอันดับหนังสือขายดี! และตอนนี้  กำลังขายหมดและขายหมดและขายอีกครั้ง ดังนั้นเราจึงได้รับความนิยมอย่างมากและพวกคุณก็จะได้รับของขวัญเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ของเป็นของขวัญทั้งหมด

ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังฝรั่ง เรื่อง Battlefield Earth (2000) สงครามผลาญพันธุ์มนุษย์ หนังประเภท Adventure ผจญภัย เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง Moviehd3 หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS

แสดงความคิดเห็น

Share

หนังอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ดูหนังออนไลน์ 2024

เว็บดูหนังมาแรงในตอนนี้ สามารถดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ที่มีคุณภาพที่สุดในตอนนี้ ไม่มีโฆษณามารบกวนใจ อีกทั้งมีหนังมากมายมาให้เลือกชม มากมายกว่า 10,000 เรื่อง ที่นี่มีหนังใหม่2023 จากค่ายดังทุกค่ายมาให้ทุกคนได้รับชมกันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่า Netflix, Disney+, Viu , DC , Marvel ทำให้ท่านได้รับความสนุกเพลิดเพลินเหมือนได้รับชมอย่างสมจริงทั้งภาพที่คมชัดระดับ Full HD และเสียงภาพยนตร์ที่คมชัดมากที่สุด

ดูหนัง Netflix หนังใหม่

อ่านต่อที่นี่