KUBHD ดูหนังออนไลน์ Ad Astra (2019) ภารกิจตะลุยดาว
เรื่องย่อ
นักบินอวกาศรอยแม็คไบรด์ (แบรดพิตต์) เดินทางไปยังขอบนอกของระบบสุริยะเพื่อค้นหาพ่อที่หายตัวไปของเขาและไขปริศนาที่คุกคามความอยู่รอดของโลกของเรา การเดินทางของเขาจะเปิดเผยความลับที่ท้าทายธรรมชาติของการดำรงอยู่ของมนุษย์และสถานที่ของเราในจักรวาล
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังฝรั่ง เรื่อง Ad Astra (2019) ภารกิจตะลุยดาว หนังประเภท Adventure ผจญภัย เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
- James Gray
บริษัท ค่ายหนัง
- Regency Enterprises
- Bona Film Group
- New Regency
- Plan B Entertainment
- Keep Your Head Productions
- RT Features
- MadRiver Pictures
- TSG Entertainment
นักแสดง
- Brad Pitt
- Tommy Lee Jones
- Ruth Negga
- Liv Tyler
- Donald Sutherland
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
Techhangout
[CR] รีวิว AD Astra หนังจิตวิทยา ดราม่า ที่เรียลขั้นสุด แต่ ระวังหลับกัน !
ที่บอกว่าระวังหลับนั้นเพราะเจอมาในโรงกันเลย และ ความเข้าใจผิดของตัวอย่างหนังสำหรับบางคนนะครับ.. ก่อนที่จะไปอ่านรีวิว ขอถามก่อนเลยถ้าถ้าชอบหนังแนว The Martian หรือ แอคชั่นไซไฟ อะไรพวกนี้ บอกเลยว่าข้ามเรื่องนี้ไปครับ หลับแน่นอน เพราะรอบที่ไปดูหลับกันระนาวครับ และออกจากโรงมาก็บ่นๆเหมือนกันว่า ง่วง หนังช้า มากอะไรแบบนั้นแน่นอนครับว่าหนังนั้นไม่ใช่แนวแอคชั่นเลย โดนตัวอย่างหลอกกันเต็มไปหมดครับเพราะหนังเอาส่วนที่เป็นแอคชั่นมาแย่งซีนเอาพอสมควร แน่นนอว่าใครหวังแนวนั้นอย่าาพลาดเข้าไปดูครับ เตือนแล้วนะ มาส่วนหนังกันก่อนเลยในเรื่อง Ad Astra นั้นจะเป็นการเล่าเรื่องราวของคนนึง นั้นก็คือ นักแสดงนำของเรา แบรด พิตต์ นั้นเองตัวหนังจะเน้นไปที่คนเดียวหนักมากๆและคนเดียวเอาหนังอยู่เลย ตัวหนังนั้นคร่าวๆคือ ตัวละคร คลิฟฟอร์ด แมคไบรด์ (ทอมมี ลี โจนส์) นักวิทยาศาสตร์ที่หายตัวไปกว่า 30 ปี ทำให้ รอย แมคไบรด์ (แบรด พิตต์) นักบินอวกาศลูกชายของเขาต้องออกเดินทางฝ่าอันตรายนานับประการเพื่อยับยั้งมหันตภัยครั้งใหญ่ที่กำลังก่อตัวขึ้นมา
ตัวหนังนั้นบอกก่อนเลยว่าเล่าเรื่องไปแนวดราม่า มากกว่าและมีอวกาศเป็นฉากหลัง และตัวหนังนั้นมีความเรียลมากๆครับ แต่ในความเรียลของมันก็มีบางจุดที่แบบ อ้าวแบบนี้ก็ได้หรอ เช่นในตอนจบที่ก็ยังไม่สมเหตุผลหลายๆเรื่องเลยครับทั้งที่ก่อนหน้านี้ปูมาดีมากๆ เรียลสุดๆ ตัวหนังนั้นเล่าเรื่องได้ค่อนข้างเนิบนาบ ช้ามากๆ มีหาวกันแน่นอนถ้าใครตามไม่ทันจะเน้นไปที่ ตัวละครหลักอย่างหนักครับและเสริมแทรกฉาก ระทึกๆมาบ้างเล็กน้อยไม่ให้น่าเบื่อเกินไป แน่นอนว่า ผกก เรื่องนี้นั้นจะคุ้นๆกันทำหนังที่อินดี้กันนิดหน่อยครับ จริงๆตัวเนื้อหาของมันผมว่าทำได้ค่อนข้างดี คือเอาใจสายเสพ วิทยาศาสตร์ อวกาศได้แบบจุใจในหลายๆจุดที่ใส่ใจรายละเอียดเข้ามา เทคโนโลยีอะไรต่างๆที่ทำให้เรามองดูกันว่าอนาคตนั้นจะเป็นยังไง แต่เล่าเรื่องในอีกแบบนึงที่ต้องบอกว่าแตกต่างกับเรื่องอื่นๆ มันกลายเป็นหนังอวกาศ เชิงดราม่า ปรัชญาไปแบบเต็มที่ครับ เลยทำให้หลายๆจุดนั้นอาจจะเนือยๆ เบื่อๆกันไปได้ถ้าคนไม่ชอบแนวนี้ และตัวหนังเน้นดราม่าพ่อ ลูกเข้ามาแน่นอนว่าจุดนี้มันแอบทำให้คนดูไม่ค่อยอินและไม่ได้อิมแพ็คเท่าที่ควรครับ หนังมันเลยไม่มีจุดพีคอะไรที่เด่นๆหรือน่าจดจดเลยสำหรับการดูหนังเรื่องนี้มันเรื่อยๆ เนิบๆไปทั้งหมดครับ
สำหรับงานภาพ ฮอยต์ ฟาน ฮอยเต ที่เคยทำงานในเรื่อง INTERSTELLAR ก็มาทำเรื่องนี้ทำให้งานภาพนั้นโคตรสุดครับ ต้องบอกว่างานภาพเป็นอะไรที่ดีที่สุดในหนังเรื่องนี้ทั้งมุมกล้อง ฉากต่างๆ โทนสีของตัวหนังนั้นทำได้ดีเป็นอีกขุดที่ทำให้น่าติดตามและไม่เบื่อสำหรับตัวผมเองที่ได้ไปดูเพราะชอบเสพงานภาพอยู่แล้ว แล้วเรื่องนี้ไม่ผิดหวังเลยทำได้อลังการ และสมจริงสุดๆ และพวกฉากอวกาศดาวต่างๆนั้นทำให้เราได้เข้าไปอยู่ในหนังได้เลยครับ ส่วนเรื่องงานเสียงโอเคเลยก็ว่าได้ เสียงประกอบให้อารมณ์กับคนดูได้ดี และเล่นกับจังหวะเงียบอะไรพวกนี้ให้เราลุ้นกันบ้าง ส่วนเสียงในตัวหนังเสียงประกอบนั้นทำได้ดีสมจริงและใส่ใจในงานเสียงพวกรายละเอียดต่างๆเวลาอยู่ในหลายๆสภาวะได้ดีครับ ต้องบอกว่ามันเป็นหนังที่ใส่ใจรายละเอียดได้ดีมากๆเรื่องนึงและสมจริงมากๆครับ
นักแสดงนั้น หลักๆคงต้องบอกว่าเหมือนแสดงคนเดียวจริงๆเพราะเป็นคนที่แบกหนังเอาไว้ได้สบายการแสดงของเค้านั้นไร้ที่ติ แต่ส่วนตัวหนังยังไม่สามารถส่งไป OSCARS แบบที่คิดไว้ได้เท่าไรนะ แน่นอนว่าตัวนักแสดงนั้นสื่อออกมาให้เราได้ลุ้นกันทั้งหน้าตา สีหน้า หรือแววตาของนักแสดงอันนี้สำคัญมากเป็นหนังที่ไม่ได้มีบทพูดเยอะในหลายๆซีนแต่การแสดงทำให้เรานั้นค่อนข้างอินไปกับตัวหนังและเอาใจช่วยไปกับสถาณการณ์บ้าง แต่ความสัมพันธ์บางอย่างทำให้เราไม่ได้อินไปสุดเท่าไรกับหลายๆจุดในหนังที่พยายามให้เราอินครับ เลยไม่ได้มีอิมแพ็คกับตัวละครในหนังเท่าที่ควรแม้การแสดงนั้นจะดีมากแค่ไหนก็ตามอันนี้น่าเสียดายมากจริงๆ
ในภาพรวมนั้นเป็นหนังอินดี้อีกเรื่องที่ หลายๆคนอาจจะโดนหลอกจากตัวอย่างไปเยอะครับ เป็นหนังชวนหลับได้เลยสำหรับบางคน และแน่นอนว่าหนังมันเน้น ดราม่า ปรัชญา ขั้นสุดจริงๆผสมกับความเรียลได้ดี นักแสดงอะไรเอาอยู่และ ใส่ใจรายละเอียดเอาใจสาย เสพงานวิทยาศาสตร์อะไรได้แบบเต็มอิ่มมากๆครับ หลายๆคนน่าจะชอบถ้าชอบอะไรแนวนี้กัน แต่มันก็ไม่ได้ลงตัวมากเท่าไรไม่เหมือน INTERSTELLAR และยังเทียบไม่ค่อยได้เลยครับ และถ้ามองไปพวกหนังแนว GRAVITY FIRSTMAN พวกนั้นยังคงทำได้ดีกว่า บันเทิง เข้าถึงง่ายกว่า และถ้ามองย้อนไปอีกดูพวก 2001 : a space odyssey ก็ยังต้องบอกว่าเรื่อง Space Odyssey ยังคงมีอะไรให้พีคและลงตัวกว่าเอาจริงๆน่าเสียดายในเรื่องนี้ที่เน้นไปทาง ดราม่า ปรัชญา ขั้นสุดแต่มีบางจุดที่ทำให้เราไม่ได้ถึงจุดนั้นได้ดีเท่าไรครับ
ขอบสหนัง
#ขอบสหนังรีวิว
Ad Astra
ในระยะหลังวงการหนังมักหยิบยกเรื่องราวการเดินทางของนักบินอวกาศมาสร้างสู่จอเงินมากขึ้น อาจเป็นเพราะมันมีความแปลกใหม่มอบให้แก่คนดู และผลงานเรื่องล่าสุดเจ้าเทพบุตรผู้ที่ไม่ยอมแก่อย่าง แบรด พิตต์ ก็สามารถสร้างความรู้สึกให้ชมได้ว่า มันครบเครื่องเอามาก
จุดเด่น
ผมชอบความพิถีพิถันในการเล่าเรื่องนะ มันค่อนข้างมีความชัดเจนไม่ซับซ้อนดูง่าย ไม่ได้มีทิศทางเหมือนหนังเรื่องไซไฟอวกาศแบบเรื่องอื่นๆ ที่พยายามจะนำเสนอไปในแนวทางเก่าๆ ทีมงานสร้างประเด็นใหม่ที่ทำให้มีผู้คนอาศัยอยู่นอกโลกจริงๆ พร้อมกับปมประเด็น รอย แม็คไบรด์ ที่ตามหาพ่อของตัวเองในทีแรก มันมีเครื่องหมายคำถามอยู่มากมายในทีแรก แต่สุดท้ายหนังค่อยๆเฉลยปมต่างๆ จากเพื่อนร่วมทางของพระเอกในแต่ละสถานที่ที่เขาได้เดินทางไป ซึ่งงานสร้างเนี๊ยบมากสำหรับดวงดาวนอกโลก เพราะนี่คือการขายมุมภาพจากทีมงานผู้สร้างโดยเฉพาะ หากใครคิดว่าแบรด แค่ตามหาพ่อแล้วต้องเล่นบทแอ็คชั่นละก็ เรื่องนี้คุณคงไม่ได้เห็นหลอกนะ เพราะมีแต่ความดราม่าเพรียวๆ และหนังค่อนข้างเล่นประเด็นที่เข้าลึกของคนเหงาได้ดีพอสมควร ซึ่งประเด็นนี้มันตรงจุดแบบจุกอกเลย
นักแสดง
น้ำหนักและทิศทางหนังคงอยู่ที่ แบรด พิตต์ 99 เปอร์เซนต์ เรื่องนี้เราได้เห็นเขาในบทบาทนักบินอวกาศ ซึ่งเล่นได้สมจริงมาก เขาปล่อยพลังความดราม่าได้สุดพลังจริงๆ หลั่งน้ำตา, โมโห ในการปะทะกับทอมมี่ ลี โจนส์ ซึ่งมันเป็นทางถนัดของพ่อหนุ่มวัย 55 ปี
จุดอ่อน
หนังแสดงตัวประกอบนี่แหละ เพราะสถานที่ที่ แบรด พิตต์ บทถูกเขียนมาให้พวกเขาน้อยมาก ไปดาวอังคาร เปลี่ยนคน ไปดาวพฤหัสเปลี่ยนอีกกลุ่มหนึ่ง, ไปดวงจันทร์ก็เปลี่ยนคนอีกละ มันน่าจะเขียนบทเพื่อนร่วมงานให้พระเอกเป็นกลุ่มเดียวกันไปเลยที่เดินทางออกมาจากโลก มันจะได้มีน้ำหนักให้ดูเข้าที่เข้าทางซะหน่อย และหนังมีการเล่าเรื่องที่ดูยังไงก็ไม่ใช่หนังแมสที่ดูสนุกแบบหนังอวกาศเรื่องอืนๆ คือหากใครคิดว่ามันจะอารมณ์แบบ interstellar คงต้องบอกว่า interstellar มันมีความแมสและย่อยง่ายกว่ามากๆ
สรุป
นี่คือหนังที่งานสร้างในอวกาศค่อนข้างสมจริงและ แบรด พิตต์ เท่ในบทบาทนักบินแสดงเอามาก คอหนังที่หลงรักแนวทางวิทยาศาสตร์และนอกโลกน่าจะชอบไม่ยาก ที่สำคัญให้มาดูเวอร์ชั่นไอแมกซ์เพราะสัดส่วนภาพละเอียดและคมชัดมาก
แจกคะแนนรีวิว 8.5/10
March Mello
Review : Ad Astra (ไม่มี Spoil)
แค่ดูภาพก็คุ้มแล้ว !!
Score : 8 / 10
ความสนุก ★★★★
Ad Astra ต้องเกริ่นบอกกันก่อนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน มันอาจจะไม่ได้เล่าเรื่องแบบ Mass ถูกใจคนทั่วไปนัก หนังอวกาศเรื่องนี้ เป็นการเอา Mystery นำแล้วตามด้วย Drama หนักๆ ส่วนของการ Adventure นั่นเรียกว่าเป็นส่วนรองของการเดินเรื่องเลย พระเอกของเรื่องรับบทโดย Brad Pitt ผมชอบการแสดงเรื่องนี้ของเขานะ มันดูได้อารมณ์ดี สำหรับคนที่ทำงานนักบินอวกาศแบบนี้ เขาคิดแบบไหน ยังไง อยู่อย่างไร แล้วต้องตัดสินใจอย่างไร การแสดงสื่ออกมาได้ดีเลยหล่ะ บวกกับภาพในฉากแต่ละฉากเหมือนเอามาจากสารคดีให้ดูกันเลย Production ภาพสวยเว่อวังมาก
อีกส่วนสำคัญของเรื่อง คือ ปรัญชา ที่สอดแทรกไว้ในบทภาพยนตร์ ทำได้เนียนดี ไม่ล้นจนเกินไป แถมท้ายๆ มี Plot Twist ให้ลุ้นเล็กๆ ถือว่าดี แต่อาจจะไม่ได้ว๊าว จนน่าตื่นเต้นมาก เพราะ ก็พอเดาได้อยู่ แต่ไม่เป็นไรข้อเสียทั้งหลาย ถูกทดแทนด้วยภาพในแต่ละฉากหมดแล้ว ใครที่ชอบถ่ายภาพ หรือ ทำงานด้านวิดีโอลองไปดูเรื่องนี้ครับ แล้วจะได้มุมมองรวมถึงไอเดียใหม่ๆ มาใส่ในงานของตัวเองกันครับ
ปล.ใครที่คาดหวังว่าจะเข้าไปลุ้นระทึก บู๊ ผจญภัยสนุกๆ แนะนำว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะกับท่านครับ
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Underwater (2020) มฤตยูใต้สมุทร
3 Body Problem (2024) ดาวซานถี่ อุบัติการณ์สงครามล้างโลก EP.1-8 (จบ)
5