About Time (2013) ย้อนเวลาให้เธอ(ปิ๊ง)รัก
เรื่องย่อ
ในวัย 21 ปี ทิม เลค (โดห์นัลล์ กลีสัน) ค้นพบว่าตัวเองสามารถเดินทางย้อนเวลาได้…ในคืนหลังจากงานปาร์ตี้ที่ห่วยแตกในนิวยอร์ก พ่อของทิม (บิลล์ ไนฮีย์) ได้เล่าให้ลูกชายของเขาฟังว่า ผู้ชายในตระกูลเขามีความสามารถในการเดินทางย้อนเวลาเสมอ ทิมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ แต่เขาสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นและเคยเกิดขึ้นมาแล้วในชีวิตของเขาได้ เขาก็เลยตัดสินใจจะทำให้โลกนี้สวยงามขึ้น…ด้วยการหาแฟนซักคน น่าเศร้า ที่มันอาจไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คุณคิด ทิม เลค (Domhnall Gleeson) เป็นชายหนุ่มธรรมดาที่วันหนึ่งได้ค้นพบความลับของครอบครัว—ผู้ชายในตระกูลของเขามี ความสามารถในการย้อนเวลา ได้! About Time พ่อของเขา (Bill Nighy)
บอกว่าพวกเขาสามารถเดินทางกลับไปแก้ไขอดีตของตัวเองได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์โลก เมื่อรู้ความลับนี้ ทิมตัดสินใจใช้พลังของเขาเพื่อ หาความรัก เขาตกหลุมรัก แมรี่ (Rachel McAdams) หญิงสาวแสนสวยและน่ารัก แต่การย้อนเวลากลับไปแก้ไขสถานการณ์ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขายุ่งเหยิงอยู่หลายครั้ง ในขณะที่ทิมพยายามใช้พลังของเขาเพื่อสร้างความสมบูรณ์แบบในชีวิต เขาค่อยๆ เรียนรู้ว่า แม้เวลาจะย้อนกลับไปได้ แต่ชีวิตจริงไม่สามารถแก้ไขให้สมบูรณ์แบบได้เสมอไป และบางครั้ง การใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันและรักในสิ่งที่มี อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
ผู้กำกับ
- Richard Curtis
บริษัท ค่ายหนัง
- Translux
นักแสดง
- Domhnall Gleeson
- Rachel McAdams
- Bill Nighy
- Lydia Wilson
- Lindsay Duncan
- Richard Cordery
- Joshua McGuire
- Tom Hollander
โปสเตอร์หนัง
รีวิว
เรื่องราวของ “ทิม” ชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่รู้ความลับของบรรพบุรุษมาจากพ่อว่า สามารถเดินทางย้อนเวลากลับไปในอดีตได้ แค่เข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้า หรือที่แคบๆมืดๆ แล้วหลับตานึกถึงภาพเหตุการณ์ ณ ช่วงเวลาที่อยากย้อนไป About Time แต่จะย้อนได้เฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองเท่านั้น เขาจึงย้อนเวลากลับไปหาผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อทำให้เธอตกหลุมรัก จนเกิดเป็นเรื่องราวสุดแสนประทับใจ เป็นการย้อนเวลาที่ไม่มีความซับซ้อน ไม่ต้องมีหลักการอะไรมากมาย แค่หลับตาและนึกถึงเหตุการณ์ที่จะย้อนไป ก็วาร์ปไปได้เลย ทำให้ดูง่าย เข้าใจง่าย หน้าหนังเหมือนจะเป็นหนังรักโรแมนติก แต่จริงๆ มีประเด็นซึ้งๆ ของครอบครัวแฝงอยู่ ทั้งคู่พี่น้อง พ่อกับลูก อาจจะทัชใจใครหลายๆคนได้ไม่อยาก เพราะมันเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว มีฉากซึ้งๆเรียกน้ำตา บางคนอาจจะชอบความสัมพันธ์ของครอบครัวมากกว่าความสัมพันธ์ของคนรักก็ได้
ถ้าพูดถึงความรักระหว่างพระเอกนางเอก ก็เป็นความสัมพันธ์ที่น่ารัก สวยงาม ดูดีลงตัวไปแทบทุกอย่าง ถ้าชีวิตจริงคงไม่มีทางดีงามขนาดนี้ ต้องมีปัญหาและอุปสรรคบ้างในชีวิตครอบครัว แต่เพราะสามารถย้อนเวลากับไปแก้ไขบางอย่างที่ไม่โอเคได้ มันก็เลยทำให้อะไรๆดีขึ้นกว่าเดิม เป็นผลงานของ ริชาร์ด เคอร์ติส ผู้กำกับ Love Actually ที่สร้างชื่อจากการเขียนบท Four Weddings and a Funeral, Notting Hill และ Bridget Jones’s Diary
ครองใจคอหนังรักมาแล้วทั่วโลก จึงไม่แปลกที่ About Time จะได้ใจผู้ชมเช่นกัน ยิ่งได้ ราเชล แม็กอดัมส์ (Rachel McAdams) มารับบทนางเอกแสนหวาน หนังก็น่าดูไปอีก ถึงแม้ว่าจะมีคนบอกว่าพระเอกในเรื่อง โดนัลล์ กลีสัน (Domhnall Gleeson) จะไม่หล่อเหมือนพระเอกทั่วไป แต่พอดูไปเรื่อยๆ เขาก็มีความสามารถและดูมีเสน่ห์ในแบบของเขา เป็นหนังรักอีกหนึ่งเรื่องที่ดูจบแล้ว ซาบซึ้ง อิ่มเอมใจ มีความสุข ได้ข้อคิด อดีตที่ผิดพลาดบางครั้งก็ไม่ควรแก้ไข เพราะมันคือบทเรียนในชีวิต ให้เราได้เรียนรู้ และเข็มแข็งมากขึ้นและกล้าที่จะก้าวต่อไป เอาความผิดพลาดนั้นคอยเตือนใจและไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก อยู่กับปัจจุบันและทำมันให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ ❤️
สำหรับผู้ที่ไม่นิยมอ่านอะไรยืดยาวผมก็ขอสรุปสั้นๆ ให้ใน 3 ย่อหน้า About Time ถัดไปนะครับเรียกว่าอ่านแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอ “นี่คือหนังว่าด้วย “ความรัก” ที่รวมมิตรทั้งรักครั้งแรก รักหนุ่มสาว รักพ่อลูก รักพี่น้อง รักชีวิต รวมไปถึงรัก “แต่ละวัน” ที่คุณตื่นขึ้นมา ผลที่ได้คือผมรักเรื่องนี้มาก จนอยากให้ทุกคนดูมันสักครั้ง ซึ่งผมไม่อาจรับประกันได้ว่าคุณจะรักมันหรือไม่ แต่มันจะน่าเสียดายอย่างที่สุดหากคุณพลาดโอกาสที่จะหาคำตอบนั้น และลึกๆ ผมเชื่อว่าคุณหลายคนจะรักมัน
นอกจากนี้หนังยังทำให้คุณมองเห็นเคล็ดลับแห่งการสร้างความสุข ให้คุณได้ลองนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย” เอาล่ะ ถึงจุดๆ นี้ถ้าอยากทราบดาวก็เลื่อนไปอ่านข้างล่างสุด และหากอยากอ่านรีวิวฉบับเต็มก็ย่อหน้าถัดไปได้เลยครับ อ้อ ต้องบอกไว้ก่อนตามระเบียบว่ามีการเปิดเผยเนื้อเรื่องแน่นอน ถือเป็น The Butterfly Effect ฉบับ Groundhog Day ครับ ว่าด้วยทิม (Domhnall Gleeson) เด็กหนุ่มที่ได้รู้ความลับแสนสำคัญจากพ่อ (Bill Nighy) ตอนเขาอายุ 21 ปี และความลับก็คือผู้ชายทุกคนของครอบครัวนี้สามารถย้อนเวลาได้ เพียงแค่หาที่มืดๆ ตั้งหลักตั้งจิตนึกย้อนไปในเวลาที่ต้องการก็เป็นอันเสร็จพิธี (แต่ต้องเป็นอดีตบนไทม์ไลน์ของตนเท่านั้น)
แล้วทิมก็ใช้พลังในการย้อนอดีตนี่แหละครับค้นหาความรัก อันทำให้เขาได้พบกับแมรี่ (Rachel McAdams) สาวสุดน่ารักที่เขาหมายมั่นจะใช้ชีวิตด้วย แต่นั่นเป็นเพียงหนึ่งในหลายเรื่องที่เขาได้เรียนรู้จากการย้อนเวลาครับ ทว่าจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นต้องไปดูกันต่อในหนังนะครับ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีเจตนาจะเป็นหนังไซไฟดังนั้นกฎการย้อนเวลาจึงอาจมีช่องโหว่บ้าง (หากจับจ้องกันดีๆ น่ะนะครับ) ซึ่งก็คล้ายๆ กับ Disney’s The Kid ของ Bruce Willis น่ะครับ ซึ่งหากจ้องแต่จะเอาเรื่องการย้อนเวลามาเป็นแก่นหลักเพียงอย่างเดียวก็อาจทำให้เราเป๋ไปจากสารดีๆ ที่ Richard Curtis ผู้เขียนบทและกำกับหนังเรื่องนี้พยายามจะสื่อ ซึ่งเอาเข้าจริงผมก็ไม่อาจบอกได้ว่าป๋า Richard แกตั้งใจสื่ออะไรบ้าง ผมบอกได้เพียงว่าผมได้อะไรจากหนังเรื่องนี้เท่านั้นเอง… และดูเหมือนผมจะได้มาไม่ใช่น้อยด้วย
จากผู้กำกับ ‘Love Actually’ About Time ซึ่งเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง ‘Four Weddings and a Funeral’, ‘Bean’, ‘Notting Hill’ และภาพยนตร์เรื่อง ‘Bridget Jones’ ทำให้มีความคาดหวังเพิ่มขึ้นสำหรับภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอเมดีดราม่าแฟนตาซีเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาเรื่องนี้ แม้ว่าจะมีความคล้ายคลึงกับ ‘The Time Traveler’s Wife’ (ซึ่งมีนักแสดงนำหญิงคนเดียวกันคือ Rachel McAdams) และ ‘Groundhog Day’ แต่รับรองได้ว่า ‘About Time’ เป็นภาพยนตร์ที่เฉียบแหลม ชาญฉลาด มีเสน่ห์ หวานซึ้ง มีมิติและความรู้สึกที่น่าประหลาดใจ บทภาพยนตร์เขียนขึ้นได้ดี การกำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงก็แสดงได้ดีในบทบาทของตนเอง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำได้ดีในการสร้างสมดุลระหว่างองค์ประกอบตลกและดราม่าของเรื่องราว สร้างเสียงหัวเราะได้เพียงพอและทำให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่รู้สึกว่ายาวเกินไป แม้ว่าจะฉายนานถึง 2 ชั่วโมงก็ตาม แม้ว่าโครงเรื่องจะเน้นไปที่การเดินทางข้ามเวลา แต่เรื่องราวจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์พ่อลูกระหว่างทิมกับพ่อ และความสัมพันธ์โรแมนติกที่น่ารักระหว่างทิมกับแมรี่ โดยไม่หวานจนเกินไป โรแมนติกจนเกินไป หรือซึ้งจนเกินไป ข้อความหรือธีมโดยรวมของภาพยนตร์เกี่ยวกับการชื่นชมชีวิตราวกับว่าเป็นวันสุดท้ายของชีวิตนั้นมีความละเอียดอ่อน ไม่แข็งกร้าวหรือสั่งสอนจนเกินไป
การเลือกเพลงประกอบภาพยนตร์มีความเหมาะสมและไม่เน้นฉากอารมณ์มากเกินไป เคมีบนหน้าจอระหว่างเรเชลและดอมห์นอลล์นั้นชวนเชื่อพอให้ผู้ชมอยากชมพวกเขาดำเนินชีวิตไปด้วยกัน ในทางกลับกัน ดอมห์นอลล์และบิลในฐานะพ่อลูก ความสัมพันธ์ของพวกเขาสามารถสัมผัสได้ตลอดทั้งเรื่อง และแน่นอนว่าสามารถเรียกความทรงจำอันน่าสะเทือนใจออกมาได้เมื่อชมพวกเขาร่วมกัน เป็นภาพยนตร์ตลกโรแมนติกที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในปีนี้ ดีกว่าเรื่อง ‘Time Traveler’s Wife’ ที่น่าผิดหวัง เป็นภาพยนตร์เดทที่ยอดเยี่ยมที่ไม่ควรพลาด
ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
The Wedding Veil Journey (2023)
3