ดูหนัง ออนไลน์ A Gift เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ
เป็นภาพยนตร์ไทยอบอุ่นหัวใจที่พาผู้ชมไปพบกับการเดินทางของการค้นพบตัวเอง ความรัก และความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่คาดไม่ถึง ภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องโดยมีฉากหลังเป็นประเทศไทยที่งดงาม โดยเจาะลึกถึงชีวิตของตัวละคร เผยให้เห็นว่าการแสดงน้ำใจเพียงครั้งเดียวสามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมและนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนแปลงชีวิตได้อย่างไร
เนื้อเรื่องย่อ: เรื่องราวเกี่ยวกับสองตัวละครหลัก น้ำ และ ภูมิ ที่ชีวิตต้องมาบรรจบกันอย่างคาดไม่ถึงและสะเทือนใจที่สุด น้ำ (รับบทโดยนางเอก) เป็นครูที่ขยันขันแข็งและอุทิศตน ใช้ชีวิตเรียบง่ายในหมู่บ้านที่เงียบสงบ เธอเผชิญกับการต่อสู้ดิ้นรนส่วนตัวและโหยหาบางสิ่งที่มากกว่านี้ แม้ว่าเธอจะยังคงแน่วแน่ในความรับผิดชอบของเธอก็ตาม
ภูมิ (รับบทโดยนักแสดงนำ) เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จซึ่งมีชีวิตในอุดมคติในเมืองที่วุ่นวาย อย่างไรก็ตาม เขาต่อสู้กับความขัดแย้งภายในตัวเองและความรู้สึกโดดเดี่ยวลึกๆ แม้จะประสบความสำเร็จ แต่เขาก็รู้สึกขาดจากสิ่งรอบข้าง
การพบกันที่โชคชะตาเกิดขึ้นเมื่อภูมิไปเยี่ยมหมู่บ้านของน้ำเพื่อไปทำธุระ เหตุการณ์กลับพลิกผันอย่างน่าเสียดาย เขาหลงทางและพบว่าตัวเองอยู่ใกล้บ้านของนัม น้ำซึ่งเป็นคนที่เห็นอกเห็นใจเธอจึงให้ความช่วยเหลือและที่พักพิงสำหรับคืนนี้ ความเมตตาเล็กๆ น้อยๆ นี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของทั้งคู่
เมื่อน้ำและภูมิใช้เวลาร่วมกัน ความแตกต่างและภูมิหลังของทั้งคู่ค่อยๆ จางหายไป เผยให้เห็นความคล้ายคลึงกันอย่างลึกซึ้งในความปรารถนาและแรงบันดาลใจของพวกเขา ความเรียบง่ายและความสุขอย่างแท้จริงของ Nam เป็นแรงบันดาลใจให้ภูมิประเมินลำดับความสำคัญของตัวเองอีกครั้ง ในขณะที่ประสบการณ์ของภูมิเปิดโลกทัศน์ของ Nam ให้กว้างขึ้นนอกเหนือจากหมู่บ้านของเธอ
ความเมตตาและความเชื่อมโยง: ภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นย้ำถึงพลังการเปลี่ยนแปลงของการกระทำที่เรียบง่ายของความเมตตา ท่าทีของ Nam ในการให้ที่พักพิงแก่คนแปลกหน้านำไปสู่สายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและมีความหมายซึ่งเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาทั้งคู่
Self-Discovery: ผ่านการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน น้ำและภูมิค้นพบแง่มุมใหม่ๆ ของตัวเอง พวกเขาตั้งคำถามถึงความปรารถนา ความฝัน และเส้นทางที่พวกเขาเลือก ซึ่งนำไปสู่การเติบโตและการเปลี่ยนแปลงในท้ายที่สุด
ความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ: ความแตกต่างระหว่างชีวิตในชนบทของ Nam กับวิถีชีวิตในเมืองของภูมิเน้นย้ำให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมที่มีอยู่ในสังคม การเดินทางร่วมกันของพวกเขาช่วยทลายกำแพงเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ที่แท้จริงสามารถอยู่เหนือความแตกต่างทางวัตถุได้
ความรักและความสัมพันธ์: ความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นระหว่างน้ำและภูมิถูกถ่ายทอดออกมาด้วยความละเอียดอ่อนและลุ่มลึก ภาพยนตร์เรื่องนี้สำรวจความรักรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่มิตรภาพไปจนถึงความรู้สึกโรแมนติก และวิธีที่ความรักเหล่านี้เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด
บทสรุป: “A Gift” (2016) พรจากฟ้าเป็นภาพยนตร์ที่จับใจความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และผลกระทบของการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของความเมตตา ผ่านตัวละครของน้ำและภูมิ ภาพยนตร์นำเสนอสารที่ทรงพลังเกี่ยวกับการค้นพบตนเอง ความสำคัญของความสัมพันธ์ที่แท้จริง และศักยภาพของการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในตัวทุกคน ขณะที่พวกเขาฝ่าฟันอุปสรรคของแต่ละคนและเชื่อมช่องว่างระหว่างโลกของพวกเขา ผู้ชมจะได้รับการเตือนว่าบางครั้งของขวัญที่มีค่าที่สุดก็มาจากใจ
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังไทย เรื่อง A Gift (2016) พรจากฟ้า หนังประเภท Comedy ตลก เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูหนัง ออนไลน์ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
- จิระ มะลิกุล
- นิธิวัฒน์ ธราธร
- ชยนพ บุญประกอบ
- เกรียงไกร วชิรธรรมพร
บริษัท ค่ายหนัง
จอกว้าง ฟิล์ม
นักแสดง
- ฉันทวิชช์ ธนะเสวี
- หนึ่งธิดา โสภณ
- ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์
- นิษฐา จิรยั่งยืน
- ณภัทร เสียงสมบุญ
วิโอเลต วอเทียร์
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
Me Review – มีรีวิว
พรจากฟ้า (2016) (8.25/10) : เป็นหนังที่สร้างรอยยิ้มได้ดี และเหมาะกับการดูช่วงปีใหม่จริงๆ ดูจบแล้วเสียดายที่ไม่ได้ดูในโรง เพราะระบบเสียงน่าจะดีกว่าดูที่บ้านเป็นไหนๆ
ในแง่ของพลอต โดยรวมผมชอบพลอตนะ แต่จะไม่ชอบบทพูด กับการออกแบบตัวละครบางตัว คือมันดูเหนือจริงไปนิด เช่น การใช้คำพูดที่ปกติไม่ค่อยได้พูดกัน น่าจะใช้คำอื่นมากกว่า (บางฉากบทพูดมันดูโดดออกมามากๆ)
โดยรวมแล้วชอบพอๆกันทั้ง 3 ตอน แต่ตอน 2 ของมิวกับซันนี่ จะซึ้งที่สุด และเป็นตอนที่เรารู้สึกว่าบทมีบาดแผลเยอะที่สุด คือดูพยายามมากเกินไป จนเกินจริงไปหลายอย่าง
ส่วนตอน 3 ของหนูนากับเต๋อ เป็นตอนที่ดูแล้วทำให้เรายิ้มได้มากที่สุด แม้จะดูเกินจริงอีกเช่นกัน แต่ไม่มากเท่าตอน 2
แม้จะรู้สึกขัดๆกับบทบางช่วงแบบที่บอก แต่รวมๆก็ยังชอบนะครับ คือแทบทุกฉากที่เพลงออกมา คือเพราะมากๆ โดยเฉพาะตอน3
Movies Delight Club
พรจากฟ้า (2016)
– ยามเย็น [คะแนน C]
คงต้องยอมรับว่าเป็นตอนที่ไม่ได้ประเด็นสาระอะไรเลย เหมือนไม่ได้ดูตอนนี้ด้วยซ้ำหลังหนังจบ ออกแนวหนังโฆษณาที่เล่นกันไปมาระหว่างคู่พระนาง บางฉากก็ทำให้กรี๊ดกร๊าดกับประโยคที่ประดิษฐ์มากเกินจนรู้สึกเบื่อแทนที่จะรู้สึกสนุกตาม ‘วี-วิโอเล็ต’ เล่นได้เป็นธรรมชาติดี ส่วน ‘นาย-ณภัท’ มาเพื่อโชว์ความหล่อกับโปรยเสน่ห์ได้เป็นธรรมชาติเหมือนกัน คู่นี้ก็ดูจะเหมาะกันดี จุดอ่อนมากถึงมากที่สุดคือบทภาพยนตร์ที่ไม่มีแก่นสารอะไรเลย เรียกว่าไม่มีสาระเลยด้วยซ้ำไป เหมือนดูหนังโฆษณาที่ตัดเป็นคำๆเป็นฉากๆ ไม่ปะติดปะต่อกัน หงุดหงิดมาก แม้ช่วงท้ายของตอนนี้จะช่วยให้อารมณ์ดีกลับมาก็ตาม ด้วยเสียงเพลงกับแสงไฟที่สบายตากับลื่นหูไปกับเสียงเพลง ผนวกท่าทางของตัวละครประกอบกับจังหวะดนตรี ก็พอจะช่วยให้รู้สึกใจชื่นขึ้นมานิดๆ แต่โดยรวมเป็นตอนที่เราไม่ชอบหนักไปทางเบื่อมาก ดูเอาขำๆก็พอไหวอยู่เหมือนกัน ประเด็นหนุ่มสาวรักแรกพบ ความสัมพันธ์ระหว่างกันจะอยู่ได้นานแค่ไหน??
.
– Still on My Mind [คะแนน B+]
‘ถ้าวันหนึ่งเราตื่นมาแล้วพบว่าคนที่เรารักที่สุดจำเราไม่ได้ เราจะรู้สึกยังไง’ ประเด็นระหว่างพ่อกับลูก นำเสนอในมุมมองของ ‘ความทรงจำ’ ย้ำมาเมื่อไหร่ก็เจ็บหัวใจเมื่อนั้น ด้วยพล็อตที่สะเทื่อนใจอยู่แล้ว+กับการแสดงของ ‘มิว-นิษฐา’ ให้อารมณ์ได้ดี จนทำให้เราร้องตามเลย ชอบลุคที่ดูเป็นธรรมชาติของตัวละครของตอนนี้ที่ไม่ได้ประดิษฐ์อะไรเยอะ น่าก็เกือบสดผมก็เป็นธรรมชาติ และทุกคนสามารถเข้าใจความรู้สึกของตัวละครได้เลยโดยไม่ต้องบรรยายอะไรมาก รู้สึกชอบมุมกล้องของตอนนี้นะ ชอบที่หนังถ่ายมุมกว้างแล้วตัดสลับมุมแคบ ทำให้เรารู้สึกว่า ณ ขณะที่ดูอยู่เราเป็นทั้งผู้สังเกตจากระยะไกล และบางครั้งก็เข้าไปใกล้ตัวละครในเรื่อง ดูแล้วคิดถึงพ่อขึ้นมาทันที ‘ถ้าพ่อเราเป็นแบบนี้ เราจะทำยังไง หรือ เราจะทำได้ดีขนาดไหน’ ถ้าจะมองให้เชื่อมกับตอนแรกนั้นสำหรับเราคือการมีชีวิตคู่ที่ยืนยาวของคนสองคน คนที่เขาอยู่ด้วยกันมานานเขาทำได้ยังไงนะ?? พ่อกับแม่เราที่อยู่ด้วยกันมาก่อนที่เราจะเกิดด้วยซ้ำเขาอยู่กับมาได้นานขนาดนั้นยังไง บางทีเราก็คิดว่าความรักนี้มันซับซ้อนนะ แต่พอมองดูแล้วมันอาจไม่ได้ซับซ้อนก็ได้ บางทีคนที่อยู่ด้วยกันมานานๆ อาจเป็นแค่การทำสิ่งง่ายๆร่วมกัน เช่น หวีผมให้กัน อาบน้ำถูหลัง ทำกับข้าวตอนเช้าๆ ชงกาแฟให้กัน เล่นดนตรีให้ฟัง อาจไม่ได้ดีเลิศไปทุกอย่าง แต่ก็พร้อมจะอยู่ข้างกันตลอด พร้อมจะยอมรับกันและกันในทุกๆเรื่อง ความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่เรา อาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ ทำนองนั้นก็ได้ และถ้าเราจำกันไม่ได้ในสักวันก็ใช่ว่าความรู้สึกจะหายไปที่ไหนกัน ถึงกระนั้นแล้วแม้พล็อตเรื่องจะดราม่าและสะเทือนใจได้ง่ายๆ เพื่อไม่ให้ดราม่าจนเกินไปการใส่ ‘ซันนี่’ เข้ามาก็เป็นข้อดีและข้อเสียพอๆกัน เพราะ ซันนี่เล่นได้เหมือนละครทีวีมากๆ แต่ก็พอขำๆกันไป ท้ายสุดตอนนี้คือตอนที่เราประทับใจที่สุดในสามตอน และคิดว่าเป็นตอนที่เอาใว้เชื่อมทั้งสามตอนเข้าด้วยกัน แม้จะเป็นการเชื่อมแต่ละตอนที่ดูตลกมากไปนิด
.
– พรปีใหม่ [คะแนน B]
ปิดท้ายให้ดูยิ่งใหญ่หน่อยละกัน ถ้าเทียบกับสองตอนแรก ตอนนี้คงถือเป็นตอนที่น่าจะใช้ทุนสร้างมากที่สุดแล้วมั๊ง เพราะขนตัวประกอบมาเยอะให้ดูครื้นเครงเข้าไว้ ดูสนุกๆ ‘feel-good’ แต่ก็มีประเด็นอะไรที่ชอบอยู่เหมือนกัน เกี่ยวกับ ‘ความฝัน’ หลายคนคงอิจฉาบางคนที่ได้ทำตามความฝันจนบ้างครั้งเราก็ละทิ้งความฝันของเราไปเพราะมองดูแล้วมันก็ไม่มีลู่วิ่งไปให้ถึงความฝันเลย แม้จะลงแรงไปแล้ว ทุ่มใจไปแล้วมันก็ไม่ไปไหนไกล ตอนนี้ถือเป็นแรงกระตุ้นใจให้ใครหลายคนรวมถึงตัวเราได้ดีเกี่ยวกับความฝันที่อยากจะทำ และด้วยบรรยากาศของพนักงานออฟฟิศที่อยากจะฟอร์มวงดนตรีขึ้นมา ก็อดคิดไม่ได้ว่า พวกเขาเหล่านั้นมีงานที่ต้องทำประจำกันอยู่แล้วแต่ก็ยังแบ่งเวลามาทำตามความฝัน ทำให้เราคิดว่า มันไม่มีหรอกคำที่ว่า ‘ไม่มีเวลาทำตามความฝันของตัวเอง’ มันมีก็แค่ ‘ทำกับไม่ทำ’ แค่นั้นเอง ดูพวกเขาเหล่านั้นสิ พวกเขามีความสุขที่ได้ทำความฝันของตัวเองมากแค่ไหน น่าคิดเหมือนกันนะ ในส่วนของ เต๋อ-ฉันทวิชช์ และ หนูนา-หนึ่งธิดา ก็ไม่ได้เล่นดีอะไรเพราะบทไม่ได้ส่งให้ต้องเล่นใหญ่อะไรมาก คงเป็นการจับคู่กันให้คนดูคุ้นตามากกว่า แต่เราชอบรอยยิ้มของ ‘หนูนา’ น่ารักดี ที่ชอบสุดๆคือ เพลงพระราชนิพนธ์ ‘พรปีใหม่’ ช่วยปิดม่านให้เรารู้สึกดีกับหนังเรื่องนี้และยิ้มได้สบายใจหลังดูจบ
.
ท้ายสุด ‘พรจากฟ้า’ เมื่อมองจากภาพรวมแล้วคงไม่ได้เป็นงานที่มีพัฒนาการอะไรที่ดีขึ้นหรืออาจมีบางมุมที่แย่ลงด้วยซ้ำ ถึงกระนั้นก็ตาม ‘ข้อความ’ ที่เราได้จากหนังเรื่องนี้ก็มีแง่มุมที่มีประโยชน์และเสริมสร้างกำลังใจให้ตัวเราเองหรือให้ใครหลายๆคนได้ไม่น้อยเหมือนกัน จะด้วยข้อจำกัดอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้รอยเชื่อมของทั้งสามตอนไม่สวยงามเท่าไหร่ แต่ถ้าวัดกันเป็นตอนๆ คงต้องบอกว่าแต่ละตอนนั้นมีส่วนดีอยู่เหมือนกัน เสียงเพลงยังคงช่วยให้เราผ่อนคลายได้เสมอ ตั๋วหนังราคาเพียง 99 บาท เราถือว่าคุ้มมาก ถ้าเทียบกับความรู้สึกหลังดูจบ และรายได้ส่วนหนึ่งก็สมทบทุนให้มูลนิธิชัยพัฒนาฯ อีกด้วย ‘เมื่อวันที่เรารู้สึกท้อแท้ รู้สึกย้ำแย่ในชีวิต ลองหยุดพักลงสักนิดแล้วใช้หัวใจฟังเพลงดูสักครั้ง ฟังทุกคำทุกทำนอง เราว่ามันเพราะมากเลยนะ’
.
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ 🙂
แมวตัวนั้นนั่งดูหนังตรงแถวc
พรจากฟ้า
Highlight : ในช่วงเวลาที่ทุกคนรู้สึกสูญเสีย หนังเรื่องนี้เหมือนเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจ ให้เราเข้มแข็งและก้าวต่อไป อย่างแข็งแรง
คะแนนความชอบ 8/10
เรื่องที่ 122/2016
.
หนังแบ่งเป็น 3 ตอนแต่ร้อยเรื่องราวเข้าไว้เป็นเรื่องยาวเรื่องนึง
รีวิวแบบเป็นพาร์ทละกัน
.
เรื่องที่ 1 ยามเย็น
เรื่องเกี่ยวกับ
เรื่องราวของหนุ่มสาววัยรุ่น ที่ต้องมาเป็นแสตนอินท่านทูต กับ ภริยาท่านทูต โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ครั้งแรกที่เจอหน้ากัน พระเอกก็รุกจีบนางเอกตามประสาหนุ่มเจ้าชู้ ในขณะที่นางเอกก็ตั้งการ์ดเต็มที่ เพราะเพิ่งโดนชายเจ้าชู้หักอกมา สงครามความสนุกของหนุ่มเจ้าชู้และสาวผู้มีจิตใจแข็งกระด้างจึงเกิดขึ้น
.
เป็นไงบ้าง
1. ชอบตอนนี้มาก เหมือนเพลงยามเย็นเป็นสื่อทำให้หนุ่มสาวรักกัน
2. เป็นการเปิดตัวที่สร้างความประทับใจแรกให้กับหนังได้เป็นอย่างดี มีความเป็นวัยรุ่น ดูน่ารักมุ้งมิ้ง สดใส (แหง๋หล่ะ ก็ได้ผู้กำกับฮอร์โมนมากำกับตอนนี้หนิ)
3. วี วิโอเลต สวยมากกกกก ออร่าทะลุจอ ส่วนน้องนาย พระเอกใหม่ก็ดูเจ้าชู้จนน่ากลัว
4. คือถ้าสาวๆ เซ๊นซิทีฟกับคำหวาน และผู้ชายหล่อๆ อาจจะอ่อนระทวย ยิ่งหนังทำบรรยากาศออกมาได้สวยและโรแมนติกมาก อิฉันว่ามีโอกาสเสร็จผู้ชายได้ง่าย แต่บางมุขก็ใช้กับสาวสวยผู้เย็นชาอย่างฉันไม่ได้ #ใช่สิฉันมันใจด้านชา 5555555
.
เรื่องที่ 2 Still on My Mind
เรื่องเกี่ยวกับ
คุณพ่อที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ ทำให้ฟา ( มิว นิษฐา) ลูกสาวต้องลาออกจากงานเพื่อมาดูแลพ่อ โดยมี เอ (ซันนี่ ) ช่างจูนเปียโนมาคอยช่วยเหลือ
.
เป็นยังไงบ้าง
5. ตีมของหนังเรื่องนี้มีความเป็นผู้ใหญ่กว่าเรื่องแรกที่มีความเป็นวัยรุ่นมุ้งมิ้ง
6. เพลง Still on My Mind ไม่ใช่เป็นแค่เพลงพระราชนิพนธ์ แต่เป็นเพลงแห่งความทรงจำที่สวยงามของคุณพ่อ เพลงที่ทำให้ลูกสาวเกิดความหวังว่าการพยายามเล่นเพลงนี้ได้ จะทำให้คุณพ่อที่ตัวเองรักมีความสุข เหมือนบทเพลงช่วยบำบัดรักษา
7. ชอบประเด็นของเรื่องนี้ ที่นอกจากเพลงเป็นตัวเชื่อมเรื่องราวความรักความผูกพันธ์ระหว่างพ่อและลูก ยังช่วยบำบัดความทุกข์ทรมานที่เกิดจากโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย
8. ส่วนตัวอิฉันรู้สึกเฉยๆ กับมิว แต่กลับชอบการแสดงของนางในเรื่องนี้มาก เผลอๆปีนี้นางอาจจะได้ชิงนักแสดงนำจาก แฟนเดย์ และชิงสมทบจากเรื่องนี้ด้วย
9. บางมุมรู้สึกว่า มิวหน้าคล้าย หลิน นุศรา ประวันณา #ใครยังจำนางได้บ้าง 55555
.
เรื่องที่ 3 พรปีใหม่
เรื่องเกี่ยวกับ
หลง (เต๋อ ฉันทวิชช์ ) อดีตร็อคเกอร์หนุ่ม ที่ลาออกจากวงของตัวเอง มาเป็นพนักงานออฟฟิศ เมื่อ คิม (หนูนา หนึ่งธิดา ) พนง.ฝ่ายบุคคลรู้เข้าว่าหลงเป็นอดีตนักดนตรีอาชีพ จึงตื้อให้หลงมาเป็นหัวหน้าวงดนตรีของบริษัท แต่เพราะหลงรู้สึกเหนื่อยกับชีวิตนักดนตรีตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เหมือนไม่มีค่าอะไร แต่การได้มาร่วมสร้างวงดนตรีในบริษัทคราวนี้ กลับทำให้เข่มองเห็นคุณค่าของตัวเอง และคุณค่าของดนตรี
.
เป็นไงบ้าง
10.ตีมของหนังเรื่องนี้ จะเป็นแนววัยทำงาน ความสนุกของตอนนี้คือเราจะสนุกกับการรวมตัวกัน เพื่อสร้างวงดนตรีให้สำเร็จ
11. เรื่องนี้จึงแตกต่างกับสองเรื่องแรก ทั้งจังหวะ มุขตลก ออกมาแนวซีรีย์ ATM ที่ฉายในทีวี ที่จังหวะยังไม่ค่อยคมเท่าไหร่ มีทั้งขำและแป๊ก ตอนแรกนึกว่าผู้กำกับ ATM เป็นคนกำกับ แอบตกใจที่รู้ว่าตอนนี้กำกับโดยพี่เก้ง จิระ
12. เพลงพรปีใหม่ของเรื่องนี้จึงเหมือนเป็นแรงบันดาลใจให้ชายหนุ่มผู้หมดศรัทธา ท้อแท้ให้กลับมามีพลังและฮึดสู้อีกครั้ง
.
ภาพรวม
13. หนังทำโปรดักชั่นออกมาดี ภาพสวยมาก รู้เลยว่าลงทุน ดูมีคลาส ดูแพงและตั้งใจทำ
14. ชอบการ Rearrange เพลงออกมาให้ทันสมัยและติดหู (ซึ่งจริงๆเพลงพระราชนิพนธ์ต้นฉบับก็เพราะอยู่แล้วหล่ะ) ยิ่งเพลงแต่ละตอนมาถูกที่ถูกเวลา ยิ่งช่วยส่งเสริมให้เราอินกับหนังมากขึ้นกว่าเดิม
15. ชอบการร้อยเรียงหนังแต่ละเรื่องเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างเนียนและลงตัว
16. เสียดายเรื่องมุขตลกที่ดูพยายามไปหน่อย แล้วมักจะได้ผลน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ถ้ามีเวลาในการสร้างมากกว่านี้ หนังอาจจะดีกว่านี้มากกก
.
สรุป
– นีคือหนังรักที่ซาบซึ้งสวยงามมีความเป็น Love Actually เรียงร้อยเรื่องราวผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ได้อย่างมีคุณค่าเรื่องหนึ่ง
.
– ในช่วงเวลาที่ทุกคนรู้สึกสูญเสีย หนังเรื่องนี้เหมือนเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจ ให้เราเข้มแข็งและก้าวต่อไปอย่างแข็งแรง
Hollywood GossipGun
Review : พรจากฟ้า (2016)
‘พรจากฟ้า’ (ในตอนแรกคือโปรเจ็ค New Year’s Gift) เป็นผลงานลำดับที่ 2 ของค่าย GDH ที่หยิบนำเอาเพลงพระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทั้งหมด 3 เพลงมาสร้างเป็นหนัง 3 พาร์ทด้วยกัน ประกอบด้วย ยามเย็น, Still on My Mind และ พรปีใหม่
Part แรกคือ ‘ยามเย็น’ เป็นผลงานของพี่หมู ชยนพ (ผู้กำกับ Suck Seed และ เมย์ไหนฯ) กับพี่ปิง เกรียงไกร (ผู้กำกับ ฮอร์โมน ซีซั่น 2-3) เล่าเรื่องราวของคนแปลกหน้าสองคน (รับบทโดย นาย ณภัทร และ วี วิโอเล็ต) ที่ต้องมาเป็นแสตนด์อินของ ท่านทูตและภริยา ในการฝึกซ้อมคิวในงานฉลองนักเรียนทุนของสถานทูตรัสเซีย
ตอนนี้คือ น่ารักมากกกก จากเหตุการณ์สั้นๆในวันเดียว หนังเล่าออกมาได้สนุกมาก มียอดมุขจีบกันไปมาให้เขินเล่นๆ ไฮไลต์ของ Part นี้คือสองนักแสดง น้องนายและวี เคมีเข้ากันมาก (ตอนแรกหวั่นใจกับคู่นี้เบาๆ) ส่วนสาวๆตายคาโรงแน่นอน เพราะน้องนายโคตรหล่อ ยืนนิ่งๆก็หล่อแล้ว แต่คาแร็คเตอร์ในเรื่องโคตรส่ง เสน่ห์พุ่งทะลุจอ คือเกิดแน่นอน
Part ที่สองคือ ‘Still on My Mind’ เป็นงานของพี่ต้น นิธิวัฒน์ ผู้กำกับ Season Change และ คิดถึงวิทยา เล่าเรื่องราวของนางเอก (น้องมิว นิษฐา) ที่ต้องดูแลคุณพ่อที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ เธอตามช่างจูนเปียโน (รับบทโดย ซันนี่) มาซ่อมเปียโน เพื่อหวังจะเล่นเพลงโปรดของแม่ เพื่อทำให้พ่อจำแม่ได้อีกครั้ง
นี้คือ น้ำตาไหลพรากกกกก ทั้งดราม่า ทั้งอบอุ่น ทั้งเศร้าใจ หลายอารมณ์ปนกัน แต่ดีเหลือเกิน ตอนแรกนึกว่าจะหนักๆ แต่ตัวละครซันนี่ ช่วยผ่อนหนังให้อารมณ์ออกมากำลังพอดี สิ่งที่ดีมากในหนัง คือ น้องมิว เล่นดีมาก (อีกแล้ว) แต่ที่ดียิ่งกว่ามิว คือคุณลุงที่รับบทพ่อมิวในเรื่อง เล่นเป็นชายที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ได้ดีมากกกก ต้องได้ชิงรางวัลสาขาสมทบชาย ต้นปีหน้าอย่างแน่นอน
Part สุดท้ายคือ ‘พรปีใหม่’ เป็นงานของพี่เก้ง จิระ ผู้กำกับ มหาลัยเหมืองแร่ ลงมาทำเองเลย เล่าเรื่องราวของอดีตร็อคเกอร์ (เต๋อ ฉันทวิชช์) ที่ยอมทิ้งฝันมาทำงานพนักงานออฟฟิศ แต่แล้วก็พบว่า ณ ที่ทำงานแห่งนี้ เหล่าพนักงานกำลังฟอร์มวงดนตรีงูๆปลาๆ เพื่อเล่นดนตรีนอกเวลางาน
ตอนนี้คือ น่าแปลกใจมาก เพราะปกติไม่ค่อยเห็นพี่เก้งทำหนังออกมาตลกมากๆ ขนาดนี้ Part นี้ต้องถือว่า บันเทิงสุด มีความเป็น GDH หรือ GTH ที่คนดูชอบ คือ สนุก ตลก ซาบซึ้ง ประทับใจ มาครบสูตรเลย ส่วน เต๋อกับหนูนา เคมีเข้ากันมาตั้งแต่ กวนมึนโฮ แล้ว แต่เรื่องนี้ ไม่ได้เน้นเรื่องรักของทั้งคู่ เลยอาจไม่มีซีนให้โชว์เคมีมากนักอีกสิ่งดีงามของ พรจากฟ้า คือหนังทั้ง 3 ส่วน ไม่ได้แยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง มันถูกร้อยเรียง ถูกเชื่อมโยงกันอย่างชาญฉลาด ทำให้หนังออกมาลงตัวมากยิ่งขึ้น
สรุป พรจากฟ้า คืองานระดับท็อปฟอร์มอีกครั้งของค่ายนี้ สนุกครบทุกรสชาติ งานสร้างค่อนข้างลงตัว ทั้งบทและโปรดักชั่น(ที่ค่ายนี้เค้าทำออกมาดูดี มีรสนิยมอยู่แล้ว) ดูจบปุ๊ป มีความสุขออกจากโรงอย่างแน่นอน และเพลงพระราชนิพนธ์ทั้ง 3 เพลง ยังคงตรึงอยู่ในหัว นี่ร้องพรปีใหม่ซ้ำหลายรอบแล้ว ดีต่อใจเหลือเกิน
(ให้ 9 คะแนนเต็ม 10)
In Filma หนัง
++++รีวิวพรจากฟ้า (A Gift) (2016)
++++ 8.5/10 โลกใบที่สองที่เรียกว่าหนัง
++++ 2/2017
>>>>ที่มาของหนัง พรจากฟ้า สร้างขึ้นเพื่อตามรอยพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการที่จะมอบของขวัญให้ผู้คนด้วยบทเพลง หนังแบ่งเป็นสามส่วนสามเรื่อง แต่ทั้งสามเรื่องมีช่วงการผสานให้เข้ากันเป็นหนังเรื่องหนึ่งได้อย่างลงตัว ขอรีวิวเป็นสามส่วนตามเพลงพระราชนิพนธ์ที่นำมาใช้
+++ยามเย็น” (LOVE AT SUNDOWN)
เป็นการนำเพลงพระราชนิพนธ์เพลงนี้มาเล่าเรื่องในอีกแง่มุมหนึ่งได้อย่างน่าสนใจ คู่พระเอกกับนางเอกต้องยอมรับว่าทั้งคู่เล่นกันได้อย่างลงตัว เล่าถึงความรักของทั้งคู่ ได้เข้ากับเพลงนี้มาก
>>>พระเอก-นางเอกนาย – ณภัทร เสียงสมบุญ และ วี – วิโอเลต วอเทียร์
>>>กำกับโดย 2 ผู้กำกับ ชยนพ บุญประกอบ (หมู) และ เกรียงไกร วชิรธรรมพร (ปิง)
++++”Still on my Mind” (ดวงใจนิรันดร์)
เป็นการเล่ารื่องราวได้อย่างลงตัว ในความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก (ลุงป้อม กับ ฟา) ซึ่งมีการนำเพลงนี้มาเล่าผ่านเปียในที่เล่นได้อย่างไพเราะ
ชอบประโยคหนึ่งในหนังที่ว่า ทำไมลูกจะทำเพื่อพ่อไม่ได้ ฉากหนึ่งที่ฟาลูกของลุงป้อมพยายามหัดเล่นเปียโนเพลงที่แม่ของฟาชอบเล่นให้พ่อฟังเพื่อให้พ่อมีความสุขเผื่ออาการของพ่อจะดีขึ้น แม้ความหวังจะน้อยหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย
>>>พระเอก – นางเอก ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ และ มิว นิษฐา จิรยั่งยืน
>>>กำกับโดย นิธิวัฒน์ ธราธร จาก Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย, คิดถึงวิทยา
++++ “พรปีใหม่”
เป็นเรื่องที่เล่าถึงปีใหม่ การเล่าเรื่องผ่านตัวละคร การเริ่มทำในสิ่งที่ชอบด้วยความรัก เหมือนกับการเริ่มต้นปีใหม่ นักแสดงทั้งหมดที่มาร่วมเล่นดนตรีร่วมกัน บรรเลงด้วยความสนุกสนาน ตามเพลงนี้ เหมือนกับ เป็นพรปีใหม่ให้กับทุกคน
>>>พระเอก-นางเอก เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี และ หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ
>>>กำกับโดย เก่ง จิระ มะลิกุล (15 ค่ำ เดือน 11, มหา’ลัย เหมืองแร่)
8.2