ดูหนังออนไลน์ใหม่ 2024 หนังเต็มเรื่อง ดูหนังใหม่ ดูหนังฟรี HD Netflix
VegusCasino
บาคาร่า ออนไลน์
สล็อตเว็บตรง

A Beautiful Day in the Neighborhood (2019) วันที่สวยงามในละแวกใกล้เคียง

ให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้

Trailer

A Beautiful Day in the Neighborhood (2019) วันที่สวยงามในละแวกใกล้เคียง

ดูหนัง A Beautiful Day in the Neighborhood เต็มเรื่อง วันที่สวยงามในละแวกใกล้เคียง

เรื่องย่อ

A Beautiful Day in the Neighborhood (2019) วันที่สวยงามในละแวกใกล้เคียง ภาพยนตร์สร้างมาจากเรื่องจริงอันแสนประทับใจของนักข่าวคนหนึ่งที่ได้พบเจอพูดคุยกับ เฟรด โรเจอร์ส พิธีกรชื่อดังที่คนทั้งอเมริการัก เพราะพบเจอความผิดหวังมาแล้วนับไม่ถ้วน ลอยด์ (แมทธิว รีส) นักข่าวหนุ่มใหญ่จึงไม่หลงเหลือแง่งามในการมองโลกอีกต่อไป เขาเป็นลูกที่ไม่รักพ่อ ไม่ผูกพันกับพี่น้อง เป็นสามีที่ขี้บ่น และเป็นพ่อที่ใช้ลูกน้อยเป็นแค่ “ข้ออ้างในการไม่ต้องไปงานสังคม”

จนกระทั่งวันหนึ่ง บ.ก. ส่งเขาให้ไปสัมภาษณ์ เฟรด โรเจอร์ส (ทอม แฮงค์ส) พิธีกรรายการเด็กชื่อดัง แน่นอนว่าลอยด์เดินทางไปหาแหล่งข่าวของเขาด้วยอคติที่พกมาเต็มกระเป๋า โรเจอร์ส เป็นเหมือนนักบุญที่ยังมีชีวิตอยู่ เขาอ่อนโยน เห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ และยอมรับความผิดพลาดของคนอื่นโดยไม่ถือสาหาความ โรเจอร์สเป็นเหมือนคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับคนแบบที่ลอยด์เป็น แต่การพบกันชั่วระยะเวลาสั้น ๆ นั้นเอง กลับคล้ายดังสัญญาณของพระเจ้าให้ลอยด์ตื่นจากการหลับใหล เขาเริ่มหัดมองโลกแบบ เฟรด โรเจอร์ส และเขาก็ได้มาถึงจุดที่พบว่า “ชีวิตไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย ขอแค่เราแบ่งปันความอารีให้แก่กัน”

ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังฝรั่ง เรื่อง A Beautiful Day in the Neighborhood (2019) วันที่สวยงามในละแวกใกล้เคียง หนังประเภท Biography ชีวิตจริง เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนัง ออนไลน์ ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS

ผู้กำกับ

Marielle Heller

บริษัท ค่ายหนัง

  • TriStar Pictures
  • Tencent Pictures
  • Big Beach
  • Youree Henley Productions

นักแสดง

  • Tom Hanks
  • Matthew Rhys
  • Susan Kelechi Watson
  • Chris Cooper

โปสเตอร์หนัง

ดูหนัง A Beautiful Day in the Neighborhood เต็มเรื่อง

ดูหนัง A Beautiful Day in the Neighborhood เต็มเรื่อง

ดูหนัง A Beautiful Day in the Neighborhood เต็มเรื่อง

รีวิวหนัง

หนังโปรดของข้าพเจ้า

A Beautiful Day in the Neighborhood (2019) เข้าฉาย 19 ธันวาคมนี้ที่ House สามย่าน

• ชอบคำนิยามของพี่หนอที่เปรียบถึงหนังเป็นคอร์สไลฟ์โค้ช ซึ่งความเป็นไลฟ์โค้ชของหนังเป็นแค่แนวทางหนึ่งซึ่งอาจจะขัดแย้งกับแนวทางของจิตแพทย์ในหนังเรื่องอื่น

• เรามองหนังเป็นการปะทะกันของคนที่ภายนอกดูไม่มีความเป็นมนุษย์ ฝั่งหนึ่งพ่อพระเกินคนทั่วไป อีกฝั่งก็มองหาข้อบกพร่องของคนอื่นเสมอ โดยมองข้ามความผิดตัวเองตลอด

• แต่จริง ๆ ทั้งสองฝั่งแค่ซ่อนความเป็นคนธรรมดาเอาไว้มิดชิด คนหนึ่งควบคุมอารมณ์และภาพลักษณ์ได้ยอดเยี่ยม ส่วนอีกคนก็มีความเห็นอกเข้าใจผ่านคำถามที่ฟังดูแทงใจดำ

• ทอม แฮงค์ส เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม

ขออยู่ฝั่งไม่ได้อิ่มเอมใจกับหนังสักเท่าไร ไม่เกี่ยวกับคุณภาพของหนังนะ ชอบอย่างหนึ่งที่หนังนำเสนอภาพคนดีแบบ ‘เฟร็ด โรเจอร์ส’ (Tom Hanks) ในเชิงสำรวจความเป็นมนุษย์ของเขา นักข่าวอย่าง ‘ลอยด์ โวเกิล’ (Matthew Rhys) กล้าตั้งคำถามถึงตัวตนแท้จริงหรือพยายามพิสูจน์ว่าเขาเสแสร้งแกล้งทำหรือเปล่า คือพอเป็นพ่อพระจ๋า ๆ คนดีเว่อร์ ๆ มันจะดูจับต้องไม่ได้ ดูไม่ใช่มนุษย์ ดูสร้างภาพ ทั้งที่ความจริงแล้วโรเจอร์ส ก็มีความโกรธ มีความอึดอัด มีเรื่องชวนหงุดหงิดเหมือนอย่างเรา เพียงแต่เขาอดกลั้นและระบายออกมาแบบที่ไม่มีใครต้องมาเจ็บปวด นึกถึงแบบเนเน่ ในชินจังที่โมโหเมื่อไรต้องควักตุ๊กตากระต่ายออกมาระบายอารมณ์ประมาณนั้นแหละ แต่โรเจอร์สเลือกจะเล่นเปียโนหรือว่ายน้ำด้วยความเกรี้ยวกราดแท

ส่วนฝั่งนักเขียนเองก็ใช่ว่าจะเย็นชาเกินคน ในการเป็นคนมองหาข้อบกพร่องของคนอื่นทำให้เขาเข้าใจความเป็นไปของโลก ชอบฉากที่เขาเข้าใจว่าการที่เด็กมีพ่อเป็นไอดอลพ่อพระแบบนี้ยังไงก็มีปัญหาที่บ้าน, หรือกระทั่งการที่คนมากมายเอาปัญหามาปรึกษาตลอด แม้โรเจอร์สจะพูดในเชิงชื่นชมถึงความกล้าของคนที่ออกมาพูด แต่ลึก ๆ มันก็มีความอึดอัดที่ไม่แสดงออกมาให้เห็นอยู่ เราชอบที่ทั้งสองคนตัดสินใจศึกษากันและกันก่อนจะมานัดสัมภาษณ์ ฝั่งโรเจอร์สก็อ่านงานเขียนทุกชิ้นที่หาได้ของลอยด์ ส่วนลอยด์หลังจากได้พูดคุยก็กังขาจึงพยายามหาเทปรายการโทรทัศน์ต่าง ๆ มาดูให้มากที่สุด ก็เห็นว่าความเป็นพ่อพระของโรเจอร์สถูกคนล้อเลียน และได้เห็นมุมการทำรายการเด็กของเขาว่ามีเนื้อหาค่อนข้างหนักกว่ารายการเด็กทั่วไป พาเด็กไปแตะต้องเรื่องความตาย, การหย่าร้าง, กระทั่งสงคราม ด้วยการสอนแบบไลฟ์โค้ชน่ะแหละ

หนังมันเป็นการเติบโตของฝั่งลอยด์ที่มีความขัดแย้งกับพ่อ ค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะลองเปิดใจยอมรับความผิดของตัวเองบ้างผ่านการเข้าคอร์สไลฟ์โค้ช จริง ๆ มันก็ดีที่คนเรายอมรับส่วนที่ตัวเองบกพร่อง แต่บางมุมที่เลือกเก็บความโกรธเกรี้ยวไว้กับตัวมันเป็นมุมที่เราไม่ซื้อเท่านั้นเอง เมื่อเทียบกับที่เพิ่งดู Kim Ji-young: Born 1982 ซึ่งจิตแพทย์แนะนำให้ระบายความอึดอัดออกมาตรง ๆ ให้สบายใจแทนที่จะเก็บไว้กับตัว เราคิดว่าสังคมจะเรียนรู้หรือพัฒนาถ้าความโกรธถูกระบายออกมามากกว่า นึกสภาพว่าถ้าไม่พอใจอะไรก็ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นมันคงไม่ทำให้เกิดการตระหนักอะไรขึ้นมา ไม่ได้จำเป็นต้องแสดงออกโกรธเกรี้ยวแต่มันต้องพูดตรง ๆ บ้างแหละ แต่ถ้าแทงใจดำใส่กันบ่อย ๆ คงไม่ใช่ Beautiful Day สินะ หะหะ

Director: Marielle Heller (ผู้กำกับ The Diary of a Teenage Girl, Can You Ever Forgive Me?)

screenplay: Micah Fitzerman-Blue, Noah Harpster

Genre: biography, drama

7/10

จดอ. JUST ดู IT.

A Beautiful Day in the Neighborhood (2019) วันที่สวยงามในละแวกใกล้เคียง

#รีบรีวิว A Beautiful Day in the Neighborhood

นับเป็นอีก 1 บทพิสูจน์แล้วล่ะครับว่าเสน่ห์ของ Tom Hanks คือออร่าของอเมริกันฮีโร่ ออร่าของความน่ารัก อบอุ่น และความเป็นแบบอย่างที่ปุถุชนคนธรรมดาอย่างเรา ๆ ชื่นชอบและให้การนับถือ มันทำให้เขาสามารถเล่นเป็นใครก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคล ที่มีความพิเศษและเป็น Icon อย่างเช่น Fred Rogers พิธีกรรายการเด็กชื่อดัง ผู้ที่เติมเต็มวัยเด็กให้ชาวอเมริกันกว่า 3 ทศวรรษ ซึ่งนอกจากเสน่ห์ดังกล่าวแล้วความละเอียดในการสร้างตัวละครนี้มันยังยอดเยี่ยมพอที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจ เติมเต็มข้อความที่ผู้กำกับอยากถ่ายทอดผ่านหนังได้อย่างสมบูรณ์แบบ (การันตีด้วยการเข้าชิงลูกโลกทองคำสาขานักแสดงสมทบชายของ Tom Hanks เป็นที่เรียบร้อย)

A Beautiful Day in the Neighborhood ไม่ใช่หนังที่ถ่ายทอดชีวิตของ Fred Rogers แต่อย่างใด แต่กลับเป็นการเล่าถึง Lloyd Vogel เพื่อนคนนึงของ Mister Rogers ที่เป็นนักเขียนสังกัดนิตยสาร Esquire เขาได้รับหน้าที่ให้มาสัมภาษณ์และเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับ Fred

ด้วยเหตุนี้เองพอทั้งคู่ได้พูดคุยกันมันทำให้ Lloyd สงสัยมากว่า ฉากหน้าอันแสนดีงาม อบอุ่น และเห็นอกเห็นใจผู้อื่นตลอดเวลานั้น เป็นเพียงการแสดงหรือเปล่า ตัวตนจริง ๆ ของ Fred เป็นยังไงกันแน่

ผู้กำกับสาว Marielle Heller ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมนุษย์ออกมาได้น่าสนใจ สวยงาม และเต็มไปด้วยพลังด้านบวกมาก ๆ แต่มันไม่ได้มากมายถึงขั้นโลกสวยจนสายรุ้งออกปาก มันเล่าผ่านคนหลากหลายรูปแบบที่เราจะได้เจอในชีวิตสักครั้ง ทั้งคนประสบความสำเร็จ คนที่ดีพร้อม คนที่มีปม คนที่ล้มเหลว แต่ทุกคนและทุกองค์ประกอบต่างหล่อหลอมซึ่งกันและกันจนเราเป็นมนุษย์ มีสังคม และเป็นตัวเราอย่างที่เราเป็นทุกวันนี้ พอดูเรื่องนี้จบก็กลายเป็นว่าเราชอบงานของผู้กำกับคนนี้แทบทุกเรื่องที่ได้ดูเลย ตั้งแต่ The Diary of a Teenage Girl, Can You Ever Forgive Me? หรือแม้แต่เรื่องนี้

แม้ว่าหนังจะถูกถ่ายทอดด้วยอารมณ์ที่ไม่ฉูดฉาด เนิบนาบ แต่อย่างที่บอกไปข้างต้น ว่าตัวแก่นแท้ และ การแสดงของนักแสดงมันช่วยเติมเต็มให้หนังเรื่องนี้ส่งพลังใจบางอย่างให้กับคนดูได้จริง ๆ นอกจาก Tom Hanks แล้ว Matthew Rhys ที่ถือเป็นพระเอกของเรื่องเองก็เล่นดีมาก รวมไปถึง Chris Cooper ที่คือมาน้อยแต่ดีมาก ๆ

โดยรวมแล้ว ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองได้ชมเหมือนกันครับ คือเราไม่จำเป็นต้องรู้จัก Mister Rogers มาก่อนก็ได้ หัวใจของหนังอาจจะไม่ได้อยู่ตรงนี้เสียทีเดียว (แต่ถ้าอยากรู้จักมาก่อนเพื่อความอิน แนะนำให้ดูสารคดี Won’t You Be My Neighbor? ก่อนดูก็ได้ครับ) นี่ถือเป็นหนังที่เซอร์ไพร์สและดีเกินคาด ให้ข้อชวนคิดหลังดูไม่น้อยเลย

A Beautiful Day in the Neighborhood

ฉายแล้ววันนี้ที่ House Samyan เท่านั้น

Techhangout

[CR] รีวิว A BEAUTIFUL DAY IN THE NEIGHBORHOOD หนังอบอุ่นพร้อมให้พลังบวกเต็มๆ !

a beautiful day in the neighborhood เป็นหนังที่บอกเลยว่า อาจจะไม่คุ้นกันเพราะมันเข้าแค่ที่โรงหนัง HOUSE SAMYAN เท่านั้นครับโรงทั่วไปไม่มีแน่นอนเลยอาจจะไม่คุ้นกันซักเท่าไร เป็นหนังที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตจริงของ ‘เฟรด โรเจอร์ส’ พิธีกรชื่อดังของอเมริกา รายการ Mister Rogers’ Neighborhood ปี 1968-2001นั้นบางคนอาจจะรู้จักกันครับและเป็นรายการที่ช่วยให้มีแง่คิด ความคิดบวกๆอยู่เต็มไปหมด พร้อมแทรกเรื่องราวทั้งการพูด การบูลลี่ แนวคิดอีกเยอะจนมากกว่าเป็นรายการเด็ก ซึ่งมันให้แง่คิดกับผู้ใหญ่ได้ดีมากๆ เป็นหนังที่กระแสอาจจะไม่แรงแต่บอกเลยว่า สมควรไปดูครับและฉายที่ HOUSE SAMYAN เท่านั้นราคาตั๋วไม่แพงแค่ 160 บาท ไปดูเลยแนะนำครับ บอกเลยว่าหนังที่ให้พลังบวก แนวคิดดี แถมร้องไห้ได้ หาหนังที่ให้ความรู้สึกแบบนี้ในโรงทั่วไปยากมากในยุคหลังๆเหมือนขาดหนังแนวๆนี้ไปเยอะจริงๆในยุคสมัยนี้ และ อยากให้คนเราได้ดูจริงๆเพราะมันให้แนวคิดต่อการใช้ชีวิต คิดบวก มองโลกอีกมุม เพราะ ตอนนี้หลายๆคนในยุคสมัยนี้เริ่มจะโหดร้ายไปเรื่อยๆเกินไปแล้วจริงๆ หนังมันไม่ใช่แบบโลกสวยแบบไร้สาระ แต่มันคือให้เรายอมรับสิ่งที่เป็น สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต และวิธีการรับมือครับ

ตัวหนังนั้นจะเล่าเรื่องแบบง่ายๆ แทรกมุมกล้องแบบรายการทีวีผสมกับมุมภาพแบบปัจจุบัน ก็แปลกใหม่และเหมือนเราดูรายการทีวีของจริงเลยทั้ง ฉาก ทั้งโมเดลต่างๆครับชอบมากๆ หนังจะเล่าเรื่องไปในแนวทางแบบ เรื่อยๆผสมกับรายการทีวีวที่เหมือนจะพาเราไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆจากรายการทีวีครับ เล่าถึงตัวละคร ลอนด์ นักเขียนนิตยสารที่ได้มาสัมภาษณ์ เฟรด โรเจอร์ส นั้นเองครับทำให้เค้าได้เปิดมุมมองต่อชีวิต ต่อพ่อเค้าได้แบบซึ้งกินใจมากกก จากคนที่มี EGO สูงๆ จนค่อนๆเริ่มเข้าใจอะไรหลายๆอย่างและเล่าเรื่องได้ให้เราเข้าใจถึงความรู้สึกนั้น และอินไปกับหนังมากๆ และการดูหนังเรื่องนี้ได้แทรกแนวคิดมาทั้งเรื่อง คำพูดบางอย่างมันโดนเลยจริงๆในการใช้ชีวิตสมัยนี้ และ สอนอะไรเราหลายๆอย่างครับ หนังเล่นกับความรู้สึกของเราได้ดีจริงๆ เรื่องราวความผูกพันของตัวละคร กับพ่อต่างๆและ การเปลี่ยนแปลงการพัฒนาของตัวละครที่เรารู้สึกได้เลย บอกเลยว่าบทหนัง เนื้อเรื่องนั้นทำออกมาได้ดีครับ แม้จะมีบางช่วงอาจจะเนิบๆไป และเน้นไปที่ตัวละครนั้นมากเกินไปหน่อย เลยทำให้มีเนือยๆอยู่บ้างครับสำหรับเรื่องนี้

นักแสดงนั้นหลักๆมีตัว Tom Hanks ที่รับบทเป็น เฟรด โรเจอร์ส ที่ดูแล้วต้องบอกว่าเห้ยทำไม พี่เค้าเล่นเรื่องอะไรก็คุณภาพจริงๆคือเข้าถึงตัวละครนั้นแบบเต็มที่แบบไม่ได้ฝืนเลยเหมือนกับเป็นตัวเค้าจริงๆ ทั้งสายตาการพูดท่าทาง และ แนวคิดที่แบบมันเหมือนตัวเค้าจริงๆและมีความคิดบวกตลอดเวลา สายตาที่มองมากล้องหรือเล่นในหนังมันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ต้องยอมรับครับว่าเป็นหนัง แสดงคุณภาพมากๆสำหรับ Tom Hanks คนนี้ ยอมเลยสำหรับจุดนี้ครับ และได้เสนอชื่อ นักแสดงสบทบ จากลูกโลกทองคำด้วย ส่วนนักแสดงคนอื่นๆในตัวละคร ลอยด์ ที่รับบทโดย Matthew Rhys นั้นก็แสดงได้ดีเช่นกันเป็นอีกมุมนึงของคนเราที่ไม่ค่อยจะยอมรับอะไรง่ายๆแต่เราเห็นการพัฒนาของตัวละครได้ดีและการแสดงของเค้าก็ทำได้ดีไม่แพ้กันเลยครับ และจุดที่เน้นเรื่องราวระหว่างเค้าและพ่อก็ทำได้ดีซึ้งกินใจมากๆ

งานภาพในเรื่องนี้จะเป็นการถ่ายแบบ อัตราส่วนที่แตกต่างกัน 2 แบบคือแบบ 4:3 ที่ไม่ชัดมากนัก โทนสีแบบฟิล์มแบบทีวีสมัยก่อนเลย ผสมกับแบบคมชัด 1.85:1 ที่ตัดต่อผสมเรื่องราวกันได้อย่างลงตัวดีและเหมือนกับทีวีโชว์ของจริงสมัยก่อนแบบเป๊ะๆทั้งโมเดล โทนสี มุมกล้องที่ใส่ใจรายละเอียดมากจริงในเรื่องนี้ และพวก production ของเขาใส่ใจในยุคนั้นได้อย่างดี งานภาพมุมกล้องนั้นในช่วงของทีวีโชว์นั้นเอามาจากรายการได้แบบเป๊ะมากๆจริง ยอมรับทั้งท่าทาง ทั้งฉาก โทนสี คือตอนจบที่มีรายการจริงๆมาให้ดูนั้นคือเหมือนกันเป๊ะๆเลยครับ และ ยิ่งเจอการแสดงของ Tom Hanks มันช่วยได้เยอะ ส่วนมุมกล้องในฉากปกตินั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากแต่ก็อิงคล้ายๆกับการถ่ายโมเดลอยู่บ้างครับและจะตัดสลับกันได้ดีเวลาฉากไหนไปข้างนอกเมืองช่วงเก็บวิวเมืองจะตัดไปถ่ายโมเดลแทนอะไรแบบนั้น ให้ความรู้สึกเหมือนเราไปดูรายการทีวีและเข้าไปอยู่ในนั้นได้เลย ชอบๆการเล่นมุมกล้องและตัดสลับมาแบบนี้ครับไม่งงแต่เล่าเรื่องราวได้ดีมากๆ

งานเสียงนั้นในเรื่องนี้ต้องบอกว่าเป็นดนตรีที่เข้ากับยุคนั้นได้และมีเล่นกับฉากเงียบๆเยอะมากเหมือนกันซึ่งฉากพวกนั้นจะเล่นในเรื่องของสีหน้า สายตาแบบจัดเต็มเช่นในฉากข้างบนนี้บอกเลยว่าสายตา แววตาที่มองมาที่กล้องมันให้พลังมากๆและทั้งโรงเงียบแบบไม่มีเสียงอะไรเลยครับถือว่าเล่นกับอารมณ์ได้ดี ส่วนเพลงนั้นจะเป็นพวก เปียโนอะไรต่างๆ ตามยุคสมัยนั้นเพลงแทรกบ้าง ดนตรีของรายการทีวีอะไรพวกนี้ มีร้องเพลงในรายการแทรกเข้ามาครับก็ถือว่าครบรสดีมากๆ ในแง่ของเสียง ซาวด์นั้นทำได้ดีเลย และเล่นกับความรุ้สึกของคนดูได้ดีครับ รวมถึงฉากจบด้วยเช่นกัน

เทียบนักแสดงในด้านขวา กับ ตัวจริงในด้านซ้ายต้องบอกว่าเก็บรายละเอียดได้ดีมากๆเหมือนใช้ฉากที่เดียวกันพร้อมกับท่าทาง การแสดงของเค้านั้นสมจริงสุดๆรวมถึง การเล่าเรื่องอะไรเหมือนกับดูทีวีโชว์อยู่เลยครับอันนี้ยอมในการแสดงของ TOM HANK เลยจริงๆ

โดยรวมนั้นเป็นหนังที่ให้ความรู้สึกดีมา เป็นหนังที่อิ่มและซึ้งมากๆไม่ค่อยเจอหนังที่ดูจบแล้วให้ความรู้สึกดีแบบนี้มานานแล้วในโรงหนังในหลายๆปีที่ผ่านมาครับซึ่งเป็นหนังที่อยากให้ทุกคนไปดูจริงๆนะให้แง่คิด แนวคิดในการใช้ชีวิตได้ดีเลยแหละ และงานภาพ โปรดักชั่นอะไรต่างๆนั้นทำได้ดีมากๆ และเป็นการเล่าเรื่องของของ เฟรด โรเจอร์ กับ ลอยด์ ได้ดีครับ และในแง่ของนักแสดงนั้นคุณภาพแน่นๆคู่ควรแก่การดูจริงๆ ไม่ควรพลาดสำหรับเรื่องนี้ใครที่ชอบหนังคุณภาพ ความรู้สึกดีๆ แง่คิดดีๆแนะนำครับผม จะมีแค่ที่ HOUSE SAMYAN เท่านั้นนะครับไปลองดูกันได้

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The Fabelmans (2022)

Sleepless in Seattle (1993) กระซิบรักไว้บนฟากฟ้า

News of the World (2020)

The Post (2017) เอกสารลับเพนตากอน

แสดงความคิดเห็น

Share

หนังอื่นๆ ที่น่าสนใจ

GTMax (2024)
หนังฝรั่ง Thaisound
movie

5.5

Magpie (2024)
หนังฝรั่ง Subthai
movie

6.5

ดูหนังออนไลน์ 2024

เว็บดูหนังมาแรงในตอนนี้ สามารถดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ที่มีคุณภาพที่สุดในตอนนี้ ไม่มีโฆษณามารบกวนใจ อีกทั้งมีหนังมากมายมาให้เลือกชม มากมายกว่า 10,000 เรื่อง ที่นี่มีหนังใหม่2023 จากค่ายดังทุกค่ายมาให้ทุกคนได้รับชมกันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่า Netflix, Disney+, Viu , DC , Marvel ทำให้ท่านได้รับความสนุกเพลิดเพลินเหมือนได้รับชมอย่างสมจริงทั้งภาพที่คมชัดระดับ Full HD และเสียงภาพยนตร์ที่คมชัดมากที่สุด

ดูหนัง Netflix หนังใหม่

อ่านต่อที่นี่