4 King 2 (2023) โฟคิงส์ 2
เรื่องย่อ
4 Kings 2 (2023) โฟคิงส์ 2 การปะทะของ 2 อริต่างสถาบัน กนก และ บุรณพนธ์ เริ่มต้นขึ้นในค่ำคืนหนึ่ง “ตุ้มเม้ง กนก” ถูกดักทำร้ายร่างกายจนปางตาย “บ่าง กนก” เตรียมการหวังแก้แค้น คู่อริต่างสถาบัน “เอก บุรณพนธ์” และ “รก บุรณพนธ์” เมื่อความแค้นที่ถูกสะสมได้เวลาเอาคืน บ่าง และ รก เผชิญหน้ากัน โดยมี ยาท เด็กบ้าน เป็นตัวแปรที่จุดชนวนครั้งใหญ่ เพิ่มอุณหภูมิความเดือดในการล้างแค้นครั้งนี้
ผู้กำกับ 4 kings ภาค2
พุฒิพงศ์ นาคทอง
บริษัท ค่ายหนัง
เนรมิตรหนัง ฟิล์ม
นักแสดง 4 kings 2 นักแสดง
- สมพล รุ่งพาณิชย์
- อุกฤษ วิลลีย์ บรอด ดอนกาเบรียล
- สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร
- สิราษฎร์ อินทรโชติ
- เบนจามิน โจเซฟ วาร์นี
- ทศพล หมายสุข
- ภัทร เอกแสงกุล
- ณัฐวุฒิ เจนมานะ
- อินทิรา เจริญปุระ
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง 04 kings ภาค 2 เต็มเรื่อง
ตอกหนัง By แอชลี่ย์
4 king 2 (2023) REVIEW BY ตอกหนัง
หนังถือว่าพัฒนาในด้านบทและเน้นแอคชั่นกับดราม่ามากขึ้น โรงหนังแถวบ้านกูมีคนอินจัดด้วยไอ้เหี้ยตะโกน เอ้ย! เอ้ย! ตอนแม่งตีกัน ถ้าไม่มียามตรวจอาวุธแม่งคงถืออีโต้ถืออีโบ๊ะมาในโรงหนังละ ตอนไปดูเสียดายไดอาล็อคในคุกมาก แม่งไม่เซ็ตหย่อนักว่าจะดากจัดละ ส่วนที่ชอบเลยคือพี่แหลม พี่แหลมแม่งทรงเล่นหนังได้อีกเยอะเลย อยากให้แกเป็นพระเอกหนังอาชญกรรมแนวปล้นแนวโจรเลยอะ โคตรเหมาะ ส่วนยาทก็ยังเป็นตัวละครล้นๆสุดจัดปลัดบอกเหมือนเดิม สิ่งที่หงุดหงิดสุดๆตอนดูคือ มีคนดูTIKTOKบนหัวกูนี้ละ ละเป็นเพลงแบบตอนนี้กำลังสร้างโปรดมองข้ามไปก่อน กูรู้เลยมาจากถิ่นใด
Movie FF: Friend and Fun
Movie FF | Now Showing / Review 📏 🩸 ⚙️ 4 Kings 2 (2023) | 8.5/10 ภาคต่อที่ทั้งทวีทั้งความเดือดคลั่ง ทั้งทรงพลังในพาร์ทดราม่าแบบข้นคลั่ก! สามารถขยายเรื่องที่ไม่ได้เล่าจากภาคแรกได้กว้างขึ้น จนเติมเต็มให้เป็นยิ่งกว่าหนังแก๊งสเตอร์ตีกันสมบูรณ์ถึงเลือดเนื้อตัวละคร ฝังแมสเสจคมคายดั่งกระสุนยิvกลางอก ภาคแรกว่าชอบแล้ว ภาคนี้คือโคตรชอบ!
“4 Kings II” หนังแนว Gangster/Action/Crime/Drama ที่คัมแบคมาเป็นครั้งที่ 2 ภาคต่อของหนังที่ตีแผ่ปัญหาของสังคมไทย วัยคึกวัยคะนอง ของกลุ่มนักเรียนอาชีวะในอดีตที่ผ่านมาตั้งแต่ช่วงยุค ’90s โดยที่ภาคแรกจะเป็นเรื่องราวของการยกพวกตีกันระหว่าง อิน กับ ชล (อินทรอาชีวศึกษา, เทคโนโลยีประชาชล) แต่ใน “4 Kings II” นี้ จะเป็นเรื่องราวการปะทะกันระหว่างสองคู่อริต่างสถาบันของ กนก และ บุรณพนธ์
เรื่องราวสุดเข้มข้นเริ่มต้นที่ ตุ้มเม้ง กนก ได้ถูกทำร้ายร่างกายจนปางตาย พรรคพวกที่นำโดย บ่าง กนก จึงเตรียมการหวังแก้แค้นให้เพื่อน ตามล่าคู่อริต่างสถาบันอย่าง เอก บุรณพนธ์ และ รก บุรณพนธ์ — แต่เมื่อความแค้นที่ถูกสะสมได้เวลาเอาคืน กลุ่ม บ่าง และ รก ที่กำลังเผชิญหน้ากัน ก็ดันมี ยาท เด็กบ้าน เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญกึ่งกลางระหว่างสงครามนี้ พร้อมที่จะจุดชนวนครั้งใหญ่ และมีเบื้อวลึกเบื้องหลังจากศึกครั้งนี้ ทีต่างฝ่ายต่างไม่เคยรู้มาก่อน จนเกิดเป็นความเดือดดาลในการล้างแค้นครั้งนี้!
บอกเลยว่าภาคแรกเข้มข้น-เดือดดาลเท่าใด ภาคต่อนี้คือความข้นคลั่กและทวีความเดือดคลั่งมากกว่า!! เริ่มที่หนังใส่หนักในพาร์ทความรุนแรงแบบโต้งๆ เลยในซีนแรก โหดเหี้ยมประหนึ่งหนัง torture จนพาเราคนดูเจ็บปวด-เห็นใจไปพร้อมๆ กับตัวละครนึงในซีนนั้น
จนเมื่อซีนนี้ผ่านพ้นไปนี่เอง ตัวหนังก็เริ่มขยับขยาย มีเรื่องจะเล่าในแก่นต่างๆ ที่สามารถหยิบนำมาเล่าได้ไม่ซ้ำกับภาคแรก แต่ในขณะเดียวกันมันก็ยังคงโอบล้อมไปด้วยเรื่องราวของ ‘ความต่างของสถาบัน’ ‘เสื้อช็อป’ ดราม่าความสัมพันธ์ทั้ง ‘เพื่อน’ ‘ครอบครัว’ พร้อมการถูกตั้งคำถามว่าการตีกันมันก่อเกิดผลอันใด ตีกันไปเพื่ออะไร เมื่อไรถึงจะเลิกจะหยุดได้ ทั้งหมดทั้งมวลหนังก็ยังหยิบมาสานต่อ พร้อมขยายเรื่องอีกหลากหลายมุมที่ไม่ได้เล่าจากภาคแรกได้กว้างขึ้น เห็นปมเห็นสิ่งที่ฝังจิตฝังใจของแต่ละตัวละครแทบทุกตัว จนถึงเห็นว่าทำไมพวกเขาถึงคิดมาเดินทางสายอันเลวร้ายแบบนี้ ..
อีกทั้ง หนังก็ยังร้อยเรียง-เติมเต็ม อีกสองส่วน-สองกลุ่มนักเลง (กนก และ บุรณพนธ์) จนครบเป็น 4 โรงเรียนอาชีวะชื่อดังที่เป็นตัวตึงคู่อริกันจนครบองค์ สมบูรณ์ และเชื่อมเรื่องด้วย ยาท เด็กบ้าน จนรู้สึกได้ถึงความเป็นเนื้อแท้แผ่นเดียวกันจากภาคแรกมาได้อย่างลงตัว (ยิ่งถ้าดูทั้งสองภาคติดกันคือเนียนกริบ สมู๊ธมากทีเดียว)
พร้อมกันนั้นเอง ในภาค 2 นี้ มันยิ่งทำให้เห็นได้เป็นรูปธรรมยิ่งกว่านามธรรม ที่หลายคนยังไม่เคยดูภาคแรก แต่ก็ตีค่าไปแล้วว่าเป็นหนังส่งเสริมให้เด็กมาตีกัน เอาเข้าจริงๆ ถ้าได้ดูมันคือหนังที่มีค่า มีความหมายมากกว่าหนังแก๊งสเตอร์ยกพวกตีกัน โดยเฉพาะภาคนี้ คือความสมบูรณ์ถึงแก่นดราม่าที่ยิ่งเข้มข้นคลั่กกว่า
เริ่มที่สาเหตุเลวร้าย จบลงที่ความเลวร้าย-ความน่าเวทนาอาลัยที่มากกว่า ดำดิ่งสู่เลือดเนื้อเชื้อไขของตัวละครในความแก้แค้น ความหุนหันพลันแล่น ความกดดันที่ก่อมาทั้งจากสภาพแวดล้อม ชุมชนที่อาศัย แม้กระทั่งจากครอบครัว จนอาจมีแค่เพื่อนเท่านั้น (แต่ก็คิดผิด) จนทำให้เราเดินทางผิดตามกันไป หนังฝังแมสเสจต่างๆ ได้คมคาย เฉียบดั่งกระสุนยิvกลางอกทะลุจนฉุกคิดได้ยิ่งกว่าภาคแรก พร้อมกันนั้นเรายังเห็นที่หนังมันเต็มไปด้วยคุณภาพที่ดี แน่วแน่ และความตั้งใจทวีกว่าภาคแรกแบบก้าวกระโดด ซึ่งภาคแรกว่าชอบแล้ว ภาคนี้คือโคตรชอบมากไปอีก
— “บทเรียนของชีวิต ที่ย้อนกลับไปคิด .. ก็มีแต่คราบน้ำตา”
นักเลงโรงหนัง
.. 4 Kings 2 ดราม่าโคตรลึกและข้นแบบคลั่กมากๆ เป็นหนังที่ทำออกมาได้ดาร์คและเรียลชิบหาย ใครคิดว่าหนังเรื่องนี้ทำมาเชิดชูหรือปลุกปั่นเด็กกลุ่มนี้ให้มาตีรันฟันแทงกันนี่อยากจะบอกว่าคิดผิดแน่นอน เพราะหนังมันเหมือนทำมาตีแสกหน้าให้เห็นจุดจบของกลุ่มคนบ้าบอพวกนี้ว่ามันน่าหดหู่แค่ไหน ..
.. ปฎิเสธไม่ได้ว่าหน้าหนังตั้งแต่ภาคแรก มันเหมือนหนังที่ทำออกมาให้คนเฉพาะกลุ่มเฮโล โฮเล ชวนพวกพ้องน้องพี่ในสถาบันเข้าไปเย้วๆดูกัน ซึ่งก่อนดูภาค 1 แวปแรกในใจก่อนดูผมก็คิดแบบนั้นแหละ แต่ด้วยความชอบพี่จ๋ายไททศเลยเข้าไปดู สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าตัวเองคิดผิดอย่างแรง เพราะหนังมันมีอะไรมากกว่านั้น มันสะท้อนสังคมและแสดงให้เห็นถึงผลของการกระทำที่ตัวเองก่อไว้ ว่ามันไม่มีอะไรดีเลยจริงๆ แล้วการมาของภาคสอง สำหรับคนที่ได้ดูภาคแรกแล้วอย่างผม เลยรู้สึกว่าหนังต้องมีอะไรมากกว่าที่เราเห็นโปสเตอร์เห็นตัวอย่างแน่ๆ เลยไปดูตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉาย สุดท้ายก็เป็นอย่างที่คาด จริงๆเรียกว่าเกินคาดเลยดีกว่า ชอบยิ่งกว่าภาคแรกอีกบอกเลย ..
.. หนังดำเนินเรื่องต่อจากภาคแรกทันที โดยรอบนี้จะเน้นไปที่ กนก และ บู ที่เหมือนเขม่นกันมาตั้งแต่ฉากจบภาคแรกที่พี่แหลมบอก เจอกันอัลบัมหน้า ซึ่งเรื่องนี้เปิดมาพวกก็ล่อกันแล้ว จนเลยเถิดไปเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ทั้งคู่เกลียดกันกว่าเดิมและตามล้างแค้นกันไม่จบไม่สิ้น โดยมีตัวแปรสำคัญคือ ยาท เด็กไร้บ้าน ที่เคยเป็นเพื่อนสนิทกับ บ่าง กนก มาก่อน …
.. สิ่งที่ภาคนี้แตกต่างจากภาคแรกคือหนังไม่ได้ไปโฟกัสฉากตีกันอะไรมากมาย คือมีฉากพวกนี้ให้เห็นอยู่แหละ แต่ความดราม่าเรื่องส่วนตัวของตัวละครหลายๆคนมันดึงโฟกัสเราให้หนีและลืมเรื่องพวกนี้ไปจนหมด ซึ่งแต่ละคนก็มีพาร์ทดราม่าที่เข้มยิ่งกว่าอเมริกาโน่เพิ่มช็อตเสียอีก ตัวละครหลักคือ บ่าง ( พี่แหลม ) ที่อาศัยอยู่กับพี่สาว ( คุณทราย เจริญปุระ ) ฉากทะเลาะกันนี่ส่วนตัวผมยกให้คือ ซีนหนังไทยที่ดีที่สุดในปีนี้เลย โคตรเรียล คุณทรายนี่เล่นหนังเรื่องไหนนี่เชื่อขนมกินได้ตลอดว่า พี่แกมาแน่และเล่นถึงแน่ๆ คือเรียกได้ว่าเป็นนักแสดงคุณภาพได้เต็มปากมากๆสำหรับ คุณทราย อินทิรา ไม่เซอไพรส์เลย แต่สิ่งที่เซอไพรส์คือ ไม่น่าเชื่อว่าพี่แหลมจะเล่นหนังได้ถึงใจขนาดนี้ ด้วยความที่ทรงพี่แกมันชัดมาตั้งแต่ภาคแรกแล้วว่าเล่นได้ จนมาเห็นในภาคนี้แหละว่า ไม่ใช่แค่เล่นได้ แต่เล่นได้โคตรดีเลย อีกคนที่ต้องชื่นชมและคิดว่าน่าจะมีรางวัลอะไรซักอย่างหรือซักเวทีติดมือแน่ๆคือ บิ๊กดีเจอร์ราร์ด เป็นตัวละครที่น่าจะทำคนดูสับสนพอสมควรว่าจะสงสารหรือสมน้ำหน้าหรือเกลียดหรืออะไรดี เล่นถึงมากกกกกกถึงแม้จะดูล้นๆไปหน่อย แต่คือโคตรน่ากลัวเลยตอนพี่แกปรับอารมณ์ไปมา …
.. การตัดต่อของเรื่องเป็นอีกสิ่งที่อยากชื่นชม หนังมันอาจไม่ดีเลิศอินเตอร์อะไรขนาดนั้น แต่นี่คือมาตรฐานหนังไทยที่ควรอยู่ในระดับนี้แหละมาถูกทางแล้ว จังหวะการเล่า ซาวด์เพลงประกอบใส่มาได้อย่างลงตัว เด็ก 80-90 มาดูนี่มีเอ๊ะอ๊ะกันหลายฉากแน่นอน เพราะเซอไพรส์เยอะเหลือเกิน คือมาตั้งแต่ฉากแรกเลย เพลงประกอบในหนังไม่รู้ว่าเด็กสมัยนี้ไปดูจะอินรึเปล่า เพราะแต่ละเพลงที่แมสในยุคนั้น ขนมาใส่กันเต็มเรื่องเลย
หัวใจหลักของหนังในภาคนี้ จะแสดงให้เห็นจุดจบและผลกระทบที่ตามมาว่าสิ่งที่พวกแม่มนี้ทำไม่มีอะไรดีเลยจริงๆ สร้างความเดือดร้อนให้คนในครอบครัวไม่พอ ยังไปกระทบถึงคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วย ใครที่คิดว่าเด็กมาดูแล้วจะหึกเหิมรึเปล่า บอกตรงนี้เลยว่าเผลอๆดูจบแล้วออกไปบวชอ่ะ 5555555 แต่ถ้าคนที่ดูแล้วมันจะยังเชิดชูแล้วทำตัวตาม อันนี้ก็แล้วแต่เวรแต่กรรมมันแล้วหละ ถถถถถถถถถ ..
.. สรุป .. มาดูเถอะ อีกหนึ่งหนังไทยในปีนี้ที่ดูแล้วชอบมากก เป็นหนังที่นักแสดงเล่นดีเล่นถึงทุกคนเลย หนังไม่ได้ทำมาเพื่อเชิดชูคนตีกันแต่เหมือนทำมาให้เห็นว่าสิ่งที่ทำมันดูไร้ค่าและผลลัพท์ที่ตามมามันไม่คุ้มเอาเสียเลย
UncannyBoy
รีวิว 4 Kings 2 ยกระดับขึ้นอย่างสมศักดิ์ศรี ดุเดือด เข้มข้น และดำดิ่งยิ่งกว่าเดิม 8/10
4KINGS2 ภาพยนตร์ภาคต่อของ 4KINGS สร้างจากเรื่องจริงของเด็กอาชีวะในยุค 90 ที่จะเล่าเรื่องราว 3 ปีให้หลังต่อจากภาคแรก ซึ่งจะโฟกัสที่ความบาดหมางระหว่าง 2 สถาบันคู่อริอย่าง “กนกอาชีวะ” กับ “ช่างกลบุรณพนธ์” เป็นหลัก โดยมีบ่าง (แหลม-สมพล รุ่งพาณิชย์) ที่ต้องการจะตามล้างแค้นให้กับเพื่อนของเขาที่โดนรก (จี๋-สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร) และพรรคพวกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ขณะเดียวกัน พวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับ ยาท (บิ๊ก ดี เจอร์ราร์ด) เด็กบ้านที่เข้ามาผสมโรงและเริ่มสร้างความปั่นป่วนให้สงครามของเหล่าเด็กอาชีวะยิ่งทวีความรุนแรงบ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อยๆ
ขอออกตัวก่อนเลยว่า ผมค่อนข้างรู้สึกกับ 4Kings ในภาคแรก แบบไม่ได้ประทับใจอะไรเท่าไหร่นัก คืออยู่ในจุดที่ดูสนุกแหละ แต่ก็รู้สึกหงุดหงิด และขัดใจกับหลายๆองค์ประกอบในเรื่องอยู่เยอะพอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของการลำดับเล่าเรื่องที่ดูสะเปะสะปะหลายทิศหลายทาง กับบทพูดไดอะล็อคของตัวละครหลายๆตัว ที่รู้สึกมันขาดๆเกินๆล้นๆยังไงไม่รู้ แต่พอมาในภาคนี้รู้สึกได้เลยว่าหนังมันถูกปรับปรุงพัฒนาทุกข้อบกพร่องจากภาคแรกไปมากจริงๆ บทก็ดี โปรดักชั่นก็เยี่ยม ฉากตีกันก็ทำออกมาได้โหดถึงใจมากขึ้น แม้จะไม่มากนักและยังคงคอนเซ็ปต์การตัดต่อแบบฉาบฉวยให้ดูโกลาหลวุ่นวาย ซึ่งตรงนี้เข้าใจได้ ผู้กำกับคงมีเจตนาที่ไม่ได้อยากโฟกัสหรือให้ความสำคัญในส่วนนี้มากนัก(ให้ความรู้สึกเหมือนหมากัดกัน คือเป็นมุมมองที่ไม่ได้รู้สึกว่าไอพวกนี้ตีกันแล้วมันเท่เลย 555) พาร์ทดราม่าก็เข้มข้นและดำดิ่งสะเทือนอารมณ์มากขึ้นด้วย บอกเลยว่านักแสดงแต่ละคนปล่อยของใส่กันได้ทรงพลังจนขนลุกสุดๆ โดยเฉพาะบทของ ยาท เด็กบ้าน ที่ต้องยกให้เป็น MVP เลยจริงๆ จากที่ภาคแรกผมอาจจะไม่ค่อยไม่ซื้อสักเท่าไหร่ออกจะน่ารำคาญด้วยซ้ำ แต่ภาคนี้เราจะได้ทำความรู้จัก สำรวจชีวิตและเข้าใจเขามากขึ้น ที่ถึงคุณจะไม่รักตัวละครนี้ แต่คุณก็จะเกลียดเขาไม่ลงเลยล่ะ และส่วนที่กังวลที่สุดเลยคือบทพูดไดอะล็อคของเด็กช่างพวกนี้ ที่ถึงมันจะยังดูมีความจั๊กกะจี้อยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ดูธรรมชาติกว่าภาคก่อนพอสมควรเลย
และถ้าหากใครที่กังวลไม่กล้าไปดู กลัวพวกนี้จะฮึกเหิมตีกันตามหนัง ก็บอกตามตรงเลยว่าอันนี้มันแล้วแต่คนจริงๆว่าใครจะคิดตามได้แค่ไหน คือหนังมันไม่ได้พยายามเชิดชูหรือมีบริบทไหนในเรื่องที่ยกยอพฤติกรรมเหล่านี้เลย มิหนำซ้ำยังนำเสนอผลลัพท์ที่มืดหม่น หดหู่ จนน่าเวทนามากกว่าซะอีก เรียกว่าดูจบคงไม่มีใครอยากเอาเป็นเยี่ยงอย่างกันซักเท่าไหร่แน่นอน ซึ่งเราเองก็ไม่ได้สนับสนุนคสามรุนแรงและการตีรันฟันแทงอะไรพวกนี้อยู่แล้ว เสพเนื้อหาเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะครับ ถ้าเข้าใจแมสเสจที่เรื่องนี้ต้องการจะสื่อจริงๆ 4KINGS2 ก็น่าจะถือเป็นภาพยนตร์ที่มีคุณภาพมากๆอีกเรื่องนึงของไทยเลย ส่วนตัวเผลอๆอาจจะยกให้เทียบเท่า อันธพาล, 2499 อะไรแบบนั้นได้เลย มันสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยได้อย่างน่าสนใจ และควรค่าแก่การดูในโรงภาพยนตร์แน่นอนครับ
เรทคะแนน 8.5/10
รีวิวกับเล่นของมันคู่กัน
4 Kings II : 8/10 เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ Must Watch จริงของปีนี้เลยก็ว่าได้ โดยเรื่องราวนั้นจะต่อจาก End Credits ของภาคแรกทันที ซึ่งใครที่ไม่เคยดูภาคแรกต้องไปตามดูเลยครับ
การนำเสนอของภาคที่ 2 นี้จะเป็นการต่อสู้ของ 2 สถาบันอย่าง กนก กับ บูรณพนธ์ ความแตกต่างคือจากภาคแรกจะตีกันตอนกลางวันแสก พอมาภาค 2 จะเป็นกลางคืน ซึ่งตอนกลางคืนมันมีความน่ากลัวตรงที่ว่าเราจะไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นหรือเซอร์ไพร์สเรา ซึ่งตอนกลางวันไม่มีแบบนั้น
การออกแบบฉากให้ตรงกับธีมยุค 90 นั้น เป็นสิ่งผมชอบมาก ซึ่งผู้กำกับได้ทำการบ้านมีอย่างดีเลยก็ว่าได้ มันทำให้เรารู้สึก nostalgia (หวนคืนวันวานในอดีต) ไปกับมันมากโดยเฉพาะเพลงRock/อัลเทอร์ 90 ในสมัยนั้น
การแสดงของแฟรนไชล์หนังเรื่องนี้จะสื่อสารก้ับคนดูไว้ตลอดเวลาว่า “สิ่งที่เราทำลงไปมันดีจริงๆแล้วเหรอ แล้วถ้าเราทำลงไปแล้ว อนาคตจะเป็นยังไง” ภาคนี้ได้เพิ่มVolume ของ message นี้ไปอีกขั้น จนทำให้เราตระหนักถึงการใช้ความรุนแรง มันสิ่งที่ถูกต้อง?? นอกจากนั้นจะสอดแทรกเรื่องครอบครัว ให้เราคิดว่าสิ่งนั้นหรือครอบครัวอันไหนต้องมาก่อน เป็นต้น
สิ่งที่ทำให้หนังมีความdramaที่สุดก็ไม่พ้นกับตัวละครหลักครับ ซึ่งแอดได้ขอยกตัวอย่าง 1 ตัวละครที่แอดหยิบมาเล่าก็แล้วกันครับ *กลัวว่ามันจะยาว555*
ผมชอบการแสดงของพี่ บิ๊ก D Gerrard มากๆเลยครับ จากภาคแรกเป็นตัวละครที่กวนประสาทอย่างมาก เป็นตัวประกอบที่สร้างสีสันอย่างมากในภาพยนต์ พอมาภาค 2 มาเป็นตัวละครหลักแล้วทำให้เราคิดสวนทางกันกลับไปว่าสิ่งที่เขาทำจริงๆ แล้วเขามีเป้าหมายบางอย่างให้หลุดพ้นจากสิ่งที่เขาประสบพบเจอมา ประมาณว่าหาวิธีปลดทุกข์ และเขาแสดง Backstory ของตัวละครนี้ให้มีความซึ้ง สงสารในสิ่งที่เขาเป็นมากกว่าเราจะเกลียดไปเลย ภาค 2 ในบท ยามเด็กบ้านถึงแม้ นิสัยตัวละครมันจะบ้าๆ แต่จริงๆแล้ว เขาก็ไม่อยากทำหรอก แต่เหมือนว่าเด็กช่างเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาต้องมาเกี่ยวพันด้วย
สรุปแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ขายaction เยอะเท่าภาคแรก ภาคนี้จะสอดแทรกข้อคิดต่างๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้กับปัจจุบันได้ เรื่องเรียงลำดับความสำคัญระหว่างครบครัวกับเพื่อน เป็นต้น
4 kings 2 รายได้ รายได้รวมทั่วประเทศทะลุ 105 ล้านเป็นที่เรียบร้อยหลังเข้าฉาย 6 วัน และรายได้ล่าสุดทะลุ 240 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อย
